เริ่มสอนวันที่ 17 มีนาคม 2553 ค่ะ น้องคีนอยู่ระหว่างการสะสมคำศัพท์ค่ะ เป็นที่ชื่นชมของย่า พ่อและญาติมั่กๆๆค่ะ อ้อ รวมทั้งเวลาเจอคนข้างนอก เค้าก็มักจะยิ้มและชื่นชมทั้งต่อหน้าและ goissipค่ะ (คุณแม่แอบหูยาว)
มักถูกถามว่า คุณพ่อน้องเป็นคนประเทศอะไร แต่โดยมากมักเดาว่า เกาหลี เพราะไม่มีเหล่าเต๊งค่ะ จริงๆๆอยากเขียนเล่าพัฒนาการกับคำศัพท์ที่น้องได้ ซึ่งเด็กที่คุณแม่ input เยอะๆๆคงได้เหมือนๆกันแหละค่ะ (เลยไม่เล่าดีกว่า)
แต่ที่เด็ดกว่า คือคำแรกของน้องคีนค่ะ อยากบอกว่า…
Continue
Added by แม่น้องคีน on June 25, 2010 at 12:57pm —
9 Comments
ไปเที่ยวเมืองเด็ก สองสาม ภาษา…
Continue
Added by gitanjali saengsang on July 8, 2010 at 1:28pm —
12 Comments
เริ่มสองภาษาตั้งเกือบจะขวบถ้าจำไม่ผิด พูดอังกฤษบ้าง ไทย ผสมกันเต็มไปสุดท้ายน้องโบอิ้งเข้าใจ
ภาษาพูดประมาณ เหอะๆ 30 เปอร์เซนต์ อีก 70 เปอร์เซนต์ เหอะๆๆ พูดไทยค่ะ แต่เวลาดูการ์ตูนถึงกับ
อื้งๆๆ ไปยกใหญ่กันเลยทั้งบ้าน เขาบอกขอกฤษ แม่ๆๆกฤษ ว่ารัยนะ 555 หลังจากให้ดูแต่ภาษาอังกฤษ
เวลาดูการ์ตูน ได้ผลเหมือนกานเนอะ เพราะบางแผ่นต้องเปลี่ยนโหมด เคยแกล้งลูกค่ะไม่เปลี่ยนโหมด
เป็นeng ให้555 ร้องไห้ใหญ่เลย เพราะสาเหตุ เขาดูภาษาไทยไม่รู้เรื่อง 555 ในใจดีๆๆๆ ค่ะ…
Continue
Added by แม่น้องโบอิ้ง on July 8, 2010 at 11:09am —
6 Comments
เรื่องราวสุดฮาของน้องมีมี่ (อายุ 1 ปี 6 เดือนกว่า) กำลังเริ่มหัดพูด หัดออกเสียงได้บ้างแล้วค่ะ เลยต้องเขียนเก็บไว้ให้ลูกได้อ่าน เรื่องขำๆนี้เกิดขึ้นเมื่อวานเย็น ตอนเราสามคนพ่อแม่ลูกขับรถกลับบ้าน…
Continue
Added by สุมนา วงศาสุทธิกุล on July 8, 2010 at 10:54am —
7 Comments
น้องไอลีนพูดช้า ตั้งสองขวบถึงจะพูดได้ เลยไม่ได้สอนภาษาอังกฤษตอนเด็ก เพราะมัวแต่กลัวว่าเค้าจะพูดไม่ได้ แถมไม่ชอบดูทีวีด้วย แต่สังเกตุว่าชอบดูหนังสือ ดูรูปภาพต่าง ๆ ก็เลยใช้วิธีชี้รูปภาพ บอกคำศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย แถมภาษาจีนให้อีก ชี้ไปเรื่อย ๆ สังเกตุว่าจะชอบอะไรใหม่ ๆ ถ้ามีหนังสือใหม่มา จะดีใจมาก พอเข้าอนุบาล ก็เรียนไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ จะสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นของใหม่ (ที่บ้านพูดภาษาไทย จีน เป็นหลัก) พอโตมากขึ้น เริ่มพูดภาษาไทยได้เป็นประโยคชัดถ้อยชัดคำดีแล้ว…
Continue
Added by ดวงเนตร on July 7, 2010 at 4:50pm —
1 Comment
น้องอีฟ 10 เดือน คุณแม่สนใจเรื่องสองภาษามาก ภาษาก็พอได้อยู่ แต่คุณแม่ยังเขิลอายกับการพูดสองภาษาเวลามีพี่เลี้ยงหรือคนอื่นอยู่ด้วยเพราะคนรอบข้างไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ ทำให้ไม่สามารถสอนได้เต็มที่ จะได้สอนเต็มที่ก็อยู่กันแค่สองคน ช่วง 9-10 เดือนนี้น้องอีฟมีพัฒนาการรวดเร็วมาก เลยยิ่งรู้สึกผิดว่าเราไม่สามารถทำได้อย่างที่คาดหวัง
ไม่แน่ใจว่าคุณแม่ที่ต้องทำงาน แล้วก็มีเวลาอยู่กับลูกน้อยทำอย่างไรกันบ้างคะ พยายามเข้าไปอ่านหลาย blog ก็ใช้เวลาอยู่หลายเดือน คุณแม่ฝึกหัดเลยมีอาการท้อบางส่วน…
Continue
Added by Tipjung on July 7, 2010 at 5:16pm —
10 Comments
เนื่อหาเกี่ยวกับเรื่องโฟนิกส์ที่เขียนขึ้นในบล็อกนี้ เป็นการเขียนขึ้นจากการพยายามทำความเข้าใจของตัวเอง โดยหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ เพราะส่วนตัวไม่เคยเรียนหรือรู้จักโฟนิกส์มาก่อน (โฟนิกส์เป็นวิธีการหนึ่งในการสอนให้เด็กหัดอ่าน) พอได้เริ่มสอนชิชิ ให้หัดสะกดคำแบบโฟนิกส์แล้ว รู้สึกว่า ได้ประโยชน์มาก ข้อดีคือ ทำให้ชิชิสามารถอ่านคำที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และสนุกกับการอ่านมากขึ้น ประกอบกับมีเพื่อนๆ หลายคน อยากให้ช่วยแนะนำวิธีสอนลูกหัดอ่าน จึงหาเวลารวบรวมกฎต่างๆ มาไว้ในบล็อกนี้…
Continue
Added by babyashi on July 5, 2010 at 12:48am —
54 Comments
ผ่านมา 1 เดือนแล้วค่ะที่พยายามฝึกให้น้องอัยย์เป็นเด็ก 2ภาษา ตอนนี้น้องอัยย์อายุ 2.6 ปี ระยะแรกน้องอัยย์ต่อต้านม๊ากกก ไม่ฟัง ไม่สนใจ ไม่พูดด้วย เดินหนีไปเฉยๆ บางครั้งก็พาลงอแงเลยค่ะ ใช้ระบบ OTOL ค่ะ เพราะน้องอัยย์ไม่ค่อยร่วมมือเท่าไรนัก และคุณแม่เองก็อังกฤษไม่แข็งแรงเลยค่ะ ต้องเริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆกับลูก ช่วงแรกทั้งเครียดทั้งท้อค่ะ คิดว่าตัวเองไม่เก่งจะสอนลูกได้อย่างไร แค่ประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันบางทีก็นึกไม่ออก ยิ่งอ่านเรื่องของครอบครัวอื่นๆ ที่สามารถสร้างลูกเป็นเด็กสองภาษาได้ในเวลาไม่นาน…
Continue
Added by แม่น้องอัยย์ on July 4, 2010 at 1:41pm —
33 Comments
เริ่มฝึกมาตั้งแต่ได้อ่านหนังสือเล่ม 1 ค่ะ แต่ยังไม่ได้เป็นแบบ หนึ่งคนหนึ่งภาษานะคะ วันแรก ๆ น้องครีมไม่ต่อต้าน
ค่ะ แต่ จะบอกคุณแม่ว่า คุณแม่พูดอะไรคะ แปลว่าอะไร แล้วก็ทำท่า งง งง บางวันก็บอกว่า คุณแม่พูดภาษาไทยนะคะ ก็เข้า
ใจนะคะ แต่ก็ใจแข็งค่ะ ด้วยความที่คุณแม่ก็ไม่ได้เก่งภาษา ตั้งประโยคคำถามก็ไม่เก่ง แต่ก็พยายามอ่านหนังสือเล่ม 1 ซึ่งมี
ประโยคคำถาม คำสั่งสั้น ๆ…
Continue
Added by จันทรา ไชยเดช on July 4, 2010 at 2:59pm —
7 Comments
หลังจากได้ฝึกฝนภาษามาสักระยะหนึ่ง ถึงแม้จะไม่เข้าใจแกรมม่าและรู้ศัพท์อันน้อยนิดแล้วนั้น ตอนนี้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นที่จะพูดกับลูกในที่สารธารณะโดยไม่สนใจสายตาคู่ไหนๆๆเลย พูดถูกบ้างผิดบ้างแต่ลูกก็เข้าใจด้วยการใช้ภาษามือ เพราะก่อนหน้านี้อายมาก ความรู้เราน้อย เรียนไม่เก่ง รอบๆตัวก็มีแต่คนเรียนเก่งๆ ไม่กล้าพูดกลัวเค้าหัวเราะ เคยมีคนบอกว่าพูดอังกฤษกับลูกสำเนียงยังกะเมียเช่าฝรั่ง แหมในวันนั้นโกรธมาก เพื่อนคนที่พูดเค้าเก่งมากๆๆตอนเรียนด้วยกัน แต่เราก็ไม่สนใจแล้ว…
Continue
Added by ชัชชญา ลิมป์วนัสพงศ์ on July 4, 2010 at 1:00pm —
8 Comments
พอเริ่มตั้งใจได้แล้วเมื่อถึงเวลาที่จะสอนลูกจริงๆ ดิฉันกลับตื้อคิดไม่ออกจะเริ่มตรงไหนดี
วันที่พาลูกสาวกลับมาบ้านก็กลับมานั่งคิดค่อยๆเริ่มหาหนังสือทั้งการสอนลูก ทั้งเรื่องภาษามือมาศึกษา
หลังจากศึกษาได้สักพักก็จับใจความได้ว่า การสอนภาษามือเด็กนี้สามารถเริ่มเมื่อไรก็ได้ แต่เหมาะสำหรับเด็กที่อายุหกเดือนขึ้นไป เพราะถ้าเด็กมากไปแล้วสายตาเค้ายังไม่ดีพอที่จะโพกัสอะไรได้ชัดเจน
ส่วนเรื่องภาษาปากนี้…
Continue
Added by Mommy Dearest on January 5, 2010 at 3:56pm —
35 Comments
สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย(ยังกะ สึนามิ)
หลังจากนั้น แม่เลิกทำตัวเป็นเจ๊ดันอีกต่อไป คิดว่า ให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเอง และด้วยอะไรหลายๆอย่างก็ตามมา พอชินมากขึ้น เจ้าขาก็เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับป้าๆละแวกบ้านมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ด้วยเวลาไม่ค่อยตรงกัน แต่มันก็ทำให้เราพอมีทางฝึกกันต่อ เราพยายามหาช่องทางที่จะคุยกับชาวต่างชาติ เพื่อฝึกตัวเองและลูก และมีโอกาสคุยกับครูต่างชาติทาง msn ที่เคยสอนภาษาอังกฤษเรา ซึ่งตอนที่เรียนครูน่ารักมาก พยายามพูดคุย ให้ความเป็นกันเอง…
Continue
Added by mom_jenita on January 17, 2010 at 4:58am —
12 Comments
ไม่จริงครับ อิอิอิอิ ตอนแรกก็จะถ่ายคลิป แต่คนอยู่บ้านเต็มไปหมด เลยต้องขอเลื่อนไปอีกนิดหนึ่งนะครับ
เอาอย่างงี้ละกัน เรามาเรียนภาษาอังกฤษจากเพลงกันดีกว่า ผมมีเพลงที่ประทับใจอยู่หลายเพลง แต่วันนี้จะเลือก 1 เพลงมาฝาก อย่าพึ่งเข้าใจว่าผมจะร้องเองนะครับ ไม่เป็นเลย แต่เป็นผู้ฟังที่ดีมากครับ เพลงที่ผมนำมาฝากนั้นชื่อว่า
Hallelujah (อ่านว่า
ฮาลลีลูยา หรือ
ฮาลเลลูยา) คำนี้เป็นคำอุทานซึงแปลในลักษณะที่ว่า ขอบคุณพระเจ้า ตัวอย่างของประโยคในการใช้คำนี้ ต้องยกให้แม่ผม…
Continue
Added by Benjamin's Daddy on January 17, 2010 at 4:00am —
17 Comments
Early EDUCATION & EDUCATION Method are something that all parents should have more concerned about for the first 0-6 years of age!… Continue
Added by nat on June 25, 2010 at 2:30pm —
13 Comments
สวัสดีคะ ชื่ออ่องคะ มีลูก4คน กำลังพยายามสร้างเด็ก2ภาษาอยู่คะ แม่อ่อนอังกฤษมากก็เลยมาเรียนพร้อมลูก เริ่มกันแบบกระท่อนกระแท่ง (ประมาณ5เดือนแล้วคะ)แม่พยายามเปิดดูdvd เทพหลายแผ่นที่คุณบิ๊กและคุณครูทั้งหลายในEnglish clubบอก ความจริงดูพร้อมกับลูก แถมแม่ยังหาหนังสือหลายเล่มมาฟื้นความรู้เก่าๆ(ที่วิ่งคืนคุณครูกลับโรงเรียนหมดแล้ว) ปรากฏว่าตอนนี้ลูกลำหน้าแม่ไปไกล โดยส่วนตัว อย่างที่บอกอ่อนอังกฤษมากจนต้องวิ่งหนีทุกครั้งที่เจอคนต่างชาติด้วยความรู้สึกว่าสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง(ฟังไม่ออก แปลไม่เป็น พูดไม่ได้)…
Continue
Added by พรเพ็ญ เหล่าเพิ่มพูนสกุล on June 25, 2010 at 10:07am —
18 Comments
เมื่อวานมั่มมี๊อ่านหนังสือให้จุ้ยจุ้ยฟัง 3 เล่ม
เล่มแรก จำไม่ได้แฮะ
เล่มที่สอง That's not fair (Mercer Mayer's little critter book club)
เล่มที่สาม "The Mixed-Up Chameleon" เล่มนี้ชอบมากมาย ขอยกมา Review ซักเรื่องนะคะ
"The Mixed-Up Chameleon"
โดย Eric Carle Virtuoso ชื่อดังค่ะ…
Continue
Added by Ju (Jui Jui's mommy) on June 25, 2010 at 6:00am —
8 Comments
อ้างอิงจาก : ศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย
นม
แม่แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับว่าที่คุณแม่ แม่มือใหม่ และคุณแม่ที่มีญาติอยากให้ลูกเปลี่ ยนมากินนมผงค่ะ สมัครสมาชิกง่ายๆ ตามลิงค์และ download เป็นไฟล์ pdf (เขียนโดยคุณ Webmother)
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อให้เรารู้ทันนมผง…
Continue
Added by แม่ แม่ น้องคนโปรด on June 25, 2010 at 12:32am —
20 Comments
ชวนพ่อแม่ทำแบบทดสอบ "ความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์"
ชวนพ่อแม่ใส่แว่นสีชมพูทำแบบทดสอบ "ความเฉลียวฉลาดทาง อารมณ์" เพื่อไม่ให้มี "คุณหนูอารมณ์ร้าย" ในบ้านค่ะ
นี่ไม่ใช่ชื่อละครหลังข่าวภาคสองต่อจากเรื่อง "คุณหนูอารมณ์ร้าย กับ ผู้ชายเย็นชา" แต่อย่างใด ถ้าจะโยงเป็นตุเป็นตะให้เป็นเรื่องก็ได้เหมือนกัน ครอบครัวไหนมีพ่อแม่อารมณ์ร้ายก็จะได้คุณลูกอารมณ์ร้ายแน่นอน ผู้เขียนก็เลยขอแนะนำวิธีจัดการอารมณ์ร้ายด้วยการ "ควบคุมอารมณ์ให้เฉลียวฉลาด" หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า E.Q. (Emotion…
Continue
Added by mamychi on June 24, 2010 at 4:21pm —
15 Comments
ครั้งแรกการก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ เราก็ว่าวุ่นวายแล้วนะ คิดสารพัดเลยว่าจะเป็นยังไง งานแต่งจะโอเคไหม
ถัดมาก็คิดต่อว่า ถ้าอยู่ด้วยกันเจอหน้ากันทุกวันแล้วจะเป็นไงบ้าง จะอยู่กันแล้ว happy ทุกวันหรือเปล่า
นี่เป็นความคิดก่อนที่จะมีคุณลูก ...........
คิดถึงตัวเอง คิดถึงคนที่เรากำลังจะร่วมชีวิตด้วย และคิดว่ามันคือเรื่องใหญ่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ที่คนสองคนต้องมาอยู่ร่วมกัน share ความรู้สึกกัน
พอมีคุณลูก เรื่องของคนสองคนที่เราว่ายิ่งใหญ่มากๆในสมอง กลายเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ ไปเลย…
Continue
Added by แม่ แม่ น้องคนโปรด on June 24, 2010 at 12:30am —
7 Comments
Added by Pat on June 23, 2010 at 6:12pm —
30 Comments