เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

อังกฤษวันละนิด วันละหน่อย กับ Benjamin's Daddy ....จริงอ่ะ?

ไม่จริงครับ อิอิอิอิ ตอนแรกก็จะถ่ายคลิป แต่คนอยู่บ้านเต็มไปหมด เลยต้องขอเลื่อนไปอีกนิดหนึ่งนะครับ

เอาอย่างงี้ละกัน เรามาเรียนภาษาอังกฤษจากเพลงกันดีกว่า ผมมีเพลงที่ประทับใจอยู่หลายเพลง แต่วันนี้จะเลือก 1 เพลงมาฝาก อย่าพึ่งเข้าใจว่าผมจะร้องเองนะครับ ไม่เป็นเลย แต่เป็นผู้ฟังที่ดีมากครับ เพลงที่ผมนำมาฝากนั้นชื่อว่า Hallelujah (อ่านว่า ฮาลลีลูยา หรือ ฮาลเลลูยา) คำนี้เป็นคำอุทานซึงแปลในลักษณะที่ว่า ขอบคุณพระเจ้า ตัวอย่างของประโยคในการใช้คำนี้ ต้องยกให้แม่ผม เค้าบอกผมว่า At last, my son has found himself a wife - hallelujah! จริงๆเค้าไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกับผมหลอกนะ เค้าพูดไทยนี่แหล่ะว่า ในที่สุดเจ้าลูกชายก็หาเมียได้ซะที ต้องขอบคุณหลวงพ่อ (ที่ทำสินบนไว้ ฮ่าๆ) แต่สำหรับชาวคริสเตียน ก็คือ ขอบคุณพระเจ้านั่นเอง

มาพูดถึงเพลงนี้กันบ้าง เขียนและร้องครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2527 โดย Leonard Cohen ผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นคนชาติอะไรแต่สังเกตุจากนามสกุลเค้ามีเชื้อสายคนยิวร้อยเปอร์เซนต์ (ความรู้ใหม่ สำหรับคนที่ยังไม่รู้นะครับ นั่นก็คือ ถ้าเห็น นามสกุล Cohen ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเค้ามีเชื้อสายยิว แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอิสรเอล นะครับ) เนื่องจากเพลงนี้เป็นเพลงที่ไพเราะ และ เนื้อหาก็เยี่ยม ศิลปินรุ่นใหม่ๆ จึงนำมาร้องกันใหม่หลายคน คนใหม่ๆ ที่ผมชอบมี 2 คน คือ Alexandra Burke ซึ่งเป็นสาวผิวดำชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงจากรายการ X Factor (คล้ายๆ กับ AF ของเมืองไทย เปล่าเอ่ย?) เมื่อปลายปี 2551 และอีกคนหนึ่ง (กลุ่มซิ มี 4 คน) เป็นชาวนอร์เว ที่นำมาร้องเช่นกัน ซึ่งกลุ่มนี้แหล่ะ ผมจะนำน้ำเสียงของเค้ามาฝากกัน ทำไมผมถึงเรื่องกลุ่มนี้ สาเหตุก็คือ เพราะเค้าไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นหลักแต่ร้องเพลงภาษาอังกฤษได้อย่างเยี่ยมยอด ซึ่งน่าจะเป็นจุดประกายให้พ่อแม่อย่างพวกเราสนับสนุนลูกๆของเราให้ถึงที่สุดถ้ารู้ว่าลูกๆเหล่านั้นมีพรสวรรค์ทางนี้ หรือชอบการร้องเพลงอย่างมาก ผมแน่ใจว่าประเทศไทยคงจะเป็นปลื้มถ้าประเทศของเรามีนักร้อง ที่ร้องเพลงภาษาอังกฤษและดังไปทั่วโลก

เรามาดูนักร้อง 4 คนกันบ้างว่าเค้าชื่ออะไรกัน ชื่อเค้าแน่นอนต้องออกไปทางสแกนดิเนเวียน ซึ่งก็คือ Espen Lind, Kurt Nilsen (ฟันห่าง), Alejandro Fuentes และ Askil Holm. 4 คนนี้ผมไม่แน่ใจว่าเค้ามีชื่อกรู๊ป หรือ band หรือเปล่า (ถ้าใครรู้บอกด้วยนะ) และใน 4 คนนี้ผมก็รู้จักแค่คนเดียวนั่นก็คือ คนฟันห่างหรือ Nilsen สาเหตุที่รู้จักก็เพราะว่า เค้าเคยประกวด Pop Idol ของ นอร์เว และเป็นผู้ชนะเลิศ แค่นั้นยังไม่พอ มีการประกวด World Pop Idol เค้าก็เป็นผู้ชนะด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่า เค้าแจ่มมากครับ และเสียงนี่ก็เอกลักษ์มากๆ ต้องลองฟังดูนะครับ เอ้า ไม่รอช้ามาฟังกันเลยดีกว่า (จริงๆแล้ว ไม่ใช่คลิปนี้ที่จะให้ดู แต่คลิปที่ตั้งใจไว้ เค้าไม่ให้นำโคดมาแปะ แต่ไปดูตรงเลยได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=T2NEU6Xf7lM ไพเราะกว่ามาก และจะเห็นคนฟันห่างสุดโปรดของผมด้วย)


ส่วนเนื้อร้องสำหรับผู้ที่ต้องการให้ลูกฝึกร้อง เป้นเพลงหากิน อิอิอิอิอิ อยู่นี่เลยครับ (หากคุณก๊อก อ่าน blog นี้ของผม ผมขอคลิบคุณก๊อกร้องเพลงนี้ พร้อมกับกีต้าร์ตัวนั้น ที่เห็นในทีวี เพื่อเป็นการฉลอง chelsea 7 - 2 sunderland ด้วยครับ อิอิอิอิ)

"Hallelujah"

Now I've heard there was a secret chord
That David played, and it pleased the Lord
But you don't really care for music, do you?
It goes like this
The fourth, the fifth
The minor fall, the major lift
The baffled king composing Hallelujah
Hallelujah
Hallelujah
Hallelujah
Hallelujah

Your faith was strong but you needed proof
You saw her bathing on the roof
Her beauty and the moonlight overthrew you
She tied you
To a kitchen chair
She broke your throne, and she cut your hair
And from your lips she drew the Hallelujah

Baby I have been here before
I know this room, I've walked this floor
I used to live alone before I knew you.
I've seen your flag on the marble arch
Love is not a victory march
It's a cold and it's a broken Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

There was a time you let me know
What's really going on below
But now you never show it to me, do you?
And remember when I moved in you
The holy dove was moving too
And every breath we drew was Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

You say I took the name in vain
I don't even know the name
But if I did, well really, what's it to you?
There's a blaze of light
In every word
It doesn't matter which you heard
The holy or the broken Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

I did my best, it wasn't much
I couldn't feel, so I tried to touch
I've told the truth, I didn't come to fool you
And even though
It all went wrong
I'll stand before the Lord of Song
With nothing on my tongue but Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah

ส่วนคำแปล แปลเอาเองครับ เพราะไม่ค่อยสันทัดเอาซะเลยครับ หรือใครแปลเพลงเก่ง ช่วยกันนะครับ แบ่งปันความรู้และชำนาญกันครับ สำหรับวันนี้แค่เพลงนี้ก่อนครับ แล้วจะนำเพลงอื่นๆที่ผมชอบมาฝากใหม่เมื่อโอกาส (ส เสือ แล้วนะพี่เก๋ อิอิอิ) อำนวยครับ ซาหวัดดี

แหล่งข้อมูล: ขุดความรู้ส่วนตัว, มั่วทีวี, see YouTube, และ จูบ wikipedia


ปล. แม่ๆ ชอบหนุ่มคนไหนก็บอกกันนะ รับรองผมไม่ฟ้องคุณพ่อ

Views: 533

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by ยศภัด มีเดช on January 21, 2010 at 1:21pm
เพลงเพราะค่ะ
Comment by อรนัย รักในหลวง on January 21, 2010 at 7:56am
แหมมมม..รู้นะคิดไรอยู่...ไม่ใช่คนนอร์เวย์ คนต้นฉบับไงที่เล่าให้ฟังน่ะ..ว่าเจอความ"ยาก"ของคนชาตินี้แค่ไหน
ป่าวหรอกๆ จริงๆเป็นข้อแก้ตัว มันยาวเลย..ขอผ่านไปก่อนไง..ค่อยมาเก็บตกใหม่ อิอิ
Comment by Benjamin's Daddy on January 21, 2010 at 5:43am
อ๊อบ ความหลังอะไรกับคนนอร์เว สงสัยจัง
Comment by อรนัย รักในหลวง on January 20, 2010 at 12:49am
ไม่ค่อยเก็ตอ่ะพี่ แต่ท่วงทำนองมันเศร้าๆเนอะ เลยไปหาความหมายที่คนอื่นแปลแล้วมา จะได้อินมากขึ้น คริคริ

I heard there was a secret chord ได้ยินว่ามีคอร์ดลับอยู่คอร์ดหนึ่ง
That David played, and it pleased the Lord ที่ David เป็นผู้เล่น (พิณ) และพระองค์ (กษัตริย์ Saul) ก็พอพระทัย
You don't really care for music, do ya? เธอไม่สนใจเรื่องดนตรีหรอก...ใช่ไหมล่ะ?
Oh it goes like this คอร์ดนั้นมันเล่นอย่างนี้นะ
The fourth, the fifth เอฟ จี
The minor fall, the major lift เอไมเนอร์ แล้วก็เอฟ
The baffled king composing Hallelujah กษัตริย์ผู้พิศวง (David ซึ่งต่อมาได้เป็นกษัตริย์) แต่งออกมาเป็นคำว่า “ฮาเลลูยา”
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

(2)
Oh your faith was strong but you needed proof เขา (David) ยึดมั่นในศรัทธา แต่ไม่วายต้องพิสูจน์ให้เห็น
You saw her bathing on the roof จากระเบียงชั้นบนเขาเห็นเจ้าหล่อน (Bathsheba) อาบน้ำอยู่
Her beauty and the moonlight overthrew ya แล้วความงามของนางกลางแสงจันทร์ก็โค่นเขาลงได้
Well, she tied you to a kitchen chair นาง (Delilah) มัดเขา (Samson) ไว้กับเก้าอี้ในครัว (เปรียบกับตนเองในยุคปัจจุบัน)
She broke your throne, and cut your hair ทำลายความอหังการ์ และตัดผมเขาทิ้ง
And from your lips she drew Hallelujah แล้วนางก็ทำให้เขาต้องเปล่งเสียงออกมาว่า “ฮาเลลูยา”
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

(3)
Baby I’ve been here before, เธอเอ๋ย ฉันอยู่ที่นี่มาก่อน
I’ve seen this room and I’ve walked the floor, เคยเห็นห้องนี้ พื้นห้องก็เคยเหยียบ เคยเดิน
Used to live alone before I knew ya เคยอยู่คนเดียวก่อนหน้าจะมาเจอเธอ
But I’ve seen your flag on marble arch, แต่เธอนั้นอยู่สูง เหมือนธงทิวบนซุ้มประตูหินอ่อน
Our love is not a victory march, ความรักของเรามิใช่ขบวนแห่ชัยชนะ
It's a cold and it’s a broken hallelujah แต่มันเป็น “ฮาเลลูยา” ที่เย็นชา เหน็บหนาว และแหลกสลาย
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

(4)
Maybe there's a God above, พระเจ้า (สัญลักษณ์แห่งรัก) อาจมีจริงก็เป็นได้
But all I’ve ever learnt from love, แต่ความรักกลับสอนให้ฉัน
Was how to shoot somebody who outdrew ya, เฝ้าแต่จะหาโอกาสยิงไอ้คนที่มันฉกชิงเธอไป
It's not a cry that you hear at night, ที่เธอได้ยินตอนกลางคืนไม่ใช่เสียงครวญคร่ำร่ำไห้
It's not someone who’s seen the light, ไม่ใช่เสียงของคนที่พบทางสว่าง
It's a cold and broken hallelujah แต่เป็น “ฮาเลลูยา” ที่เย็นชา เหน็บหนาว และแหลกสลาย
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah, Hallelujah
Hallelujah

อ่านต่อได้ที่นี้จ้า

www.bloggang.com/viewblog.php%3Fid%3Ddoowopboy%26date%3D13-04-2008%..." target="_blank">http://74.125.153.132/search?q=cache:lbfpBfax9UcJ:www.bloggang.com/viewblog.php%3Fid%3Ddoowopboy%26date%3D13-04-2008%...
Comment by อรนัย รักในหลวง on January 20, 2010 at 12:33am
รู้ได้ไงว่าไม่ได้ฟังเนี่ย..ก็ไม่ชอบคนชาตินี้อ่ะ..ความหลังมันฝังใจ

กลับไปฟังใหม่ก็ได้
Comment by Benjamin's Daddy on January 20, 2010 at 12:29am
ขอบคุณที่ติชมกันมาทุกคนครับ

รี: i told my mum about what you said. here is her response: I don't SPOKE no ENGLAND man, hallelujah!

แม่น้องเนย: ขอบอกว่าไม่ใช่สุนทรีวันนี้วันเดียว เดียวจะมีมาฝากอีกหลายๆ เพลง จะเลือกสรรอย่างดี

Bless's Dad ขอบคุณมากที่หาข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยกันทำมาหากินอย่างนี้ซิ เยี่ยมไปเลย

สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง) และ รุ่งนภา ใช่เพราะมากเลยครับ และผมแน่ใจมาก ถ้าน้องๆคนไหนร้องได้ สามารถใช้เป็นเพลงหากินได้เลย และผู้ฟังก็จะชื่นชอบมาก เพราะจริงๆ

ตูน พี่ร้องเพลงไม่เป็น ฟังเป็นอย่างเดียว ครอบครัวนี้ไม่ถูกกับ karaoke และ ไมค์ ขอบอก ขอบอก

(พี่)เก๋ รู้จักเอาตัวรอดดีนะ อย่างนี้นักร้องผู้ชายที่บ้านคงปลื้มเป็นแน่

อ๊อบ ตกลงได้ฟังเพลงใช่ไหม หรือข้ามไปอ่าน แหล่งข้อมูลอย่างเดียว

คุณพ่อน้อง Dragon ตกลงเห็นคนฟันห่างหรือยัง คนโปรดผมอ่ะ
Comment by อรนัย รักในหลวง on January 19, 2010 at 10:18am
เพิ่งเห็นแหล่งข้อมูล ฮาอ่ะพี่ 555++
Comment by อรนัย รักในหลวง on January 19, 2010 at 10:17am
เห็นด้วยกับพี่เสกค่ะ เพลง หนัง ช่วยฝึกภาษาให้เราได้เยอะเชียวล่ะค่ะ
Comment by Prim & Poom on January 19, 2010 at 12:23am
คิดเหมือนเล็กเลย พักนี้เพลงเด็กขึ้นสมองจับจองพื้นที่แม่ไปหมดแล้ว (ปกติชอบฟังเพลงเพื่อชีวิต หุหุหุ)
ดีจังเลยคุณเสกนำเพลงมาร่วมแจมทำให้อารมณ์สุนทรีย์ขึ้นเป็นกอง (หลังจากเครียดจากการทำ 2ภาษามานาน

เด๋วให้คุณผู้ชายที่บ้านฝึกร้องมั่ง จะได้ไม่ต้องตอบคำถามว่าชอบนักร้องคนไหน และหันมาตอบว่าชอบนักร้องที่บ้านแทนจ้ะ
Comment by Alisa Rojsuwanishakorn on January 18, 2010 at 11:14pm
ตลกจังค่ะพี่เสก เด๋วไว้เจอกันคราวหน้าต้องให้ร้องโชว์ซะแล้ว

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service