ก่อนอื่นต้องขอแนะนำครอบครัวของป้อก่อนนะค่ะ...
ที่บ้านแฟนเป็นครอบครัวคนแต้จิ๋ว(หัวค่อนข้างโบราณ)ที่อยู่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งมาก(ไม่ถึงกับอยู่ชายคาเดียวกันตลอดแต่ก็เจอกันแทบทั้งวันหล่ะค่ะ) ทั้งหมดก็มีย่าทวด(เหล่าม่า) คุณพ่อคุณแม่(อากงอาม่า) น้องชายคุณพ่อ(เหล่าเจ็ก) น้องสาวคุณพ่อ2คน(เหล่าโกว) แฟนกับป้อ พี่สาวแฟนอีก2คน(โกว) แล้วก็ลูกๆ อิงอิงกับอี้หมิง
ก่อนที่จะได้อ่านหนังสือคุณบิ๊ก ป้อก็ OPOL แต้จิ๋วกับลูกทั้งสองมาตั้งแต่เกิดหล่ะค่ะ จวบจนได้อ่านหนังสือ"เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" เราก็เริ่มคิด ภาษาอังกฤษเราก็โอเค ทำไมเราไม่ให้ความรู้ส่วนนี้ที่เรามีกับลูกๆบ้าง (ซึ่งต้องขอบอกว่าไม่เค๊ย ไม่เคยคิดจะพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษเลยจริงๆค่ะ คิดว่าเดี๋ยวไปเรียนเอาในรร.ก็ได้..เหมือนสมัยเราไงค่ะ)....หลังจากนั้นป้อก็เริ่ม OPOL ภาษาอังกฤษกับลูกทั้งสอง ผ่านมาประมาณ1ปีกับ2เดือนแล้วค่ะ (แต่อย่าถามถึงผลนะค่ะ ยังเทียบกับครอบครัวอื่นๆที่พยายามตั้งหน้าตั้งตาสร้างครอบครัวสองภาษาอย่างจริงจังไม่ได้หรอกค่ะ...ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ชิลชิล) ก็มีเสียงตอบรับทั้งแบบดังๆ และแบบเก็บไว้ในใจจากผู้ใหญ่ทั้งหลายในครอบครัว ซึ่งก็คงไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ ก็อย่างที่แนะนำครอบครัวไป "ครอบครัวแต้จิ๋ว"...ยังไงก็ต้องพูดแต้จิ๋วสิค่ะ
ยังจำวันแรกๆที่เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกได้เลยค่ะ ตอนป้อนข้าวอี้หมิงอยู่ก็พูดEngกับเค้า เหล่าเจ็กพูดมาประโยคนึง "จะเอาภาษาอะไรก็เอาให้แน่ซักภาษาก่อนไม่ดีเหร๊อ ทั้งไทย แต้จิ๋ว อังกฤษ เด็กมันยังพูดได้ไม่ พอดีเดี๋ยวลูกพูดได้ก็พูดภาษาอีสานหรอก.." อะฮ๊า.....พอได้ยินเราก็ควันออกหูสิค่ะ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่คิดว่าอธิบายไปแล้วเค้าจะเข้าใจ แค่คิดว่ารอดูวันที่อี้หมิงพูดได้ก่อนก็แล้วกัน
จนผ่านไปปีกว่า แล้ววันนี้เค้าก็เห็นแล้วว่า เวลาเราพูดEng หมิงก็ฟังรู้เรื่อง เวลาพูดแต้จิ๋วหมิงก็ฟังรู้เรื่อง(เหล่าม่าก็แอบยิ้มไปด้วย) แถมหมิงก็สามารถพูดเป็นคำๆเป็นEngได้ด้วยอีกตะหาก แต้ิจิ๋วก็พอได้บ้างนิดหน่อย ไทยก็ได้อยู่แล้ว เค้าก็พูดออกมาว่า "จริงๆเนี่ยนะ ถ้าจะให้เป็นประโยชน์จริงๆกับลูกเนี่ย ป้อต้องหัดพูดจีนกลางกับหมิง ดีกว่าพูดแต้จิ๋ว เพราะอนาคตเนี่ย ภาษาอังกฤษกับจีนกลางเนี่ยสำคัญ" โอ๊ะโอว...นี่แปลว่าเหล่าเจ็กเห็นผลแล้วใช่ไม๊ค๊า เลยให้คุณแม่คนนี้หัดพูดจีนกลางกับลูกแทนแต้จิ๋ว มีการสอนเราด้วยนะว่าพูดเท่าที่เราพูดได้แล้วกัน เอาง่ายๆพื้นๆก่อน...ซะงั้น ก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอกค่ะ ยังไงเค้าก็หวังดีกับลูกเรา
ส่วนเหล่าม่า ต้องขอบอกว่าเค้าไม่พอใจแน่นอนที่เราพูดEngกับลูกเรา แต่เค้าก็ไม่เคยพูดหรือแสดงท่าทีไม่พอใจอะไร จนอยู่มาวันหนึ่ง เค้าเล่าให้ลูกค้า(ที่บ้านเป็นร้านขายของหน่ะค่ะ) "ดูแม่อีสิ จะสอนลูกให้เป็นฝรั่ง พูดก็พูดฝรั่ง ไปรร.ก็ไปรร.ที่สอนภาษาฝรั่ง รร.จีนใหญ่ๆโตๆดีๆไม่ให้ลูกไปเรียน" ฟังแล้วก็ควันออกหูอีกรอบค่ะ งานนี้คุณแม่ก็เลยงานเข้าอีก รีบกวดภาษาแต้จิ๋วกับลูกเป็นการใหญ่ จากเดิมที่พยายามพูดอังกฤษให้มากเพื่อสร้างความถี่ ก็เลยเสียสละเวลากินข้าว(ซึ่งเหล่าม่าจะนั่งกินด้วย)และเวลาที่เหล่าม่าอยู่ด้วย เปลี่ยนเป็นโหมดแต้จิ๋วแทน (ได้บ้าง มั่วบ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ผสมไทยกันไปอะค่ะ) และแล้วถึงวันนี้เหล่าม่าได้ประจักษ์(พร้อมกับเหล่าเจ็ก)ว่า เมื่อเราบอกอี้หมิงเป็นแต้จิ๋วแล้วอี้หมิงเข้าใจ เค้าก็แอบยิ้มค่ะ
น้องสาวของคุณพ่อ(เหล่าโกว)ก็ค่อนข้างชื่นชมกับผลที่เราทำ ส่วนคุณป้า(โกว)ทั้งสองของลูกๆ หลังจากเห็นผลของสิ่งที่เราทำ ก็ชื่นชมในสิ่งที่เราพยายามทำเพื่อลูก ก็ถือเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้หม่าม๊าคนนี้พยายามต่อไป สำหรับคุณปู่คุณย่า(อากงอาม่า)เค้าก็ไม่เคยออกความเห็นกับสิ่งที่เราทำ ก็ปล่อยให้เราเลี้ยงตามที่เราเห็นสมควร ซึ่งก็ต้องบอกว่าโชคดีที่เค้าให้โอกาสเรา ตอนนี้ก็เลยพยายามเพิ่มจีนกลางให้กับลูกทั้งสองด้วยค่ะ(เพื่อให้อากงอาม่าชื่นใจอะค่ะ) แต่หม่าม๊าก็ต้องทำการบ้านเยอะหน่อยอะค่ะ
ทั้งนี้และทั้งนั้นที่อยากเขียนบล็อกนี้ขี้นมาเนี่ย อยากจะบอกว่า "หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" สิ่งที่ครอบครัวสองภาษาในหมู่บ้านนี้กำลังทำเพื่อลูกๆอยู่นั้น มันไม่สามารถที่จะเห็นผลได้ข้ามคืน มันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หลายท่านอาจจะท้อ ไฟมอดบ้าง ดับบ้าง ลุกขึ้นมาใหม่บ้าง แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ซักวันสิ่งที่เราทำจะออกดอกออกผลให้เราและคนที่เคยดูแคลนหรือไม่เห็นด้วยกับเราเห็นอย่างแน่นอน แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้นแหล่ะค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะค่ะ....*^o^*
(ป.ล. ขออภัยที่เรียกลำดับญาติวุ่นวายไปหน่อยค่ะ ใส่ทั้งไทยทั้งแต้จิ๋ว...ไม่รู้คนอ่านจะงงไม๊น๊า)
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้