เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

แม่ๆมีวิธีดูแลชีวิตคู่อย่างไรคะ

เมื่อกี้ส่งผิดคะ  ไปดันกดส่งข้อความถึงห้อง  เอ ไม่รู้มันไม่โผล่ตรงไหน

คือ อยากจะรบกวนขอความรู้และประสบการณ์จากแม่ๆทุกท่านคะว่า เวลามีลูกแล้ว แต่ละท่านมีวิธีการดูแลชีวิตคู่อย่างไร คือตัวเองมีลูกสาวคนแรก ตอนนี้อายุขวบเศษคะ  ตั้งแต่มีลูก  เราทุ่มเวลากับลูกมาก  (เลี้ยงเองผสมกับให้ย่าและยายช่วยเลี้ยงบางวันที่เราไปทำงาน)  พอกลับถึงบ้าน เอาลูกนอน ก็ต้องทำงานบ้าน (ไม่มีแม่บ้าน) กว่าจะเสร็จก็เหนื่อยแล้ว  ทุกๆวันเป็นอย่างนี้คะ  สองคนสามีภรรยา  ทำหน้าที่พ่อแม่งกๆๆ  หลังจากที่เจ้าหญิงเสด็จบรรทม  เวลาจะได้พักไม่ค่อยมี  จะไปเที่ยวสองคน ตัวเองก็เป็นห่วงลูก  ไม่อยากไปไหนไกล  ตั้งแต่ลูกเกิดดูหนังกับสามีจบเรื่องแค่เรื่องเดียว   ตั้งแต่ลูกเกิดรู้สึกจะทะเลาะกันบ่อยขึ้น  โดยเฉพาะเวลาที่ทั้งสองคนเครียดเรื่องงานทั้งคู่  หลังๆสามีบอกว่าเขารู้สึกเหมือนกับเพื่อนร่วมงานของเรามากกว่า คือ ร่วมงานกันเลี้ยงลูก  ร่วมงานกันทำงานบ้าน คือ มีแต่การทำหน้าที่ๆๆ ทุกๆวัน  ไม่เหมือนกับเป็นคนรักกัน เราฟังก็เริ่มเครียดนิดหน่อย เลยอยากขอความรู้จากท่านอื่นคะว่ามีวิธีดูแลชีวิตคู่อย่างไรบ้างคะ

Views: 1580

Replies to This Discussion

ขอบคุณแม่น้องพลอย คุณ Clamp ka และแม่โฟร์วิลล์กะไอดินนะคะ  มาอ่านแล้วอดขำไม่ได้  เพิ่งรู้ว่าเป็นคล้ายๆกันทุกบ้านเลยแฮะ  ทั้งที่ต้องกะเตงลูกไปด้วยเกือบทุกที่  ที่ต้องทำงานบ้านหลังลูกนอน ฯลฯ  คะ  คงต้องค่อยๆเรียนรู้และปรับกันไปอย่างที่หลายคนว่า  แต่ตอนนี้ เริ่มรู้สึกว่านอกจากตัวเองจะไม่ได้ดูแลสามีแล้ว  (เพราะมัวแต่ห่วงลูก  มีลูกนั่งอยู่ในใจเราตลอดเวลา - สำนวนสามี) ตัวเองยังไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลพ่อแม่ด้วย  เพิ่งสังเกตุว่าไปบ้านแม่ทีไร คุยแต่เรื่องลูก แม่เราก็รับๆ พยักหน้าตามที่เราบอกว่าจะต้องกินอะไร กี่โมง ยังไง มีอะไรต้องระวังบ้าง  เหมือนกับว่าที่บ้านแม่กลายเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กกลายๆ  เฮ้อ  ...แอบบ่นนะคะ  การดูแลคนในครอบครัวนี่มันยากจังเลยคะ  ได้แต่ภาวนาว่าเราจะเปลี่ยนตัวเอง  หาวิธีการและหนทางที่จะดูแลคนที่เรารักได้อย่างเพียงพอหรือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  ก่อนที่มันจะสา่ยไป  เฮ้อ  อย่าหาว่ามองโลกในแง่ร้ายเลยนะคะ  แต่ก็...ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน  ไม่รู้วันดีคืนดีจะเกิดอะไรขึ้นกับเราหรือคนที่เรารักหรือเปล่า 
:) ขอบคุณสำหรับการแชร์คะ

you're better than us na ka, me and my bf these days just seem to be 'คนรู้จัก' cuz both of us are very busy since early morning till late night ka T_T

I'm trying to solve the problem but I don't know if everything will be better, otherwise we have to separate ka.

 

khun kirata ka,  เป็นกำลังใจให้นะคะ  ขอให้แก้ปัญหาได้อย่างดีที่สุด  ขอบคุณที่เข้ามาแชร์คะ
สวัสดีค่ะ มาร่วมแชร์ เรื่องชีวิต ครอบครัว ด้วยคนค่ะ เป็นคุณแม่สามใบเถา ค่ะ ครอบครัวเรา อยู่สิงคโปร์ค่ะ ไม่มีญาติ พี่น้องที่นี่ สักคน..สามี(ฮ่องกง) เราอยู่กันตามประสา พ่อแม่ลูกจริงๆค่ะ ไปไหนก็ต้อง ไปด้วยกัน ท้องลูกสาวคนแรก อายุ 23 วัยกำลังเที่ยวสนุกอยู่เลย (แก่แดด)แต่ต้องมาเป็นคุณแม่ซะแล้ว ตั้งแต่นั้นมาจน วันนี้ ลูก 3 แล้ว ผ่านมา 16 ปี เราก็ยังเป็น ชาวเกาะ(แม่บ้าน+คนใช้) สามี ทำงานเรื่องเที่ยว กัน2คนนั้น ลืมได้เลย เราเองกับแฟน คิดเหมือนกัน คือไปไหน ก็อยากเอาลูก ไปด้วย ทานอาหาร นอกบ้านก็ไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ลูกคนโต ไม่ค่อยอยากจะไปไหนกะ พ่อแม่แล้ว มีเพื่อน ก็สนใจเพื่อน พ่อเค๊ากลับงอน ลูกอีก ตอนนี้ ก็เหลือ อีก 2สาว 13ปี กับ 3.3เดือน คนเล็ก นี่ก็ คงหลายปี ที่เราต้องหนีบไปไหนไปด้วย แต่บางครั้งที่เราทิ้งลูกอยู่บ้านกัน 3 คน พ่อแม่ไปซื้อของมาร์เก็ต ความรู้สึกเหมือน ลืมเอาอะไรมามันเหมือนขาดๆ อะไรไป...แต่ช่วงเวลา ที่ลูกคนโตเข้าเรียน อนุบาลกับคนกลาง ตัวแดงๆอยู่เนี่ย เหนื่อยมาก เลี้ยงลูกเอง งานบ้าน ทำกับข้าว สามีทำงานกลับมาก็ ทุ่ม 2ทุ่ม วันๆพูดกันไม่ถึง 10คำยังมีเลย บางทีคิดถึงบ้านมาก อยากพาลูก กลับ กับสามี บางทีก็คุยไม่เข้าหู (คนละภาษา)กว่าจะรู้เรื่อง ก็โมโห คนละมุมแล้ว แต่ก็ปรับตัวเข้าหากัน ต่างคนต่างปรับ ทุกวันนี้ ลูกๆโตขึ้นไม่เครียดเท่าไหร่แล้ว มีความสุขกับ เจ้าตัวเล็กไปวันๆ ไปส่งลูกไปโรงเรียน จ่ายกับข้าว ทำอาหารที่ลูกๆชอบ ไม่เครียดก็มีความสุข เพียงพอแล้ว เอาใจใส่กันบ้างดูแลกันไป ยังไงซะเราต้องก้าวไปพร้อมกัน ให้ถึงจุดหมาย..เป็นกำลังใจสู้ค่ะ..
:)  ขอบคุณนะคะ  แม่น้องฟลุ๊ค.เฟริดท์.เฟย์  จริงๆตอนนี้สถานการณ์ที่บ้านก็ดีขึ้นมากแล้วคะ คือ ตกลงกับสามีว่าแต่ในละวัน (ไม่ต้องทุกวัน) จะมีเวลาได้นั่งคุยกัน (หลังจากเจ้าตัวเล็กนอนและทำงานบ้านใช้แรงเยี่ยงทาส 55) ใครมีอะไรก็จะเคลียร์กันไปแต่ละวันคะ  ก็เลยเหมือนว่าอย่างน้อยก็ได้ connect กันหน่อย  แม้ว่าจะไม่ได้มีเวลากะหนุงกะหนิง  ยิ้มหวานให้กัน เหมือนแต่ก่อน  แล้วก็พยายามหาเวลาไปเที่ยวกันสองคนบ้าง  

ดีแล้วค่ะ คุณแม่น้องน้ำ

คุณแม่น้องน้ำ ยังโชคดีกว่าจูนอีกนะคะ ทุกวันนี้จูนก็เลี้ยงลูกเอง ถึงแม้จะมีคนช่วยทำกับข้าว ช่วยทำงานบ้างให้บ้าง จูนกับสามีก็ยังคุยไม่ค่อยจะถึงสิบคำเลยค่ะ เพราะสามีทำงาน (จริง ๆ ก็ไม่ยุ่งมากนักด้วยนะ) แต่เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงจริง ๆ สังคมเยอะมาก วัน ๆ อยู่แต่หน้าคอม กับโทรศัพท์ ไม่ใช่เรื่องงานด้วย ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เห็นหน้ากันทุกวัน ตลอดเลยนะ ....บางวันทนไม่ไหว เราก็เริ่มบอกเขาว่า เราต้องการแบบนี้ ๆ ให้คุยกันบ้าง ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน แต่เหมือนอยู่กันคนละบ้าน ...บางทีจูนแทบอยากจะออกจากบ้านหลังนี้ด้วยซ้ำ (บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ๋ค่ะ...เข้าใจใช่มั้ยค่ะว่ามันวุ่นวาย เวิ่นเว้อแค่ไหน 55) ....แต่มีคนทักไว้ว่าให้คิดถึงลูกให้มากที่สุด...ทุกวันนี้จูนเลยคิดแต่เลี้ยงลูก และทำงานบ้านบ้างเท่าที่ทำได้ ส่วนเรื่องชีวิตคู่แบบก่อนแต่งงานนั้น จูนล้มพับโครงการนี้ไปเลยการ ....พอเราพูดมาก ๆ เขาก็หาว่าเราเรียกร้องมากไปไหม หาว่าเราเปลี่ยนไปบ้างล่ะ ไม่เห็นเหมือนตอนแต่งงานเลย ....แล้วยังดึงดันอยากจะได้ลูกคนที่สองอีก ...เฮ้อเหนื่อยค่ะ

คุณแม่น้องน้ำ สู้ ๆ นะคะ อย่างน้อยคุณแม่น้องน้ำ ก็ยังโชคดีกว่าจูนเยอะค่ะ พยายามต่อไปนะ จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ขอบคุณนะคะคุณจูน  เป็นกำลังใจให้เหมืิอนกันนะคะ

คุณจูนคะอย่าว่าอย่างงั้นงี้เลยนะคะ อยากให้อ่านหังสือเรื่องนี้คะ ธรรมมะทอรัก ของท่า ว.วชิรเมธีคะ

อ่านแล้วคุณจูนจะสบายใจมากๆๆๆๆๆคะ รับรองได้คะ

แต่งงาน มีลูกแล้ว ความสวีทหวานแหววย่อมไม่เหมือนตอนจีบกันแน่นอนค่ะ ตรงนี้เราต้องยอมรับ

เวลาที่จะคุยกัน มีกิจกรรมร่วมกันก็น้อยลง เพราะเวลาของเราต้องทุ่มเทให้ลูกมากกว่า

แต่การมีลูกก็เหมือนมีตัวประสานรอยร้าวนะคะ สมมุติว่าพ่อแม่โกรธกัน แต่ลูกไม่รู้เรื่อง เค้าก็จะมาเล่นกับพ่อกับแม่ตามปกติ

ทำให้พ่อกับแม่ผ่อนคลายลง และลืมเรื่องที่เคืองๆ กันอยู่

อีกอย่างหนึ่ง การที่จะดูแลชีวิตคู่ให้คงอยู่ไปนานๆ นอกจากการพูดจา อารมณ์ที่ต้องระวังแล้ว

ทั้งคู่ก็ต้องพยายามสร้างบรรยากาศของบ้านให้หอมกรุ่นบ้าง

ดูแลตัวเองให้ดูดี แม้อายุจะมากขึ้น แต่ผู้หญิงก็ยังต้องสวยตามวัย ไม่ใช่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว

ลองถามสามีดูสิคะว่าเค้าอยากให้เราแต่งตัวสวยๆ รึเปล่า

เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยก็อยากให้ภรรยาดูดี เพราะฉะนั้น "ผู้หญิง...อย่าหยุดสวย"

คุณสาบอกว่า สวยไม่สวยก็รักเมีย ♥ (แต่เวลาคุยกะเพื่อนบอก กรรมมาในรูปของเมีย แก่ง่าย ตายช้า เผลอเป็นไม่ได้ชอบขึ้นอีแก่)

 

ยังงัยก็ดีตอนนี้ก็พยายมลดหุ่น ดูแลความงามทั้งกายและใจค่ะ  ♥

ขอบคุณ แม่อ้อ - พ่ออาร์ต & ฟ้าใส และคุณ pat คะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service