เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
เมื่อกี้ส่งผิดคะ ไปดันกดส่งข้อความถึงห้อง เอ ไม่รู้มันไม่โผล่ตรงไหน
คือ อยากจะรบกวนขอความรู้และประสบการณ์จากแม่ๆทุกท่านคะว่า เวลามีลูกแล้ว แต่ละท่านมีวิธีการดูแลชีวิตคู่อย่างไร คือตัวเองมีลูกสาวคนแรก ตอนนี้อายุขวบเศษคะ ตั้งแต่มีลูก เราทุ่มเวลากับลูกมาก (เลี้ยงเองผสมกับให้ย่าและยายช่วยเลี้ยงบางวันที่เราไปทำงาน) พอกลับถึงบ้าน เอาลูกนอน ก็ต้องทำงานบ้าน (ไม่มีแม่บ้าน) กว่าจะเสร็จก็เหนื่อยแล้ว ทุกๆวันเป็นอย่างนี้คะ สองคนสามีภรรยา ทำหน้าที่พ่อแม่งกๆๆ หลังจากที่เจ้าหญิงเสด็จบรรทม เวลาจะได้พักไม่ค่อยมี จะไปเที่ยวสองคน ตัวเองก็เป็นห่วงลูก ไม่อยากไปไหนไกล ตั้งแต่ลูกเกิดดูหนังกับสามีจบเรื่องแค่เรื่องเดียว ตั้งแต่ลูกเกิดรู้สึกจะทะเลาะกันบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่ทั้งสองคนเครียดเรื่องงานทั้งคู่ หลังๆสามีบอกว่าเขารู้สึกเหมือนกับเพื่อนร่วมงานของเรามากกว่า คือ ร่วมงานกันเลี้ยงลูก ร่วมงานกันทำงานบ้าน คือ มีแต่การทำหน้าที่ๆๆ ทุกๆวัน ไม่เหมือนกับเป็นคนรักกัน เราฟังก็เริ่มเครียดนิดหน่อย เลยอยากขอความรู้จากท่านอื่นคะว่ามีวิธีดูแลชีวิตคู่อย่างไรบ้างคะ
Tags:
you're better than us na ka, me and my bf these days just seem to be 'คนรู้จัก' cuz both of us are very busy since early morning till late night ka T_T
I'm trying to solve the problem but I don't know if everything will be better, otherwise we have to separate ka.
ดีแล้วค่ะ คุณแม่น้องน้ำ
คุณแม่น้องน้ำ ยังโชคดีกว่าจูนอีกนะคะ ทุกวันนี้จูนก็เลี้ยงลูกเอง ถึงแม้จะมีคนช่วยทำกับข้าว ช่วยทำงานบ้างให้บ้าง จูนกับสามีก็ยังคุยไม่ค่อยจะถึงสิบคำเลยค่ะ เพราะสามีทำงาน (จริง ๆ ก็ไม่ยุ่งมากนักด้วยนะ) แต่เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงจริง ๆ สังคมเยอะมาก วัน ๆ อยู่แต่หน้าคอม กับโทรศัพท์ ไม่ใช่เรื่องงานด้วย ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เห็นหน้ากันทุกวัน ตลอดเลยนะ ....บางวันทนไม่ไหว เราก็เริ่มบอกเขาว่า เราต้องการแบบนี้ ๆ ให้คุยกันบ้าง ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน แต่เหมือนอยู่กันคนละบ้าน ...บางทีจูนแทบอยากจะออกจากบ้านหลังนี้ด้วยซ้ำ (บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ๋ค่ะ...เข้าใจใช่มั้ยค่ะว่ามันวุ่นวาย เวิ่นเว้อแค่ไหน 55) ....แต่มีคนทักไว้ว่าให้คิดถึงลูกให้มากที่สุด...ทุกวันนี้จูนเลยคิดแต่เลี้ยงลูก และทำงานบ้านบ้างเท่าที่ทำได้ ส่วนเรื่องชีวิตคู่แบบก่อนแต่งงานนั้น จูนล้มพับโครงการนี้ไปเลยการ ....พอเราพูดมาก ๆ เขาก็หาว่าเราเรียกร้องมากไปไหม หาว่าเราเปลี่ยนไปบ้างล่ะ ไม่เห็นเหมือนตอนแต่งงานเลย ....แล้วยังดึงดันอยากจะได้ลูกคนที่สองอีก ...เฮ้อเหนื่อยค่ะ
คุณแม่น้องน้ำ สู้ ๆ นะคะ อย่างน้อยคุณแม่น้องน้ำ ก็ยังโชคดีกว่าจูนเยอะค่ะ พยายามต่อไปนะ จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
คุณจูนคะอย่าว่าอย่างงั้นงี้เลยนะคะ อยากให้อ่านหังสือเรื่องนี้คะ ธรรมมะทอรัก ของท่า ว.วชิรเมธีคะ
อ่านแล้วคุณจูนจะสบายใจมากๆๆๆๆๆคะ รับรองได้คะ
แต่งงาน มีลูกแล้ว ความสวีทหวานแหววย่อมไม่เหมือนตอนจีบกันแน่นอนค่ะ ตรงนี้เราต้องยอมรับ
เวลาที่จะคุยกัน มีกิจกรรมร่วมกันก็น้อยลง เพราะเวลาของเราต้องทุ่มเทให้ลูกมากกว่า
แต่การมีลูกก็เหมือนมีตัวประสานรอยร้าวนะคะ สมมุติว่าพ่อแม่โกรธกัน แต่ลูกไม่รู้เรื่อง เค้าก็จะมาเล่นกับพ่อกับแม่ตามปกติ
ทำให้พ่อกับแม่ผ่อนคลายลง และลืมเรื่องที่เคืองๆ กันอยู่
อีกอย่างหนึ่ง การที่จะดูแลชีวิตคู่ให้คงอยู่ไปนานๆ นอกจากการพูดจา อารมณ์ที่ต้องระวังแล้ว
ทั้งคู่ก็ต้องพยายามสร้างบรรยากาศของบ้านให้หอมกรุ่นบ้าง
ดูแลตัวเองให้ดูดี แม้อายุจะมากขึ้น แต่ผู้หญิงก็ยังต้องสวยตามวัย ไม่ใช่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว
ลองถามสามีดูสิคะว่าเค้าอยากให้เราแต่งตัวสวยๆ รึเปล่า
เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยก็อยากให้ภรรยาดูดี เพราะฉะนั้น "ผู้หญิง...อย่าหยุดสวย"
คุณสาบอกว่า สวยไม่สวยก็รักเมีย ♥ (แต่เวลาคุยกะเพื่อนบอก กรรมมาในรูปของเมีย แก่ง่าย ตายช้า เผลอเป็นไม่ได้ชอบขึ้นอีแก่)
ยังงัยก็ดีตอนนี้ก็พยายมลดหุ่น ดูแลความงามทั้งกายและใจค่ะ ♥
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by