เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ความรู้สึกของผู้อ่านหลังอ่านหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ เล่ม 1 และ 2"


ส่วนหนึ่งของความรู้สึกผู้อ่านที่ได้อ่านหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ เล่ม 1 หรือเล่ม 2"


ตัวอย่างหนังสือเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ เล่ม 1


-----
แก้ไขคำผิดจากขั้นตอนการจัดพิมพ์หนังสือเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ 2
หน้า 15 บรรทัดแรก / น้องจันทร์และเจ้า >> น้องจันทร์เจ้าและ
หน้า 100 บรรทัดที่ 9 / Thefreedicationary.com >>Thefreedictionary.com
หน้า 109 บรรทัดที่ 3 /ประประโยค >> ประโยค
หน้า 111 บรรทัดที่ 3 จากล่าง / "Would better" >> "Had better"
หน้า 127 บรรทัดที่ 3 /When you was a baby.You cried.... >>  When you were a baby,you cried....
หน้า 152 บรรทัดที่ 2 / ความมุ่งมั้น >> ความมุ่งมั่น
หน้า 153 ย่อหน้าที่ 2 / "Practice make Perfect" >> "Practice makes Perfect."

Views: 17598

Reply to This

Replies to This Discussion

ความรู้หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วอ่านหนังสือเล่มนี้ไปแค่ 2-3 หน้าเองค่ะ เลยไม่สามารถบอกได้ว่าความรู้สึกของการอ่านหนังสือจบเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆคืออ่านไปนิดเดียวก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจมากแล้วค่ะ เพราะว่าหลังจากทราบข้อมูลนิดเดียวแค่นั้นก็เข้ามาเป็นสมาชิกของเวปนี้เลย

คาดว่าหลังจากนี้จะไปซื้อหนังสือมาอ่านให้เป็นเรื่องเป็นราวสักทีค่ะ เผื่อว่าจะได้รู้ขั้นตอนในการสอนลูกให้ละเอียดยิ่งขั้น

แล้วหลังอ่านหนังสือจบจริงๆ ความรู้สึกเป็นอย่างไรจะมาบอกอีกทีน่ะค่ะ

ขอขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้สึกดีๆและความรู้ดีๆที่มาแบ่งบันกัน
ผมอ่านหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" จบทั้งสองเล่ม และได้อ่านทวนหลายครั้งด้วย อยากบอกว่าทำให้ผู้ที่เป็นพ่อ แม่ อย่างเราๆ
รู้สืกมีความหวัง ขื้นมา จากที่เคยมองไม่เห็นหนทางที่จะให้ลูกได้มีโอกาสเป็นเด็กสองภาษา เนื่องจากพ่อแม่ก็ไม่เก่ง และไม่เคยไปต่างประเทศ
หลังจากได้อ่านแล้ว ทำให้รู้สืกว่าเราน่าจะทำได้ เป็นความรู้สืกที่แรง และมุ่งมั่นมากด้วย
ตอนอ่านเล่ม 2 เกดต้องอ่านแบบช้าๆ ค่ะ และมาคิดเรียงลำดับว่าตอนนี้เกดกับน้องฟรังอยู่ระดับไหนแล้ว มันทำให้เห็นผลขึ้นค่ะ น้องฟรังเองก็เริ่มตอบสนองจนสามารถมองเห็นความก้าวหน้าชัดขึ้นค่ะ แต่เกดก็พยายามเดินกันไปอย่างช้าๆ ค่ะ นับว่าเล่มที่ 2 เป็นกระจกที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเรากำลังก้าวบันไดไปขั้นที่เท่าไรแล้ว และลูกเหนื่อยหรือยังที่จะก้าวขั้นต่อไป หากลูกยังไม่อยากก้าวเดินต่อ เราก็ย้ำอยู่ตรงนั้นก่อน จนเขาอยากก้าวต่อไป ซึ่งช่วงเวลานั้นเกดก็กลับไปเล่ม 1 ค่ะ เพื่อเพิ่มความมุ่งมั่น และตอกย้ำความเข้าใจให้กับตนเอง
ยอมรับนะค่ะว่าไม่เคยอ่านหนังเล่มไหนที่อ่านเล่ม 2 แล้วยังอยากกลับไปหาเล่ม 1 อีก ทั้งๆ ที่อ่านไม่รู้กี่รอบแล้ว ทึ่งจริงๆ
แหม่มเจอเล่ม 2 นี้ก่อนค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย ปกติไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ แต่พออ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกได้ว่าหนังสือให้อะไรมากกว่าที่เรา
คิด อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า เราก็สามารถทำให้ลูกเป็นเด็ก 2 ภาษาได้ เป็นแรงบันดาลใจที่ดี แล้วก็อยากอ่านเล่ม 1 ก็ไปหาซื้อมาอ่าน ดีมากค่ะทั้ง 2 เล่ม อ่านแล้วเข้าใจง่าย และเริ่มทำตามแบบง่าย ๆ ขอบคุณมากนะคะที่เขียนหนังสือดี ๆ ให้เราได้อ่านและทำให้ลูกของเรามีโอกาสที่จะได้เป็นเด็ก 2 ภาษานะคะ
อ่านแล้ว เชื่อว่าจะต้องทำได้ เพราะมีหลาย ๆคนทำได้
ที่สำคัญสามารถใช้ไว้อ้างอิง เมื่อเราจะใช้สองภาษากับคุณลูกด้วย
คุณย่า คุณยาย จะได้ไม่งงว่า เรากำลังทำอะไรอยู่
ตอนนี้ให้ทุกคนอ่านเล่มนี้กันหมดเลยคะ เตรียมพร้อม.........เด็กสองภาษา
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่อ่านจบ และจะพยายามอย่างถึงที่สุดคะ....
หาซื้อได้ที่ไหนบ้างค่ะ อยากอ่านแล้ว มีแต่คนชมทั้งนั้นเลย....ส่วนตัวลองกับลูกแค่ ครั้ง 2 ครั้งก็ หมดความพยายามแล้ว คิดว่าถ้าได้อ่านหนังสือน่าจะมีแนวทางที่ดีกว่าทำเองนะค่ะ
ของเราไปซื้อที่ร้านซีเอ็ดคะ มีทั้ง เล่ม1-2 เลยคะ
สู้ๆ นะคะขอให้ทำได้ (ให้กำลังใจตัวเิองไปด้วยคะ อิอิ)
โอ เค นะครับ..อ่านแล้วได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น มีแนวทางที่นำมาประยุกต์ใช้กับครอบครับของเรา ...แต่ตอนนี้ของน้องเป๊กยังอยู่ระหว่างการศึกษาและทดลองเพราะน้องแค่ 1 ขวบ 2 เดือนเองครับ..แต่ก็ดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจคำศัพท์ที่เราย้ำทุก ๆ วัน ( ตามตำราเขาบอกว่าอย่าท้อเพื่อจะรอดูดอก-ผล ในระยะยาวต่อไป )
ขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ครอบครับที่มีความมุ่งมั่นครับ..
ติดตามเรื่องเด็กสองภาษามาตั้งแต่เล่มแรก เพราะเชื่อว่าภาษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูกในอนาคตแน่นอน พออ่านเล่มแรกก็มีกำลังใจฮึดสู้ แต่ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ลองผิดลองถูก พอได้อ่านเล่มที่สองเลยร้องอ๋อ ว่ามันก็ต้องมีหลักการมาช่วยเหมือนกันนะ บางอย่างง่ายๆที่เรามองข้ามไป แต่ยังไงก็อยู่ที่ตัวพ่อแม่อีกนั่นแหละ ตอนนี้น้องอีฟเก้าเดือนกว่า ถึงจะยังพูดไม่ได้ พูดก็แค่อ้อแอ้ๆ แม่ ไป หม่ำ พ่อแม่ก็พยายามพูดสองภาษาโดยใช้วิธีแบบพูดเป็นเวลา เวลาที่อยู่กันสองคน ถึงเค้าจะตอบโต้ไม่ได้ แต่ลึกๆ เราก็รู้ว่าลูกเริ่มรู้เรื่องดีแล้ว เวลาอยู่ด้วยกันสองคนกับลูกเป็นเวลาที่ใช้ภาษาอังกฤษได้เต็มที่ ไม่ต้องอายใคร

คุณแม่เริ่มพยายามสองภาษาเป็นช่วงเวลา (เวลาที่นึกออกและทำได้) ตั้งแต่น้องอีฟเจ็ดเดือนกว่าจนตอนนี้เก้าเดือนกว่าแล้ว เวลาตื่นเช้าคุณแม่จะเข้าไปปลุกน้องอีฟแล้วพูดว่า Good Morning หลังจากน้องอีฟบิดไปบิดมาบนเตียงเสร็จเรียบร้อยจะพูดว่า Open the curtain ทุกเช้า เพราะเตียงน้องอีฟติดหน้าต่าง ตอนนี้เวลาคุณแม่พูด Open the curtain น้องอีฟจะมองไปที่หน้าต่าง แล้วก็ชี้ให้คุณแม่พาไปเปิดม่าน คุณแม่ดีใจมากถึงแม้ว่าจะแค่คำเดียวที่เค้าเริ่มตอบโต้ เราก็รู้ว่าเค้าเข้าใจเรา คุณแม่จะพยายามไม่ขี้เกียจแล้วก็พูดกับลูกบ่อยๆ อย่างน้อยก็ให้น้ำซึบบ่อทรายๆทุกๆวันก็ยังดี เพื่ออนาคตดีดีของลูกในอนาคต 

อยากให้หนังสือสองภาษาช่วยไกด์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเริ่ม เข้าใจว่าเริ่มยิ่งเร็วยิ่งดี แต่ถ้าเริ่มเล็กไปอาจะทำให้พ่อแม่ท้อ เพราะลูกยังไม่สามารถตอบโต้ได้ เท่าที่อ่านมักจะเริ่มกันขวบกว่าๆ ถ้าช่วงนำเสนอช่วงอายุกับพัฒนาการด้านภาษาได้ยิ่งดีนะคะ
มีกำลังใจ และมุ่งมั่นที่จะสอนลูก เพื่อให้ลูกพูดได้ สองภาษา
8 ครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ เป็นแนวทางให้ สอนลูก ไปสู่จุดมุ่งหมาย
หลังจากอ่านจบก็ค้นพบว่าหนังสือนี้เป็นกำลังใจให้สุ้ต่อไป เป็นแนวทางในการสอน เป็นหนังสือที่ติดกระเป๋าติดตัวตลอด เป็นสมุดวาดเล่นของลูก เป็นนิทานของลูก เป็นสิ่งดีๆ ให้ชีวิตดีขึ้น สำหรับหลินไม่เคยได้ไป work shop และไม่เก่งภาษาไม่เข้าใจแกรมม่า ไม่ได้ศัพท์ด้วยแล้วนั้น ทำให้ได้แนวการสอนที่ดีขึ้นกว่าก่อน คลายเครียดได้เยอะ เรามีเวลาอยู่กับลูกทั้งวัน แต่เราไม่เคยไ้ด้พัฒนาด้านแกรมม่าเลยเพราะอ่านแล้วเข้าใจแต่พอจะใช้ดันลืม พอหันมาท่องประโยคก็ดันลืมเหมือนกัน เครียดมากเลยก่อนหน้านี้ เคยคิดที่จะเลิกพูดภาษาอังกฤษกับลูกเลยด้วย เพราะไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่บ้านกันแค่สองคนแม่ลูกทั้งวัน ไม่รู้ว่าจะหาสื่อจากไหนสอนลูก หนังสือเล่มนี้ก็ฝากน้องซื้อให้ อยากหาหนังสือนิทานให้ลูกก็ไม่สามารถหา เข้าห้องอังกฤษก็เห็นพัฒนาของคนอื่น ตอบกันเก่งๆ ทั้งนั้นเลย(ถ้าเป็นทฤษฏีบางครั้งอ่านแล้วก็ำไม่เข้าใจ) คอมพิวเตอร์ก็ใช้ไม่เป็น โหลดmp3 Vedio อะไรก็ไม่เป็น ตอนนี้หายเครียดแล้ว เพราะนำสิ่งรอบตัวของลูกมาสอนก่อนไม่จำเป็นที่ลูกต้องรู้ทุกอย่างก่อนที่เขาจะเห็นของจริง ค่อยๆสอนไปทีละนิด ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆๆ นะคะ ตอนนี้ถิงถิง 1 ขวบกับ1สัปดาห์ค่ะ
อ่านแล้วจัดประเด็นได้และรู้สึกมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมากกว่าเล่ม 1 มาอีกเยอะเลยค่ะ ..ขอบคุณ ผู้ใหญ่บิ๊ก .. ที่ให้พวกเราได้มีต้นแบบที่ดีดี ไว้ให้พวกเราได้ทำตาม ..จะติดตามตลอดไปค่ะ..

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service