The natural thing.

[สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง)]

ช่วยด้วยค่ะ คำถามโลกแตก ไม่รู้จะตอบลูกอย่างไร ถึงจะโอเค

 

1.แป้ง:  Who make it dark? (คือตอนค่ำ2ทุ่มค่ะ แป้งก็พูด It's dark.The sun is under the ground.555ตลกดี)

mommy: It's natural thing. Maybe God make it. กลัวลูดไม่รู้God ก็เลยพูดต่อว่า God like Buddha,something like that. I will tell you later (ไปต่อไม่ได้ค่ะ มุขเดิม ว่าเดี๋ยวบอก อิอิอิ)

  จะอธิบาย ง่ายๆให้เด็กฟัง ที่น่าจะเข้าใจได้ แบบวิทยาศาสตร์ หรือ ยังไงก็ได้ อย่างไรหนอ ช่วยด้วยค่ะ)

 

2. แป้ง : Where's the wind come from?

  Mrmmy : It's naturral .( เป็นเรื่องธรรมชาติ สิ่งธรรมชาติ เราว่ายังไงดีคะ)

ไม่เท่านั้นยังถามต่ออีก แม่นึกว่ารอดแล้ว

แป้ง : Why's it windy? อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอจะถามว่า ทำไมมีลม หรือ ทำไมลมแรง ถ้าหมายถึงทั้ง 2 อย่าง ตอบอย่างไง คะ

Mommy : I don't know n.I will tell you later.

 

 

ขอบคุณค่ะ

 

[สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง)]

ตอนที่นึก มีแต่นึกว่า มันเป็นธรรมชาติค่ะ แต่คิดเรื่องการเกิดลม ไม่ออกเลยจริงๆ มาอ่านอีกที เอ่อ ใช่ เลย เหมือน เพิ่งรู้ใหม่เลยทั้งๆที่น่าจะเรียนมาแล้วนะเนี่ย โอ๊ะ โอ.... ส่วนเรื่องความมืด ก็ กะจะอธิบายว่า โลกหมุนรอบตัวเองและ พระอาทิตย์ คิดไปถึง สุริยะจักรวาน อันนี้ก็ไกลเกินเหตุ ไม่ได้ถามฤดู แม่โอมั่วจริงๆเลย ถามในทู้ นี่กระจ่างสุด 5555 ของพี่อ๊อบก็สั้นแบบน่ารักดีเนาะ จำได้เลยอ่ะ
สงสัยต้องไปหมุนโลก ส่องไฟ ให้ดูเสียแล้ว จะได้เข้าใจ บ้าง อิอิอิ

[KrisMum]

ว้าว คำตอบเพียบ ขอบคุณด้วยคนค่ะ เก็บไว้สอนคริส แต่จริงๆ แบดจะตอบว่า ให้ไปถามแด๊ดดี๊ กร๊ากก

[อรนัย รักในหลวง]

แล้วบอกด้วยนะว่าแดดดี๊ตอบว่าไร..อิอิ

[Suthawadee C.]

อันนี้เป็นคำตอบพื้นฐานของพี่เหมือนกันเวลาตอบไม่ได้ let's ask daddy, I think he knows the answer. อิ อิ ได้ผลทุกที

[Mommy Dearest]

โยนเนี่ยดีที่สุดแระ 555 ต้องให้ไปถามพ่อมันบ้าง อิอิ

[KrisMum]

ฮ่าๆ แด๊ดดี๊จะตอบว่า จะไปกูเกิ้ลมาให้ ^____^

[อรนัย รักในหลวง]

อันนี้ก็เป็นคำตอบที่ดีนะ..เวลาเราไม่รู้เราสอนลูกไปเลยว่าแหล่งข้อมูลหาได้ที่ไหนบ้าง..เก๋กู้ดๆ

[mom_jenita]

อันนี้ไม่ได้ถามแต่อยากเล่า 555… เผื่อมีประโยชน์บ้าง และอ่านขำๆ กับพัฒนาการเด็กด้วยค่ะ

ภาเคยอ่านหนังสือ+สิ่งที่เจอที่ผ่านมา :) เค้าบอกว่า เด็กช่วงอายุนึง จะถามคำถามโดยไม่ต้องการคำตอบลึกซึ้ง เช่น ถ้าถามว่าใครทำให้มืด เราก็ตอบแค่ พระอาทิตย์ไป เด็กก็จะพอใจว่าได้คำตอบแล้วหรือบอกประมาณพี่อ๊อบก็ง่ายดี น่ารักด้วย

อีกอย่างคือ เค้ามีคำตอบของเค้าอยู่แล้ว ลองโยนคำถามกลับไปดูว่า แล้วหนูคิดว่าไง? บางทีเค้าจะมีคำตอบง่ายๆ ตลกๆตามความคิดเด็กๆ หรือบางทีก็ดูเข้าท่าเข้าทาง เช่นตัวอย่างที่นึกออก ตอนนี้ Don ‘t throw tissue paper into the pond. ลูก: why? แม่ก็กำลังคิดคำตอบสวยๆเรื่องทำให้น้ำสกปรก เน่า ไม่มีออกซิเจน โน่นนี่ ปลาตาย.... ลูก: it ‘s wet. จะเห็นได้ว่า เค้าไม่ได้คิดลึกซึ้งมาก และก็จริงโยนลงไปมันก็เปียกจริงๆ ระยะนี้สนุกดี เพราะเราจะได้ฟังคำตอบจากลูกที่น่าสนใจ สนุก ตลก

อันนี้ส่วนตัวที่เคยเห็นเด็กที่บ้าน
ระยะต่อมา ตอบง่ายๆ ก็ไม่เอา ยังสงสัยต่อโยนคำถามกลับไปก็จะบอก I asked you first.
จะเป็นระยะถาม why แบบงูกินหาง ระยะนี้จะปวดหัวสุด (คิดว่า หลายๆคนคงเจอมาแล้ว) เช่น ทำไมฝนตก เพราะกบมันร้อง ทำไมกบร้อง เพราะท้องมันปวด ทำไมกบปวดท้อง เพราะข้าวดิบ ทำไมข้าวดิบเพราะฝนมันตก(เอาเพลงดั้งเดิมมา จำตัวอย่างเด็กที่บ้านไม่ได้ หุหุ) ...คำถาม คำตอบมันจะวนกลับไป กลับมาแบบนี้ และไม่ยอมหยุดวงจร จะถามอยู่ยังเงี้ย กับทุกอย่างในโลก ระยะนี้ พยายามตอบ ควบคุมอารมณ์ ไม่ให้หงุดหงิดกับคำถามตอนที่มันวนกลับมาที่เดิมแล้ว ก็ยังคงจะเอาคำตอบให้ได้ พยายามคิดว่า เด็กอยากรู้คือ เด็กฉลาด 555…

ระยะนี้ ควรอ่านหนังสือ ประเภท why อ่านหนังสือวิทยาศาสตร์ของเด็กประมาณเด็กประถมจะมีเรื่องพวกนี้เรื่องรอบตัวหมดเลย (อันนี้ดีมากๆ เค้าจะใช้คำง่ายๆเลยค่ะ ลูกก็เข้าใจ ที่สำคัญ แม่ก็เข้าใจ อิอิ) หรือ encyclopedia เด็กให้ฟัง จะได้ช่วยเราด้วย ได้ประโยคมาพูดกับลูก มาตอบลูก +ดับความขี้สงสัยให้น้อยลง เพราะได้คำตอบจากสิ่งที่อ่านเยอะแล้ว รวมถึงเพิ่มจินตนาการต่อ หรือเพิ่มความสงสัยให้ประทุขึ้นไปอีก หุหุ (ระยะนี้ขอเตือนว่า แม้จะบอกว่า จะไปหาคำตอบให้ทีหลัง ก็จะไม่ลืม ตามทวงคำตอบอยู่นั่นแหละจ้า ทุกวันเลย...)

ระยะต่อมาเป็นระยะที่ต้องการคำตอบแบบมีเหตุผล เพราะเริ่มรู้จักเชื่อมโยงความรู้จากที่เราสอน เราเคยอ่านหนังสือให้ฟัง จะเริ่มถาม why โดยอยากรู้เหตุผลอันลึกซึ้งขึ้น สังเกตจาก เวลาเราตอบอะไรไม่เป็นเหตุเป็นผลนักจะเริ่มแย้งว่า ไม่จริง ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เริ่มใช้ทั้งความคิดเห็นตัวเองเข้ามารวมกับ สิ่งที่เคยอ่าน เคยรู้มา(จากเรานั่นแหละหรือจากหนังสือที่อ่าน แต่เราดันลืม หุหุ) ระยะนี้ ให้ชวนกันหาคำตอบ เค้าจะเริ่มเห็นเราหาคำตอบจากหนังสือ จาก net เค้าจะมานั่งเฝ้า รอเอาคำตอบ อย่างตั้งใจ (กดดัน 555…) ระยะนี้เริ่มสนุก เพราะจะคุยกันมันส์เลย !!! เค้าก็มีเหตุผลมาคุยตอบโต้กับเรา ทั้งจากสิ่งที่เค้าเห็น จากความคิดเห็นส่วนตัว และความรู้ที่เค้าเคยสะสมมา เราก็มีความรู้เพิ่มขึ้นจากสิ่งที่เราหา บางอันเราไม่เคยรู้มาก่อน เปิดสมองมากๆ

ระยะต่อมาจะเริ่มถาม และเริ่มหาหนังสือเองได้ (จำได้ คร่าวๆว่ามันน่าจะอยู่เล่มนี้นะ) เอามาให้แม่อ่านให้ฟัง หรือบางทีหาไม่เจอ ก็จะกดดันให้หาคำตอบเช่นเคย
ระยะนี้ เจ้าขาเป็นอยู่ ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อ แต่สิ่งที่ภาทำอยู่ตอนนี้ คือ ชวนกันหาคำตอบไปเรื่อย หัดให้เค้าอ่านหนังสือ ไปเรื่อยๆ และหวังว่า ซักวันเค้าคงจะหาเองและอ่านเองได้ ซะที ลูกเอ๊ย !!!

[สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง)]

ดีเลย ภา ขอบคุณ ภสมาก ที่ มา ขวาก ทางให้ พี่อีกแล้ว
พี่ว่า เราน่าจะตั้งกระทู้เพิ่ม เกี่ยวกับวิถีทางที่ มันอาจจะเกิด อะไรขึ้นได้ บ้าง ในเด็กๆ เนาะ เพราะ เวลาตอบมันไม่ใช่ภาษาไทย จะได้ เตรียมตัวตอบกันไว้เป็นภาษาอังกถษ ดีไหมภา

[ย่าใบเตย]

ย่าขอสนับสนุนความคิดนี้นะคะ เพราะคิดว่าแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาน่าจะใกล้เคียงกัน แฮะๆรุ่นพี่ๆ(รุ่นลูก)เดินทางผ่านขวากหนามเบิกทางไปก่อน..รุ่นน้องๆ(ใบเตย)ตามไป...ก็จะสบาย(ย่า)เพราะพี่ๆกรุยทางไว้ให้แล้ว...ย่าขอยกมือหนับหนุนค่ะ

[อรนัย รักในหลวง]

ภา..สุดยอด..

[Suthawadee C.]

ขอบคุณมากค่ะคุณภา สุดยอด