ถอดใจกับการสอน 2 ภาษาแล้ว

[Bless's Dad]

หลังจากที่สอนน้องเบลสมาได้เกือบ 8 เดือนแล้ว รู้สึกว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร ทั้งต้องทำงานปกติในหน้าที่รับผิดชอบ กลับบ้านมาก็ต้องดูแลลูก เวลาที่สอนลูกก็รู้สึกจะติด ๆ ขัด ๆ ไปซะหมด สอนอะไรไม่ค่อยได้ดังใจ บวกกลับเสาร์ - อาทิตย์ ก็มีงานบางอย่างต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมด้วย ยอมรับว่าตอนแรกที่รู้ถึงแนวคิด 2 ภาษานั้นรู้สึกว่าดีมาก ๆ ยังไงก็ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้สำเร็จ  พอลองทำจริง ๆ แล้วกลับไม่เป็นดังที่คาดหวัง  ดังนั้นคงต้องหยุดการสอนน้องเบลสแบบ 2 ภาษาไว้ก่อน  ... มีกำลังใจเมื่อไหร่คงจะกลับมาสอนใหม่ ....  ขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และความรู้มากมายจากหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยครับ   Bye ครับทุกคน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แต่เดี๋ยวก่อน

 

.....

...

..

.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เพราะถึงยังไงซะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้ก็เป็น

April Fool's Day

 

 

Happy April Fool's Day   คร๊าบบบบบบบบบบบบ  (^.^)

 

 

มาดูที่มาที่ไปกัน

 

นานมาแล้ว คริสศตวรรตที่ 16 (มั้ง) ชาวฝรั่งเศสถือเอาช่วงวันที่ 25 มีนา ถึง 1 เมษาเป็น new year's week ซึ่งผู้คนจะทำการเฉลิมฉลองละส่งการ์ดให้กันภายในวันที่ 1 เมษาทว่า ในปีนั้นวันปีใหม่ถูกเปลี่ยนเป็นวันที่หนึ่งตามระบบนับวันของ Charles IX (กษัตริย์ ชารล์ที่9) และเนื่องจากว่า การติดต่อสื่อสารในสมัยนั้นเป็นไปได้ช้ามาก ทำให้คนที่ไม่ได้รับข่าวเรื่องการเปลี่ยนวันที่ยังคงฉลองกันวันที่ 1 เมษาอยู่คนที่ทำการฉลองในวันที่ 1 เมษาจึงถูกเรียกว่า "fool" และเนื่องจากว่าคนที่เข้าใจเรื่องวันที่ผิดจะส่งการ์ดอวยพรหรือการ์ดเชิญร่วมปาร์ตี้ไปด้วย จึงกลายเป็นว่า เป็นการชวนไปปาร์ตี้ในเทศกาลที่ไม่มีจริง

 

คนต่างเมืองที่ผ่านมาพบว่าเมืองนี้ยัง ฉลองวันปีใหม่ วันที่ 1เมษายน อยู่ทำให้คนล้อชาวเมืองนี้กันว่า ยังโง่กันอยู่ ไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนวันปีใหม่กันแล้ว .....บ้างก็มีการอำกันว่าเปลี่ยนไม่เปลี่ยน จนกว่าจะเข้า ใจกันทั่วว่าเปลี่ยนจริงๆแล้ว ก็ปาเข้าไปใน ศตวรรษที่17.....(นานโคดดดด)

 

ทำให้กลายเป็นประเพณี(ไปเป็นตอนไหนก็ไม่รู้) ที่รู้กันว่า สามารถโกหกคนได้ โดยที่เราไม่โดนโกรธ (ถ้าจำไม่ผิดคนที่โกรธจะต้องติดคุก ไม่แน่ใจนะ) ในวันที่ 1เมษายน ของทุกปี

 

โดยเรื่องที่โกหกต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่าไม่ทำอันตรายให้คนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่เกี่ยวกับความเป็นความตาย และเมื่อผ่านพ้นวันที่ 1 ไปแล้วทุกอย่างถือว่าหายกัน

 

 

 

ปล.ติดเว็บนี้งอมแงมจะไปไหนได้เล่า ... อิ อิ

[แม่น้องไนน์]

อืมนะ......คุณคิงส์เนี่ย

[Kanokwan]

เกือบเป็นเหยื่อโดนหลอกไปซะแล้ว

[Suthawadee C.]

You got me too.

[ย่าใบเตย]

คุณคิ๊งส์....นะคุณคิงส์...จะหลอกให้ย่าหัวใจวาย..ไป..ก่อนกกำหนดหรือไงอ๊ะ
รู้จักยังไม่ทันไร...จะหนีกันไปได้ไง..นิ

[babyashi]

โห หลอกเก่งนะเนี่ย เชื่อสนิทเลยอ่า

[namo mom]

เข้าใจเล่นนะคะคุณคิงส์ แต่คราวหน้ามุขนี้ใช้ไม่ได้แล้วนะคะ

[โอ๋...จัง]

ฮึมๆๆๆ...ทำกันได้เนอะ เราเห็นหัวข้อแล้วสมองปรู๊ปร๊าดสรรหาคำมาให้กำลังใจพ่อน้องเบลส
(กลัวไม่มีคนหาข้อมูลดีๆให้อ่าน)
ที่ไหนได้ ไม่เฉลยพรุ่งนี้เลยล่ะคะ กระทู้นี้จะได้ติดท็อป เพราะจะมีคนเข้าไปให้กำลังใจเพียบ เชื่อดิ

[ยศภัด มีเดช]

นึกแล้วเชียว ต้องโดน...คุณคิงส์สุดหล่อ
555555 Happy April Fool's Day too!

[แม่น้องรัญช์]

หลอกกันได้ ตกใจหมดเลย

[ลูกลิงทั้งสอง]

ต๊กใจ๋ หมดเลยยยยยยยยยยย

[Pat]

ทำเราตกใจหมดเลย

[Bless's Dad]

ขอบคุณทุกท่านเลยครับที่จะเข้ามาให้กำลัง พอดีว่ามันเป็นเทศกาลโกหกแห่งโลก ก็เลยเล่นซักหน่อย ตอนแรกชั่งใจอยู่เหมือนกันว่าจะเล่นดีหรือเปล่า กลัวโดน.....เหมือนกันนะนี่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็เอาซะหน่อยเพราะยังไงซะ เราก็จะได้รู้จักกับ April Fool's Day ว่ามันคือวันอะไรกันแน่ ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงทุกท่านอ่ะครับ ความผิดครั้งนี้ขอรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ...... ^.^

จึงขอปิดกระทู้นี้แต่เพียงเท่านี้นะครับ เพราะมันเลยวันแล้ว เดี๋ยวจะต๊กใจ กันไปหมด ....

ที่รู้กันว่า สามารถโกหกคนได้ โดยที่เราไม่โดนโกรธ (ถ้าจำไม่ผิดคนที่โกรธจะต้องติดคุก ไม่แน่ใจนะ) ในวันที่ 1เมษายน ของทุกปี โดยเรื่องที่โกหกต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่าไม่ทำอันตรายให้คนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่เกี่ยวกับความเป็นความตาย และเมื่อผ่านพ้นวันที่ 1 ไปแล้วทุกอย่างถือว่าหายกัน

ปล.เดี๋ยวมีเว็บความรู้มาปลอบใจทุก ๆ ท่านครับ