ความเข้าใจผิดของผู้ปกครองเกี่ยวกับการสร้างเด็กสองภาษา

[แม่ข้าวหอม]

นิดทำงานประจำเป็นพนักงานบริษัทเอกชน เหมือนคุณพ่อคุณแม่หลายๆคน 

เมื่อวานนี้หลังจากที่เข้าไปที่เพจกระดานข่าว คุณแม่วัน ได้ตั้งกระทู้เชิญชวนสมาชิกในเว็ปเด็กสองภาษา

ที่อยู่ในพื้นจ.ชลบุรี ให้มีการจัดมิตติ้งกันสักครั้ง นิดอยากไปมาก แต่ก็เขินๆกล้าๆกลัวๆ เพราะแม่ยังไม่เก่ง

เลยคิดชวนเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานไปด้วย จะได้มีเพื่อนคุย ก็เลยเล่าเรื่องราวให้เค้าฟัง แต่!..มีคำถามประดังประเดมามากมายเช่น

- เราพูดภาษาไม่ได้ จะไปเข้ากลุ่มเค้าได้ยังไง

- เรายังไม่ได้เริมพูดภาษากับลูกเลย ลูกเรายังพูดภาษาไม่ได้ ไปจะไม่อายเค้าเหรอ เค้าจะหัวเราะเอาไหม

*** และก็มีคำถามที่ทำให้นิดคิดว่าเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานนิดกำลังเข้าใจผิดกับแนวนี้แน่ๆเลย เค้าถามว่า

- พ่อแม่ที่เค้าสอนลูกเค้าสองภาษาคงจะมีแต่คนมีเงินนั้นแหล่ะใช่ม่ะ ไม่งั้นคงทำไม่ได้

- พ่อหรือแม่ที่สอนลูกสองภาษาเค้าคงเลี้ยงลูกเองเต็มเวลา ไม่ได้ทำงานประจำเหมือนพวกเราใช่ม่ะ ไม่งั้นคงทำไม่ได้

นิดก็เลยถามว่าทำไมคิดแบบนั้น พวกเค้าบอกว่า เข้าไปดูในเว็ปแล้วส่วนใหญ่น่าจะเป็นพ่อแม่ที่ได้เลี้ยงลูกเต็มเวลา 

เพราะการสอนภาษาลูกต้องมีเวลาอยู่กับลูกไม่งั้นพูดไปลูกก็ลืม (อืมถูก..) แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าพ่อแม่สอนลูกสองภาษาได้

ก็ต้องมีทุนมีเงินส่งลูกไปเรียนโรงเรียนที่มีหลักสูตรสองภาษา  อย่างเราไม่มีเงินส่งลูกไปเรียนหลักสูตรสองภาษาสอนไปลูกก็ลืม 

(O_O'  ??? เอาอะไรมาตัดสิน) นิด อึ่งไปพักหนึ่งเหมือนกัน พยายามอธิบายว่า "ไม่เกี่ยวกันนะ เราก็เท่าที่เวลาเรามีนี้แหล่ะ 

จะพึ่งแต่โรงเรียนไม่ได้ พ่อแม่หลายคนก็ทำงานประจำเหมือนเราแหล่ะ เค้าก็ทำกันเยอะแยะนะ" (พยายามอธิบายม๊ากแบบว่าตั้งใจจะอธิบายให้เค้าเขาใจ) แล้วก็มีพี่คนหนึ่งเค้าพูดว่า " ถ้าสอนแบบนั้นมันก็ไม่ได้ผลหรอก  สู้ครูสอนที่โรงเรียนไม่ได้หรอก พูดภาษามันต้องพูดบ่อยๆกลับมาบ้านไม่ได้ใช้เหมือนที่โรงเรียน" (

ไปไม่ถูกเหมือนกันไม่รู้จะอธิบายยังไง ได้แต่พูดว่า "ก็เพราะทุนทรัพย์เราน้อยไง เราถึงต้องใช้ทุนปัญญาที่เรามีอยู่ให้คุ้มค่า ไม่ต้องรอมีเงินเราก็สอนลูกได้ รอมีเงินก็ไม่ต้องเรียนรู้อะไรกันพอดี" 

ก็ไม่ได้เถียงอะนะค่ะว่าการศึกษาทุกวันนี้มีต้องใช้เงินใช้ทอง แต่ขอค้านความคิดที่อะไรๆก็จะรอให้แต่ครูสอนที่โรงเรียนนิดว่ามันไม่ค่อยถูก ตอนนี้เลยไม่คิดอยากจะชวนใครเลย...แล้วแต่สู...5555

***เอามาเล่าสู่กันฟังขำๆนะค่ะ 

[รัชนี]

มาเป็นกำลังใจให้นะคะ เพราะตัวเองก็ทำงานประจำจันทร์-ศุกร์เหมือนกัน  สอนเท่าที่เราทำได้ค่ะ

คิดเสียว่า แต่ละคนมีความคิดความเห็นที่แตกต่างกัน

[แม่ข้าวหอม]

ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ ^__^

จริงๆแล้วนิดไม่ซีเรียสเรื่องที่เค้าไม่สนใจแนวคิดนี้หรอกค่ะ เพราะเคยเจอมาบ่อยแล้วแบบนี้ แต่ที่ขัดใจคือ

ทำไมต้องรอแต่ครู ต้องรอแต่โรงเรียน ทั้งที่แต่ละคนมีความรู้ความสามารถกันทั้งนั้น น่าเสียดายแทน 

อีกอย่างการที่เราสอนลูกไม่ได้หวังจะให้เค้ามีความรู้อย่างเดียวซะที่ไหน นิดว่ามันได้อะไรเยอะแยะมากมายเลยค่ะ 

[niracha]

คนที่คิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ได้ทำซักที ส่วนคนที่คิดว่าทำเพื่อลูกได้ แม้เวลาน้อยนิดก็ทำจนสำเร็จ
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ

[Chanidapa Rongsee]

อย่าได้แคร์คร่า เขาไม่เชื่อไม่เห็นด้วยก็อย่าได้สน เราไม่ได้ทำเพื่อไปแข่งกะใครซะหน่อย

ได้แค่ไหนก็เอาเท่านั้นวิธีที่จะทำให้เขาหยุดต่อต้านเราก็คือทำให้เค๊าเห็นค่ะ ว่าเราทำได้

วันก็ทำงานประจำเหมือนกันจันทร์-ศุกร์ ก็พยายามทำให้ได้มากที่สุดแต่ทำคนเดียวมันเหนื่อยค่ะ

เลยอยากหากลุ่ม เป็นกลุ่มที่หัวอกเดียวกัน รักลูกเหมือนกัน อยากให้ลูกมีพื้นฐานภาษาที่ดี

เพื่ออนาคตของเขาในวันข้างหน้า คนเราไม่จำเป็นต้องรวย ไม่ต้องมีตังค์ล้นฟ้าก็เก่งได้ค่ะ

งั้นเรามารวมตัวกัน เพื่อทำให้เด็กๆของเราเก่งๆ ดีกว่าค่ะ อย่าไปสนคนที่เค๊าไม่เข้าใจเลยค่ะ

เรื่องนัดกลุ่ม เดี๋ยววันจะสรุปรายชื่อ วันที่ และสถานที่ ลงในกระดานข่าวของวันพรุ่งนี้เช้านะคะ

พอดีว่าทำไฟล์ไว้ที่บริษัทยังไม่เสร็จเลยยังไม่ได้โพส แล้วเจอกันค่ะ ทุกคน

[แม่น้องนิ]

คนที่คิดแบบนี้มีเยอะค่ะ ดีใจที่มีคนคิดเหมือนกันมากมายในweb 2 pasa ทำให้มีกำลังใจว่าเราก็น่าจะทำได้ ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าเราทำได้ ก็จะเป็นตัวอย่าง+เป็นกำลังใจให้ครอบครัวอื่นต่อไปค่ะ สู้ๆค่ะ

[แม่น้องฟินน์]

ชอบประโยคนี้มากเลยค่ะ
"ก็เพราะทุนทรัพย์เราน้อยไง เราถึงต้องใช้ทุนปัญญาที่เรามีอยู่ให้คุ้มค่า ไม่ต้องรอมีเงินเราก็สอนลูกได้ รอมีเงินก็ไม่ต้องเรียนรู้อะไรกันพอดี" 
คุณนิดพูดถูกใจ กด like ให้ร้อยครั้งเลยค่ะ ถ้าคนอื่นเค้าไม่คิดเหมือนเราก็ไม่เป็นไรค่ะ เราทำของเราไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้ผลเองค่ะ

[รุ่งนภา อยู่สบาย]

เราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกเหมือนกันรวมทั้งคุณพ่อก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่ยังงัยก็ต้องลองดูไม่เสียหายทำเท่าที่ได้

[nuntaka chantorn]

เคยเจอเหมือนกันเยอะด้วย อธิบายไปก็เท่านั้น แปลกเนอะตอนมีเพื่อนที่ทำงานมาแนะนำเราให้เรารู้จักหมู่บ้านนี้เรากลับไม่เห็นคิดแบบพวกเค้าเลยน่าลองออกถึงแม้ว่าเราไม่เก่งภาษาแต่ก็อยากลอง จริงๆ แรก ๆ ก็กลัวทำไม่ได้เหมือนกันแถมโดนที่บ้านไม่เห็นด้วยอีกด้วยนะแต่เรากลับคิดว่าไม่เห็นเป็นอะไรนี่หน่าไม่น่าจะเสียหายอะไร ตัวอย่างก็มีให้ดูเค้าก็ทดลองกับลูกเค้าถ้าไม่ดีจริงเค้าจะกล้าสอนลูก ๆ เค้าเหรอ อย่าไปสนเลยค่ะ อิอิอิ