เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
1. Don't touch the power line while you are still wet. Because if there was a leaky electricity, you would get electrical shock.
อย่าจับสายไฟขณะที่ตัวยังเปียกอยู่ เพราะถ้ามีไฟรั่ว อาจจะโดนไฟดูดได้
2. I already made appointment with the pest control co.,ltd. Our appointment is due this month, they will come and check in the whole house to see if there is pest or not. If there were the termites, they would spray the killer solution. This case is free because it is included in the contract.
แม่นัดกับบริษัทจำกัดแมลงไว้แล้ว ถึงกำหนดเดือนนี้ พวกเขาจะมาตรวจเช็คทั้งบ้านว่ามีแมลงหรือปลวกหรือไม่ ถ้ามีปลวก เขาจะฉีดสเปรย์ให้เรา ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะมีระบุอยู่ในสัญญา
3. go on keeping our life ดำเนินชีวิตต่อไป ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป
แล้ว go on living มีความหมายแบบเดียวกันหรือเปล่าค่ะ
4. We have to get passed / past. เราต้องผ่านมันไปให้ได้
ใช้ passed หรือ past ค่ะ
( เขากำลังเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคบางอย่าง แล้วเขาก็พูด)
5. Take care / handle / deal ทั้งสามคำนี้ในความหมายว่า จัดการกับอะไรบางอย่าง ใช้ต่างกันไหมคะ
Tags:
1. Don't touch the power line while you are still wet. Because if there was a leaky electricity, you would get electrical shock.
อย่าจับสายไฟขณะที่ตัวยังเปียกอยู่ เพราะถ้ามีไฟรั่ว อาจจะโดนไฟดูดได้
-> Don't touch the power line/cable/cord/wire when you're still wet. If the the cable/cord/line/wire is damaged(หรือ broken/faulty) and you happen to touch it, you'll get electrocuted (หรือ you'll get electrical shock that could be fatal).
"electrocute" = ไฟฟ้าดูด, "electric shock" = ไฟฟ้าช็อต , fatal = ถึงตาย)
2. I already made appointment with the pest control co.,ltd. Our appointment is due this month, they will come and check in the whole house to see if there is pest or not. If there were the termites, they would spray the killer solution. This case is free because it is included in the contract.
แม่นัดกับบริษัทจำกัดแมลงไว้แล้ว ถึงกำหนดเดือนนี้ พวกเขาจะมาตรวจเช็คทั้งบ้านว่ามีแมลงหรือปลวกหรือไม่ ถ้ามีปลวก เขาจะฉีดสเปรย์ให้เรา ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะมีระบุอยู่ในสัญญา
-> For the monthly routine checkup that is due this month, I already fixed a date with the pest control company to have someone come and check for termites and insects. They would spray termite insecticide free if any termites were found. It's what is stated in the contract.
3. go on keeping our life ดำเนินชีวิตต่อไป ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป
แล้ว go on living มีความหมายแบบเดียวกันหรือเปล่าค่ะ
-> อันนี้ขอตอบไม่ไม่ทราบบริบท หรือสถานการณ์ที่ได้ยินมานะครับ go on living = ใช้ชีวิตต่อไป ส่วน go on keeping our life น่าจะมีอะไรต่ออีกหรือเปล่าครับเช่น keeping our life happy/in balance/ฯลฯ
4. We have to get passed / past. เราต้องผ่านมันไปให้ได้
ใช้ passed หรือ past ค่ะ
( เขากำลังเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคบางอย่าง แล้วเขาก็พูด)
-> past ครับ
5. Take care / handle / deal ทั้งสามคำนี้ในความหมายว่า จัดการกับอะไรบางอย่าง ใช้ต่างกันไหมคะ
-> พูดถึงทั่วไปๆ ก็ใช้แทนกันได้ครับ
2. I already scheduled with the pest control company
schedule นี่น่าจะประมาณว่านัดไว้เรียบร้อยแล้ว
ถ้าพูดว่า I will schedule your game time and study time for you. แม่จะจัดตารางเวลาเล่นเกมส์กับทำการบ้านให้
I will mange your game time and study time for you. แม่จะจัดเวลาเล่นเกมส์และทำการบ้านให้
ความหมายของ schedule & manage น่าจะคล้ายๆกัน
แล้วในประโยค I already scheduled with the pest control company ใช้ manage แทน schedule ได้ไหม
1. สงสัยว่า เขาจะไม่พูดว่า มีไฟรั่ว กันหรือค่ะ
แต่จะพูดว่า the the cable/cord/line/wire is damaged / broken / faulty แทนหรือเพราะว่าความหมายจะครอบคลุมกว่า
( ตอนแรกเข้าใจว่า electrical shock คือทั้งไฟช้อต และไฟดูด เลยได้ศัพท์ใหม่เพิ่ม electrocute )
ตรงประโยคนี้ and you happen to touch it เหมือนกับเราพูดแบบไทยๆว่า ถ้าเกิดหนูไปจับสายไฟ ใช้ประโยคแบบนี้ได้ด้วยหรือค่ะ ไม่เคยเห็นค่ะ แล้วถ้าใช้ if แทน and ได้ไหมค่ะ
If you happen to touch it ความหมายน่าจะเหมือนกับ If you touch it หรือเปล่าค่ะ
แล้วใช้ในกรณีทั่วไปได้ไหมค่ะ เช่น If you happen to fall down / to get sick.
2. I already fixed a date with the pest control company
fix a date คือ การกำหนดวัน หรือนัดวันที่แน่นอน
3. ใช่เลยค่ะ ตามที่คุณเอกบอก ต้องมีอะไรต่ออีก ประโยคได้ยินมาซักพักหนึ่งแล้ว จำไม่ได้ค่อย เขาจะพูดประมาณว่า ฉันจะกลับมาใช้ชีวิตในโรงเรียนตามปกติต่อไป I will come back and go on keeping my life in school ( ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
ส่วน go on living = ใช้ชีวิตต่อไป เราสามารถพูดสั้นๆและจบแบบนี้ได้ก็เข้าใจความหมายแล้ว ใช่ไหมค่ะ
ถ้าเราพูดว่า keep doing = ทำต่อไป สามารถใช้ว่า go on doing ได้ไหมค่ะ
4. ถ้าเราผ่านปัญหาหรือเหตุการณ์มาแล้ว ก็จะใช้ว่า We got past it ได้ไหมค่ะ
1. สงสัยว่า เขาจะไม่พูดว่า มีไฟรั่ว กันหรือค่ะ
แต่จะพูดว่า the the cable/cord/line/wire is damaged / broken / faulty แทนหรือเพราะว่าความหมายจะครอบคลุมกว่า
( ตอนแรกเข้าใจว่า electrical shock คือทั้งไฟช้อต และไฟดูด เลยได้ศัพท์ใหม่เพิ่ม electrocute )
-> หากสายไฟชำรุด อย่างฉนวนปริแตก จะไม่มีไฟไหลออกมาเหมือนกับน้ำ หรือ แก๊ส แต่จะอันตรายก็ต่อเมื่อเราไปสัมผัสมัน จึงไม่ใช้ leak ในบริบทนี้ แต่จะใช้ leakage กับ electricity ในกรณีทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ปิดทีวี แบบปิดรีโมท แล้วไม่ได้ดึงปลั๊กออก แบบนี้ก็ยังกินไฟอยู่นิดหน่อยซึ่งทางเทคนิคก็จะเรียกเป็น leakage (ลอง search หาคำว่า leakage (electronics) ใน wikipedia ดูเพิ่มเติมนะครับ)
ตรงประโยคนี้ and you happen to touch it เหมือนกับเราพูดแบบไทยๆว่า ถ้าเกิดหนูไปจับสายไฟ ใช้ประโยคแบบนี้ได้ด้วยหรือค่ะ ไม่เคยเห็นค่ะ แล้วถ้าใช้ if แทน and ได้ไหมค่ะ
If you happen to touch it ความหมายน่าจะเหมือนกับ If you touch it หรือเปล่าค่ะ
แล้วใช้ในกรณีทั่วไปได้ไหมค่ะ เช่น If you happen to fall down / to get sick.
-> ประโยคนี้มาจากคำว่า "happen to do something" ซึ่ง = "บังเอิญทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง" ครับ If you happen to touch it จึงหมายถึง หากลูก"บังเอิญ" ไปจับมัน
happen to fall down/ get sick/ etc. ก็ได้ครับหากต้องการสื่อว่า "บังเอิญ...."
2. I already fixed a date with the pest control company
fix a date คือ การกำหนดวัน หรือนัดวันที่แน่นอน
-> ใช่ครับ
3. ใช่เลยค่ะ ตามที่คุณเอกบอก ต้องมีอะไรต่ออีก ประโยคได้ยินมาซักพักหนึ่งแล้ว จำไม่ได้ค่อย เขาจะพูดประมาณว่า ฉันจะกลับมาใช้ชีวิตในโรงเรียนตามปกติต่อไป I will come back and go on keeping my life in school ( ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
ส่วน go on living = ใช้ชีวิตต่อไป เราสามารถพูดสั้นๆและจบแบบนี้ได้ก็เข้าใจความหมายแล้ว ใช่ไหมค่ะ
ถ้าเราพูดว่า keep doing = ทำต่อไป สามารถใช้ว่า go on doing ได้ไหมค่ะ
-> go on living = ใช้ชีวิตต่อไป ครับ ส่วน keep + verb ing. จะหมายถึง ทำสิ่งที่ทำอยู่ต่อไปซ้ำๆ ไปเรื่อย จะไม่เหมือน go on + verb ing. ทีเดียวนัก อย่างเช่น ทำไมต้องให้แม่เตือนอยู่เรื่อย ๆ = Why do I have to keep reminding you all the time? จะไม่ใช้ go on
go on + verb ing. ใช้เมื่อทำอะไรอยู่แล้ว แล้วก็ทำต่อไป ครับ
4. ถ้าเราผ่านปัญหาหรือเหตุการณ์มาแล้ว ก็จะใช้ว่า We got past it ได้ไหมค่ะ
-> ได้ครับ
ขอตอบของคุณแม่น้องฟินน์ กับคุณรัชนีทีเดียวนะครับ:
1. happen to + verb. infinitive with to = by chance เพราะ happen to จะสื่อไปทาง "chance" หรือ "coincidence"
แต่ถ้าเปรียบเทียบ accidentally แบบหลังจะมีความหมายแตกต่างไปในทางที่ว่าไม่คิด ไม่อยาก จะเจอ/ทำ/พบ แต่ก็ต้องมาเจอ เช่น I happened to see him yesterday down the road. จะหมายถึง ไม่ได้คิดอะไร แต่บังเอิญเจอ ส่วน I accidentally saw him down the road. = ไม่คิดอยากเจอ แต่ก็ต้องมาเจอ ความหมายก็ต่างกันนิดหน่อยแบบนี้ครับ
ส่วน unexpectedly จะสื่อไปในทาง "surprising" มากกว่าบังเอิญ หรือ โดยอุบัติเหตุครับ
**อีกอย่างหนึ่ง "happen to" นอกจากจะหมายถึงบังเอิญแล้ว ยังใช้ในประโยคคำถามเพื่อเป็นการถามอย่างสุภาพ แบบหนึ่ง ด้วยครับ เช่น "Excuse me, do you happen to know where the toilet is?"
2. go on จะไม่เหมือน move on เพราะ go on = continue doing something = ทำอะไรบางอย่างไปเรื่อย ๆ และใช้ในรูป "go on + v.ing"
move on จะหมายถึง พัฒนาขึ้น/ดีขึ้น/เปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องมี verb ใด ๆ มาตาม เช่น
- After 5 years of working in her company, she had decided to call it quits and moved on. (= หลังจากทำงานมาที่บริษัทเธอมา 5 ปี เธอก็ตัดสินใจลาออกเพราะพอแล้ว และก็เดินหน้าไปทำอย่างอื่น ๆ)
( call it quits = เลิกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง/ลาออกจากงาน เพราะพอแล้ว เบื่อแล้ว)
- By the time we have 3G mobile service, other countries will have already moved on. (= ก่อนที่เราจะมี 3G, ประเทศอื่นๆ ก็น่าจะพัฒนาไปกว่าเราแล้ว)
ขอบคุณมากค่ะ คุณเอก ได้ความรู้เพิ่มเติมเลยค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by