เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

พอดีกำลังจะคลอดคนที่สองค่ะ มีข้อสงสัยเกี่ยวกัยการให้กินน้ำในช่วงหกเดือนแรก

คนแรกให้นมแม่ล้วนๆตลอดห้าหกเดือน มีอาม่าแอบให้กินน้ำบ้างนิดหน่อยตามความเชื่อแก ให้นมแม่ถึงขวบห้าเดือน เจ้าคนแรกเป็นเด็กที่กินข้าวยากมากแต่ใหนแต่ไรคะ แกโทษว่าเพราะเราเลี้ยงแบบฝรั่งไม่ให้กินน้ำและให้นมแม่นานไป แม่ผอมแล้วนมแม่ไม่มีประโยชน์แล้ว (พอครบขวบน้ำหนักเรากลับเท่าเดิมแล้วค่ะ) ทำให้ลูกตัวเล็ก แต่เค้าก็แข็งแรงนะคะไม่ค่อยป่วย

ทำให้คนที่สองแกเลยบอกว่าแกจะเลี้ยงเองแบบแก ให้กินน้ำสลับกับกินนมแม่ ป้อนกล้วยป้อนข้าว จะเลี้ยงให้อ้วนๆ แต่เราก็ยังอยากเลี้ยงแบบนมแม่ล้วนช่วงหกเดือนแรก ใครมีเหตุผลดีๆมาช่วยสนับสนุนบ้างไม๊คะ (แต่กับอาม่าแกไม่รู้ใช้เหตุผลได้รึเปล่า แกเชื่อของแกยังงั้น) อย่างน้อยมาเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองงก็ยังดีค่ะ

Views: 1001

Replies to This Discussion

นมแม่ล้วนหกเดือนแรกถูกแล้วค่ะ

สําหรับข้อมูลอ้างอิงขอแนะให้เข้าไปที่ www.thaibreastfeeding.org หรือเข้า Facebook web page "นมแม่" ก็ได้ค่ะ เคยเห็นมีการ share ข้อมูลพวกนี้อยู่ค่ะ ถ้าหาข้อมูลในนั้นไม่เจอก็สามารถโพสถามได้นะคะ มีคุณแม่ใจดีมาช่วยตอบคําถามให้มากมายเลยค่ะ

อาม่าเราก็มีความเชื่ออย่างงั้นเหมือนกันค่ะ แต่เราก็เ้ลี้ยงนมแม่มาทั้งสองคนตลอดหกเดือน ยกเว้นอาม่าอยากป้อนน้ำก็ให้แกป้อนเอง ไม่ได้ป้อนน่ะค่ะ แต่ลูกทั้งสองคนไม่กินยากนะคะ แต่ไม่อ้วนเพราะเป็นเด็กแอกทีฟกันอย่างแรง สู้ๆค่ะ นมแม่มีประโยชน์ค่ะ ลูกแทบไม่ป่วยเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

อ้างคุณหมอค่ะ บอกอาม่าว่าคุณหมอบอกว่าเด็กอ้วนไม่ดีค่ะ มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูง ซึ่งไม่ใช่กรรมพันธ์ด้วยนะคะ ถึงไม่มีใครในครอบครัวเป็น เด็กอ้วนก็เป็นได้ค่ะ และพบมากขึ้นเรื่อยๆนะคะ คุณหมอบอกว่าเด็กกินนมแม่ถึงจะตัวเล็กแต่แข็งแรงและไม่ค่อยป่วย โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ต่างๆ เด็กกินนมแม่จะไม่ค่อยเป็นค่ะ อ้างคุณหมอโลดค่ะ

การกินน้ำสลับกับนมแม่จะทำให้เด็กกินนมแม่ได้น้อยลงนะคะ เนื่องจากนมแม่มีประโยชน์สูงมากคุณหมอและนักวิชาการจึงแนะนำให้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวเพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปแย่งพื้นที่จุนมแม่ในกระเพาะค่ะ เพราะกระเพาะเด็กเล็กนิดเดียว และนมแม่ก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่แล้วค่ะ ยกเว้นเด็กทารกบางคนที่ปากแห้งมากอาจต้องให้กินน้ำเสริมด้วย กล้วยและข้าวจะมีประโยชน์น้อยมากสำหรับเด็กทารกเมื่อเทียบกับนมแม่นะคะ เพราะฉะนั้นจึงต้องเก็บพื้นที่ในกระเพาะซึ่งมีอยู่เท่ากำปั้นเด็กเท่านั้นไว้สำหรับสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดคือนมแม่ค่ะ คุณแม่ต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เท่านั้นนะคะ

การให้เด็กทารกกินกล้วยและข้าวเร็วเกินไป อาจทำให้เด็กมีลักษณะท้องป่องได้ เนื่องจากกระเพาะและลำไส้ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ การย่อยจึงเป็นไปอย่างช้าๆ ถ้าเด็กกินกล้วยและข้าวเข้าไปมากเกินกว่าความสามารถในการย่อย อาจเกิดอาการอาหารตกค้างในกระเพาะและลำไส้ได้ด้วยค่ะ เมื่อลูกน้อยอายุมากกว่าหกเดือน กระเพาะมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจเริ่มป้อนกล้วยหรือข้าว (ถ้าเป็นข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือจะดีกว่าข้าวขาวมากค่ะ ข้าวขาวนั้นประโยชน์น้อยมากค่ะมีแต่คาร์โบไฮรเดต ไม่มีวิตามินใดๆเลย) แต่ป้อนเพื่อให้เค้าเรียนรุ้การเคี้ยวค่ะ ไม่ได้ป้อนให้เค้าจนอิ่ม เพราะเด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ อาหารหลักยังคงเป็นนมค่ะ

นมแม่สำคัญมากนะคะ อยากให้คุณแม่มั่นใจ และอดทนเพื่อลูกค่ะ ถ้ายอมตามใจอาม่าแล้วสุดท้ายน้องเป็นเด็กป่วยง่าย เป็นภูมิแพ้ ท้องป่อง ความลำบากและโรคภัยก็จะตกอยู่กับลูกของเราโดยที่ไม่มีใครช่วยเค้าได้เลยค่ะ  

มาม๊าน้องบุหลันก็ฝ่าฟันเรื่องนี้มาไม่น้อยเลยค่ะ น้องบุหลันก็ตัวเล็ก กินข้าวยาก แต่แข็งแรง ไม่เป็นภูมิแพ้ ท้องไม่ป่อง อารมณ์ดีเพราะร่างกายแข็งแรง คุ้มเหลือเกินค่ะที่สู้อดทนต่อแรงกดดันต่างๆ และเมื่อโตขึ้นเค้าก็กินเยอะขึ้นตามวัยค่ะ 

เห็นด้วยครับถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่คนให้นมลูก แต่จากที่เลี้ยงน้องชมพู่มาน้องเขาก็แข็งแรงดี ดื่มนมแม่อย่างเดียวตลอด 6 เดือนแรก ช่วงให้นมแม่น้องเขาไม่เคยป่วยแลย ยังเสียดายที่น้ำนมหมดตอนครบ 6 เดือนพอดีไม่งั้นนองคงได้นมแม่ต่อเนื่องเป็นปีสองปีแน่ๆ

เอาข้อมูลจากเว๊บศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยมาฝากค่ะ

 

 

ทารกไม่กินน้ำ 6 เดือน ...... เป็นไปได้อย่างไร!!!!!

http://www.thaibreastfeeding.org/content/view/103/81/

 

ข้อเท็จจริงของการให้นมแม่เกิน 1 ปี

http://www.thaibreastfeeding.org/content/view/126/81/

 

การให้นมแม่หลังอายุ 1 ปี

http://www.thaibreastfeeding.org/content/view/399/81/

 

ผลเสียของการให้อาหารเสริมแก่ทารกก่อนวัยอันควร

http://www.thaibreastfeeding.org/content/view/101/81/

มาเชียร์ทุกความเห็นเลยค่ะ ขออนุญาตเพิ่มอีกนิ๊ดนะคะ เด็กเล็กยังไม่มีภูมิต้านทานก็จะได้ภูมิต้านทานจากนมแม่นะคะ

ถ้าดื่มน้ำ น้ำก็จะไปล้างภูมิต้านที่เคลือบอยู่ในปากลูกออกไปด้วยน่ะคะ แบบที่คุณแอนบอกด้วยค่ะว่ากระเพาะอาหารของ

ลูกมีพื้นที่น้อยมาก ฉะนั้นอาหารที่ได้รับยิ่งต้องมีคุณค่ามากที่สุดนั่นก็คือนมแม่นั่นเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

น้องฮานะเคยป่วยตอน2เดือน หมอแนะนำให้กินนมแม่อย่างเดียว จน1ปีผ่านไปไม่เคยป่วยอีกเลย ก็กะว่าจะเลิกนมแม่แล้วกินนมผสมแทนลูกก็เป็นหวัดไข้38.3 พอหายก็เลยเห็นว่านมแม่ทำให้เด็กมีภูมิต้านโรคสูง ตอนนี้น้อง1.2ปีแล้วก็กลับมากินนมแม่สลับกับข้าวค่ะ
แต่น้องฮานะตัวเล็กกว่าเด็กเลี้ยงนมผงในวัยเดียวกันคะ แต่แข็งแรงเต็ม100คะ สามารถปีนเล่นsliderได้แล้วค่ะ
เหตุผลของแม่ไงคะ เราเป็นแม่เรามีสิทธิและเราเลือกสิ่งที่ดีให้ลูกของเรา เราประกาศเลยค่ะว่าลูกของเราเราจะเลี้ยงแบบนี้ อาม่าก้องอนไปเลยเหมือนกันค่ะ แต่เราทำเพื่อลูกค่ะ นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ระบบย่อยของทารกจะทำงานได้ดีหลังจากอายุหกเดือนการได้รับอาหารอื่นก่อนหน้านั้นจะทำให้โปรตีนแปลกปลอมผ่านเข้าไปในผนังลำใส้ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ นมแม่ลูกจะย่อยและดูซึมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่การกินอาหารเสริมก่อนหกเดือนจะนอกจากลูกจะท้องอืดท้องเฟื้อแล้วยังทำให้โอกาสกินนมแม่น้อยลงไปด้วยค่ะ เหตุผลมีเป็นร้อยแปดค่ะ

 

ห้ามให้เด็กไม่ถึง 6 เดือนกินน้ำมาก จะเป็นโรค เมา น้ำ ขึ้นจนถึงแก่ชีวิต


หมอของศูนย์เด็กจอห์น ฮอบกิ้นส์ของสหรัฐฯ บอกเตือนผู้ที่เป็นพ่อแม่ว่า ไม่ควรปล่อยให้ลูกซึ่งอายุยังไม่ถึง 6 เดือนดี กินน้ำมากนัก เพราะอาจทำให้ไม่สบาย มีอาการที่เรียกว่า เมาน้ำ ซึ่งคุกคามต่อชีวิตได้ดร.เจนนิเฟอร์ แอนเดอส์ แพทย์กุมารเวช กล่าวให้ฟังว่า ทารกขนาดนี้ แม้ว่าตัวจะยังเลกอยู่ แต่ก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับความกระหาย หรือเกิดความกระหายน้ำสมบูรณ์แล้ว แต่ของ เหลวที่ควรจะให้ดื่ม ควรจะเป็นนมแม่หรือนมผสมเท่านั้น เพราะไตของเด็กยังโตไม่เต็มที่ การปล่อยให้กินน้ำมาก อาจทำให้ร่างกายปล่อยโซเดียม ทิ้งไปกับปริมาณน้ำที่มากเกินนั้น การสูญเสียโซเดียม จะทำให้การทำงานของสมองขัดข้อง อาการแรกเริ่มของการเมาน้ำ อาจจะมีตั้งแต่กระสับกระส่าย อุณหภูมิของร่างกายตก หน้าตาบวมและอาจชักได้

หมอเจนนิเฟอร์บอกว่า อาการมันค่อนข้างจะลับๆ ล่อๆ อาการตอนแรกจะดูไม่ค่อยออก จนกว่าพ่อแม่จะเห็นจากอาการชัก แต่หากว่ารีบให้หมอดูได้เร็ว ก็คงจะไม่เป็นอยู่นาน

หมอกับคณะให้คำแนะนำว่าไม่ควรจะให้น้ำในฐานะที่เป็นเครื่องดื่มกับทารกที่อายุยังไม่ถึง 6 เดือนดี รวมทั้งพ่อแม่ไม่ควรจะให้นมผสมที่เจือจางเกิน ไป ตลอดจนเครื่องดื่มสำหรับเด็กที่มีสารเกลือ แร่ด้วย ส่วนทารกที่โตกว่านั้น ในบางกรณีอาจ จะให้น้ำเล็กน้อยได้ เพื่อกันท้อผูกหรือในยามอากาศร้อน แต่ควรจะปรึกษากับหมอดูก่อน และควรจะให้แต่ละครั้งไม่เกิน 30-60 ซีซี หากว่าพ่อแม่คนใดคิดว่าลูกของตัวมีอาการเมาน้ำ หรืออาการชัก ควรจะพาไปหาแพทย์ ทันที.
จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันที่26พค.2551

ลูกชายกินนมแม่อย่างเดียวจน 6 เดือน

และกินต่อมาจน 1.8 ขวบ ถึงได้ลิ้มรสนมวัว

จนทุกวันนี้ 2.2 ขวบ ก็ยังกินนมแม่อยู่ 1 มื้อ

ลูกน้ำหนักเกินเกณท์ ส่วนสูงเกินเกณท์มาตลอดค่ะ

เมว่าเพราะพ่อเค้าตัวใหญ่หน่ะค่ะ นมแม่ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะทำให้เล็กหรือใหญ่

ในรูป 3-4 เดือนค่ะ ยังไม่เคยกินอะไรเลย นอกจากนมแม่ (ผอมไม๊ค่ะ หุหุ)

 

 

 

อย่างที่ทุกๆคนอธิบายค่ะ แล้วยิ่งถ้าถ้ามีน้ำนมเยอะ ให้ไปเลยค่ะ

บอมบ์เองให้ลูกสาวกินนมแม่อย่างเดียวจนถึงขวบสองเดือน เริ่มกินอาหารตอนหกเดือน ถึงไปทำงาน ก็ปั๊มๆๆๆ หลังจากนั้นถึงเริ่มมีนมวัวผสมตอนขวบสามเดือน ทุกวันนี้ขวบเจ็ดเดือนก็ยังให้กินก่อนนอน

ลูกสาว ตอนแรกเกิดหนักแค่ 2.8 แต่เพราะกินนมแม่อย่างเดียวช่วงหกเดือนแรก เป็นเด็กจ้ำม่ำ และแข็งแรงด้วย ไม่เคยมีปัญหาท้องผูกเลย

ส่วนเรื่องแม่ผอม ไม่เกี่ยวหรอกค่ะ บอมบ์คลอดลูกออกมาแล้ว ใช้เวลาเดือนครึ่งเท่านั้น น้ำหนักกลับไปเท่าเดิมโดยที่ไม่ได้ลดเลย (ตอนท้องขึ้นมาสิบสองโล) กินกระหน่ำด้วย เพราะร่างกายต้องผลิตน้ำนม บอมบ์จึงต้องกินอาหารดีๆเยอะๆ แม่ผอมแต่ร่างกายผลิตน้ำนมดีๆให้ลูกได้ถ้าเราดูแลอาหารการกินดีๆค่ะ

ตอนช่วงหกเดือนแรก บอมบ์ไม่กินนมวัวด้วยซ้ำ หมอแนะนำให้กินนมถั่วเหลือง เพราะลูกจะได้ไม่เสียงการเป็นภูมิแพ้

บอกอาม่าค่ะ ว่าขอบคุณในความหวังดี แต่ลูกเรา เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเราดีกว่านะคะ

 

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service