เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ใครมี ดี วี ดี หรือ วีซ๊ดี น่าสนใจแนะนำบ้างค่ะ

       น้องอายุ 15 เดือนค่ะ อยากให้ช่วยแนะนำ DVD หรือ VCD ให้หน่อยค่ะ  

 

ถ้าได้แบบ ดี วี ดี ที่มี Sub Eng ด้วย จะดีมากค่ะ / ขอบคุณล่วงหน้าน่ะค่ะ

Views: 457

Replies to This Discussion

ที่ใช้อยู่ก็มีแต่ Baby Einstein, Mommy&Me, Cailou ค่ะ
เหมือนกันค่ะ ถ้ายังเล็กก็ Baby Einstein กับ Mommy&Me
ส่วน caillou น่าจะโตขึ้นมาหน่อย ซัก 2 ขวบกว่าๆ น่ะค่ะ เพราะ caillou จะเป็นเรื่องเป็นราว เด็กเล็กอาจจะยังไม่ชอบ
wonder pets อีกเรื่องครับ
go go ค่ะ
สนใจ go go ค่ะ ไม่ทราบว่าซื้อที่ไหนคะ
ตอนนี้ลูกชายก็อายุ1.5 ขวบเหมือนกันค่ะ ให้เค้าดู Curious George,Sid the science kid, Super why ทุกวันตอนทานข้าวเช้า และก็ให้เค้าดู Caillou แต่ติด Caillou มากค่ะ เรียกร้องจะดูทุกวันตอนตื่นนอนตอนเช้า และเข้านอนค่ะ แต่เรื่อง super why ดีมากนะคะเป็นการ์ตูนสอนทั้ง Phonic sound และ sight word ค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีเป็นซีดีหรือเปล่า เข้าไปดูที่www.pbskids.org ก็ได้ค่ะ แต่เป็นเกมส์ให้เล่น ลองดูนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคำแนะนำค่ะ..
ขออนุญาต นิดนึงนะคะ

ไม่แนะนำให้น้องดูทีวีเลยค่ะ

เด็กอายุไม่ถึงสองขวบ นอกจากแสงจากโทรทัศน์จะทำลายกระจกตาที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่แล้ว
ยังมีผลทางด้านอื่นอีกด้วยค่ะ

อยากให้คุณแม่ลองพิจารณาให้ฟังเพลง หรือ อ่านหนังสือให้น้องฟังมากกว่าค่ะ

คุณแม่ลองพิจารณาดูนะคะ

http://www.healthcorners.com/2007/news/Read.php?id=2230

ดูทีวีเด็กเสี่ยงโรคสมาธิสั้น (1)
ดูทีวีเด็กเสี่ยงโรคสมาธิสั้น (1)
ห้ามเด็กต่ำกว่า 2 ขวบดูทีวีเด็ดขาด

“พ่อแม่ที่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ดูโทรทัศน์เป็นประจำ มีความเสี่ยงเมื่อเด็กโตขึ้นมาจะทำให้เป็นโรคสมาธิสั้น”

นพ.กิจจา ฤดีขจร กุมารแพทย์ ประจำศูนย์การแพทย์นวบุตร สตรีและเด็ก อาคาร ไลฟ์ เซ็นเตอร์ ถนนสาทรใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่า พ่อแม่บางครั้งอาจเกิดความเข้าใจผิดว่า การที่เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบชอบจ้องหน้าจอทีวีก็คิดว่าเด็กดูเนื้อหาในทีวีรู้เรื่อง

หรือบางครั้งพ่อแม่อาจต้องใช้เวลาไปทำภารกิจอื่นและเห็นว่าเด็กอยู่กับทีวีได้โดยไม่งอแง จึงให้เด็กดูทีวีนาน ๆ พฤติกรรมเช่นนี้มีภาวะเสี่ยงต่อการที่เด็กจะเป็นโรคสมาธิสั้นเมื่อโตขึ้นได้

มีผลวิจัยในต่างประเทศระบุว่า เด็กต่ำกว่า 2 ขวบที่ดูโทรทัศน์ สมองจะทำงานเป็นวงจรไฟฟ้าสั้น ๆ เนื่องจากถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องโดยภาพบนจอโทรทัศน์ที่เปลี่ยนไปทุก 2-3 วินาที จึงสามารถดึงดูดความสนใจและทำให้เด็กนั่งนิ่ง ๆ อยู่หน้าจอโทรทัศน์ได้เป็นเวลานาน

อาการนั่งนิ่ง ๆ ของเด็กเกิดขึ้นได้จากสิ่งเร้าภายนอก สมองถูกกระตุ้นไปเรื่อย ๆ รับรู้เรื่องสั้น ๆ หลายเรื่องพร้อมกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับสมาธิที่เด็กต้องสร้างขึ้นมาเอง เช่น ระหว่างการอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างจดจ่อ และเพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องนั้น ๆ ซึ่งเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะขาดสมาธิที่สร้างขึ้นเองจากภายใน

“ผลกระทบโดยตรงของโรคสมาธิสั้น เริ่มแสดงให้เห็นจากพัฒนาการที่ช้ากว่าปกติ เช่น อายุ 2 ขวบ แต่ยังพูดไม่ได้ ซึ่งปกติ เด็ก 1 ขวบ จะสามารถพูดได้เป็นคำ ๆ เช่น เรียก พ่อ แม่ หม่ำ เป็นต้น เด็กอายุ 1 ขวบ 6 เดือน เด็กสามารถผสมคำได้ประมาณ 10 คำและสื่อสารได้ พออายุ 2 ขวบ สามารถสื่อสารได้รู้เรื่องมากขึ้น แต่ 100% ของเด็กที่เป็นสมาธิสั้นจะมีปัญหาเรื่องภาษา โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับพ่อแม่ จะไม่สามารถจำภาพ จำเสียง หรือเลียนแบบได้” นพ.กิจจา กล่าว

สำหรับโรคสมาธิสั้น คือ กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่วัย เด็ก โดยแสดงออกของเด็กจะออกมาในลักษณะอาการขาดสมาธิ (attention deficit) ขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง (impulsivity) อาการซน (hyperactivity) ซึ่งในเด็กผู้ชายส่วนใหญ่จะพบอาการซน และการขาดความสามารถในการควบคุมตนเอง

อาการขาดสมาธินั้น มีโอกาสพบได้เท่า ๆ กันทั้งในเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และอาการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม อารมณ์ การเรียน และการเข้าสังคมของเด็ก

ปัจจุบันพบว่า โรคสมาธิสั้น เกิดจากความบกพร่องของสารเคมีที่สำคัญบางตัวในสมอง อาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ กรรมพันธุ์ การเลี้ยงดู โดยประมาณ 30-40% ของเด็กสมาธิสั้น จะมีคนในครอบครัว คนใดคนหนึ่งเป็นโรคสมาธิสั้นด้วย

นอกจากนี้ การดูโทรทัศน์ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคสมาธิสั้น โดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ พ่อแม่ไม่ควรให้เด็กวัยนี้ดูโทรทัศน์โดยเด็ดขาด....!!

และหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี เมื่อเด็กโตขึ้นโรคสมาธิสั้นจะส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็ก เพราะเมื่อเด็กมี ความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ไม่นาน อยู่ไม่นิ่ง นั่งไม่ติดที่ เด็กจึงไม่สนใจการเรียน และบางครั้งยังก่อกวนความสงบสุขในชั้นเรียนอีกด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่นมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง ทำอะไรรุนแรง ทำลายข้าวของ ก้าวร้าว ขาดทักษะต่าง ๆ เนื่องจากอดทนเล่นหรือฝึกได้ไม่นาน เพื่อนไม่ชอบเล่นด้วย และเด็กจะไม่สามารถเข้าสังคมกับบุคคลอื่นได้

พ่อแม่จึงควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของเด็ก หากพบอาการเสี่ยงจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที..!?!.
หัวข้อ : เด็กทารก "ดูทีวี" ดี หรือ ไม่ดี?

--------------------------------------------------------------------------------

http://www.yenta4.com/webboard/2/1068693.html


ทีวี เป็นความบันเทิงภายในบ้านที่เข้าถึงผู้คนทุกครัวเรือน แถมตอนนี้ยังมีผลสำรวจในสหรัฐอเมริกาพบว่า แม้แต่ "เด็กทารก" อายุไม่ถึง 3 เดือน ก็ยัง "ดูทีวี" กันแล้ว!!!

เฟรเดอริค ซิมเมอร์แมน อาจารย์มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เขียนเล่าในรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ทางกุมารเวชและวัยรุ่นว่า เขาและทีมงานต่างรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อพบว่าปัจจุบันมีเด็กอเมริกันอายุไม่ถึง 2 ขวบ อยู่ถึง 90% และเด็กทารกอายุไม่ถึง 3 เดือน อยู่ถึง 40% ที่ดูทีวี, ดีวีดี หรือวิดีโอ เป็นประจำทุกวัน

"เราไม่รู้หรอกว่า นี่มันดีหรือไม่ดี แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือ มันเยอะมากจนน่าตกใจ" ซิมเมอร์แมนบอก โดยในผลสำรวจของเขาและทีมงาน ซึ่งได้จากการสุ่มสอบถามคุณแม่ลูกอ่อนกว่า 1,000 คน ทั้งในรัฐมินเนโซตา และรัฐวอชิงตัน พบว่ามีคุณแม่อยู่ 29% หรือใน 100 คน มี 29 คน ที่เปิดทีวีให้ลูกดู เพราะเชื่อว่าการให้ลูกน้อยดูรายการทีวีหรือดีวีดีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็ก จะช่วยให้ลูกฉลาด มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้

ส่วนที่เหลือ ก็อาจจะเป็นประเภทแม่ลูกอ่อนที่ดูทีวีไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย หรือปล่อยให้ลูกนั่ง นอนเล่นหน้าจอโทรทัศน์ โดยไม่ได้คิดหรอกว่า จะมีผลดี ผลเสียต่อลูกน้อยอย่างไร เพราะคิดว่า ลูกยังไม่รู้เรื่อง ยังดูทีวีไม่เป็น

"พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต่างได้ยิน ได้ฟังข้อมูลมาจากผู้ผลิตรายการทีวี, วิดีโอ ว่านี่คือรายการที่มีประโยชน์ต่อเด็ก สามารถจะช่วยพัฒนาสมอง แต่สิ่งที่พวกเขาพูดมาเหล่านั้นยังไม่มีผลพิสูจน์เลยว่า มันจริงหรือเปล่า" ซิมเมอร์แมนฝากข้อเตือนใจให้คุณพ่อคุณแม่ ลองนำเอาไปคิดทบทวนดู

แต่ที่ "น่าคิด" สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ อยู่ในบ้านก็คือ หากจะว่ากันตาม "คำแนะนำ" ของสมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา เขาก็ว่า เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรดูทีวีเลย ส่วนเด็กโตกว่านั้นขึ้นมา พ่อแม่ควรเลือกสรรรายการที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับวัยให้ดู แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกดูทีวีเกินกว่าวันละ 2 ชั่วโมง

แต่สภาพที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ สมาคมพบว่าเด็กๆ ในสหรัฐดูทีวีประมาณวันละ 4 ชั่วโมง

ขณะที่ยังมีผลการสำรวจอีกชิ้น จากคณะนักวิชาการมหาวิทยาลัยแพทย์โคลัมเบีย ที่ระบุว่า เด็กที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอโทรทัศน์วันละหลายชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะเรียนรู้พฤติกรรมที่เป็นปัญหาสังคมจากสิ่งที่ได้ดู ได้เห็นจากทีวี และมีแนวโน้มที่จะเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย ด้วยสาเหตุจาก อาจถูกดึงดูดให้ "หลงทาง" เห็นผิดเป็นชอบ เลียนแบบพฤติกรรมที่เป็นปัญหาสังคม อีกทั้งการใช้เวลาอยู่หน้าจอทีวีวันละหลายชั่วโมง ยังทำให้เด็กมีโลกทรรศน์ที่แคบ ไม่รู้ว่ายังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ให้น่าเรียนรู้อีก!!!

นำมาฝากกัน เผื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ จะได้เก็บไปพิจารณากันว่า สมควรให้ลูกดูทีวีกันมากน้อยขนาดไหน และน่าจะมีกิจกรรมอื่นๆ ภายในครอบครัวที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ดีกว่าปล่อยให้ "ทีวี" กลายเป็นพี่เลี้ยงลูก อย่างที่หลายครอบครัวอาจจะเป็นอยู่ตอนนี้!!!
ขอบคุณมากค่ะ จริงอย่างที่คุณป๊อปบอกค่ะ ตอนนี้ก็กำลังแก้ไขเรื่องที่ลูกติดการ์ตูนมากเกินไปค่ะ เพราะช่วงแรกให้เค้าดูครั้งละตอน 2 ตอน เดี๋ยวนี้เค้า้ร้องจะดูให้ได้ ถ้าไม่เปิดให้จะร้องไห้และดิ้นไม่หยุด ช่วงเช้าก็พยายามเปลี่ยนจุดสนใจเค้าค่ะ แต่กลางคืนก่อนนอนนี่ยังแก้ไม่ได้ เพราะเค้าร้องลั่นเลย ดูจนง่วงนอนมาก ๆ และก็กินนมหลับไป พาไปกินนมที่เตียงก็ไม่ยอม ก็เลยต้องรีบแก้ไขเลยก่อนที่จะแก้ยากไปกว่านี้

ทำห้องเรียนให้เค้ามีโปสเตอร์ ABC & Number,magnetic board & alphabet เค้าก็ติดเหมือนกัน ถ้าไม่ตามเค้าไปเล่นก็ไม่ยอมเหมือนกัน อันนี้ก็ดีหน่อย และเค้าชอบเอาหนังสือมาให้ทาย ว่าอะไรอยู่ตรงไหน เรียกว่าอะไร
พออ่านข้อมูลที่คุณป๊อบให้มา ทำให้สะกิดใจขึ้นมา ทั้ง ๆที่เคยทราบข้อมูลเรื่องนี้มาแล้วแต่เราก็ละเลยไป ตอนนี้คิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้วช่วงนี้คงต้องเพิ่มกิจกรรมออกกำลังกายมากกว่านี้ค่ะ ต้องขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service