เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เพิ่งได้หนังสือนิทานมาจากการช็อปร้านพี่อ๊อบค่ะ

ส่วนมากเป็นเรื่องยาวๆ แต่ตอนนี้ลูกยังไม่มีคลังศัพท์มากพอค่ะ คิดว่าถ้าอ่านตามหนังสือ ลูกคงไม่รู้เรื่องแน่ๆ

ก็เลยอยากจะปรึกษาหน่อยค่ะ

1. เล่าเรื่องคร่าวๆ เป็นภาษาไทยให้ลูกฟังก่อนได้มั้ยคะ เอาแบบภาคภาษาไทยล้วนๆ เลยน่ะค่ะ

2. แทนที่จะอ่านตามหนังสือ ขอเล่าเป็นภาษาอังกฤษ แต่ใช้ศัพท์ง่ายๆ ที่ลูกน่าจะเข้าใจดีกว่ามั้ยคะ

Views: 759

Replies to This Discussion

แพรว่าเล่าตามเรื่องเลยค่ะ
ถ้าน้องไม่เข้าใจ ก็ค่อยอธิบายไป แล้วต่อๆ ไปน้องก็จะเข้าใจเองค่ะ
เป็นการช่วนสอนศัพท์ของน้องไหปในตัวด้วย ^o^
แม่แอมก็ยังไม่ได้เริ่มเล่านิทานให้ลูกเลยคะ ตั้งใจจะไปหานิทานเรื่องสั้นๆแต่ยังไม่ได้ไปเลย เคยมีเด็กๆเอาหนังสือนิทานเรื่องสั้นมาให้ดูน่ารักดีคะน้องบอกว่าชื่อจากงานขายหนังสือใน มช. ต้องรอใกล้สิ้นปีเจ้าตอนนี้เป็นภาคไทยอยู่คะ
จากประสบการณ์อันน้อยนิด พี่คิดว่าจะเริ่มจากเรื่องสั้นๆ ก่อนค่ะ ที่มีหน้าละ 2 - 3 บรรทัด ถ้าเล่ายาวๆ อาจจะไม่รู้เรื่อง ขอแนะนำหนังสือนะค่ะ เป็นของแปลนสารา ค่ะ

เป็น หนังสือ สองภาษาค่ะ ไทย - อังกฤษ รูปภาพสวยงามมาก เคยซื้อมาอ่านภาษาไทยตอนน้องขิมเล็ก อยู่ 2 - 3 เล่ม วันก่อนไปรื้อมา อ่านภาคภาษาอังกฤษด้วยก็โอเค ก็เลยซื้อมาเพิ่มอีกเล่มหนึ่งน่ารักดี เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตัว ติดกระดุม อะไรพวกนี้ เล่มนี้น่ารัก ราคาก็น่ารัก 85.- บาท

และอีกชุดที่อยากแนะนำ เป็นของ นานมีคิดดี้ บุคส์ ค่ะ สองภาษาเหมือนกัน เป็น บ้านไร่(จำชื่อเต็มไม่ได้) เล่มละ 28.- บาท น่ารักดีค่ะ ถ้าอ่านครบทุกเล่ม ก็จะได้เพิ่มคำศัพท์ทั้งแม่และลูก บางทีพี่ก็จำประโยคมาจากหนังสือเด็กๆ พวกนี้ล่ะ ค่ะ
อาการเดียวกันเลยค่ะคุณอ้อ แต่พี่มีเทคนิคดังนี้ค่ะ คือ เราอ่านคร่าว ๆ ไปเองก่อน 1 รอบให้เข้าใจเนื้อหาที่แท้จริง จากนั้นเล่าให้ลูกฟังโดยสรุปออกมาเล่าตามรูปภาพ แบบสั้น ๆ ให้ได้เนื้อหาตามหนังสือ (แบบสั้น ๆ ง่าย ๆ) แค่นี้ลูกก็จะเข้าใจนิทานนั้น ๆ และเราก็ไม่ลำบากมากด้วยค่ะลองดูนะคะ รับรองว่าดีกว่าที่เราจะอ่านแบบตะกุกตะกัก เนื้อหาไม่ประติดประต่อเป็นไหน ๆ จริงไม๊ (อันนี้พี่เป็นเองค่ะ เพราะให้อ่านยาว ๆ เป็นอันติดอ่างทุกทีซิ)
พี่แนะนำว่า หนังสือที่มีประโยคสั้นๆ แบบที่น้องฟ้าใสจะจำได้และเลียนแบบได้ง่ายๆ อย่างเรื่อง Carla the Carpenter เล่มนั้นก็ใช้ได้นะค่ะ ส่วนเรื่องยาวๆเด็กจะสนุกเค้าเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้นอีกระดับ เพราะเรื่องยาวๆเนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ
ยกตัวอย่างบ้านนี้(บ้านนุ้ย)เล่านิทานให้ลูกฟังนะคะ
(พ่อเค้าเล่าค่ะ) ก็ตามหนังสือ คำไหนยาก ก็อธิบายเป็นคำง่ายๆ เช่น คำศัพท์ที่เรามักใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เป็นศัพท์แพทย์
เช่นคำว่า stomach- ache----> คำต่างๆที่ลงท้ายด้วยคำว่า ache สามีจะใช้คำง่ายๆกับลูกว่า your stomach hurts มากกว่าที่จะใช้คำเต็ม
ตอนแรกก็งงค่ะ ว่าทำไมไม่สอนคำๆนั้นของเค้าไปเลย...

สามีบอกว่า เด็กทุกคนรู้จักคำว่า hurt และเข้าใจความหมายมันดี จะทำให้การสื่อสารกับเด็กเล็กได้ง่าย
เวลาสอบถามเรื่องการเจ็บป่วย เค้าจะรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเราถามเค้าเกี่ยวกับอะไร....

ดังนั้นเวลาเล่านิทาน คำไหนที่ยากแก่เด็กเข้าใจ ก็จะอธิบายเค้าอย่างเฉพาะเจาะจงอีกที
เพราะอย่างน้อยก็ให้เค้าได้รู้จักหรือได้ยิน เค้าจะเรียนรู้ได้เองตามเสต็ป

เหมือนสอนภาษาไทย บางคำเป็นคำผสม คำเฉพาะ เด็กไม่รู้ เราก็ต้องอธิบาย
ภาษาไทย เราก็สอนกับเด็กจากคำง่ายๆ และพัฒนาเป็นคำที่ยากขึ้น หรือคำเฉพาะขึ้น ก็เหมือนๆกันนะคะ
สำหรับภาที่เคยทำคือ แรกๆก็อ่านสั้นๆก่อน ดูเรื่องคร่าวๆว่าเล่มนี้ลูกเรารู้ศัพท์เกือบหมดมั้ย ไม่รู้ไปเพิ่มก่อน(อันนี้คิดมากเองค่ะ กลัวลูกเบื่อ)

จริงๆตอนแรกภาแต่งนิทานเองด้วยค่ะ เอาแบบศัพท์ที่รู้ชัวร์และเพิ่มอีกนิดหน่อย ลูกเข้าใจอย่างดีและสนุกเลย เพราะเนื้อเรื่องใกล้เคียงกับเค้าเอง อิอิ ต่อมาก็เล่าตามภาพ และเพิ่มประโยคในเรื่องบ้าง เพื่อเพิ่มคลังคำศัพท์ คลังประโยคใหม่ อ่านซ้ำไปเรื่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ จนอ่านเล่มนั้นได้ทั้งเล่ม ทำยังงี้บ่อยๆกับทุกเล่ม นิทานเพิ่มประโยคและศัพท์ให้ทั้งแม่และลูกอย่างดีมากเลยค่ะ ยิ่งแบบน้องฟ้าใสแล้ว อีกหน่อยคงเล่าเรื่องปร๋อเลย :)

และคำไหนยาก หรือเรื่องไม่ค่อยเคลียร์เราก็อธิบายเพิ่มง่ายๆ แบบที่เราคิดว่าลูกจะเข้าใจ ทุกวันนี้ก็ยังต้องทำยังงี้อยู่นะคะ เพราะบางเรื่องที่เนื้อเรื่องเยอะๆ บางทีศัพท์ยากหรือว่า บางทีรู้สึกแต่งเรื่องแบบกระชับไป เราก็เพิ่มเติมให้สมบูรณ์หรือให้สนุกขึ้น ประมาณเติมสีสันเข้าไปเอง 555..ภาช่วยได้ป่าวน้อ..
ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยค่ะ
จริงๆ แล้วอ้อเองก็อ่านค่อยไม่รู้เรื่องค่ะ อ่านรอบแรกงงก่อน ไม่รู้ศัพท์
พอรอบ 2 เปิด dict ค่อยๆ อ่านไปช้าๆ
ตอนนี้ให้ฟ้าใสเค้าแต่งเรื่องเองไปก่อนค่ะ ให้ดูภาพแล้วเล่าเอง ฝึกให้เค้ามีจินตนาการ
แล้วรอบต่อไปแม่จะเล่าของจริงให้ฟัง
ดูเค้าสนใจหนังสือทุกเล่ม ชอบให้แม่เล่าซ้ำๆ บางที่แม่ก็ขี้เกียจ บอกฟ้าใสว่า "เมื่อกี๊แม่เล่าให้ฟังแล้วนะ"
ฟ้าใสสวนกลับ "ก็หนูอยากฟังอีกอ่ะ" แม่ก็เลยต้องตามใจ ลูกอุตส่าห์อยากฟัง

อ้อว่าการเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นเรื่องยากกว่าสอนเค้าพูดอีกนะคะ เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเอง
ต้องใส่เสียงให้น่าสนใจ ต้องเว่อร์ๆ ด้วย
ส่วนตัวสอนลูกตอนโตแล้ว เคยเล่าเรื่องลูกหมู 3 ตัวเป็นภาษาไทยมาก่อนแล้ว จากนั้นก็มาเล่าเป็นภาษาอังกฤษตามแบบตัวเองใช้คำง่ายๆที่ลูกเข้าใจจากนั้นก็ใช้นิทานอังกฤษสอนหรืออ่านตามหนังสือค่ะ
ใช้วิธีอ่านเองก่อนรอบนึง แล้ว "อธิบายตามภาพ" ให้ลูกฟังเหมือนกันค่ะ คิดว่าการเล่านิทานต้องให้สอดคล้องกับอายุและความรู้เด็ก ถ้าเด็กเข้าใจ เขาถึงจะสนุก และชอบการอ่าน

ขอแนะนำหนังสือที่ลูกตัวเองชอบต่อนะคะ
- "หมีเท็ดกับเตียงแดง" (สนพ.นานมีคิดส์) อันนี้นิทานสองภาษา มีสัมผัสคำคล้ายกลอน (ทั้งไทยและอังกฤษ) อ่านกล่อมลูกหลับได้ค่ะ เพลินดี ภาพเข้าใจง่ายด้วย
- "คอร์ดูรอย" (นานมีคิดส์) เด็กที่เล่นจ๊ะเอ๋เป็นจะเข้าใจเรื่องนี้ค่ะ และสนุกมากๆด้วย ภาพประกอบสวย
- "อย่า เดวิด" (นานมีบุ็คส์) เด็กที่รู้ภาษาแล้วจะสนุกค่ะ ห้ามเดวิดทำนั่นทำนี่ เดวิดก็ซนเหมือนเด็กทั่วโลก เด็กด้วยกันดูแล้วขำค่ะ
น้องอ้อจ๋า...ขออนุญาตการอ่านนิทานกับการเล่านิทานจะแตกต่างกันนิดหนึ่งค่ะ ถ้าเลือกที่จะอ่านก็อ่านตามตัวหนังสือได้เลยโดยใช้น้ำเสียงเรียบๆ(ไม่เกี่ยวกับสำเนียงนะคะ ....หุหุ) และชี้ตัวอักษรไปด้วย อาจแทรกถามตอบบ้างเพื่อไม่ให้ลูกเบื่อ แต่ถ้าจะเล่าก็อาจแต่งเติมเอง บรรยายภาพ ด้วยศัพท์ง่ายๆ แทรกเนื้อหาในเรื่องบ้าง ใส่เต็มที่เลยค่ะ พอน้องฟ้าใสเริ่มชอบและสนใจ ก็ค่อยๆใช้วิธีอ่านก็ได้นะจ๊ะ อย่างที่เราทำก็โอเคนะ(พอดีพี่เพิ่งไปอบรมเรื่องการอ่านนิทานให้ลูกฟัง จากครูชีวัน วิสาสะ แต่เป็นภาคภาษาไทย )
หุหุ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service