เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
น้องบิ๋มเป็นเพื่อนรุ่นน้องของดิฉันค่ะ จากเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นกับลูกสาว น้องบิ๋มได้เขียนบันทึกนี้ขึ้นเพื่อเตือนสติพ่อแม่ผู้ปกครองให้ระมัดระวังในการเขย่าเด็กทารกด้วยอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ... ลองอ่านดูนะคะ
บันทึกรักกำเนิดสุข ตอนที่ 1 : ของขวัญจากฝากฟ้า
เขียนโดย: บุษบรรณ (สินธุเสก) นพวงศ์ ณ อยุธยา (บิ๋ม)
22 ตุลาคม 2551
พริมลูกรักของแม่
พริมจ๋า อีก 3-4 สัปดาห์แม่ก็จะได้เห็นหน้าหนูแล้วนะจ๊ะ ทั้งคุณพ่อและพี่ปรางก็ตื่นเต้นอยากเจอหนูมากๆเลยรู้มั๊ย วันนี้แม่มาพบคุณหมอตามนัดหมาย ช่วงนี้คุณหมอนัดแม่ถี่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเริ่มย่างเข้า ไตรมาสสุดท้าย คราวนี้คุณหมอขอตรวจอัลตราซาวด์อีกครั้งหนึ่ง คุณหมอบอกว่าแม่มีแคลเซี่ยมเกาะรก(อีกแล้ว) ซึ่งเจ้าภาวะแคลเซี่ยมเกาะรกเนี่ยมันจะทำให้ลูกได้รับสารอาหารจากแม่ไม่เต็มที่ คุณหมอแนะนำแม่ว่าควรให้หนูออกมาช่วงนี้ดีกว่า เพราะถ้าหนูอยู่ต่อไปอีกซัก 2-3 สัปดาห์คงไม่ทำให้หนูน้ำหนักขึ้นไปจากนี้เท่าไหร่ พ่อกับแม่ตัดสินใจทำตามที่คุณหมอแนะนำ ก็คงจะเหมือนกับคราวที่แล้วนั่นแหล่ะที่คุณหมอแนะนำให้แม่คลอดพี่ปรางก่อนเพราะแม่มีแคลเซี่ยมเกาะรกเนี่ยแหล่ะจ้ะ คุณหมอบอกว่าถ้าพ่อกับแม่ไม่ได้ดูฤกษ์ผ่าท้องไว้ คุณหมอขอนัดแม่ผ่าท้องคลอดในวันรุ่งขึ้น ตอน 6 โมงเช้าเลย พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาอะไร แม่รีบกลับบ้านไปเตรียมตัวในช่วงบ่ายแล้วกลับมาพักที่โรงพยาบาลในค่ำวันนั้น กลางดึกคืนนั้น คุณพยาบาลคนสวยเข้ามาบอกแม่ว่าคุณหมอวิสัญญีแพทย์จำเป็นจะต้องขอเลื่อนนัดผ่าท้องคลอดเป็น 9 โมงเช้า เนื่องจากมีเคสคนไข้หนักที่คุณหมอต้องดูแลในช่วงเช้าอีกราย ซึ่งพ่อกับแม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นเคย แม่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ หลับตาทีไรใจนึกถึงหน้าหนูทุกที พรุ่งนี้เช้าแล้วซินะที่เราจะได้เจอกัน
วันนี้เราจะได้เจอกันแล้วนะลูก ทันทีที่แม่ได้ยินเสียงของหนูและเห็นหน้าหนูในห้องผ่าตัดเพียงชั่วครู่ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติก็ไหลอาบแก้มแม่แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หนูช่างน่ารักเหลือเกินจ้ะ หลังจากแม่พักฟื้นอยู่ที่ห้องพักได้ไม่นาน คุณหมอบอกแม่ว่าต้องให้หนูอยู่ในตู้อบและงดให้นมหนูก่อน เนื่องจากระบบย่อยอาหารของหนูยังทำงานไม่ดีนัก ก็ตอนั้นหนูเพิ่งจะ 35 สัปดาห์กว่าๆเอง คุณหมอจะต้องใช้ช้อนให้นมหนูเพื่อควบคุมปริมาณน้ำนมในแต่ละครั้งจนกว่าระบบย่อยอาหารหนูจะทำงานได้ดีขึ้น แม่รู้สึกไม่สบายใจเลย ในใจนึกสวดมนต์ภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครองให้ทุกอย่างเรียบร้อยดี
หลังจากที่ระบบย่อยอาหารของหนูเริ่มทำงานได้ในระดับที่คุณหมอพอใจ หนูก็ได้กลับบ้านเราแล้วจ้ะ พริมลูกรัก วันแรกๆแม่ต้องปั๊มนมเก็บไว้แล้วป้อนหนูด้วยช้อนก่อน แม่ค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นจนกระทั่งแม่สังเกตว่าหนูทานนมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นแม่ค่อยๆเริ่มให้หนูดูดนมโดยต้องควบคุมเวลาอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้หนูท้องอืด มีหลายๆครั้งที่แม่ยอมใจอ่อนเพิ่มเวลาให้หนูเพราะเห็นว่าหนูกำลังมีความสุขมากๆ โดยรวมแล้วหนูเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากไม่แพ้พี่ปรางเลยนะจ๊ะ หนูจะมีงอแงอยู่บ้างเวลาอาบน้ำกับเวลาเย็นๆ ผ่านไปได้ประมาณ 1 เดือน หนูเริ่มดูดนมได้มากขึ้นเรื่อยๆจนแม่เริ่มใจอ่อนเพิ่มเวลาให้หนูเรื่อยๆ ช่วงนี้ตอนค่ำๆ ขณะที่แม่จะพาหนูเข้านอน แม่เริ่มสังเกตว่าหนูจะดูหงุดหงิดงอแงมากขึ้นกว่าเดิม หนูจะร้องให้ดังและนานมากจนพ่อกับแม่ต้องผลัดกันอุ้ม แรกๆเราคิดว่าหนูคงดูดนมมากไปจนท้องอืด แม่ก็พยายามบรรเทาอาการท้องอืดของหนู ซึ่งก็ช่วยทำให้หนูหยุดร้องไปได้ในหลายๆครั้ง หนูเริ่มเพิ่มเวลางอแงไปช่วงอื่นๆบ้างตามสมควร ที่สำคัญคือช่วงเวลาหัวค่ำทีไร หนูเริ่มร้องอย่างจริงๆจังๆเกือบจะทุกคืนก็ว่าได้ แม่เริ่มเอะใจว่า ตกลงหนูร้องให้เพราะท้องอืดหรือหนูร้องให้แบบที่เรียกว่าโคลิคกันแน่ แต่หนูไม่ต้องกังวลนะจ๊ะ ถึงหนูจะงอแงขนาดไหน พ่อกับแม่จะอยู่เคียงข้างหนูจนกว่าหนูจะหลับไปนั่นแหล่ะจ้ะ ตามปรกติแม่จะเป็นคนพาหนูเข้านอนในห้องของพ่อกับแม่เองทุกคืน นอกเสียจากว่าในค่ำนั้นพ่อกับแม่จำเป็นจะต้องออกไปข้างนอก ซึ่งก็ไม่บ่อยนัก
สามเดือนแรกแม่อยู่บ้านกับหนูตลอดเลยนะจ๊ะ พอหนูได้สามเดือน แม่คิดว่าแม่คงต้องกลับไปดูงานที่บริษัทบ้าง แต่ด้วยความที่อดเป็นห่วงหนูไม่ได้เพราะหนูยังเล็กมากนัก พ่อกับแม่จึงตัดสินใจพาหนูไปทำงานด้วยทุกวันที่แม่ไปทำงาน หนูจะได้อยู่ใกล้ๆพ่อกับแม่ตลอดเวลาเลยดีมั๊ยจ๊ะ แม่ชอบวิธีนี้มากเลยเพราะสะดวกกับเวลาให้นมหนูแล้วก็เวลาคิดถึงหนูด้วยจ้ะ พอหนูอายุได้ 4 เดือน พี่เลี้ยงหนูก็ขอลาออกโดยที่ทางศูนย์ก็จัดหาพี่เลี้ยงใหม่มาให้ แม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผ่านมาเพียงแค่ 3-4 เดือน พี่เลี้ยงขอลาออกไปแล้วตั้งหลายคน ทั้งๆที่แม่ว่าตอนกลางวัน หนูออกจะเลี้ยงง่ายพอสมควรนะจ๊ะ เท่าที่แม่ดู พี่เลี้ยงคนใหม่ของหนูคนนี้ก็ดูเข้าทีดี เสียอยู่ว่าเธอดูเป็นคนใจร้อนในบางครั้ง ซึ่งแม่จะต้องคอยเตือนเธอบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาแม่เห็นพี่เลี้ยงป้อนผลไม้บดให้หนูแล้วแม่ต้องบอกให้ค่อยๆทำทุกทีอีกเรื่องหนึ่งคือ ดูพี่เลี้ยงคนนี้เธอจะชอบแกว่งเก้าอี้โยกให้หนูถี่ๆจนหนูหลับไปเหลือเกิน แม่เห็นแล้วเวียนหัวแทนหนูจริงๆ อันนี้แม่ก็เตือนเธอบ่อยๆว่าอย่าแกว่งเร็วมากนัก
ตอนนี้หนูอายุได้ 4 เดือนครึ่งแล้วนะจ๊ะ กำลังอ้วนน่ารักเชียว พริมลูกรัก ค่ำวันนี้พ่อกับแม่จำเป็นต้องออกไปธุระข้างนอก หนูอยู่ในห้องกับพี่ปรางและพี่เลี้ยงนะจ๊ะ หนูเป็นเด็กดีนะลูก อย่างอแงกับพี่เลี้ยงมากเหมือนอยู่กับพ่อแม่นะจ๊ะ คืนนั้นพอแม่กลับมาแล้วแม่ก็รีบไปรับหนูเข้ามาในห้องแม่ทันที แม่ให้หนูดูดนมตามปรกติ และแล้วแม่เริ่มสังเกตอาการผิดปรกติในตัวหนูหลายอย่าง หนูกรีดร้องแบบคนที่รู้สึกเจ็บปวดอะไรอย่างมาก ทั้งร้องทั้งดิ้นทั้งอาเจียน สลับไปมาเกือบตลอดทั้งคืน พอวางหนูลงนอน หนูก็กรีดร้องชนิดที่แม่ไม่เคยได้ยินลูกของแม่ร้องแบบนี้มาก่อน แม่เริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ก็พยายามตั้งสติตลอดเวลา แม่สงสารลูกเป็นที่สุด แม่พยายามร้องเพลงกล่อมและอุ้มหนูอยู่ตลอดทั้งคืนจนหนูหลับไปตอนเกือบรุ่งสางด้วยความเพลีย
รุ่งเช้า พ่อกับแม่รีบพาหนูไปโรงพยาบาล คุณหมอให้หนูพักอยู่ในโรงพยาบาลทันทีที่ซักอาการเริ่มต้น คุณหมอสังเกตการณ์และซักประวัติอย่างละเอียด จนกระทั่งคุณหมอเริ่มสังเกตอาการผิดปรกติที่กระหม่อมของหนู นั่นคือกระหม่อมของหนูดูแข็งตึง ซึ่งตามปรกติกระหม่อมของเด็กทารกบริเวณที่กะโหลกยังไม่ปิดสนิทนั้นจะบางเป็นพิเศษจนเราจะต้องเห็นศรีษะเต้นตุ๊บๆ คุณหมอยังสังเกตอาการผิดปรกติโดยรวมเห็นว่าหนูเริ่มมีอาการซึม และสังเกตปฏิกริยาการตอบรับแสงที่ม่านตาของหนูอีกด้วย คุณหมอถามแม่ว่ามีใครเคยทำหนูตกลงมาจากที่สูงบ้างหรือไม่ แม่บอกว่าไม่เคยแต่อย่างไรก็ดีอาจมีใครทำหนูตกแล้วไม่กล้าบอกความจริงก็ได้ ดังนั้น คุณหมอจึงขอเอ็กซเรย์หนูทั้งตัว ทำ CT Scan และ MRI ผลของเอ็กซเรย์ พบว่าไม่มีร่องร่อยของการถูกกระทบกระเทือนใดๆ ส่วนผลของ CT Scan และ MRI พบว่ามีเลือดออกทีบริเวณเยื่อหุ้มสมองส่วนข้างหน้าด้านขวา นอกจากนี้ยังมีเลือดออกที่จอประสาทตา(Retina) ข้างขวาอีกด้วย
วินาทีที่แม่ได้ยินคุณหมอพูดออกมาเป็นช่วงเวลาที่แม่รู้สึกแย่มากๆ แม่สับสนและไม่อยากเชื่อหูตัวเอง มันเป็นความรู้สึกปวดแปลบเข้าไปที่หัวใจ เจ็บปวดเกินกว่าจะบรรยาย เป็นความรู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะสลาย แม่เสียใจจนร้องให้ออกมาต่อหน้าคุณหมอและคุณพ่อ แม่ไม่เข้าใจและไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก เมื่อไหร่ และอย่างไร ..... ทำไม โลกใบนี้ช่างดูมืดมนและโหดร้ายกับหนูเสียเหลือเกิน .....
ทีมแพทย์ประชุมและให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ หลังจากทราบผลการตรวจได้ไม่นาน ทีมแพทย์เข้าทำการรักษาทันที พยาบาลโกนผมของหนูออกจนหมดเพื่อให้คุณหมอดูดเลือดในกระหม่อมบริเวณที่โป่งตึงนั้นออก ซึ่งหากอาการไม่ดีขึ้น ทางทีมแพทย์อาจต้องทำการเปิดหนังศรีษะออกเพื่อทำการรักษาขั้นต่อไป พริมลูกรัก หนูรู้มั๊ยว่าช่วงเวลานั้นสำหรับพ่อกับแม่แล้วมันช่างนานมาก แม่ได้แต่สวดมนต์อธิษฐานจิตถึงพระรัตนไตรและสิ่งศักดิ์สิทธิให้คุ้มครองลูกให้ปลอดภัย ทันทีที่หนูออกจากห้องผ่าตัด หนูถูกนำตัวเข้าห้องไอซียูทันที แม่เห็นสายห้องระโยงระยางเต็มตัวหนูไปหมด เป็นภาพที่แม่ไม่อยากจะจดจำเลยแต่มันก็ยังติดตาแม่อยู่จนทุกวันนี้ .... ทุกครั้งที่เข้าไปเยี่ยมหนู แม่เห็นหนูนอนนิ่ง หนูทำให้แม่ใจหายมากรู้มั๊ย .... พริมจ๋า หนูช่วยขยับแขนหรือขาให้แม่เห็นบ้างได้มั๊ยลูก ....
พ่อและแม่พร่ำสวดมนต์อธิษฐานวันละหลายๆรอบ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายโปรดช่วยคุ้มครองหนูด้วย หนูมีอาการเช่นนั้นอยู่หลายวัน จนแม่ชักใจไม่ดี แม่ร้องให้ทุกครั้งที่เห็นหนู แม่สงสารหนูเหลือเกิน พ่อกับแม่ไปทำบุญให้กับหนู พ่อกับแม่ยังไปบริจาคเลือดและบริจาคดวงตาให้กับสภากาชาดไทยอีกด้วยจ้ะ พริมจ๋า .... หนูเชื่อในปาฏิหารย์มั๊ยจ๊ะลูก แม่ก็เชื่ออย่างนั้นจ้ะ หนูเริ่มมีอาการดีขึ้นตามลำดับ เริ่มขยับแขนขาได้และเริ่มมีปฏิกริยาตอบสนองได้ดีขึ้นเรื่อยๆจ้ะ
ทีมแพทย์ของหนูยังประชุมกันอีก ผลการวินิจฉัยทางการแพทย์สรุปออกมาแล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวหนูไม่ใช่ความบกพร่องทางสมองที่อาจเป็นกันได้โดยกำเนิด หากแต่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับหนู เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการที่หนูถูกเขย่าอย่างรุนแรง หรือที่เรียกกันว่า Shaken Baby Syndrome (SBS) .....
Comment
ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณแม่ คุณพ่อ และน้องมิมิ
ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณพ่อคุณแม่เคารพบูชาจงคุ้มครองน้องมิมิตลอดกาลนานด้วยเทอญ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สู้ ๆ ค่ะจะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจนะคะ น้องบิ๋ม (คุณแม่ผู้เป็นเจ้าของบทความนี้) ได้เข้ามาดู comment ของพ่อๆ แม่ๆที่เข้ามาให้กำลังใจตลอดเลยค่ะแต่เข้าใจว่าน้องยังไม่ได้สมัครเข้ามา ก็เลยให้ความเห็นไม่ได้ ขอบคุณแทนน้องบิ๋มด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะที่เล่าให้ฟัง ต้นร้ายปลายดีค่ะคุณแม่ขอให้น้องแข็งแรงๆนะค่ะ คุณแม่ก็ดูแลสุขภาพด้วยน่ะค่ะ
สู้สู้นะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้