+ + + บันทึกพัฒนาการน้องเจสองภาษา >>> Oh .... No! + + +

[MaMa n'JaY]

::: MaMa n'JaY Diary @ September 27, 2010 :::

วันเสาร์ที่ผ่านมา น้องเจขอมะม๊าไปเรียนภาษาที่บ้านครูแคลร์เหมือนเคย
มะม๊าก็ตามใจ รักเรียน รักภาษา อยากพัฒนาตัว จะไปขัดขวางได้งัย ....... เน๊อ!

มะม๊าอุตส่าห์เอากล้องมาไว้กะมือ เผื่อว่าบางทีจะถ่ายคลิปน้องเจอะไรได้บ้าง
มะม๊าก็อุตส่าห์ (อีก) เดินลงมาก่อนนะ พอดีว่าน้องเจก็เห็นมะม๊าถือกล้องอยู่ในมือ
ก็เป็นอันว่ารู้แล้วแหละว่ามะม๊าจะต้องถ่ายคลิปน้องเจอีกแน่ ๆ ... น้องเจเลยตีรวน
งานนี้น้องเจก็ไม่ค่อยยอมพูดอะไร ติดเล่น (ก็ดูหน้าเค้าจิ!)
มะม๊าถามอะไรก็ทำเป็นเล่น ก็เลยปล่อยให้น้องเจพูดเอง เออเอง!
(แต่หลังฉากเนี่ย .... มะม๊าขำ หัวเราะแล้วหัวเราะอีก ... จะตีรวนมะม๊าไปถึงไหนฮ๊าาาา)
คลิปนี้ก็เลยเป็นอีกคลิปเฉพาะกิจ ที่ลงให้ดูเพลิน ๆ อย่าคิดอะไรมากเลยนะค๊า
เด็กก็เงี้ยค่า ............................ 5555+
(โชคไม่เข้าข้างงงง คุณแม่เอาซะเล้ยยยยยยย)

พอมะม๊ากดปิดกล้องเท่านั้นแหละ โอ้วววว .. พูดออกมาเยอะทุกที

ล่าสุดเมื่อคืนพาไปเซ็นทรัลชลบุรีกลับมา พร้อม Oxford Reading Books อีก 3 เล่ม ....
(เอาไว้เรามาอ่านแล้วมาเล่นเกมส์ในหนังสือกันนะ ... มะม๊าอ่านแล้ว สนุกดี .. น้องเจต้องชอบแน่ ๆ)
ระหว่างที่นั่งรถกลับมา น้องเจเห็นพระจันทร์กลมโตสีสวย ... แม๊ ... พูดเป็นตุเป็นตะ

n'JAY : Mommy, Look. That is the moon. Today the moon is small.
It is not big anymore. Look ... Mommy .... Look. It's so white.
แล้วก็ยิ้มแฉ่ง ๆ ๆ ๆ (เราใช้เวลากลับมาบ้านไม่นาน เพราะว่าบ้านเราอยู่หลังเซ็นทรัลแค่นี้เอง)

ปะป๊าที่กำลังขับรถอยู่ หันมามองไปยิ้มไป ... แต่ไม่พูดอะไรออกมา
ส่วนมะม๊า ก็นั่งมองจันทร์ที่น้องเจพูดถึง ... แต่ .... ในใจคิดว่า
พูดออกมาเป็นชุดอีกแล้วน๊า ในมือมะม๊าไม่มีกล้อง แล้วก็มืดด้วยยยยยยย
เมื่อไหร่สวรรค์จะเป็นใจให้มะม๊าถ่ายคลิปได้ซะทีน๊อ !!!!

Mama : What will you do next, Jay ?

n'JAY : I want to eat some bread.

Mama : OK. Listen. After you eat some bread, you have to take a bath, read the book,
play your Four-Wheel, drink milk, and go to bed. Understand that?

n'JAY : Yes.

Mama : What will you do next, Jay ? (มะม๊าทบทวนดูว่าเจ่เจ๊จะจำได้มั๊ยเนี่ย ที่มะม๊าสั่ง ๆ ๆ ... อิอิ)

n'JAY : I want to eat some bread "and" take a bath "and" read the book "and" play Four-Wheel
"and" drink milk "and" sleep.

Mama : OK (แล้วเราก็เริ่มปฏิบัติตามนั้น น้องเจไปกินขนมปังกะปะป๊า แล้วค่อยขึ้นมาห้องหามะม๊า ...
แล้วก็ทำอย่างที่เราได้คุยกันไว้ ช่วงที่น้องเจอาบน้ำเสร็จ ปะป๊าเข้าไปอาบน้ำ มะม๊าให้น้องเจแข่งอ่านหนังสือ
กะปะป๊าที่กำลังอาบน้ำ ... ดูจิ๊ ... ใครเสร็จก่อนกัน ....

n'JAY : Mommy, it's time to read the book.

Mama : ก็เอาหนังสือเรื่อง Doctor, Doctor ให้อ่านและเล่นเกมส์บ้างนิดหน่อย

n'JAY : น้องเจนั่งตักมะม๊าอ่านจนจบ ทำเล่นกะมะม๊าง่าย ๆ แล้วก็ชนะปะป๊า เพราะน้องเจอ่านจบก่อนปะป๊าแต่งตัวเสร็จ
น้องเจดีใจมากมาย หลังจากนั้นก็ปล่อยเวลาให้น้องเจได้เล่นรถบังคับ Four Wheel ซัก 15 นาที แล้วก็กินนม
เข้าห้องน้ำ แล้วก็นอนนนนนนน .... คร่อกฟี้ .... Z...z....z....z

[MaMa n'JaY]

สิ่งที่สอนก็ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน ควบคู่กัน แต่ฟังกะพูดก็จะมาอันดับแรก ๆ ตามแนวของหนังสือสองภาษา เพียงแต่ว่าอันไหนที่เหมาะกะเรา ก็เอามาใช้ (ขอบคุณคุณบิ๊กสำหรับหนังสือดี ๆ ด้วยค่ะ) ส่วนอันไหนที่มันไม่เหมาะกะครอบครัวเรา ก็ปรับใช้ กันจะมีกระดานไว้เขียนคำศัพท์ สอนวลี สอนประโยค บางทีก็ให้น้องเจฝึกเขียนด้วย ก็เรียนไปเล่นไป อะไรอย่างงี้ค่ะ ไม่ได้ซีเรียสมาก อีกส่วนที่ต้องขอบคุณจริง ๆ คือคุณครูและครอบครัว ที่วันเสาร์อาทิตย์น้องเจไม่ยอมไป (เที่ยว) ไหน ขอไปเรียนบ้านครู ซึ่งบ้านครูบรรยากาศ APOL (All Persons One Language) น้องเจก็ได้ฝึกหลายทักษะ เรียนรู้ผ่านการเล่น เป็นภาษาอังกฤษตลอดทั้งวัน ... เราเน้นให้น้องเจสนุก มีความสุขกับวัยอนุบาลน่ะค่ะ ... 555+

เล่าจากประสบการณ์ .... ไม่รู้คุณดาได้สาระอะไรมั่งมั๊ย .... บอกกันมั่งน๊า 555+

[MaMa n'JaY]

คือน้องเจอาจจะไม่ใช่เด็กสองภาษา 100% แต่น้องเจจะเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังสอน หรือสิ่งที่น้องเจจะตอบ หลัง ๆ มานี้สังเกตเห็นว่าน้องเจก็สลับโหมดภาษาไทยและอังกฤษได้เอง แล้วก็บางครั้งก็มีทำเราอึ้งที่อยู่ ๆ ก็พูดอังกฤษรวดเลย ยาวมาก ถึงแม้บางทีเราจะแกล้งตอบไทย เค้าก็ยังจะตอบอังกฤษ และมีบางทีที่เราเริ่มพูดไทยเยอะ น้องเจก็จะเริ่มเตือนว่าต้องพูดอังกฤษแล้วนะ ทำนองนี้ ... สิ่งที่กันสอนน้องเจ ก็คือสอนในสิ่งที่เรามีความสามารถพอ ก็เลือกสอนอันนั้นก่อน อันไหนที่ยังไม่รู้ เก็บเป็นข้อมูล แล้วก็มาหาข้อมูลแล้วก็มาสอนเพิ่มให้ ไม่ได้สอนอะไรที่เกินความสามารถเรา (งานเราเยอะอยู่แล้ว อะไรที่มันเกินไป มันจะทำให้เรายิ่งเครียด บางทีการสื่อสารผู้ใหญ่กะเด็กก็เป็นปัญหา ยิ่งเราอยากให้ลูกได้ ลูกได้มั่งไม่ได้มั่ง แล้วเกิดการเปรียบเทียบกะคนอื่น ก็ยิ่งคาดหวัง ยิ่งกดดัน เราว่ามันไม่ถูก ก็เลยคิดว่าโอเค ภาษาทุกภาษา สอนได้ทุกวัน วันละนิดละน้อย ใช้บ่อย ๆ ก็น่าจะได้ แต่จะถ้าให้เพอร์เฟ็คเลยทุกอย่าง มันก็คงทำไม่ได้ และก็คงไม่อยากให้ลูกเพอร์เฟ็คด้วย 5555+ เอาแค่พอประมาณ กลาง ๆ เอาตัวรอด และขอให้มีความสุขก่อน เพราะตอนนี้อายุยังน้อยนัก เดี๋ยวหลัง ป.1 ต้องเจออะไรอีกเยอะ 555+）

[MaMa n'JaY]

พอเข้าเทอมสอง เตรียมอนุบาล ครูประจำชั้นเคยบอกว่าน้องเจมีแววด้านภาษา อยากให้ส่งเสริม เพราะน้องเรียนรู้เร็ว บางครั้งครูสอนครั้งเดียว น้องจำได้แม่นมาก แต่อยากให้คุณแม่แบ่งเวลาใช้ภาษาอังกฤษกะน้อง ก็เลยกลับมาคิดว่าแนวทางที่ครูบอกไว้ก็ดี บวกกับที่บ้านเป็นร้านอาหารเจเจอลูกค้าวนเวียนเข้ามาเยอะมาก และคุณพ่อน้องเจก็ทำงานกลับมาอาทิตย์ละครั้ง ส่วนอาม่า อากู๋ ก็คงไม่ได้มีเวลาสอนภาษาไทยน้องเจอย่างจริงจังเท่าไหร่ กันก็จะทำแบบ OPOL ลำบาก เพราะเราต้องสอนเองคนเดียวทุกอย่างทุกวิชา รวมถึงเรื่องการใช้ชีวิต การสร้างวินัยอะไรต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าจะฝึกให้น้องเจไว้ ทั้งที่แนวคิด OPOL ไม่ได้โดนต่อต้านหลังจากที่อาม่าได้ดูเด็กสองภาษาในเนชั่นทีวี (คือว่าเห็นว่าเป็นสิ่งดีรีบสนับสนุนเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็บ่น ๆ ว่าเดี๋ยวน้องเจก็งง สับสน 555+）แต่ก็เลือกเอาวิธีที่ครูแนะนำมาปรับใช้ โดยเลือกใช้ภาษาอังกฤษเฉพาะตอนเช้าตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงก่อนไปโรงเรียน กลางวันอยู่โรงเรียนก็คงต้องได้ใช้ภาษาบ้างเพราะครูเองก็พูดอังกฤษกะเด็ก ๆ อยู่แล้ว และในห้องก็มีครูต่างชาติด้วย พอตกเย็นก็เริ่มใช้ภาษาอังกฤษอีกจนถึงเข้านอน แต่ว่าระหว่างเวลาตรงนี้ มีการบ้าน หรือกิจกรรมอื่นที่ควรต้องใช้ภาษาไทย กันก็จะใช้ภาษาไทย รวมถึงเวลาน้องเจดื้อ ซน ฯลฯ ก็จะอบรมภาษาไทยเพื่อให้น้องเจเข้าใจในสิ่งที่กันกำลังสอน :)

[MaMa n'JaY]

อ้าววว .. มีแอบบเม้าส์ 555+ กันอยู่ร้านอาหารเจค่ะ คือ แรก ๆ ที่กันเจอเพื่อนคุณดา กันก็ไม่ได้สังเกตหรอกว่าเค้ากะลังฝึกลูกเป็นเด็กสองภาษา แต่น้องเจกำลังดู Youtube อยู่ เผอิญวันนั้นลูกเค้ากำลังจับเก้าอี้อยู่ แล้วได้ยินเค้าบอกลูกว่า a chair ก็เลยลองสังเกตไปเรื่อย อืมม สงสัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ก็เลยได้คุยกัน ...

จริง ๆ สำหรับน้องเจแล้ว น้องเจเนี่ยฟังนิทานสองภาษาตั้งแต่อยู่ในท้องประมาณซัก 5 เดือน คือกันจะเปิดซีดีแล้วก็อ่านตาม ทำเสียงสูงเสียงต่ำไปเรื่อย ... คลอดมาก็มีพัฒนาไปตามวัยของน้องเจ แต่ไม่ได้เน้นว่าเป็นภาษาอังกฤษหลัก คือเน้นไปพร้อม ๆ กัน ตอนอุ้ม ก็มีพูดอังกฤษบ้าง ... พอจบก็จะพูดไทย สลับไปอย่างงี้ทุกวัน จนไปเดินเจอหนังสือสองภาษาเล่ม 1 ที่คาร์ฟู และตัดสินใจซื้อเพราะว่ามีเว็บด้วย เผื่อได้ข้อมูลอะไรจากในเว็บบ้าง แต่ตอนนั้นก็สอนน้องเจไประดับนึงแล้ว น้องเจรู้ศัพท์พอควรแล้ว จับคู่ ABC, 123 อะไรได้แล้ว มีสอนทักทายอยู่บ้าง แต่ไม่มาก เพราะเน้นพัฒนาการกะวิชาการที่กำลังจะเข้าเตรียมอนุบาล ซึ่งตอนนั้นไปคุยมา อายุขาด 2 เดือน วิชาการอะไรได้หมด อยากให้น้องเจขึ้น อ.1 เลยเพราะมั่นใจว่าลูกเรียนได้ แต่ครูมองว่าควรเน้นการปรับตัวและการอยู่ร่วมกับคนอื่น และฝึกการช่วยเหลือตัวเอง ก็เลยตามคำแนะนำครูเรียนเตรียมอนุบาล ช่วงนั้นก็ใช้ภาษาอังกฤษเยอะขึ้น มันไม่ทั้งวัน แต่ว่าก็เยอะกว่าก่อนหน้านี้ ไปไหนก็พูอังกฤษให้น้องเจฟัง ชี้ฟ้า ชี้บนถนน เข้าห้าง พาไปดูมุมผลไม้ ผัก ของใช้ ก็เรียกเป็นภาษาอังกฤษ แล้วน้องเจก็ได้จับของจริงด้วย ก็ดูน้องเจมีความสุขดี แต่ปัญหาเกิดก็ตอนไปโรงเรียน แรก ๆ ไม่ร้องไห้เลย สนุกมาก แต่พอได้เรียนภาษาอังกฤษกะครูต่างชาติดูเหมือนน้องเจเริ่มไม่สนุกแล้ว เริ่มมีปัญหาแล้ว น้องเจบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน ครูสอนไม่สนุกเลย มะม๊าสอนสนุกกว่า ร้องทุกวันจนหมดเทอม 1 เตรียมอนุบาล ก็ปรึกษาครูประจำชั้นเป็นระยะ ๆ ว่าจะทำยังงัยดี ครูบอกว่าครูดูรู้นะคะว่าน้องเจฟัง T.David รู้ และเข้าใจ ก็เลยแนะนำให้กันลดการใช้ภาษาอังกฤษกะน้องเจลงเพื่อให้น้องเจได้มีโอกาสมาเรียนรู้กะครูด้วย ช่วงนั้นลดภาษาอังกฤษลงมาเยอะ มาเล่นเกม Matching กะสอน กขค เยอะขึ้น แล้วก็ฝากขนมอาทิตย์ละครั้งให้น้องเจไปให้ T.David สร้างความคุ้นเคยโดยมีครูประจำชั้นเป็นคนเชื่อมให้ ก็จะสอนให้น้องเจเอาของให้ครู ให้พูดอังกฤษ แล้วก็ Give me Five! ทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ หลัง ๆ ครูบอกว่าน้องเจออกไป say Good Morning และ Give me Five แล้วก็ตั้งใจเรียนดี ไม่งอแงเลย :)

[Superjean]

เป็นคุณแม่ที่เก่ง ๆ มาก ๆ เลย อยากขอคำชี้แนะบ้างเพราะตอนนี้ก็กำลังฝึกลูกสาวอยู่คะ ตอนนี้น้องจีนอายุ หนึ่งขวบ หกเดือนแล้วกำลังพูดเลยคะ พูดภาษาอังกฤษได้หลายคำแล้วคะ เค้าเข้าใจที่เราพูดด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ตัวแม่คะ ภาษาอังกฤษไม่เคยแข็งแรงเลยคะ เห็นเพื่อนดาเล่าให้ฟังว่าไปเจอคุณแม่น้องเจ ที่บ้านเป็นร้านขายอาหารเจใช่หรือเปล่าคะ ตัวดาพูดไทย และพูดภาษาอังกฤษกับลูกเฉพาะที่เราพูดได้คะ อยากจะพูดกับเค้าเป็นอังกฤษทั้งหมดแต่ทำไม่ได้สักทีเพราะไม่เก่งคะ อยากจะรบกวนสอบถามคุณแม่น้องเจว่าทำอย่างไรคะ

[พ่อพี่เน็กซ์ กะน้องเนม]

N' Jay He's a good boy.

[MaMa n'JaY]

@ The Balcony, 27 September, 2010 ---- 4.44 PM.

วันนี้น้องเจขอไปเรียนบ้านครู (อีกแล้ว) ครูเองก็เปิดบ้านสอนด้วย มีน้องรันไปเรียนเป็นเพื่อน มะม๊าไปรับสายเกือบชั่วโมง ไปถึงมะม๊าเจอ Teacher Kitt ดีใจมากที่ครูเล่าพัฒนาการให้ฟังว่าน้องเจอ่านหนังสือ Ladybird ถึงเล่มที่ 3 แล้วและอ่านได้ดีมากกว่าน้องคนนึงที่อยู่ชั้นอนุบาล 3 อีก แต่มะม๊าก็แอบบ่นกะครูไปว่าอยู่ที่บ้านคุณแม่ให้อ่านไม่ค่อยยอมอ่านดี ๆ ติดเล่นมาก (คุณครูขมวดคิ้วทันทีแล้วย้ำอีกว่าน้องเจอ่านได้ดีมากครับคุณแม่) มะม๊าก็เลยบอกครูว่าเอาไว้มะม๊าฝากกล้องไว้กะครู ฝากครูถ่ายคลิปวีดีโอให้คุณแม่ดูให้ชื่นใจหน่อย รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่บ้านครู APOL มะม๊าอยากเห็นด้วยว่าเวลาอยู่กะครูน้องเจพูดอังกฤษได้ดีขึ้นบ้างมั๊ย แล้วก็มีติดเล่นเหมือนที่อยู่กะมะม๊ารึป่าว (เห็นครูเคยบอกว่าน้องเจพยายามพูดเลียนแบบเสียงและสำเนียงแบบครู ครูสอนอะไรจะกล้าพูดกล้าออกเสียง) --- ครูรับปากว่าจะถ่ายให้ ... :)

ไหน ๆ มะม๊าถ่ายคลิปเองไม่สำเร็จ ต้องขอให้ครูช่วยหน่อยแล้วววววว ... เผื่อว่าจะได้เอามาลงเพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการเดิมที่น้องเจเป็น มะม๊าจะได้ประเมินถูกด้วยว่าจะต้องปรับเปลี่ยนการสอนหรือใช้เทคนิค (แพรวพราว) อะไรเพิ่มบ้าง ... อิอิ!