เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
จากกระทู้แนะนำของห้องสมุด เว็บพันทิป โดย คนบ้านเดียวกัน
ลำดับต่อไปนี้ผมจะขอเน้นสิ่งควรปฏิบัติขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นการสร้าง input ซึ่งแปลภาษาชาวบ้าน นั้นก็คือการหาวัตถุดิบเพื่อที่จะได้มาซึ่ง output หรือผลลัพธ์ในขั้นสุดท้ายนั้นเอง
ผมนำหลักการนี้มาจากเว็บไซต์ www.antimoon.com ซึ่งเป็นชาวโปล(Polish) สองคนนี้เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองจนพูดได้เหมือนเจ้าของภาษาโดยที่ไม่มีโอกาสไปเรียนเมืองนอก ทั้งสองได้เสนอแนะวิธีการเรียนภาษาที่ทั้งคู่ได้ผ่านมามากมาย แต่ผมจะเน้นไปที่เรื่องของการหาวัตถุดิบให้ตัวเรา ในเรื่องของการศึกษาการพูดภาษาอังกฤษ Input ในที่นี้หมายถึงการเรียนคำศัพท์ใหม่ๆ เรียนประโยคหรือสำนวนใหม่ๆในแต่ละวัน หลักการนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเรียนภาษาของทุกภาษาในโลกนี้เลยก็ว่าได้
แต่เนื่องจากท่านผู้อ่านไม่ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีการใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา ดังนั้นการขวนขวายให้หูเรา หรือตาเราได้เห็นภาษาอังกฤษเป็นประจำจึงสำคัญมาก เด็กฝรั่งจะมีพ่อแม่ พี่น้อง พูดภาษาอังกฤษใส่หู ตลอด 24 ชั่วโมงดังนั้น ท่านผู้อ่านจะต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้ อย่างแรกคือหนังสือ อย่างที่สองคืออินเตอรเน็ต อย่างที่สามคือผู้ที่เราจะหามาพูดภาษาอังกฤษด้วย และอย่างที่สี่คือแรงบันดาลใจ
ผมขอสลับนำแรงบันดาลใจขึ้นมาอันดับแรกน่ะครับ เพราะผมถือว่าเราจะไปไหนไม่ได้เลยในสิ่งที่เรามุ่งหวังหากเราไม่มีแรงบันดาลใจเป็นตัวกระตุ้น คราวนี้คิดไปพร้อมๆกับผมนะครับ แรงบันดาลในการเรียนภาษาอังกฤษคืออะไรครับ…ห้ามตอบว่าอยากเก่งนะครับ…เพราะผมเชื่อว่าทุกคนอยากเก่งหมด
…ส่วนผมนั้นผมอยากพูดภาษาอังกฤษได้ตอนที่เห็น วีเจ ลูกครึ่ง หรือคนไทยสัมภาษณ์ฝรั่งปร๋อออกรายการทีวี ผมเห็นแล้วประทับใจมาก เก่ง พวกเขาเหล่านี่พูดภาษาอังกฤษได้เพราะ และในสมัยที่ผมยังอายุ 15 เองแฟชั่น โรงเรียนนานาชาติเริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้น เริ่มเห็นนักเรียนนานาชาติในชุดนักเรียนไม่เหมือนโรงไทยอย่างผม แถมยังพูดภาษาอังกฤษใส่กัน…บอกได้คำเดียวว่าตอนนั้นมองว่า เท่ห์มาก เก๋าสุดๆ อยากพูดได้…
แรงบันดาลใจแรกยังไม่โดน จนกระทั่งผมได้มารู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งโดยบังเอิญ เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เกิดและเติบโตในเมืองไทย แต่เป็นน่าสังเกต เพราะเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับแม่ซึ่งเป็นคนไทย พูดอังกฤษไม่คล่อง ส่วนบิดาชาวอเมริกัน ได้หย่ากับแม่ของเขาและได้แยกตัวออกไป เพื่อนผมคนนี้เรียนนานาชาติตั้งแต่เด็กๆ เรียนโรงเรียนนานาชาติที่มีแต่คนไทยทั้งนั้น เพื่อนฝรั่งไม่ค่อยมี ผมเลยสงสัยว่าทำไมภาษาอังกฤษเขาจึงดีกว่าภาษาไทย ทั้งๆที่สิ่งแวดล้อมมีแต่คนไทย ภาษาไทยทั้งนั้น เว้นแต่ที่โรงเรียน ผมมาทราบทีหลังว่า เพื่อนผมเขาคิดว่าเขาเป็นอเมริกันมากกว่าที่จะเป็นคนไทย (ผมกล่าวในแง่ของความคิดเท่านั้นมิได้มีเจตนาต่อต้านชาติใดๆทั้งสิ้น) เขาเลยเลือกที่จะพูดและปฏิบัติเหมือนกับชาวอเมริกันทั่วไป ทั้งๆที่อยู่เมืองไทยมาตั้งแต่เกิด
เขาบอกผมว่าเรียนภาษาไทยยาก เขาเลยเลิกเรียน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอ่านและเขียนได้จนถึงทุกวันนี้ และด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้มากที่สุด ทำให้เพื่อนผมเปิดรับและเข้าหาสิ่งที่เป็นภาษาอังกฤษมากกว่า ภาษาไทย เขาเริ่มพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ดูหนังฝรั่งแล้วจำคำพูดมาใช้ เริ่มมีเพื่อนในโรงเรียนที่พูดภาษาอังกฤษได้เหมือนกันเป็นกลุ่ม และใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากกว่าภาษาไทย จนทำให้ ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาแม่ของเขาไปในทันที ( ย้ำว่าไม่ใช่ภาษาแรกนะครับ แต่เป็นภาษาแม่)
อีกรายเป็นเพื่อนสนิทผมอีกคน เป็นชาวอินเดียที่ไม่เคยใช้ภาษาอังกฤษเลยจนอายุ ได้ 14 ปีจนครอบครัวย้ายมาเมืองไทย แล้วต้องเข้าโรงเรียนนานาชาติ ผมเคยสัมภาษณ์เพื่อนผม เพราะสงสัยมาตลอดว่าทำไมภาษาอังกฤษจึงกลายเป็นภาษาแม่ของเขา เขาบอกว่าแม่ของเขานั้นเริ่มพูดภาษาอังกฤษด้วยในบ้านผสมสลับกับฮินดี จนกระทั่งพูดอังกฤษล้วนๆ เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องให้ลูกพูดอังกฤษให้ได้ก่อนเข้าโรงเรียนนานาชาติ เพื่อนผมเริ่มพูดอังกฤษได้มากและค่อยๆ ลืมฮินดีไปตอน อยู่ม. ปลายที่โรงเรียนนานาชาติ
เพื่อนผมเข้าตั้งแต่ ม.ต้นน่ะครับ แต่เนื่องจากในโรงเรียนมีเด็กนักเรียนไทยเยอะมาก ทำให้เพื่อนผมอยู่กับกลุ่มที่พูดภาษาอังกฤษได้เท่านั้น เพราะเป็นภาษาเดียวที่สื่อสารกับคนอื่นๆได้ เพื่อนผมใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้นจนทำให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นภาษาแม่ไปเลยภายใน ระยะเวลา 11 ปีที่มาอยู่เมืองไทย ผมเจอเพื่อนคนนี้ตอนเรียนมหาลัยแล้วครับ…
กลับมาเรื่องแรงบันดาลใจ นี่ล่ะครับบุคคลทั้งสองคือแรงบันดาลใจของผม แล้วของท่านผู้อ่านล่ะครับ?
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้