เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

+ + + สิ่งที่ได้จากฟังแนะแนวการเรียนต่อระดับประถม + + +

::: MaMa n'JaY Diary @ September 14, 2010 :::

วันนี้ทางโรงเรียนจัดสัมมนาแนะแนวการศึกษาต่อระดับประถม มะม๊ากะปะป๊าเป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่ให้ความสนใจและใคร่อยากจะรู้แนวทางการสอนของโรงเรียนเพื่อประกอบการพิจารณา ว่าน้องเจเหมาะที่จะเรียนต่อที่นี่ หรือ เราจะย้ายเมื่อจบ อ.3

เมื่อได้ฟังแล้ว ... เลยได้รู้ว่าเรื่องการจัดการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนให้ความสำคัญหรือเรียกว่า "หัวใจ" ของการศึกษา ก็คือ ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้วิธีแสวงหาความรู้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้ "เก่ง ดี และมีความสุข" ซึ่งความเก่งนี้เด็ก ๆ จะต้องสามารถนำทักษะความรู้ไปใช้ได้จริง ในขณะเดียวกันต้องมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ดำรงไว้ซึ่งความดีและความเป็นไทยให้คงอยู่

มะม๊ามองว่าเรามาถูกทางแล้วนะครับลูก เพราะ "เก่ง ดี มีความสุข" เป็นเป้าหมายสำคัญที่มะม๊ามองเป็นอย่างแรก (และมะม๊าก็พยายามจะสร้างอย่างงั้นให้น้องเจ โดยที่น้องเจก็ต้องให้ความร่วมมือมะม๊าด้วย ถ้ามะม๊าสร้างคนเดียว น้องเจไม่ร่วม ก็เหมือนมะม๊ายัดเยียด เพราะอย่างงี้น้องเจจึงต้องเต็มใจเดินไปกะมะม๊าด้วย) ผอ. บอกว่า ระดับประถมทางโรงเรียนก็ยังเน้นให้เรียนแบบองค์รวม เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางเหมือนเดิม ได้เรียนรู้จริง ลงมือทำจริง และสิ่งที่เพิ่มมาคือที่มะม๊าสอนน้องเจด้วยเหมือนกัน (และทางโรงเรียนก็เล็งเห็นความสำคัญ ... เข้าทางมะม๊าเลย!) คือปลูกจิตสำนึกให้เด็ก ๆ ให้มี "จิตสาธารณะ" นึกถึงผู้คนรอบข้าง ไม่ทิ้งทั้งภาษาไทย แต่ก็ได้ต้องได้ภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน

โดยหลักสูตรการสอนของโรงเรียนยังคงยึดหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเป็นแนวทาง แต่เน้นเสริมด้านภาษาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจนเกิดเป็นองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีการส่งเสริมทักษะที่จำเป็นในชีวิต และจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ด้วย

ทางโรงเรียนได้ทำตารางเทียบโครงสร้างหลักสูตรแกนกลาง พ.ศ. 2551 ของกระทรวงและโรงเรียน ทำให้มะม๊าเห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ประถมต้นหรือประถมปลาย ทางโรงเรียนยังเน้นวิชาสำคัญ ๆ ทั้งภาษาไทย คณิต วิทย์ และอังกฤษ โดยมีจำนวนคาบต่อสัปดาห์เข้มกว่ามาก ในวิชาภาษาอังกฤษนั้น ทางโรงเรียนจะสอนทั้ง Grammar (สอนโดยครูคนไทย) ส่วน Phonics, Conversation, Spelling, Reading, Writing จะสอนโดยครูต่างชาติ และมีเสริมภาษาจีนตั้งแต่ ป.1 เป็นต้นไปด้วย

นอกจากฟังสัมมนาแล้วมะม๊าได้มีโอกาสได้เยี่ยมชมอาคารประถม นำโดยครูเต่าด้วยนะ มะม๊าได้เห็นกะตาเลยว่าทั้งห้องคอมฯ ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องสมุด ทันสมัยมากมาย (สมัยมะม๊าเด็ก ๆ ก็ยังไม่มีโอกาสได้เรียนอย่างนี้) ครูเล่าว่าการเรียนคอมฯ ครูไม่จำเป็นต้องเดินสอนตามโต๊ะ เพราะจอสกรีนทำได้ทุกอย่าง (สร้างความตื่นเต้นให้กะเด็กมากมาย) ครูสามารถ Touch จอให้เด็ก ๆ ดูและทำตามได้เลย ที่ห้องวิทยาศาสตร์เช่นกัน มีทั้งมุมชีววิทยา ดาราศาสตร์ เคมี และมีอุปกรณ์พร้อมสรรพมาก ๆ ซึ่งมีจอเช่นเดียวกับห้องคอม มีห้องศิลปะและงานช่าง ห้องดนตรี (และเมื่อเร็ว ๆ นี้โรงเรียนได้ซื้อที่ดินเพิ่มและเตรียมจะจัดให้มีแปลงเกษตรเป็นรูปธรรม หลังจากที่ปลูกกันในกระถางมาตลอด) เห็น ผอ.ว่าไม่ว่าจะดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ ก็สามารถฉายขึ้นจอได้เลย ห้องสมุดเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย สีสันในห้องน่าเข้าไปอ่านมากด้วย ตั้งแต่ อ.3 จะจัดครูและนักเรียนสลับเข้ามาค้นคว้าข้อมูลกันในห้องสมุด มะม๊าหลังเขาไปป่าวเนี่ย ??? ที่อื่นก็อาจจะมีแนวนี้ แต่มะม๊าไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ที่ "ชลบุรี" นี่นา ;) (มะม๊าก็เพิ่งมารู้ด้วยนะว่าโรงเรียนมีสนามฟุตบอล สนามเทนนิส นอกเหนือจากสระว่ายน้ำที่ใช้คลอรีนระบบเกลือ และสนามกีฬาในร่ม)

ผอ. เล่าถึงเทคนิคเฉพาะของโรงเรียนแล้วยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า ... ใช่เลย ก็คือ ทุก ๆ ต้นเทอมจะมีสัปดาห์นึงเป็น "การเรียนรู้แบบบูรณาการ" ที่เรียนไม่ต้องใช้หนังสือเลย จะเป็นการทำกิจกรรมล้วน ๆ ของครูและนักเรียน โดยเป็นการทำโครงงานร่วมกัน ผอ. ได้ยกตัวอย่างว่าสมมติว่าเรียนเรื่อง "อิยิปต์" ทั้งสัปดาห์นั้นจะเป็นการเรียนแบบต่อยอด ลงมือทำ ค้นคว้าข้อมูล หรืออาจจะต้องมีประดิษฐ์ชุดฟาห์โร ทำนองนี้ (มะม๊าฟัง ... โอ้ววว .. น่าสนุกจัง) นอกจากนั้นเทคนิคดี ๆ ของที่นี่คือ นักเรียนต้องได้คิด ค้นคว้า รู้จักวิเคราะห์ และสังเคราะห์ผล ทุกการเรียนจะมีการทำงานกลุ่มและเสนอผลงาน เด็ก ๆ ตั้งแต่ ป.1 เทอมสองเป็นต้นไปจะต้องเขียนบันทึกประจำวันทุกวัน เพื่อส่งเสริมการเขียน การใช้ภาษา การจัดการกระบวนการคิด กลั่นกรองออกมาเป็นตัวหนังสือ การท่องศัพท์ ซึ่งครูจะให้นักเรียน ป.1 เป็นต้นไป มี Dictionary คนละ 1 เล่ม ครูจะให้การบ้านเป็นศัพท์แต่ไม่มีคำแปล เด็ก ๆ จะต้องจดศัพท์แล้วหาคำแปล แล้วมาคุยกับครู และยังส่งเสริมให้มีการอ่านหนังสือนอกเวลา ซึ่งทุกวันศุกร์จะให้นักเรียนยืมหนังสือกลับบ้านคนละเล่มด้วย :)

บรรยากาศที่ทาง รร. สร้างให้เอื้อต่อการเรียนรู้ยังคงเหมือนสมัยอนุบาลคือ มีจำนวนนักเรียนที่จำกัด ไม่เกิน 25 คน (ซึ่งตอนนี้อยู่ราว ๆ 16 - 20 คนเท่านั้นเอง) สื่อการเรียนการสอนพร้อม ครูรับฟังและมีจิตวิทยาที่ดี และมีสังคมที่ดีด้วย ซึ่งตรงนี้มะม๊ารู้อยู่แล้ว และประทับใจมาตั้งแต่ต้น ;)

ฟัง ๆ ดูแล้ว ตั้งแต่ ป.1 เทอมสองน่าจะมีอะไรที่เข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด ซึ่งที่โรงเรียนนอกจากจะสอนคอมฯ เน็ต วิชาพื้นฐานแล้ว จะสอนให้เด็กรู้จักพิมพ์แบบสัมผัสด้วย ไม่ใช่จิ้มดีด ซึ่งก็ดีนะ .... :)

มะม๊าต้องบอกก่อนว่าโดยปกติมะม๊าประทับใจโรงเรียนนี้ตั้งแต่สมัยน้องเจเรียนเตรียมอนุบาลแล้วนะครับ เพราะเห็นว่าน้องเจเรียนรู้และเข้าใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ ครูก็มีเทคนิคดี ๆ ให้มะม๊าได้แอบนำเอามาใช้ตลอด และครูเองก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีเวลาที่มะม๊ามีปัญหาจัดการกะน้องเจ ซึ่งก็ได้ครูที่โรงเรียนเนี่ยและช่วยอีกแรง ...

วันนี้ก่อนสัมมนามะม๊าสังเกตปะป๊าว่าไม่ค่อยวางใจระดับประถมเท่าไหร่ มีข้อสงสัยมากมาย รวมถึงการต่อในระดับมัธยมด้วย พอฟังจบ มะม๊าว่า ผอ. คงตอบคำถามปะป๊าได้หลายคำถาม ซึ่งปะป๊าค่อนข้างจะคิดทาง positive มากขึ้นกับการเรียนแนวใหม่แบบนี้ แต่เรายังมีเวลาอีก 2 ปีกว่าที่จะคิดและวางแผนตรงนี้ ควบคู่กะทิศทางของน้องเจด้วย ถึงเวลานั้นมะม๊าปะป๊าน่าจะตอบโจทย์ได้ น้องเจเองก็น่าจะทำให้มะม๊าปะป๊าเห็นแนวทางเมื่อโตขึ้นกว่านี้ ว่าปะป๊ายังคงเลือกมองเป็น เซนต์คาร์เบรียล กะ มหิดลวิทยานุสรณ์ อีกรึป่าว

ส่วนมะม๊ามองว่าโรงเรียนร่มไม้นี้ ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่เรายังไม่ควรตัดออก เพราะเราได้เห็นจากที่น้องเจเรียนตอนนี้ว่ามีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเรายังไม่จำเป็นต้องไปเสียค่าแปะเจี๊ยะอะไรโดยไม่จำเป็น ;) ... เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาเราก็รู้ว่า เราสามคน พ่อ แม่ ลูก จะจัดการยังงัยกะชีวิตตัวเองดี ....

ปล. วันนี้มะม๊าเจอครูสุ ครูชมน้องเจว่ากล้าแสดงออกมากขึ้น ครูเลือกไปเชิญธงชาติด้วย เจอครูนุช ครูนุชบอกว่าวันนี้ test กขค .... ฮ ครูบอกว่าน้องเจเก่งมาก ตอบได้หมดเลยและฉะฉาน ไม่มีอาการงง (ทำครูนุชอึ้งเลย ครูนุชทำหน้าอึ้งให้มะม๊าดูด้วย ... มะม๊าเป็นปลื้มมมมคร๊าบบบ) Keep Going นะลูกนะ อะไรที่ดีอยู่แล้ว ก็รักษาไว้ อะไรที่ต้องปรับปรุง ก็ควรต้องปรับให้ดีขึ้น วันเวลา และวัยที่โตขึ้น จะทำให้น้องเจดีขึ้นครับลูก! ว่าแต่วันนี้ตอนเยี่ยมชมตึกประถม หน้ามะม๊ามีอะไรแปลกป่าวว๊า ..... ทำไมครูเต่ามองหน้ามะม๊าจัง (หรือว่าแสดงออกว่ามะม๊าตั้งใจฟังเป็นพิเศษน๊ออออ) :)
มาย้อนอ่านบล็อคที่มะม๊าเขียน มะม๊าลืมเขียนเล่าความประทับใจไปเรื่องนึง นั่นก็คือ ตอนที่มะม๊าเดินชมอาคารประถมอยู่นั้น เด็ก ๆ หลายห้องกำลังเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติอยู่ สิ่งที่มะม๊าสังเกตเห็น (และไม่เคยเกิดเลยกะนักเรียนรุ่นมะม๊า) ก็คือ คุณครูถามคำถาม เด็ก ๆ ยกมือกันพรึ่บเลย (แกมกวักด้วยนะ) เรียกหนูค่ะ เรียกผมครับ .. คุณครู มะม๊าเห็นแล้วเป็นปลื้มแทนคุณพ่อคุณแม่ของเด็กเหล่านั้น และดีใจแทนครูที่เด็ก ๆ ตั้งใจและพร้อมที่จะตอบคำถามไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม มะม๊าอยากให้น้องเจยกมือตอบอย่างนี้จัง! (ถ้าเป็นสมัยมะม๊าเรียนนะ คุณครูถาม เด็ก ๆ ก็คอยหลบหน้าหลบตา คุณครูอย่าสบตาหนู อย่ามองหนู แล้วก็อย่าเรียกหนูนะ หนูกลัว 5555+) มะม๊าปรบมือดัง ๆ ให้พี่ ๆ ประถมเลย เก่งมากก (และหวังด้วยว่าน้องเจจะเก่งเหมือนพี่ ๆ เค้านะลูก!)

Views: 638

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 12:13pm
ไม่มีที่สัตหีบจ้า มีที่เมืองชลที่เดียว

รร. เค้าพับโครงการอินเตอร์ไปก่อนหน้านี้ อาจจะเพราะว่าทำประชาพิจารณ์จากพ่อแม่ผู้ปกครองแล้วผลตอบรับไม่เวิร์ค เด็กต่างชาติที่มาเรียนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ครูที่ผ่านการคัดเลือกก็ยากแสนยาก (รร.ค่อนข้างใส่ใจกะเรื่องการเลือกครูมาก ๆ) ผอ.บอกว่าถ้าเปิดอินเตอร์ แรก ๆ น่าจะแรงซัก 2 ปี แต่จะไม่เวิร์คตรงคุณภาพของคุณครูและเด็ก ๆ ด้วย เพราะเด็กภาษาแม่ก็ไม่แข็งแรง ภาษาอังกฤษก็ยังงงๆ แล้วเอาต่างชาติ (เก่งจริงรึป่าวไม่รู้ คนไทยยังหายากเลย) มาสอนวิชาที่สำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เลข วิทย์ ฯลฯ จะรอดมั๊ย สิ่งนึงที่เห็นแน่ ๆ คือ "ความงงของเด็ก" ซึ่ง ทาง รร. ไม่อยากให้เป็นอย่างงั้นค่ะ ครูมองว่าควรจะได้ทั้งไทยและอังกฤษ โดยไม่ทิ้งวิชาอื่นด้วย ซึ่งกันก็เห็นด้วยและเดินมาทางนี้ด้วยเหมือนกัน แต่น้องเจจะเก่งหรือไม่ก็ต้องอยู่ที่น้องเจด้วย คงคาดหวังมากไม่ได้ ก็ต้องเข้าใจความต่างของเด็กแต่ละคนด้วย ;)

อืมมม .. ว่าแล้วก็นึกได้อีกเรื่องคือ ผอ. พูดดีมากว่า การเรียนภาษาไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่วินัยของคนเรียน ผอ.เล่าว่าตัวเองจบจากวัฒนาวิทยาลัย ต่อเตรียมอุดม และป.ตรีในมหาลัยในไทย ภาษาอังกฤษไม่กระดิกเลย แต่พอเรียนโทที่อเมริกา ตัดสินใจอยู่หอที่ไม่มีคนไทย ไม่ได้คบใครในหมู่คนไทย แค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง ได้มาเป็นกอบเป็นกำเลย ;)
Comment by แม่น้องโบอิ้ง on September 15, 2010 at 11:46am
แล้วชั้นประถมหรือป่าวค่ะแม่น้องเจ ชอบๆๆ โรงเรียนที่นี่จังเลย อนุบาลร่มไม้ จะน่ามีแถวสัตหีบบ้างอ่ะ
Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 9:06am
ขอบคุณมากค่าาาา ..
จริง ๆ จะบอกว่ากันเป็นคนมองโรงเรียนนี้ดีมาตั้งแต่ต้น ระบบระเบียบการเรียนการสอนค่อนข้างโอเค ใช้เหตุผล ไม่มีตีเด็ก สื่อสารกับผู้ปกครองบ่อย เวลามีปัญหาเราจะไม่ใช่คนสุดท้ายที่รู้เรื่อง ทางโรงเรียนจะใส่ใจและรีบส่งข่าวให้เรารู้ ไม่ปล่อยทิ้งไว้จนเลยเถิด และทุกเทอมจะมีใบประเมินครู โรงเรียน หรือฝ่ายต่าง ๆ ส่งมาให้เราได้แสดงความคิดเห็น สิ่งไหนดี หรือ ไม่ดี ทางโรงเรียนค่อนข้างรับฟังและปรับแก้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกันก็มองว่าหลายครอบครัวเห็นว่าโรงเรียนนี้ตามใจเด็ก เรียนแบบสบาย ๆ เรียนไม่หนัก ไม่มีอะไรที่ให้ท้าทาย กลัวว่าจะเผชิญความจริงในโลกที่โหดร้ายนี้หรือไม่ ... โจทย์ข้อนี้ ผอ. ตีแตกเลย .. คือ รร.เน้นการสร้างภูมิด้านร่างกายและจิตใจให้กับเด็ก คุณครูมองว่าเมื่อเด็กมีภูมิดี โตขึ้น เค้าก็จะสามารถปรับตัวได้ และรู้ผิดชอบชั่วดีแบบคิดเองได้ อันนี้กันเห็นด้วย (เหมือนว่ามันมีหิริโอตัปปะ อะไรทำนองนี้ รู้ดีสิ่งไหนควร ไม่ควร ดี ไม่ดี) กันมั่นใจว่าถ้าเราปูพื้นฐานดี สิ่งดี ๆ อื่น ๆ ก็น่าจะตามเข้ามา คืออาจจะไม่ทั้งหมดในโลกนี้ แต่เชื่อว่าเด็กสามารถปรับตัวได้เมื่อวัยเค้าโตขึ้น แต่หากภูมิไม่ดี อาจจะหลงผิดได้ง่ายกว่าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์น่ะค่ะ ... อันนี้นานาจิตตัง ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวว่าคิดยังงัย :) หลายคนที่พาลูกออกจาก รร. เพราะลูกสบายเกิน ไม่เคยเจอความโหดร้าย ไปอยู่โรงเรียนอื่นแล้วขอกลับมาใหม่ ผอ.สัมภาษณ์ว่าเพราะอะไรถึงอยากให้กลับมาที่นี่ ผู้ปกครองท่านนั้นเล่าว่าความเป็นจริงมันโหดร้ายเกินไป เช่น เด็กร้อยพ่อพันแม่ พูดจาหยาบคาย โกหก ขยายของ ไถเงิน เข้าไม่ถึงครู ไม่สามารถสื่อสารกับครูได้ ติดต่อครูยาก ทำนองนั้น ฯลฯ เค้าจึงนึกย้อนถึงที่ ผอ. ได้พูดถึงการสร้างภูมิคุ้มกันด้านจิตใจของเด็ก เห็นและเข้าใจเมื่อเกิดกับลูกตัวเองก็คราวนี้ ;) (อันนี้ก็อยู่ที่แต่ละครอบครัวอีกว่า บางคนก็ไปเจอ รร. ที่ดีกว่าก็มี) มองได้ทั้งแง่ดีและไม่ดี ... อยู่ที่ว่าแต่ละครอบครัวประสบพบเจอเหตุการณ์อะไรมา ;)
Comment by ทิพวัลย์ on September 14, 2010 at 11:17pm
คุณแม่น่ารักจังเลยค่ะ อ่านไปก็ยิ้มไปด้วย เห็นความรักของแม่มากๆ เลยค่ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service