เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

+ + + สิ่งที่ได้จากฟังแนะแนวการเรียนต่อระดับประถม + + +

::: MaMa n'JaY Diary @ September 14, 2010 :::

วันนี้ทางโรงเรียนจัดสัมมนาแนะแนวการศึกษาต่อระดับประถม มะม๊ากะปะป๊าเป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่ให้ความสนใจและใคร่อยากจะรู้แนวทางการสอนของโรงเรียนเพื่อประกอบการพิจารณา ว่าน้องเจเหมาะที่จะเรียนต่อที่นี่ หรือ เราจะย้ายเมื่อจบ อ.3

เมื่อได้ฟังแล้ว ... เลยได้รู้ว่าเรื่องการจัดการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนให้ความสำคัญหรือเรียกว่า "หัวใจ" ของการศึกษา ก็คือ ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้วิธีแสวงหาความรู้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้ "เก่ง ดี และมีความสุข" ซึ่งความเก่งนี้เด็ก ๆ จะต้องสามารถนำทักษะความรู้ไปใช้ได้จริง ในขณะเดียวกันต้องมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ดำรงไว้ซึ่งความดีและความเป็นไทยให้คงอยู่

มะม๊ามองว่าเรามาถูกทางแล้วนะครับลูก เพราะ "เก่ง ดี มีความสุข" เป็นเป้าหมายสำคัญที่มะม๊ามองเป็นอย่างแรก (และมะม๊าก็พยายามจะสร้างอย่างงั้นให้น้องเจ โดยที่น้องเจก็ต้องให้ความร่วมมือมะม๊าด้วย ถ้ามะม๊าสร้างคนเดียว น้องเจไม่ร่วม ก็เหมือนมะม๊ายัดเยียด เพราะอย่างงี้น้องเจจึงต้องเต็มใจเดินไปกะมะม๊าด้วย) ผอ. บอกว่า ระดับประถมทางโรงเรียนก็ยังเน้นให้เรียนแบบองค์รวม เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางเหมือนเดิม ได้เรียนรู้จริง ลงมือทำจริง และสิ่งที่เพิ่มมาคือที่มะม๊าสอนน้องเจด้วยเหมือนกัน (และทางโรงเรียนก็เล็งเห็นความสำคัญ ... เข้าทางมะม๊าเลย!) คือปลูกจิตสำนึกให้เด็ก ๆ ให้มี "จิตสาธารณะ" นึกถึงผู้คนรอบข้าง ไม่ทิ้งทั้งภาษาไทย แต่ก็ได้ต้องได้ภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน

โดยหลักสูตรการสอนของโรงเรียนยังคงยึดหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเป็นแนวทาง แต่เน้นเสริมด้านภาษาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงจนเกิดเป็นองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีการส่งเสริมทักษะที่จำเป็นในชีวิต และจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ด้วย

ทางโรงเรียนได้ทำตารางเทียบโครงสร้างหลักสูตรแกนกลาง พ.ศ. 2551 ของกระทรวงและโรงเรียน ทำให้มะม๊าเห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ประถมต้นหรือประถมปลาย ทางโรงเรียนยังเน้นวิชาสำคัญ ๆ ทั้งภาษาไทย คณิต วิทย์ และอังกฤษ โดยมีจำนวนคาบต่อสัปดาห์เข้มกว่ามาก ในวิชาภาษาอังกฤษนั้น ทางโรงเรียนจะสอนทั้ง Grammar (สอนโดยครูคนไทย) ส่วน Phonics, Conversation, Spelling, Reading, Writing จะสอนโดยครูต่างชาติ และมีเสริมภาษาจีนตั้งแต่ ป.1 เป็นต้นไปด้วย

นอกจากฟังสัมมนาแล้วมะม๊าได้มีโอกาสได้เยี่ยมชมอาคารประถม นำโดยครูเต่าด้วยนะ มะม๊าได้เห็นกะตาเลยว่าทั้งห้องคอมฯ ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องสมุด ทันสมัยมากมาย (สมัยมะม๊าเด็ก ๆ ก็ยังไม่มีโอกาสได้เรียนอย่างนี้) ครูเล่าว่าการเรียนคอมฯ ครูไม่จำเป็นต้องเดินสอนตามโต๊ะ เพราะจอสกรีนทำได้ทุกอย่าง (สร้างความตื่นเต้นให้กะเด็กมากมาย) ครูสามารถ Touch จอให้เด็ก ๆ ดูและทำตามได้เลย ที่ห้องวิทยาศาสตร์เช่นกัน มีทั้งมุมชีววิทยา ดาราศาสตร์ เคมี และมีอุปกรณ์พร้อมสรรพมาก ๆ ซึ่งมีจอเช่นเดียวกับห้องคอม มีห้องศิลปะและงานช่าง ห้องดนตรี (และเมื่อเร็ว ๆ นี้โรงเรียนได้ซื้อที่ดินเพิ่มและเตรียมจะจัดให้มีแปลงเกษตรเป็นรูปธรรม หลังจากที่ปลูกกันในกระถางมาตลอด) เห็น ผอ.ว่าไม่ว่าจะดูผ่านกล้องจุลทรรศน์ ก็สามารถฉายขึ้นจอได้เลย ห้องสมุดเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย สีสันในห้องน่าเข้าไปอ่านมากด้วย ตั้งแต่ อ.3 จะจัดครูและนักเรียนสลับเข้ามาค้นคว้าข้อมูลกันในห้องสมุด มะม๊าหลังเขาไปป่าวเนี่ย ??? ที่อื่นก็อาจจะมีแนวนี้ แต่มะม๊าไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ที่ "ชลบุรี" นี่นา ;) (มะม๊าก็เพิ่งมารู้ด้วยนะว่าโรงเรียนมีสนามฟุตบอล สนามเทนนิส นอกเหนือจากสระว่ายน้ำที่ใช้คลอรีนระบบเกลือ และสนามกีฬาในร่ม)

ผอ. เล่าถึงเทคนิคเฉพาะของโรงเรียนแล้วยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า ... ใช่เลย ก็คือ ทุก ๆ ต้นเทอมจะมีสัปดาห์นึงเป็น "การเรียนรู้แบบบูรณาการ" ที่เรียนไม่ต้องใช้หนังสือเลย จะเป็นการทำกิจกรรมล้วน ๆ ของครูและนักเรียน โดยเป็นการทำโครงงานร่วมกัน ผอ. ได้ยกตัวอย่างว่าสมมติว่าเรียนเรื่อง "อิยิปต์" ทั้งสัปดาห์นั้นจะเป็นการเรียนแบบต่อยอด ลงมือทำ ค้นคว้าข้อมูล หรืออาจจะต้องมีประดิษฐ์ชุดฟาห์โร ทำนองนี้ (มะม๊าฟัง ... โอ้ววว .. น่าสนุกจัง) นอกจากนั้นเทคนิคดี ๆ ของที่นี่คือ นักเรียนต้องได้คิด ค้นคว้า รู้จักวิเคราะห์ และสังเคราะห์ผล ทุกการเรียนจะมีการทำงานกลุ่มและเสนอผลงาน เด็ก ๆ ตั้งแต่ ป.1 เทอมสองเป็นต้นไปจะต้องเขียนบันทึกประจำวันทุกวัน เพื่อส่งเสริมการเขียน การใช้ภาษา การจัดการกระบวนการคิด กลั่นกรองออกมาเป็นตัวหนังสือ การท่องศัพท์ ซึ่งครูจะให้นักเรียน ป.1 เป็นต้นไป มี Dictionary คนละ 1 เล่ม ครูจะให้การบ้านเป็นศัพท์แต่ไม่มีคำแปล เด็ก ๆ จะต้องจดศัพท์แล้วหาคำแปล แล้วมาคุยกับครู และยังส่งเสริมให้มีการอ่านหนังสือนอกเวลา ซึ่งทุกวันศุกร์จะให้นักเรียนยืมหนังสือกลับบ้านคนละเล่มด้วย :)

บรรยากาศที่ทาง รร. สร้างให้เอื้อต่อการเรียนรู้ยังคงเหมือนสมัยอนุบาลคือ มีจำนวนนักเรียนที่จำกัด ไม่เกิน 25 คน (ซึ่งตอนนี้อยู่ราว ๆ 16 - 20 คนเท่านั้นเอง) สื่อการเรียนการสอนพร้อม ครูรับฟังและมีจิตวิทยาที่ดี และมีสังคมที่ดีด้วย ซึ่งตรงนี้มะม๊ารู้อยู่แล้ว และประทับใจมาตั้งแต่ต้น ;)

ฟัง ๆ ดูแล้ว ตั้งแต่ ป.1 เทอมสองน่าจะมีอะไรที่เข้มขึ้นจนเห็นได้ชัด ซึ่งที่โรงเรียนนอกจากจะสอนคอมฯ เน็ต วิชาพื้นฐานแล้ว จะสอนให้เด็กรู้จักพิมพ์แบบสัมผัสด้วย ไม่ใช่จิ้มดีด ซึ่งก็ดีนะ .... :)

มะม๊าต้องบอกก่อนว่าโดยปกติมะม๊าประทับใจโรงเรียนนี้ตั้งแต่สมัยน้องเจเรียนเตรียมอนุบาลแล้วนะครับ เพราะเห็นว่าน้องเจเรียนรู้และเข้าใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ ครูก็มีเทคนิคดี ๆ ให้มะม๊าได้แอบนำเอามาใช้ตลอด และครูเองก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีเวลาที่มะม๊ามีปัญหาจัดการกะน้องเจ ซึ่งก็ได้ครูที่โรงเรียนเนี่ยและช่วยอีกแรง ...

วันนี้ก่อนสัมมนามะม๊าสังเกตปะป๊าว่าไม่ค่อยวางใจระดับประถมเท่าไหร่ มีข้อสงสัยมากมาย รวมถึงการต่อในระดับมัธยมด้วย พอฟังจบ มะม๊าว่า ผอ. คงตอบคำถามปะป๊าได้หลายคำถาม ซึ่งปะป๊าค่อนข้างจะคิดทาง positive มากขึ้นกับการเรียนแนวใหม่แบบนี้ แต่เรายังมีเวลาอีก 2 ปีกว่าที่จะคิดและวางแผนตรงนี้ ควบคู่กะทิศทางของน้องเจด้วย ถึงเวลานั้นมะม๊าปะป๊าน่าจะตอบโจทย์ได้ น้องเจเองก็น่าจะทำให้มะม๊าปะป๊าเห็นแนวทางเมื่อโตขึ้นกว่านี้ ว่าปะป๊ายังคงเลือกมองเป็น เซนต์คาร์เบรียล กะ มหิดลวิทยานุสรณ์ อีกรึป่าว

ส่วนมะม๊ามองว่าโรงเรียนร่มไม้นี้ ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่เรายังไม่ควรตัดออก เพราะเราได้เห็นจากที่น้องเจเรียนตอนนี้ว่ามีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเรายังไม่จำเป็นต้องไปเสียค่าแปะเจี๊ยะอะไรโดยไม่จำเป็น ;) ... เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาเราก็รู้ว่า เราสามคน พ่อ แม่ ลูก จะจัดการยังงัยกะชีวิตตัวเองดี ....

ปล. วันนี้มะม๊าเจอครูสุ ครูชมน้องเจว่ากล้าแสดงออกมากขึ้น ครูเลือกไปเชิญธงชาติด้วย เจอครูนุช ครูนุชบอกว่าวันนี้ test กขค .... ฮ ครูบอกว่าน้องเจเก่งมาก ตอบได้หมดเลยและฉะฉาน ไม่มีอาการงง (ทำครูนุชอึ้งเลย ครูนุชทำหน้าอึ้งให้มะม๊าดูด้วย ... มะม๊าเป็นปลื้มมมมคร๊าบบบ) Keep Going นะลูกนะ อะไรที่ดีอยู่แล้ว ก็รักษาไว้ อะไรที่ต้องปรับปรุง ก็ควรต้องปรับให้ดีขึ้น วันเวลา และวัยที่โตขึ้น จะทำให้น้องเจดีขึ้นครับลูก! ว่าแต่วันนี้ตอนเยี่ยมชมตึกประถม หน้ามะม๊ามีอะไรแปลกป่าวว๊า ..... ทำไมครูเต่ามองหน้ามะม๊าจัง (หรือว่าแสดงออกว่ามะม๊าตั้งใจฟังเป็นพิเศษน๊ออออ) :)
มาย้อนอ่านบล็อคที่มะม๊าเขียน มะม๊าลืมเขียนเล่าความประทับใจไปเรื่องนึง นั่นก็คือ ตอนที่มะม๊าเดินชมอาคารประถมอยู่นั้น เด็ก ๆ หลายห้องกำลังเรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติอยู่ สิ่งที่มะม๊าสังเกตเห็น (และไม่เคยเกิดเลยกะนักเรียนรุ่นมะม๊า) ก็คือ คุณครูถามคำถาม เด็ก ๆ ยกมือกันพรึ่บเลย (แกมกวักด้วยนะ) เรียกหนูค่ะ เรียกผมครับ .. คุณครู มะม๊าเห็นแล้วเป็นปลื้มแทนคุณพ่อคุณแม่ของเด็กเหล่านั้น และดีใจแทนครูที่เด็ก ๆ ตั้งใจและพร้อมที่จะตอบคำถามไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม มะม๊าอยากให้น้องเจยกมือตอบอย่างนี้จัง! (ถ้าเป็นสมัยมะม๊าเรียนนะ คุณครูถาม เด็ก ๆ ก็คอยหลบหน้าหลบตา คุณครูอย่าสบตาหนู อย่ามองหนู แล้วก็อย่าเรียกหนูนะ หนูกลัว 5555+) มะม๊าปรบมือดัง ๆ ให้พี่ ๆ ประถมเลย เก่งมากก (และหวังด้วยว่าน้องเจจะเก่งเหมือนพี่ ๆ เค้านะลูก!)

Views: 638

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by MaMa n'JaY on September 16, 2010 at 11:33am
ดีเลย ชอบอ่านล่ะ อ่านแล้วสนุก เพลิน ;)
Comment by แม่น้องโบอิ้ง on September 16, 2010 at 11:28am
ก้อจิงอย่างที่แม่น้องเจ บอกอ่ะ ต้องขอบคุณที่แม่น้องมาบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังกันตลอดว่าอะไรเป็นอย่างไร แล้วจะมาเล่าให้ฟังบ้างว่าเวลาลูกไปโรงเรียนแล้วเป็นอย่างไร ค่ะ
Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 3:47pm
ก็ถ้ามีโอกาส ก็ดีนะ พอขึ้น อ.1 ก็ปร๋อเลย แต่ระวังนิดนึงตรงที่ว่ารู้เยอะเกิน แล้วไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งเคยเกิดกะน้องเจสมัยที่เรียนเตรียมอนุบาลแรก ๆ ตอนนั้นกันกะลังเห่อเด็กสองภาษา ไม่ถึงกะ OPOL แต่ก็สอนบ่อย พูดเยอะ เจอน้องเจพูดมาคำนึง อื้งไปเหมือนกันตรงที่ "มะม๊าก็สอนได้ ทำไมต้องไปโรงเรียนด้วย" ปรับกันอยู่เกือบเทอมเลย ต้องคุยกะครูประจำชั้น ช่วยกันแก้ปัญหา เพียงแต่ว่ากันไม่ได้เล่าว่าฝึกน้องเจเป็นเด็กสองภาษา แต่ครูคงสังเกตเห็นเอง ก็เลยให้ใช้วิธีปรับเวลาคุยกับน้องเจ น่าจะดี เพราะน้องเจรู้เยอะกว่าวัยเดียวกันมาก แต่ที่รู้สึกดีก็คือ ครูที่นี่ทำให้เรารู้ว่าเด็กที่เก่ง เด็กพิเศษ หรือเด็กทั่วไป ก็คือเด็ก ไม่แบ่งแยก ไม่ทำให้แปลกแยก ซึ่งทำให้ไม่มีอาการอิจฉาให้เห็น คุณแม่น้องต้นข้าว (เพื่อนของน้องเจ) ก็ชวนให้กันพาน้องเจไปเช็คอัจฉริยภาพนะ เพราะน้องต้นข้าวก็รอคิวอีก 7 เดือนถึงจะได้ทดสอบ แต่กันมองว่าน้องเจก็คือเด็กปกติทั่วไป ก็เลยขอบาย :) ให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า น้องเจคงไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพียงแค่เข้าใจในสิ่งที่ครูกะกันสอง ทำนองนี้มากกว่า ...

กันก็ไม่ใช่ภาษาอังกฤษเก่งหรอก ก็งู ๆ ปลา ๆ พอได้เฉย ๆ แต่ว่าสนุกที่ได้สอน สนุกที่น้องเจก็ร่วมเล่น ร่วมทาง ก็ทำให้มีกำลังใจ เพราะทำไปแบบไม่หวังอะไร ตั้งเป้าแค่ว่าวันนี้จะสอนเรื่องนี้ ก็สอน พรุ่งนี้จะสอนอะไรก็สอน วันไหนน้องเจดูเหนื่อย ก็พัก เล่นบ้าง ระบายสีบ้าง ผ่อนคลาย ไม่ซีเรียส และไม่เอาน้องเจไปเทียบกะเด็กคนอื่น (มันก็ทำให้ความคาดหวังลดน้อยลง จนหมดไปเลย มีความสุขดีออก) :D
Comment by แม่น้องโบอิ้ง on September 15, 2010 at 3:35pm
จิงๆๆ ก้ออยากชมคุณน้องเจนะค่ะ เพราะเข้ามาอ่านบ่อยครั้งเหมือน แต่ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็น ได้แต่นั่งเขาเก่งอ่ะ แต่ตัวอ้อเองไม่ได้เรื่องพูดเหมือนภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆๆ แต่น้องโบอิ้งเขาได้เยอะ กว่าเด็กเรียนชั้นอนุบาล1 เสียอีก แบบเกินคาดอ่ะ จับคู่ ได้abc ถามตอบถูกต้อง แต่บางทีก้อนึกๆๆ ไปแป๊บ เหอะๆๆ ก้อเขานะว่า อายุแค่ 2.1 ปี ได้แค่เก่งเกิดคาดเสียอีก ตอบรูปทรงได้ ถามสัตว์ตอบได้ ก้อเลยตัดสินใจให้ไปเรียนเตรียมอนุบาล จะได้พัฒนาเรื่องสังคม หลายๆๆ อย่างให้เขาค่ะแต่คงให้เรียนชั้นเตรียมนานหน่อย ประมาณปีกว่าๆๆ ได้อ่ะ ไม่รู้เกินไปอ่ะ ป่าว
Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 2:58pm
ตอนนี้น้องเจเขียนได้หมดแล้วนะ ตัวอักษร กขค ABC 123 ชื่อตัวเองทั้งไทยและอังกฤษ เขียนแบบไม่ต้องจับมือด้วยนะ น้องเจหัดเขียนเอง แล้วก็ไม่ได้ให้เขียนตามรอยประมากเท่าไหร่ ให้น้องเจเขียนแบบ Freehand ครูบอกว่าเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่ต้องให้ครูช่วย เพราะอยากเขียนเอง อยู่บ้านก็หัดเขียนเอง กันก็นั่งดู น้องเจบอกความแตกต่างของตัวอักษรได้ด้วยนะ แล้วใครเขียนไม่สวย เขียนไม่ถูก น้องเจจะบอกว่าเขียนผิดด้วยล่ะ :)
Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 2:56pm
เรียนตามเกณฑ์ก็ดีล่ะ ไม่เร่ง สมอง กะ พัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก ก็ได้เต็มที่ เร่งไป ไม่เวิร์คเท่าไหร่

น้องเจเกิดกรกฎาคมล่ะ ตอนที่ไปเข้า จะขอเข้า อ.1 เพราะเรามั่นใจน้องเจมาก แต่ว่าเกณฑ์ไม่ผ่าน ความรู้ผ่าน จำได้ว่าครูชมเลยว่าแยกสี บอกสีได้ทั้งไทยและอังกฤษ ครูให้ทำอะไรก็ทำได้ แต่ครูกลัวเรื่องการปรับตัว การช่วยเหลือตัวเอง เราก็เลยตามครู คือยอมให้น้องเจเรียนเตรียมอนุบาล ส่วนไหนที่เราอยากเสริม เราก็เสริมพร้อม ๆ กะที่ครูสอนเลย ตอนนี้อยู่ อ.1 ก็ดีเหมือนกัน ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้ ... ไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ ไม่ขอครูพาสต์ชั้นแล้ว ไม่อยู่ในหัวเลยล่ะ (จริง ๆ เคยอยู่ในหัวเมื่อตอนน้องเจเรียนเตรียมอนุบาล แต่พอเห็นลูกมีความสุขที่ได้เรียน ได้ไปโรงเรียน ก็เลยเลิกคิดไปเลย 5555+)
Comment by แม่น้องโบอิ้ง on September 15, 2010 at 2:49pm
ช่ายค่ะแม่น้องเจ เพราะแถวบ้านก้อมี โรงเรียนสองภาษาระยอง (บ้านฉาง) เป็นโรงเรียนลูกของโรงเรียนบ้านฉางการ์เด้น(อินเตอร์) ค่าเรียนถูกกว่าโรงเรียนแม่ อ่ะ ไม่ท่าทางพ่อน้องคงเหนื่อยกับค่าเทอม เลยไม่เอา เลยเลือกโรงเรียเนอร์เชอร์เรนโบว์แลนด์ ค่ะ รับเด็กจำกัดดีค่ะ แรกไม่สูงเกินไปแรกอยู่ที่22000บาทค่ะ แต่เสียค่าจองที่เรียน3000 บาทค่ะ หักกับค่าเทอมตอนเราจ่ายจริงค่ะ ก้อโอเคค่ะ โรงเรียนครูเยอะดี มีกิจกรรมให้ทำแบบสบายๆๆ เหมาะกับวัย กะว่าให้เรียนตามเกณฑ์ เพราะน้องเกิดสิงหาคมค่ะ ถามหลายต่อหลายคนมากๆๆ ไม่รู้จนเขารำคาญกันอ่ะป่าวค่ะ
Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 2:12pm
อึ้มมม .. ครูบอกว่าถ้าจะให้ลูกเข้าโรงเรียนอินเตอร์ ก็ขอให้เป็นอินเตอร์จริง ๆ ดูให้ดี ๆ และนักเรียนไทยไม่ควรเกิน 25% ของนักเรียนในห้องนะ (ผอ. ว่า 25% ก็เยอะไปด้วยซ้ำ ต้องดูดี ๆ เลยล่ะ) เพราะเดี๋ยวนี้โรงเรียนอินเตอร์มีเยอะ แบบ EP ก็เยอะ ;)
Comment by MaMa n'JaY on September 15, 2010 at 2:11pm
กันเอาคำพูด ผอ. มาเล่าต่อน่ะจ้ะ ;) แต่ก็เห็นด้วยนะ ผอ. เนี่ย ทั้งสวย ทั้งเก่ง เลย (ลูกชายที่กะลังโตเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก ก็น่ารัก สุภาพมากเลยด้วย)
Comment by แม่น้องโบอิ้ง on September 15, 2010 at 2:07pm
ก้อจิงอย่างที่แม่น้องเจบอกนะค่ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service