เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
Tags:
เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มนึงค่ะ มีบทความไว้ว่า
ไม้เรียวนั้นต้องใช้ในวัยที่เด็กยังไม่เข้าใจไม้เรียว
จึงจะได้ผล
"พระราชาผู้โง่เขลาและล้อมรอบไปด้วยเสนาบดีที่ซื่อสัตย์แต่ตาบอด”นี่อาจเป็นคำพังเพยเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กทารกที่วัยยังไม่ถึงขวบได้ดีที่สุด ทั้งนี้เพราะพระราชาผู้โง่เขลาคือทารกนั้นพูดอะไรก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นเสนาบดีที่ซื่อสัตย์แต่ตาบอดคือพ่อแม่ จึงทำทุกอย่างตามความต้องการของเด็ก
ถึงแม้ว่าพระราชาจะโง่เขลา ตอนที่ยังนอนอยู่เฉยๆ คงไม่มีปัญหาเท่าไรนัก แต่เมื่ออายุได้ 2-3ขวบ ก็ชักจะเอาแต่ใจตนเองจนพ่อแม่ทนไม่ไหวจึงเริ่มคิดดัดนิสัยกันในตอนนี้ ไม่ว่าเด็กจะทำอะไร พ่อแม่ก็ดุว่า ลงโทษ เปลี่ยนบทบาทจากเสนาบดีที่ซื่อสัตย์มาเป็น”คุณครูหน้ายักษ์” อย่างกระทันหัน แต่การอบรมสั่งสอนของ ”คุณครูหน้ายักษ์”มักไม่ได้ผล
ตัวอย่างเช่นในการกินอาหารและการขับถ่ายซึ่งเป็นเรื่องของสัญชาตญาณนั้น ควรกำหนดเวลาให้เป็นระเบียบเสียตั้งแต่แรกเกิดเด็กจะไม่ได้กินอยู่ตลอดเวลาจนอ้วนเกินพิกัด และไม่กลายเป็นเด็กที่ฉี่รดที่นอนเป็นประจำจนถึงชั้นประถม
ถ้าหากว่าพ่อแม่คิดว่า”อย่างน้อยก็อยากให้ลูกอิสระสบายในวัยทารก”จะกลับกลายเป็นผลร้ายต่อเด็ก เด็กทารกยังไม่เข้าใจเรื่องเข้มงวด ยังไม่รู้จักไม่เรียว แต่เด็กอายุเกิน 2-3 ขวบ รู้ซึ้งถึงความเจ็บของไม้เรียวแล้วดังนั้นการปล่อยตามใจในตอนแรกแล้วมาเข้มงวดในภายหลัง แทนที่จะได้ผลกลับทำให้เด็กต่อต้าน ด้วยเหตุนี้ไม้เรียวจึงควรใช้ในวัยเด็กที่ยังไม่รู้จักไม้เรียว
แต่อย่างไรก็ตาม การลงโทษด้วยการตี ดุว่า หรือแม้แต่การสอนควรอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผลด้วยนะค่ะ และที่สำคัญเมื่อลงโทษแล้วอย่าลืมอธิบายเหตุผลที่ได้ลงโทษเด็กด้วยค่ะ
เปลี่ยนเป็นสร้างวินัยเชิงบวก
ปกติเป็นคนที่ชอบตีลูกค่ะ (อิ อิ อิ) ยิ่งตอนเล็กๆ ยิ่งตีมาก พอเริ่มรู้เรื่องโตเริ่มไม่ตี และไม่ตี...ห่างไปในที่สุด
เราคิดว่า เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันในเรื่องของความดื้อและความ(หน้า)มึน ดังนั้นไม้เรียวก็ไม่อาจจะใช้ได้กับทุกคน
และคำพูดที่หลอกล่อหว่านล้อมเพื่อไม่ต้องตีเด็ก ก็ใช้ไม่ได้กับเด็กบางคน อันนี้ต้องเลือกใช้ตามสถานการณ์ค่ะ
เห็นด้วยค่ะ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนแค่พูดหรือใช้สายตา (อำมหิต) ก็สงบแล้ว แต่บางคนต้องถึงตัวค่ะ ลูกชายสองคนที่บ้านก็ใช้วิธีไม่เหมือนกัน แล้วแต่สถานการณ์ด้วยค่ะ
พยายามไม่ตีลูกด้วยอารมณ์เหมือนกัน แต่บ้างครั้งมันก็อดไม่ไหวเลยจริงๆ แหะๆ สรุปตีค่ะ แค่ให้หลาบจำกับบางพฤติกรรมที่ไม่สมควร และในเวลาที่เค้าดื้อรั้นเกินไป จนเอาไม่อยู่
พยายามจะไม่ตีลูกเหมือนกันค่ะและก็พยายามจะเลี้ยงลูกแบบวินัยในเชิงบวกเหมือนกันแต่มันก็เหมือนที่แม่น้องพลอยชมพูบอกเด็กแต่ละคนความดื้อไม่เหมือนกันบางครั้งอดไม่ไหวก็มีตีบ้างเหมือนกันตีให้จำค่ะแต่ไม่เคยจำยาวซะทีพอหายเจ็บก็เป็นอีกค่ะเดี๋ยวนี้แม่ต้องเปิดเน๊ตหาอ่านเกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยาในการเลี้ยงลูกว่าวัยนี้เขาจะมีพฤษติกรรมอย่างไรจะได้ช่วยให้เราเข้าใจเขาและช่วยให้เราใจเย็นขึ้น สรุปว่าตีเป็นบางครั้งแล้วแต่สถานการณ์เหมือนกันค่ะ
เคยตีค่ะ แต่ตอนที่เค้ายังไม่ค่อยเรื่องเท่าไหร่ แค่ลงโทษให้จำว่าผิด
พอโตขึ้น ซัก 3 ขวบ พูดคุยกันรู้เรื่อง เข้าใจเหตุผลก็เลิกตีค่ะ เพราะตีไปก็สงสารลูก และยิ่งตีลูกก็ยิ่งดื้อด้วย
ตีค่ะ(แต่ส่วนใหญ่จะหยิกและเอายางยิง) พยายามจะไม่ตีแต่ลูกยังเล็กเกินกว่าจะอธิบายเหตุผลได้ทุกเรื่อง(20 เดือน) ตอนแรกใช้วิธีทำเสียงดุแบบสอนสุนัข แต่ตอนหลังไม่ค่อยได้ผลเลยลงโทษทางร่างกายบ้าง แต่ถ้าเค้าร้องไห้งอแงจะไม่เคยตีนะคะ ใช้วิธีคุยและปลอบ แต่จะตีเพื่อหยุดพฤติกรรมนั้นๆ ในกรณีที่ไม่สามรถเบี่ยงเบนความสนใจไปอย่างอื่นได้
จริงๆ แล้วเด็กไม่ดื้อนะคะ อยู่ที่เราฝึก อย่างเวลาไปเดินห้างถ้าไปกับแม่เค้าจะชินกับการนั่งรถเข็น แต่ถ้ามีอาม่าหรือพ่อเค้าไปด้วย เค้าจะอ้อนขอให้อุ้มตลอดเวลา เพราะเค้ารู้ว่าสองคนนี้ควบคุมได้ด้วยเสียงร้องงอแง
เลี้ยงลูกเมืองไทยลำบากค่ะที่จะไม่ลงโทษ เพราะสังคมเราบางทีก็ยังไม่พร้อม และโดยส่วนตัวก็ไม่ได้คิดว่า การตีจะเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะเรามีวิธีการประณีประนอม ความใกล้ชิด การสอนชนิดอื่นๆ อย่างที่ฝรั่งก็ทำไม่ได้อย่างเราค่ะ เพียงแต่เราต้องระวังเรื่องอารมย์ และพยายามเอาเหตุผลใส่ลงไปมากๆเท่านั้น
เคยตีไปสองสามครั้ง แต่การตีของป๊อปคือตีเพื่อให้เค้ารู้ว่าทำผิด ไม่ได้ตีให้เจ็บ
คือหยิบผ่ามือเค้า หงายขึ้นมา และตีลงไปไม่ต้องแรงหลังจากที่เค้าทำผิดเลย
เช่น สถานการณ์ที่เค้าดื้อกับเรา เช่น บอกว่าไม่ให้เอาปากกาไปเขียนผนัง พูดแล้วเตือนแล้วไม่ได้ผล ก็ต้องขู่ว่าจะตี แล้วพอเค้าทำปุ๊ป เราตีเลย
I told you many times about this. You are not allowed to write things on the wall. แล้้วหยิบมือเค้าขึ้นมาตี ไม่แรงเลยค่ะ นิดเดียวเอง
I punished you because you broke one of our house rules.
เท่านี้ไทเปร้องไห้น้ำตาไหลพรากไม่มีเสียงสะอื้น และไม่ทำอีกเลย เค้าจำว่าเราโกรธจริง
ปกติเวลาเค้าดื้อ เค้าโดวยวาย เค้าจะทำเสียดัง แต่นี่ไม่เลย ร้องไห้เงียบๆแบบผู้ใหญ่
เพราะเค้าทราบว่าเค้าทำผิด และแม่เอาจริง
ป๊อปไม่ได้ตีลูกแรงๆ หรือตีพร่ำเพรื่อค่ะ ถ้าต่อรองกันได้ หรือไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ตีค่ะ
พยายามไม่ตีลูกด้วยอารมณ์โกรธด้วย เพราะว่าเด็กเค้าไม่เข้าใจว่าทำไมแม่โกรธแล้วต้องตีเค้าค่ะ
(คิดเองนะคะ เด็กอาจจะเข้าใจก็ได้)
สรุปว่าก็ตีค่ะ แต่ไม่ได้ตีแรง ไม่ตีพร่ำเพรื่อ และไม่ได้ตีด้วยอารมณ์ค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by