เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เริ่มเรื่องเลยนะคะ แยมรู้สึกอึดอัดใจมากเลยค่ะ จึงต้องมาขอคำอธิบายจากทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านตรงนี้ เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวของแยมได้รับการเลี้ยงดูในระบบข้อนข้างจะระเบียบวินัย คือถ้าทำอะไรผิดก็จะมีการทำโทษส่วนของสามีถูกเลียงมาแบบตามใจไม่เคยโดนตี ทำอะไรก็ไม่เป็นไรยังเล็กอยู่ และส่วนตัวสามีเองก็ไม่เคยถูกตี พอเรามาแต่งงานกันมีลูก เราเป็นครอบครัวเดี่ยว มีแยม สามี ลูก เวลาที่แยมห้าม เค้าก็จะไม่ห้าม เช่น ห้องครัว แยมจะกั้นไม่ให้ลูกเข้าได้ เพราะอันตราย ไม่ว่าลูกจะร้องอย่างไรแยมก็จะไม่ให้เข้า เวลาลูกอยู่กับแยมก็จะไม่กล้าเข้าเพราะกลัวแยมจะตี แต่สามีอของแยมกลับให้ลูกเข้าไปได้ตอนที่ลูกร้องขอ ไม่ว่าจะเป็นกะทะ หม้อ จานชาม ให้เล่นหมดเลยค่ะ เขาบอกว่าชั่งเถอะลูกอยากเล่น ให้เล่นไปเถอะ แต่ในทางกลับกัน สามีของแยมไม่ค่อยมีเวลาเลียงลูก แยมมีหน้าที่เลียงลูกเพราะฉะนั้น ก็ต้องเป็นไปตามกฏของแยมที่ตั้งไว้กับลูก เพื่อความปลอดภัย แยมอยู่กับลูก 2 คน เวลาแยมมาหลังบ้านเพื่อล้างจาน ล้างขวดนม ก็จะทำให้เขาอยากมาหลังบ้านด้วย ทีนี้ลูกก็จะไม่รู้แล้วว่าเคยห้ามเข้า แต่ป๊าให้เข้าได้ เขาก็จะร้อง จนแยมต้องเลิกทำงานหลังบ้านไปเลย แยมก็จะคุยกับสามี แต่ก็คุยกันไม่ค่อยได้ จนกลายเป็นทะเลากัน กลายเป็นปัญหาระหว่าง พ่อ-แม่ เพราะอีกคนหนึ่งเลี้ยงอย่างหนึ่ง อีกคนก็เลียงอย่างหนึ่ง เลี้ยงไม่เป็นไปในทางเดียวกัน เด็กก็จะไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ตอนนี้น้องเข้าจะติดป๊ามากเลย ถ้าป๊าไม่อยู่ก็จะร้องๆๆอย่างเดียวไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เล่ามา เพราะเป็นทุกเรื่อง ชอบพูดว่าลูกยังเล็ก ไม่รู้เรื่อง แยมก็จะพูดว่า 2.3เดือนแล้วนะไม่รู้เรื่อง แล้วที่ไปโรงเรียน สวัสดีคุณครูเป็น กินข้าวเองเป็น เข้าสังคมกับเพื่อนได้ดี ชอบช่วยเหลืองานคุณครู หมายความว่ายังไง ก็เลยกลายเป็นปัญหาไม่จบสิ้น ไม่รู้จะทำอย่างไร เขียนมาซะยาวเลยต้องขอโทษท่านผุ้อ่านด้วยค่ะเหมือนมาระบายให้ฟัง แยมต้องขอความคิดเห็นจากท่านผุ้อ่านด้วยนะคะว่าควรทำอย่างไรดี เพราะตอนนี้จากปัญหาของลูก กลายเป็นปัญหาระหว่าง พ่อ-แม่ไปแล้ว ตอนนี้เราไม่พูดกันค่ะ ไม่คุยกัน และก็ไม่กินข้าวด้วยกันแล้วค่ะ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านและตอบปัญหาของแยม เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้อีกครอบครัวได้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งนะคะ

Views: 391

Replies to This Discussion

ปัญหานี้เป็นปัญหาของพ่อและแม่ค่ะ

วิธีแก้คือคุณพ่อกับคุณแม่ต้องคุยกันให้เข้าใจ ตกลงกันให้รู้เรื่องถึงวิธีการเลี้ยงลูก แล้วก็ควรที่จะยึดถึงข้อตกลงตรงนั้นด้วย อย่าไปเปลี่ยนแปลงกฎบ่อย ยกเว้นกฎบางข้อที่อาจจะต้องเปลี่ยนก็ต้องคุยกันระหว่างพ่อและแม่ก่อน ลูกจะมีสับสนแน่นอน ถ้าพ่อและแม่สอนกันไปคนละอย่าง เด้กก็แน่นอนย่อมที่จะติดคนที่ตามใจมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเชื่อฟังคนนั้นมากกว่า

ถ้าคุณพ่อและคุณแม่ไม่สามารถคุยกันให้เข้าใจถึงวิถีทาง และวิธีการเลี้ยงลูกได้ ปัญหาของคุณแยมก็จะแก้ไม่ตกค่ะ

ขอให้ใจเย็นๆ ค่อยๆคุยกันด้วยสันติวิธี คิดถึงลูกเป็นหลักนะค่ะ อนาคตของลูกสำคัญทีสุดค่ะ
เป็นค่ะเป็น เป็นแบบนี้เลยค่ะ ยิ่งกว่านี้ด้วยค่ะ 5555

ขอพูดถึงตัวเองนะค่ะ
มันเป็นธรรมชาติของการมีลูกคนแรก ที่แม่ก็จะอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก รักที่สุด ดูแลดีที่สุด สร้างระเบียบวินัยเพื่อให้ลูกเป็นคนดี โดยลืมไปว่าลูกเป็นผลผลิตของคุณพ่อด้วยเหมือนกัน พ่อก็อยากจะให้ลูกโตในแบบที่ตัวเค้าเคยได้รับการเลี้ยงดูมา เราก็ว่าแบบเราดีกว่า ตอนลูกเล็กๆทะเลาะกันบ่อยมากๆๆๆๆๆๆ แต่อ๊อบจะพูดจะเคลียร์ตลอดเพื่อไม่ให้คาใจกันไป

ทีนี้ทุกเรื่องเลยรึป่าวค่ะที่ขัดแย้งกัน คุณพ่อเค้าต่อต้านทุกกฎของเรารึป่าว อ๊อบว่าในบางครั้งเราต้องยอมใช้กฎของคุณสามีบ้างเพื่อให้เค้าได้ภูมิใจ ว่าได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูก ให้ความสำคัญคุณพ่อด้วยอ่ะค่ะ พอแบบนี้อะไรๆก็พูดกันง่ายขึ้น ลองดูนะคะ...
คุณแยมคะ ใจเย็นๆ ปัญหานี้มีเกือบทุกบ้านคะ จะมากบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่กันไป ที่บ้านก็เป็นคะ สามีเป็นคนต่างชาติ เราโตมาด้วยพื้นฐานและวัฒนธรรมที่ต่างกัน ความเชื่อ ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ต่างกัน ทะเลาะกันบ่อยคะโดยเฉพาะเรื่องลูก เห็นด้วยกับคุณ pat นะคะ ที่อันนี้คุณพ่อ คุณแม่สื่อสารกัน ถ้าคุยกันแล้วทะเลาะกัน (เหมือนกันคะ ไปได้ไม่กี่น้ำ ก็ทะเลาะกัน) ใช้วิธีเขียนถึงกันดีไหมคะ เราจะได้มีเวลาคิดก่อนที่จะเขียนด้วย ตอนนี้ใช้วิธีนี้อยู่ ก็ดีขึ้น เพราะเวลาอ่านไม่เห็นหน้าอีกคนหนึ่ง ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ คิด พิจารณา แล้วคุยกันหาทางออกที่ดีที่สุดของครอบครัว ใจเย็นๆ นะคะ อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีสื่อสารกันไปเรื่อยๆ นะคะ แล้วแต่อารมน์ และสถานการณ์
ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นในเร็ววันนะคะ
เข้ามายืนยันค่ะว่าเป็นทุกบ้านจริงๆ เรื่องข้อขัดแย้งระหว่างการสื่อสารของคุณแม่กะคุณสามีนี่ บ่อยมากค่ะที่ต้องร้องหาดิกชั่นนารี่แปลภาษาภรรยาเป็นภาษาสามี ขนาดเป็นคนไทยด้วยกันนี่แหละค่ะยังพูดกันไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ทราบว่าทำไม ตอนเป็นแฟนก็เหมือนจะเข้าใจอะไรได้ง่ายไปหมด แต่พอมีลูกเหมือนคุยกันคนละภาษาซะงั้น ใช้วิธีเขียนค่ะ ออนเอ็มบ้าง เมล์คุยกันบ้าง หรือไม่ก็คุยกันเป็นภาษาอังกฤษซะเลยจะได้ไม่ต้องมีประชดหรือท่อนใส่อารมณ์มากนัก แต่เรื่องลูกเก้าสิบแปดเปอร์เช็นต์เราตัดสินใจค่ะ กฎของแม่คือไม่มีกฎ ถ้าไม่อันตรายตามสบาย แต่ถ้าจะอันตรายก็จะให้ลองดูเลยว่ามันเจ็บยังไง แล้วอธิบายตอนกำลังเจ็บตัวนั่นแหละจะจำแม่นไม่ดื้ออีกเลย ตอนตีก็มีบ้างจะไปฟ้องคุณย่าคุณยาย แต่บอกค่ะว่าดีดีเป็นลูกแม่ยังไงก็ต้องอยู่กับแม่อยู่ดี คุณยายคุณย่าก็อยู่ด้วยแป๊บเดียว คุณเพื่อนทุกคนที่โรงเรียนก็อยู่กับแม่ของเค้าทั้งนั้นแหละ หลังๆชีมีงอลค่ะ ชีว่าหม่าม้าอ่ะเป็นคุณแม่ของชี แต่ชีเป็นลูกสาวไม่ใช่ของหม่าม้าเป็นของดีดีเค้าเอง หม่าม้าห้ามกอด แต่ชีกอดหม่าม้าได้ค่ะ เลยต้องให้ชีท่องค่ะว่า....."หม่าม้าไม่ตีดีดีไม่ดื้อ" แล้วชีก้อจะโอเค สำหรับคนอื่นจะตีต้องมีเหตุผลค่ะ ขออนุญาติเจ้าตัวก่อนตีทุกครั้ง บอกด้วยว่าทำไมถึงต้องทำโทษ แล้วถ้าร้องไห้ชักดิ้นชักงอก็จะบอกว่าตามสบาย หม่าม้านั่งรอค่ะ ชักเสร็จ ร้องเสร็จ พร้อมจะคุยกันเมื่อไหร่ก็ลุกมาคุยแล้วกัน(เข้าใจว่าคุณลูกของคุณแยมน่าจะเข้าสู่วัยรุ่นสองขวบเหมือนดีดี..กำลังมีอารมณ์แปรปรวนค่ะ....ต้องให้เหตุและผลอธิบาย...ปกติป๊าจะใช้วิธีเบี่ยงเบนควาสนใจค่ะ...แต่ฝนคิดว่ามันเหมาะกับเด็กเล็กเท่านั้น สองขวบนี่คุยกันรู้เรื่องแล้ว...ก้อคุยกะป๊าค่ะว่าเราคิดยังไง...เรามีเหตุผลชี้แจงได้...เค้าก็โอเค)
แพทก็ใช้เหตุผลคุยกะลูกตลอดค่ะ ตั่งแต่เล็กๆเลย ทำโทษส่วนใหญ่จะ Time out อย่างเดียว ไม่ใช่แค่ซนแล้วทำโทษนะค่ะ บางทีที่ทำเพราะไม่เชื่อฟังแม่ก็มี ดูเหมือนโหดแต่ต้องทำเพื่อให้เค้าเชื่อฟังแม่ มีต่อต้านค่ะ เคยทำเมื่อไม่นานมานี้เอง น้องซีกำลังอยู่ในช่วงต่อต้ามมาก อะไรก็ไม่ ไม่ ขึ้นจากน้ำมา บอกให้ไปแต่งตัว เค้าก็บอกว่าไม่ พูด 2 ครั้ง พอครั้งที่ 2 ตอบไม่ปุ๊ป แพทให้เค้าออกไปยืนนอกบ้านทั้งที่ยังนุ่งแค่ผ้าขนหนูนั้นแหละ (อุณหภูมิก็ประมาณ 10 องศาค่ะ) ให้ยืนร้องไห้ซักพัก ถามเค้าว่าจะดื้ออีกไหม ถ้ายังมีต่อต้านอีก ก็ยืนต่อค่ะ แต่โอเคไม่แล้วยอมแล้ว ค่อยให้เข้ามาแต่งตัว กอดเค้าแล้วก็สอนเค้าว่าทำไมต้องทำโทษเค้า ช่วงนี้กำลังดื้อค่ะ ต่อต้านเยอะ ขอให้ได้พูดคำว่าไม่เถอะ เวลาแพททำโทษลูก ใครก็ห้ามมาเปลี่ยนคำสั้ง แม้แต่เด็กๆเค้าก็รู้ว่าถ้าแม่ทำโทษ ต้องให้แม่เป็นคนบอกว่าเลิกทำโทษถึงจะได้ คุณตาเค้าใจอ่อนสงสารหลาน ไปเปิดประตูให้หลานเข้าบ้าน น้องซีก็ไม่เข้า เพราะแม่ได้ได้เป็นคนบอกให้เข้า ถ้าพ่อเค้าทำโทษ ก็ต้องเป็นพ่อเค้าที่เข้าไปคุยเองว่าโดนทำโทษทำไมเพราะอะไร แล้วก็ต้องกอดกันเองด้วย ต้องการให้ลูกรู้ว่าที่ทำไม่ได้เพราะโกรธเค้า แต่เพราะต้องการให้เค้าเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่

แพทคุยกับแฟนแพทตลอดค่ะ เรื่องการเลี้ยงลูก จะสอนเค้ายังงัย มีขอบเขตแค่ไหน มีหลายทีที่พ่อเค้าใจอ่อนเพราะความที่เค้าไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่กับลูก ก็มักจะปล่อยๆไป เราก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง แต่จะไม่มีการหักหน้ากันต่อหน้าลูกหรือคนอื่่น ต้องให้เกียร์ติซึ่งกันและกันด้วย การที่ไปหักล้างคำสั่งกันตรงนั้นจะทำให้เด็กสับสน และพอเค้ารู้ว่าคำสั่งใครเหนือกว่าใคร ทีนี้เค้าก็จะไม่ฟังอีกคนค่ะ เด็กๆมักจะมีข้ออ้าง (ทำให้พ่อแม่ทะเลาะกันได้) ประมาณว่ามาขอแม่แล้วบอกว่าพ่อให้แล้ว บางครั้งเราต้องถามว่าพ่อให้จริงเหรอ ถ้าเค้าให้เราก็อาจจะต้องปล่อย แต่ระวังนะค่ะ ไม่ใช่ว่าเด็กๆจะโกหกตลอด แต่ก็มีที่บอกว่าแม่ให้แล้ว แต่จริงๆเราไม่ได้อณุญาตซักหน่อย พ่อกับแม่ต้องหนักแน่น แล้วก็คอยคุยกันให้ดีค่ะ อย่าทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ สอนลูกต้องไปด้วยกันค่ะ แยกกันไปไม่ได้ แล้วก็ต้องพยายามคุยกันด้วยเหตุผล รับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน
แพทเหตุการณ์คล้ายของต้นกล้าเลยค่ะ อาบน้ำเสร็จไม่ยอมแต่งตัวซักที ให้ออกไปยืนนอกห้องเหมือนกันแต่สลับกันคือนอกห้องร้อนนนนนนนนนนนน ในห้องเย็นนนนนนนนนนน 5555
ยังไงขอให้คิดถึงลูกเป็นหลักนะคะ อดทนที่จะหันหน้าคุยกันเพื่อลูก ลองคิดดูนะคะ กว่าเราจะมีเขาขึ้นมาได้และเลี้ยงโตมาขนาดนี้ เราต้องใช้เวลาเฝ้าทะนุถนอมเขาเท่าไรนะคะ เพราะฉนั้นอย่าปล่อยให้เรื่องที่เราพอจะแก้ไขได้ มาทำให้ครอบครัวเราไม่มีความสุขนะคะ การปรับความเข้าใจกันระหว่างสามีและภรรยา คือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่แนวทางการเลี้ยงลูกในทิศทางเดียวกันนะคะ สู้ๆนะคะ
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนค่ะ ต้องค่อยๆพูด ค่อยๆ เคลียร์กัน แต่ก็มีปรี๊ดแตก บ้างเหมือนกันคะ
แต่เราเป็นแม่ค่ะ เราใหญ่่่่ (บางครั้ง อิอิ) อย่างเจเจอยากจะสอนแบบ OPOL ก็ทำไม่ได้ เพราะพ่อเค้าไม่สอนบอกสอนไม่ได้เดี๋ยวตีกันตาย
เราเลยต้องสอนวิชาการ ทั้งไทย และ อังกฤษ เพราะอยากให้ได้ทั้ง2ภาษา ไม่ใช่อังกฤษอย่างเดียว ส่วนพ่อออกแนวเพื่อนเล่นตีกันต่อยกันไป เค้าอยา่กได้ลูกสาวเพราะกลัวไม่มีคนดูแลตอนแก่!! บอกที่สมุย พ่อ กะ ลูกชายไม่ค่อยถูกกัน บางทีเราสอนอยู่ มากวนทำให้ลูกเขวงี้ คอยขัดบ้างงี้ แต่สิทธิเด็ดขาดยังคงอยู่ที่เราคะ ยึดเอาไว้เองค่ะ

บางครั้งก็ไม่ใช่แค่พ่อ แม่ คนอื่นๆรอบข้างด้วย คอยตามใจซื้อของเล่น ให้มากมายทำให้น้องไม่เห็นค่าของของที่มีอยู่ โดยเฉพาะคุณยายของลูกหมู กลับไปกทม.ที ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ของเล่นเพียบ ตอนนี้ต้องขอร้องให้เพลาๆ ลงบ้างเด็กโตเร็วเผลอแป๊ปเดียวก็ใส่ไม่ได้แล้ว เห็นบางคนลุง ป้า น้า อาที่ไม่มีลูกคอยตามใจให้เงินมากมายจนเด็กเห็นเงิน 100 บาทว่าไม่มีค่าอะไร พอกลับไป ก็พ่อแม่นั่นแหละที่ลำบากเมื่อลูกไม่เห็นค่าของเงิน หรือ ของที่มีอยู่ โตขึ้นจะลำบาก โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นความรักแบบที่ผิดไป ถ้ามีของมากมายอยู่แล้วทำไม ไม่ลองเปลี่ยนเป็นให้ทุนการศึกษากับหลานๆ แทน เพื่ออนาคตบางบ้านฐานะไม่ดี ต้องมาตามใจลูกเพราะลูกบอกที ลุง ป้า ยังซื้อให้เต็มไปหมดเลย บางครั้งมันก็ลำบากที่จะพูด ส่วนตัวจะไม่เปรียบเทียบลูก กับเด็กอื่น จะใช้เหตุผลมาตั้งแต่แรก เด็กรู้เรื่องคะ ต้องฝึกตั้งแต่ยังเล็ก รอตอนโตก็สายไปเสียแล้วค่ะ คงต้องทำใจเย็น ค่อยๆ คุย ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ (ยากหน่อยนะคะ บางทีก็ทำไมได้เหมือนกันคะ มันปรี๊ด!!) เป็นกำลังใจให้นะคะ
แวะเข้ามาเก็บข้อมูลค่ะ..คุณแม่เก่งๆ ทุกคนเลยค่ะ
ขอแนะนำคุณแม่แยมนะ เรื่องแบบนี้อาจจะเป็นปัญหาแต่ปัญหาที่แม่น้องแยมพูดถึง ทางครอบครัวเราก็เคยเจอ เราเลยมาคุยว่าการจะเลี้ยงลูกแบบไหนและมีการสร้างเงื่อนไขขึ้นมาเมื่อลูกเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และคำว่าไม่เหมาะสมควรให้คุณพ่อและคุณแม่เป็นผู้กำหนดเอาว่าอะไรไม่เหมาะสม อะไรเหมาะสม แล้วก็หาทางแก้ไขมันทันที่ และขอแนะนำคุณแม่น้องแยมว่าควรให้ลูกเข้าไปในห้องครัวด้วยเพราะห้องครัวเป็นสิ่งที่เด็กอยากจะเรียนรู้มากที่สุด และคุณแม่ควรใช้เวลานี้สร้างระเบียบให้กับลูกโดยการให้ใช้ช่วยหยิบจับในสิ่งที่คุณแม่ต้องการและให้เก็บของเมื่อคุณแม่ใช้เสร็จ และควรบอกว่าสิ่งไหนควรไม่ควรเล่น เพราะเด็กจะเกิดการเรียนรู้ได้เร็ว
Attachments:
แม่แยมคะ..แม่น้องแทนก็ให้น้องแทนเข้าไปในครัวเหมือนที่คุณวิภาวรรณแนนำนะคะ...คุณแม่จะสอนให้รู้เรื่องเตาไฟร้อน...หม้อร้อน..และเวลาที่สามารถมาช่วยคุณแม่ทำกับข้าวได้...เวลาทอดน้ำมัน..ไม่ให้เข้าค่ะ...คุณแม่จะดุแบบสุดๆ...ทุกครั้งที่น้องเข้ามาเจอตอนคุณแม่ทอดอยู่..คุณแม่แค่ทำตาแข็งๆใส่..เดินถอยหลังกลับเข้าด้านในเลยค่ะ...

ในครัวเป็นโลกแห่งการเรียนรู้จริงๆค่ะ...มีของใช้หลายอย่างที่แกอยากสัมผัส....คุณแม่ให้แกช่วยตำกระเทียม..เด็ดผัก..ทิ้งขยะและล้างชาม..สนุปใหญ่เลยค่ะ...ล้างไป..ตัดน้ำไป..montess ชั้นยอดเลยค่ะ

เรื่องที่คุณแม่น้องเนยห่วง..ทางนี้ก็ห่วงค่ะ..หากไม่มีใครอยู่ในครัว..จะล๊อคห้องครัวค่ะ...เจตห้ามเข้าตอนไม่มีผู้ใหญ่...
เป็นกำลังใจให้นะคะ...

ฝากอีกเรื่องคือการขึ้นบันได...ต้องสอนให้ขึ้นลงเป็นนะคะ..แต่ต้องสอนให้รู้ว่าจะขึ้นลงได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยค่ะ...บันไดเป็นอีกเรื่องที่เราต้องระวังนะคะ
สวัสดิคะคุณแม่น้องแทน ชื่อลูกชายของดิก็ชื่อน้องแทนเหมือนกันตอนนี้น้องแทนอายุได้ 1 ปี 7 เดือนแล้วคะ ดีใจนะคะที่ได้รู้จัก

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service