เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

สวัสดีค่ะ ดิฉัน ณิชาวรรณ ไกรสนาม คุณแม่น้องฟรัง ด.ช.ณฐกร งามผิว อายุ 11 เดือน ดิฉันได้เจอกับหนังสือ เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ เกิดความสนใจและอ่านเพียง 2 วันก็จบเล่ม เป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และเกิดแรงบันดาลใจ และตั้งใจที่จะสอนภาษาให้ลูก เพราะเดิมทีเป็นคนชอบภาษาอยู่แล้ว แต่โอกาส และการศึกษาที่ไม่เกี่ยวข้องกันจึงไม่สามารถที่จะฝึกได้ เลยถือโอกาสที่จะฝึกไปพร้อมกับลูก คือ เริ่ม ABC พร้อมกันกับลูก โดยมีคุณพ่อเป็นคนช่วย (แต่คุณพ่อขอพูดภาษาไทยนะค่ะ) เพราะไม่มีเวลาในค้นหา (เราทำงานทั้งคู่ค่ะ กลางวันลูกอยู่เนิสเซอรี่ กลางคืน และเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้นที่ดิฉันฝึกพูดกับลูกค่ะ) ตอนนี้พูดภาษาอังกฤษกับลูกตลอดค่ะ นึกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตอนแรกเขาจะงง ไม่ค่อยจะสนใจดิฉัน แต่พออยู่กับคุณพ่อเขาจะอ้อแอ้กับคุณพ่อตลอด หลังจากย่างอาทิตย์ที่ 2 เวลาอยู่กับดิฉัน 2 คน เขาก็จฟังและเริ่มตอบสนอง ในสิ่งที่ดิฉันพูด เช่น fish เขาก็จะชี้ที่ ปลา ดิฉันทำอย่างนี้ทุกวัน ตอนเช้าก่อนไปเนิสฯ ตอนเย็นหลังจากกลับจากเนิสฯ แต่บางครั้งเขาก็ยังเมินๆ อยุ่บ้าง ยิ่งเวลาอยู่กับคุณพ่อเขาจะไม่สนใจดิฉันเท่าไร (จากการอ่านหนังสือดิฉันเข้าใจดีว่าเขาคงฟังไม่รู้เรื่อง) ตอนนี้ย่างอาทิตย์ที่ 3 แล้วค่ะ น้องเริ่มตอบสนองมากขึ้น เช่น เปิดสวิชไฟเอง โดยที่ดิฉันพูดเป็นภาษาที่ 2
ปัญหา/อุปสรรค
ดิฉันพูดกับลูกแรกๆ ก็ไม่กล้าพูดเท่าไรการออกเสียงตัวเองก็รู้ว่าบางคำออกเสียงไม่ถูกต้อง แต่หากเราไม่มั่นใจลูกก็อาจจะเป็นคนไม่มั่นใจตามก็ได้ ก็พยายามพูดให้ฟังชัด และพยายามพูดต่อหน้าสาธารณชนด้วย วันหนึ่งดิฉันพูดกับลูก และมีเพื่อนยืนอยู่ด้วย ออกเสียงผิดค่ะ โห เพื่อนคนนี้ทักเสียงดังมากจนคนอื่นได้ยิน(โชคดีเป็นคนใน office ด้วยกัน) และต่อด้วยประโยคว่า ฉันเห็นเธอพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ พูดผิดอย่างนี้ สงสารลูกเธอจังอนาคตจะเป็นยังไง เป็นไงละดิฉันหน้าเหลือ 2 นิ้วเลยค่ะ อายมาก และก็มีอีกคนเป็นผู้ชายก็แทรกขึ้นว่า อะไรลูกยังพูดไม่ได้สอนให้พูดภาษาอังกฤษแล้วหรือ เอาภาษาไทยให้รอดก่อนมั๊ย ดิฉันพูดอะไรไม่ออกค่ะ พยักหน้า ยิ้มๆ ทำให้เป็นเรื่องตลก แต่ในใจมันพังทลายหมดแล้วความตั้งใจ ความมั่นใจ หลังจากนั้นทำให้ไม่กล้าที่จะพูดกับลูกในที่สาธารณชนอีก
แรงบันดาลใจ
ดิฉันเงียบกับลูกอยู่ 2 วัน คิดว่าหากเรามัวแต่อาย มัวแต่คิดว่าสิ่งที่เราทำไม่ถูก แล้วความหวังของเราละ อุตส่าห์ตั้งใจทำ แต่จะล้มเลิกกับคำพูดที่เขาพูดมาไม่กี่คำหรือ ดิฉันคิดว่าเปลี่ยนจากความกังวลใจ เป็นประสบการณ์ให้เราแล้วกันเราพูดผิดเขาทักก็คิดว่าเขาสอนเราแล้วกัน และพยายามหาแรงบันดาลใจต่างๆ มาใส่ โดยมีสามีเป็นคนแนะนำและให้กำลังใจตลอด
ดิฉันจึงอยากเป็นสมาชิกครอบครัว สองภาษาฯ เพื่อจะได้มีวิธีการ หรือเทคนิคใหม่ๆ กับดิฉันบ้าง ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ ที่สำคัญขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะค่ะ

Views: 332

Reply to This

Replies to This Discussion

สวัสดีครับ

ดีใจที่คุณแม่สามารถพากำลังใจตัวเองกลับมาได้นะครับ ขอเข้ามาให้กำลังใจนะครับ

สำหรับผมกับคุณแม่น้องภูมิ เราคิดว่า
"เราคิดเรื่องสองภาษาแบบนี้ อยากสอน อยากปลูกแบบนี้ แล้วก็ลงมือทำ ลูกเรา โอกาสของเรา จะดีมากหรือไม่ก็เป็นการตัดสินใจของเรา ไม่ใช่เพราะคนอื่น (ไม่ใช่ไม่รับฟังคนอื่นนะครับ แต่สุดท้าย เราต้องตัดสินใจเองเพื่ออนาคตของลูกเราครับ)"

เป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกันครับ
ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับกำลังที่อยู่เคียงข้าง
เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้ลูกอายุ ๙เดือน กำลังจะเริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษกับลูกเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน เพราะภาษาของเราก็ไม่ค่อยจะดี แต่จะพยายามเพื่อเจ้าตัวเล็กของเรา
คนอื่นผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่...ลูก...การศึกษาของลูก..อยู่กับเรา...
ท้อ..ก็มาหาแนวร่วมในเวปนะค่ะ ติดขัดเรื่องคำศัพท์ก็เข้าห้องอิงลิชคลับ
ที่เหลืออยู่ที่คุณแม่ + การฝึกฝนค่ะ

Practice makes perfect นะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เราน่ะ ขอเป็นกำลังใจช่วยนะ จริงเราเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่สิ่งทีเราก็เพื่อลูกเรา เพื่ออนาคตของลูก เราไม่ได้หวังว่าจะให้ลูกเราเป็นอัจฉริยะ หรือต้องการจะเป็นญperfect mom เราเพียงแค่อย่างน้อยเราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ จะได้ไม่ผิดหวัง ว่าทำไมตอนนั้นไม่ได้ทำ ได้ไม่ได้ก็อยู่ที่เค้าจะรับน่ะ
บางทีเราว่าเราก็พูดกับลูกไม่ถูกเหมือนกันนะ ผิดบ้างถูกบ้าง แต่เอาเป็นว่าสื่อสารกันเข้าใจก็พอแล้ว เราคิดแบบนี้ล่ะ แต่ก็พยายามหาข้อมูลที่ถูกต้องให้เหมือนกัน
เป็นกำลังใจช่วยนะ และเป็นกำลังใจให้ตัวเองเหมือนกัน เราน่ะดีใจนะ ที่มีเวปนี้ เพราะทุกคนที่เข้ามามีจุดประสงค์เดียวกัน สู้สู้นะ
คุณก็เหมือนดิฉันคะ ดิฉันเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่พร้อมลูกเลยบ้างครั้งก็นึกไม่นอก ก็เงียบ แต่ก็พยายามให้ลูกจำคำศัพท์ต่าง ๆ ค่ะ
เพราะว่าเราเริ่มรู้จักโครงการเลี้ยงลูก 2 ภาษา ไม่นานนักหลังจากกวันที่ออกรายการครอบครัวเดียวกันคะ
เป็นกำลังให้นะค่ะและตัวเองก็จะไม่ยอมแพ้ จะเข้าเวปบ่อย ๆ เพื่อศึกษาคำศัพท์ หรือใครมีอะไรดี ๆ แนะนำก็ยินดีนะค่ะ คุณแม่น้องภูมิใจคะ
ดิฉันก็เจอเหมือนกันค่ะเวลาพาลูกไปเล่นกับเพื่อนๆ เขาเราก็จะพูดภาษาอังกฤษพ่อแม่เพื่อนลูกเขาก็จะมองแปลกๆ ประมาณว่าทำไมไม่พูดภาษาไทยกับลูกอะไรประมาณนี้ และตอนนี้น้องเบสท์ก็เรียนเตรียมอนุบาลหลักสูตร MEP กับอาจารย์ต่างชาติก็มีบรรดาแม่เพื่อนๆ ลูกเราเม้ากันว่าเรียนไปก็เหมือนเดิมสิ่งแวดล้อมก็มีแต่คนไทยเดี๋ยวเข้าโรงเรียนก็เจอเพื่อนพูดแต่ภาษาไทยเรียนไปก็เสียเงินเปล่า แต่คำพูดเหล่านี้มันไม่มีความหมายกับดิฉันเลยค่ะ เพราะดิฉันคิดว่าสิ่งที่เราทำให้กับลูกต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราเลือกแล้ว อย่างการไปเรียนภาษา MEP กับครูต่างชาติเงินที่เยนก็เป็นเงินของเราแล้วจะมาเดือดร้อนทำไม? และเราเองก็ต้องการปูพื้นฐานที่ดีให้กับลูกเราเพราะเราเชื่อในเรื่องศักยภาพของเด็กเพราะเราเคยอ่านหนังสือ"กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสีย" ตั้งแต่เราตั้งครรภ์แล้ว มีพี่ที่รู้จักรเขาเป็น Auditor ให้กับบริษัทที่เราทำงานอยู่เขาเป็นคนเก่งมากและน่าเชื่อถือคนหนึ่งที่เรารู้จักเราก็เลยคิดว่ามันคงดีและมีประโยชน์เขาจึงซื้อมาฝาก พอลูกเราเลิกจากโรงเรียนกลับมาบ้านก็มีดิฉันคอยพูดคุยกับเขาให้เขาคุ้ยเคยกับภาษาเป็นภาษาที่สองและเป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติไปในตัว เราต้องทำใจเราให้เป็นดั่งภูเขานะคิดซะว่าคำพูด คำนินทา มันพัดผ่านเข้ามาเป็นเหมือนลม, แสงแดด,สายฝนหรือเหมือนพายุ แต่ยังไงก็ภูเขาอย่างเราก็ยังตั้งอยู่ที่เดิมไม่หวั่นไหว สู้ต่อไปนะคะถ้าเพื่อนเขาบอกว่าเราออกเสียงผิดก็ขอบคุณเขาไปเลยแล้วก็ขอสำเนียงที่ถูกต้องจากเขาแล้วบอกเขาว่าถ้าเราออกเสียงผิดอีกก็ช่วยแนะนำเราด้วยนะ ดิฉันเองก็ออกสำเนียงผิดบ่อยเหมือนกันแต่คนที่ทักจะเป็นลูกชายคนโตแล้วดิฉันก็จะให้เขาออกเสียงให้ฟังเพราะเขาเรียนกับอาจารย์ชาวต่างชาติมาตั้งแต่เล็กตอนนี้เขาก็อายุ 11 ขวบ เพราะฉนั้นสำเนียงเขาจะดีกว่าเรา คุณแม่ก็ต้องยอมให้คุณลูกเป็นครูให้ซะเลย สู้ๆๆๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ดิฉันขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคน(ทุกกระทู้) นะค่ะที่เป็นทั้งกำลังใจ และผู้แนะนำ ซึ้งใจมากค่ะ อย่างน้อยรู้สึกเหมือนมีคน
อยู่รอบข้างดิฉันและน้องฟรังเยอะมาก ขอบคุณค่ะ
หากมีวิธีการฝึก หรือ สื่อ สอนใหม่ๆ ขอความกรุณาช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ก็รู้สึกว่าสังคมไทย ยังไม่เปิดกว้าง หากเราจะรอให้เก่งพร้อมลูก แล้วเมื่อไหร่ล่ะ....เราก็ถือโอกาสฝึกไปพร้อมกับลูกเสียเลย ก็ดีเสียอีก มีคนมาพูดสบประมาทแบบนี้ ยิ่งดีเลยนะ ทำให้เราอยากจะพยายามให้ได้อย่างที่หวัง ตั้งใจ ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิด ทุกอย่างอยู่เกิดจากการฝึกฝนและ เรียนรู้ ดิฉันเองก็พูดไม่เก่ง เผลอ ๆ พูดผิดด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่สิ้นหวัง พยายามหา และฝึกฝนตามที่ คุณพ่อบิ๊กแนะนำในหนังสือ สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง ใช้คอมพิวเตอร์ ทุกวัน ดั้งหน้า โฮมเพจ เป็น http://go2pasaซะเลย จะได้คอยเตือน ตัวเอง เพื่อลูก ๆๆๆๆๆๆ อย่างนี้ให้เห็นทุกวัน พูดกับลูกวันละนิดละหน่อย เช่น อยากดูการ์ตูน ดูเรื่องอะไร ชอบไหม ฯลฯ ก็ให้พูดภาษาอังกฤษ อย่างนี้ทุกวันดิฉันมั่นใจว่าลูก จะต้องจำได้ แน่นอนค่ะ ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ลูกก็พูดภาษาไทยได้แล้ว แต่เราบอกว่าถ้าลูกอยากทำอะไร ลูกก็พูดอังกฤษนะคะ เอาน่า สู้ ๆๆๆๆๆๆ เพื่อเจ้าตัวเล็กค่ะ
คนไทยก็แบบนี้ล่ะครับ อะไรที่ตัวเองไม่คุ้นเคย ไม่เคยทำ ก็ติไว้ก่อน ดูถูกกันไว้ก่อน

ไว้รออีกซักสองสามปี ส่งลูกไปคุยกะเค้าเลย ให้พูดภาษาอังกฤษได้แพ้เด็ก จะรู้ซะมั่ง :D
ขอเป็นกำลังใจให้คุณณิชาวรรณด้วยคนค่ะ ยังไงก็ลูกของเรา อนาคตของเขาขึ้นอยู่กับเราค่ะ อะไรที่คนอื่นเค้าทักเราก็เอามาเป็นข้อคิดแทนแล้วกันค่ะ จะได้ไม่เครียด สู้สู้ค่ะ
ดิฉันแรกเริ่มก็อายอายคะ พอพูดจีนกับน้องอ้ายอ้าย น้องเขากลับชอบเลยทำให้เรามีกำลังใจพูดมาก
ขึ้นค่ะ คุณแม่สู้ๆนะค่ะ ตอนนี้ดิฉันกำลังฝึกน้องภาษาที่สามอยู่ค่ะ อังกฤษไงค่ะ ต้องหาศัพท์เพิ่มทุกวันเลยทำให้เราเก่งขึ้นด้วยค่ะ
เพราะเขากำลังอยากรู้อยากเห็นเลยค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service