เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ี้ครอบครัว 4 ภาษา ของผม ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น กับลูกชาย 2 คน

ขอบคุณเจ้าของเวบที่สร้างเวบที่น่ารักและเป็นประโยชน์มากๆสำหรับอนาคตของชาติในอนาคตเช่นนี้ และตรงกับสิ่งที่ผมทดลองกับลูกทั้งสองคนมาตลอด 9 ปีที่ผ่านมาแต่ผมไม่ได้ใช้วิธีพูดกับลูกเป็นภาษาใดภาษาหนึ่งผมจะพูดปนกันไปหมด และผมก็ไม่ได้ เข้มงวดในการพูดคุยกับลูกๆสักเท่าไหร่ พอลืมตัวก็จะพูดภาษาไทยกับเขาไปทุกทีผลที่ได้จึงไม่ได้อย่างที่ผมตั้งใจสักเท่าไหร่แต่คิดว่าได้ในระดับหนึ่ง
เพราะในช่วงแรกๆที่ระดับภาษาของผมไม่ดีเวลาจะพูดกับลูกๆก็กลัวจะผิดผมคิดว่าพ่อแม่ทุกคนคงเคยคิดแบบนี้แต่
ผมก็พยายามทำเท่าที่ทำได้ในขณะนั้น พอดีได้เจอหนังสือ สองภาษาเล่มนี้ที่ร้าน ซีเอ็ด ผมก็เอามาอ่านตอนแรกไม่อยากจะเชื่อว่าจะทำได้ แต่ก็ลองอ่านดูแล้วตามเข้ามาดู น้องเพ่ย เพ่ย ในเวบนี้ ก็รู้สึกทึ่ง
มากว่าทำได้ในระดับที่ดีมากๆทีเดียว ผมได้เอาเรื่องนี้ไปคุยกับ Teacher ซี่งเป็นครูของ ผม และลูกทั้งสองคน ท่านเป็นคน อังกฤษ พูดภาษาไทยไม่ได้ ฟังได้นิดหน่อย Teacher ก็ชมว่า น้องเพ่ย เพ่ย ทำได้ดีมากๆ ตรงกับทฤษฏีที่มีฝรั่งเคยวิจัย ว่่า เด็ก 1-3 ขวบไม่ว่าจะเรียนก็ภาษาเขาก็สามารถทำได้ดี เหมือนกับที่ชาวยุโรปส่วนมากจะรู้คนละ 4-5 ภาษา เป็นการเรียนแบบธรรมชาติ ยกเว้น British people ทำไม่ได้เพราะเขาค่อนข้างจะิคิดว่าในเมื่อคนทั่วโลกต่างพูดภาษาอังกฤษแล้วเขาจะเรียนภาษาอื่นไปทำไม นี่เป็นข้อด้อยของชาวอังกฤษซึ่งความคิดนี้ยังคงมีอยู่ในกลุ่มชาวอังกฤษจนถึงทุกวันนี้
ตอนนี้พอผมเห็นผลของการทดลองซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจากน้องเพ่ย เพ่ย ผมก็ได้คุยกับลูกทั้งสองคน น้อง Palm 9 ขวบ Mickey 6 ขวบ ว่าต่อไปนี้ป่าป๊่าจะไม่พูดภาษาไทยแล้วน๊ะ แล้วเวลาตอบกลับก็ห้ามใช้ภาษาไทยด้วย
ทั้งสองคนก็ตกลง วันที่เขียนนี่ก็เป็นวันทีี่สองที่ลองระบบไม่พูดภาษาไทยแต่ว่าทำได้ยากก็มีหลุดมาบ้างแต่ก็จะ
พยายามพูดให้น้อยที่สุดผมพบว่าในการสนทนาระดับภาษาที่สูงขึ้นไปอีกหน่อยการแปลก็ยังคงมีความจำเป็น
ไม่รู้ว่าท่านอื่นๆเห็นเป็นอย่างไรกันบ้าง

ขอท้าวความถึงเรื่อง Background ในเรื่องการเรียนภาษาของคุณพ่อของน้อง Palm Mickey เพื่อทุกท่านจะ
ได้พอนึกภาพออก ทุกอย่างที่เตรียมมานี้แรงจูงในหลักๆส่วนหนึ่งเพื่อที่จะมาสอนลูก ทำให้มีกำลังใจแม้ในยามที่
รู้สึกเหนื่อยท้อแท้เนื่องจากการเรียนภาษาก้าวหน้าไปช้า
ภาษาอังกฤษเริ่มเรียนใหม่อีกครั้ง ผ่านมาน่าจะสัก 3 ปีได้แล้วกับอาจาย์ชาวอังกฤษ ตอนเรียนใช้ภาษาอังกฤษตลอดในช่วงแรกๆ จะมีความรู้สึกอึดอัดหน่อยเพราะสื่อสารกันยากบางที่เราถามอย่างแล้วได้คำตอบอีกอย่างแสดงว่าการตั้งคำถาม
ของเราต้องมีปัญหาแน่ๆ แต่พอเวลาผ่านไป ตอนนี้ถามปัญหาไปส่วนมากก็จะได้คำตอบตรงตามที่เราอยากรู้ก็แสดงว่าการเีรียนมีการพัฒนาขึ้น สัปดาห์หนึ่งผมจะเีรียนภาษาอังกฤษ 3 วัน วันละ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง เรียนติดต่อกันไม่มีหยุดยกเว้น ฝนจะตกหนัก หรือมีธุระจำเป็นจริงๆ
ตอนเย็นไปรับลูกผมก็จะเจอ Teacher อีกเพราะว่าเป็นคนเดียวกับที่สอนผม ผมจึงมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน อีกวันละประมาณหนึ่งชั่วโมง ซึ่งการคุยตอนเย็นนี้ทำให้การพัฒนาทางด้าน
ภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างน่่าพอใจมาก แต่ก็ต้องมีการพัฒนาต่อๆไป ตอนนี้ผมสามารถคุยกับฝรั่งทุกๆคนได้อย่างไม่เคอเขิน แต่พอย้อนมาดูทำถาม แคะ แกะ เกา ง่ายๆพูดอย่างไรผมก็
มาฉุกคิดว่าที่จริงเราพูดภาษาง่ายๆ บางทีไม่ได้นี่นา เพราะไม่ได้มีโอกาสฝึก เลยจะต้องย้อนไปฝึกวลีง่ายๆอีกที

ภาษาจีน
อันนี้ผมคิดว่าเป็นภาษาที่ผมใช้งานได้ดีที่สุดถ้าไม่นับภาษาไทย
มาถึงจุดนี้ผมเรียนผ่านมาประมาณ 4 ปีกว่าๆแล้ว เรียนอาทิตย์ละสองวัน วันละ 3 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ผม
สามารถนั่งคุยกับคนจีน Native speaker ได้สบายๆ แต่ก็ต้องแล้ว
แต่หัวข้อสนทนาด้วยน๊ะ บางทีก็มีตื่นเต้นบ้างแต่คิดว่าควบคุมตัวเองได้ และได้มีโอกาสสอนแบบเป็นอาสาสมัคร
สอนฟรีให้ในชั้นเรียนภาษาจีนของลูกคนเล็กเป็นเวลาประมาณสองปี ตอนหลังที่โรงเรียนมีชาวจีนแท้ๆมาสอน
ผมก็เลยไม่ได้สอนแต่ก็ทำให้ผมมีโอกาสใช้ภาษาจีนคุยกับครูคนจีนในช่วงนั้นตอนนี้ครูจีนกลับประเทศไปแล้ว
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ
ส่วนลูกคนโตก็เรียนภาษาจีนด้วยตอนนี้อยู่ชั้นปีที่สาม ของระบบภาษาจีนซึ่งเขาสามาัีรถฟังภาษาจีนได้ดีระดับหนึ่ง
แต่จะมีข้อด้อยเรื่องการพูดการเีขียน อ่าน ซึ่งผมจะเอา idea ของเวบนี้ไปประยุกต์ใช้กับลูกทั้งสองคน

ภาษาญี่ปุ่น
ภาษานี้ส่วนตัวผมเป็นภาษาที่ยากหนักหนาจริงๆ
ผมเรียนกับอาจารย์คนไทยท่านหนึ่งเป็นเวลา 3 ปี เรียนอาทิตย์ละ 1 วัน 2-3 ชั่วโมงแล้วแต่สถานะการณ์
สถานะของระดับภาษาญึ่ปุ่นของผม ยังไม่สามารถคุยกับ Native speaker ญี่ปุ่นได้
แต่ผมก็ไม่ท้อผมก็หาโอกาสที่จะได้ใช้ภาษาญี่ปุ่น โดยไปสอนภาษาญี่ปุ่นซะเลย สร้างเงื่อนไขบีบบังคับตัวเอง
ผมเสนอตัวไปสอนภาษาญึ่ปุ่นให้ที่โรงเีรียน ของน้อง Mickey ชั้นอนุบาล 1-3 สอนรวมกันหมดสามชั้นทีเดียวประมาณ 20 คน
สอนเท่าที่ระดับภาษาของเราจะทำได้ซึ่งก็ได้ผลระดับหนึ่ง ผู้ปกครองบางท่านบอกว่าลูกกลับไปสอนคุณพ่อคุณแม่ต่ออีก ซึ่งผมว่าก็เป็นที่น่ายินดี ส่วนลูกของผม ก็ทำให้ผมได้
มีโอกาสพูดกับลูกเป็นภาษาญี่ปุ่น ส่วนน้อง Palm คนโตตอนนี้ไม่ได้เรียนภาษาญึ่ปุ่น ตอนนี้แต่ว่าผมได้เคยสอนให้เขาตัว
ต่อตัวสอน ฮิรางานา กับ คาตะคานะ ซึ่งเป็นตัวอักษรญี่ปุ่นจนเขาจำได้หมดทุกตัวเริ่มสอนตั้งแต่เขาสามขวบ ถึงตอนนี้เขายังจำได้แต่ก็มีลืมไปบ้าง ผมก็จะมีการรื้อฟื้นความจำเป็นระยะในช่วงที่เขาปิดเทอม

นี่คือ ทั้งหมดที่ผมปฎิบัติต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ แล้วก็ยังทำำอยู่เป็นเรื่องที่ต้องทุ่มเทมากๆ แต่ว่าผมที่ได้คุ้มค่ามาก
เีพียงแต่ผมยังไม่เจอวิธีที่จะถ่ายทอดให้ลูกทั้งสองของผม ตอนนี้ผมคิดว่าน่าจะเจอวิธีแล้วจากเวบนี้นี่แหละครับ
วันหลังผมจะมาเล่าให้ฟังอีกที ว่าผลการทดลองกับลูกทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง ขอบคุณท่านเจ้าของเวบ และคุณพ่อคุณแม่ของน้องๆทุกท่าน สวัสดีครับ

Views: 960

Reply to This

Replies to This Discussion

โอยยย คุณพ่อเก่งจัง พูดได้ตั้ง 4 ภาษา เท่ห์สุดๆ เลยค่ะ เพราะหาไม่ง่ายที่จะเจอคนที่มีความสามารถขนาดนี้
เราเต็มที่แค่ 3 ภาษา ไทย, อังกฤษ,เยอรมัน ก็ไม่ค่อยจะรอดแล้วค่ะ หุ หุ ทุกวันนี้ไม่คิดจะเรียนภาษาที่ 4 เลย
เพราะคิดว่าเราไม่รอดแน่ๆ สมองรับไม่ไหวค่ะ

ไม่ทราบว่าตอนนี้ลูกๆ ใช้ภาษาอะไรเป็นภาษาหลัก ไทยใช่มั้ยคะ แล้วภาษาอื่นๆ ได้มากน้อยขนาดไหน
เราเชื่อค่ะว่าคนเรามีศักยภาพด้าน รับ และ ส่ง ไม่เหมือนกัน บางคนรับอะไรเข้าสมองง่ายมาก แต่ส่งไม่เป็น
หรือถ่ายทอดไม่ถนัดนั่นเอง

ยังไงจะคอยติดตามผลการทดลองนะคะ
ตอนนี้ภาษาที่เราใช้กันเป็นหลักคือ ไทย กับจีน อังกฤษ
ด้านภาษาจีนสำหรับคนโต เพราะเขาเริ่มเรียนภาษาจีนแบบเป็นระบบ แบบ Pin yin ( สำเนียง แบบ ผู่ ทง ฮั่ว จีนแผ่นดินใหญ่ )จนสามารถฟังประโยคที่ยาวๆได้ ส่วนการตอบเขายังมี limit ในการตอบอยู่เพราะว่าไม่ค่อยได้พูด แต่สามารถพูดเป็นวลีได้ เพราะเวลาคุณพ่อสื่อสารกับพวกเขาจะพูดเป็นวลีไม่พูดเป็นคำศัพท์ เพราะจะทำให้จำง่ายกว่า
แต่ว่าคุณพ่อว่านับแต่่นี้ไปจะพูดภาษาจีนกับเขาให้มากๆขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะการพูดโดยให้เขาตอบมาเป็นภาษาจีนเท่านั้น

ส่วนภาษาญี่ปุ่นจะพูดเป็นคำศัพท์ และวลีง่ายๆ พูดไม่บ่อยเพราะว่าคุณพ่อยังมีลิมิต ในด้านความรู้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ

ภาษาอังกฤษของลูกคนโต สามารถฟังได้พอประมาณ การตอบคำถามยังมี ลิมิตค่อนข้างยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ส่วนสำเนียงภาษาอังกฤษของพวกเขา ทั้งคนเล็กคนโต ทำได้ดีมากเพราะ ทั้งพ่อ และลูกทั้งสองคน จะเลียนแบบ ตามเสียงของ Teacher ซึ่งเป็น สำเนียง แบบ British accent ทำให้เวลาพูดจะค่อนข้าง
มีความมั่นใจว่าเราไม่ได้พูดเีพี้ยน ซึ่งสำคัญมากไม่ว่าจะภาษาอะำไร จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ ต้องเรียนกับเจ้าของภาษา หรือ ต้นแบบสำเนียงที่ถูกต้องเท่านั้น ซึ่งเช็คไม่ยากเลยว่าอาจารย์พูดสำเนียงเป็นอย่างไร ก็ ติดตั้งจานดาวเทียมที่บ้านเลยครับ
สำเนียงอังกฤษ ฟัง BBC , สำเนียงจีนฟังช่อง CCTV4 China television Channel , สำเนียงญี่ปุ่น NHK เท่านี้ก็รู้แล้วว่าสำเนียงที่เราพูดเป็นอย่างไร
แล้วอีกอย่างที่บ้านของพวกเราจะไม่มีการดูทีวีไทยเลย ตั้งแต่เขาเกิดดูช่องต่างประเทศตลอด แต่เดียวนี้เริ่มมีดูช่องไทยบ้างเพราะว่าคุณแม่ของน้องๆ เขาอยากดูแต่โดยทั้วๆไป 95 % น้อง Palm Mickey ต้องดูภาษาใดภาษาหนึ่งจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ สลับกันไป จนเดียวนี้เขาชินเปิดไปดูช่องไหนก็ดูได้ไม่บ่นแมัจะดูไม่รู้เรื่องก็ตาม
ท้ายสุดขอบคุณเจ้าของเวบที่สร้างแรงบันดาลใจให้เพิ่มขึ้นไปอีกที่จะมีแรงไปสอนลูกให้เรียนการรู้ภาษาได้มีการพัฒนาไปเรื่อยๆขอบคุณครับ
อีกหนึ่งสุดยอดคุณพ่อค่ะ เก่งๆแบบนี้อย่าลืมเลี้ยวเข้าห้องenglish / chinese / japanese club ด้วยนะคะคุณพ่อ (ถือโอกาสซะเลย แฮ่)
สุดยอดคุณพ่อค่ะ (ทำไมยอดขมองอิ่มของเราไม่เป็นแบบนี้มั่ง อิอิ)

ว่างๆ แวะโฉบเฉี่ยวเข้าไปห้องจีนบ้างนะคะ

สุดยอดจริงๆค่ะ
wow!!! คุณพ่อแน่มากๆ อย่าลืมเล่าพัฒนาการของเด็กๆสู่กันฟังด้วยนะคะ

สุดยอดเลยค่ะ
ใช่จริงๆด้วยค่ะ นานๆถึงจะเจอตัวจริงแบบนี้บ้างนะคะ
เยี่ยมจริงๆค่ะ แบบนี้ถ้าได้ทำตามแบบคุณบิ๊ก รับรองน้องทั้งสองคน
ไปได้ไกลกว่านี้อีกแน่ๆค่ะ
เยี่ยมครับ...แปลว่าคุณพ่อเข้าใจแนวทางนี้มานานแล้ว...และเข้าใจได้ว่ามีความตั้งใจสูงมาก...ส่วนตัวผมเองก็เริ่มใช้แนวทางนี้เมื่ออ่านกว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้วจบเมื่อ 5ปีก่อนก็เริ่มใช้ 4ภาษากับลูกคนแรก(วันนี้ 5ขวบ1เดือน)โดยให้ มาม้าคุยไทย+จีน ส่วนผมคุยอังกฤษ+ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ได้ใช้แบบจริงจังมากมายนัก...สบายๆทำให้สิ่งแวดล้อมในครอบครัวเป็นเรื่องของภาษาต่างๆ แล้วลุกก็เรียน รร.สองภาษาด้วยก็เลยสนับสนุนกันดีทุกวันนี้หลักๆลูกใช้ภาษาอังกฤษครับ
คุณ Kitakun ใช้ 4 ภาษาเหมือนกัน ดีจังเลยครับ อยากจะถามว่า ใช้ภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่นคุยกับลูกใช้มากขนาดไหนครับ อยู่นอกบ้านใช้พูดกับลูกหรือปล่าวครับ ของผมจะพูดเืมื่ออยู่ส่วนตัว เมื่ออยู่นอกบ้านหรือต่อหน้าคนอื่นจะมีความรู้สึกเขินๆ เลยใช้ภาษาไทย ทั้งที่เรารู้น๊ะว่าจะพูดอย่างไร ซึ่งก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่จะพูดตลอดเวลา
จะแก้ไขยังไงดีครับ ที่จะทำให้กล้าพูดกับลูกเราเป็นภาษาต่่างประเทศกับคนอื่น กลัวคนอื่นจะหาว่าเวอร์ไปหรือปล่าว ขอความคิดเห็นหน่อยน๊ะครับ
ขอตอบเรื่องเขินก่อนว่าไม่เคยเขินครับ เราเหมือนคนที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้คนอื่นๆด้วย...เค้าจะได้รู้ว่าโลกเรามันเล็กนิดเดียวการที่ลูกๆพูดได้หลายภาษาเป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อแม่สามารถสร้างและเตรียมการใว้ให้ลูกได้ วันข้างหน้าลูกเราจะไปที่ใดในโลกหล้า..ภาษาคือสื่อการเรียนรู้....ก็มีครับทั้งคนชื่นชมและคนที่หาว่าเราเวอร์...นั่นคือคนที่พัฒนาได้และไม่สามารถพัฒนาได้ครับ
เก่งจังเลยค่ะ!!

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service