ทำไมต้อง 2 ภาษา???

[อรนัย รักในหลวง]

เมื่อปลายเดือนที่แล้วได้มีโอกาสแอบแว่บหนีเวป 2 ภาษาไปทำงาน 3วัน งานที่ว่านั่นคือไปช่วยประสานงาน เป็นล่ามให้กับบ.server บ.นึงของสิงคโปร์ที่เค้าเข้ามาประมูลงานของธ.ไทย สาเหตุที่ต้องมีล่ามเพราะพนง.ธนาคารไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้....

งานหินเชียวล่ะคะ...เพราะศัพท์แสงทั้งหลายที่เค้าพูดกันก็เป็นภาษา Finance บอกได้ว่าว่า...ทั้งมึน...ทั้งงง...
ภาษาอังกฤษที่เรารู้มาเป็นแค่พื้นฐานมากๆ ถ้าเทียบกับพวกเค้า พูดถึงพนง.ธนาคาร จริงๆแล้วเค้าสามารถฟัง Presentation ได้เข้าใจทั้งหมด เพราะศัพท์ก็เป็นศัพท์เทคนิคที่พวกเค้าเรียนมาทั้งนั้น แต่ทำไมต้องให้มีล่ามล่ะ...เพราะเค้าไม่สามารถพูดได้ หรือพูดได้ก็ไม่กล้าพูด เพราะอายเพื่อนร่วมงานด้วยกัน...ทั้งๆที่คำถามบางคำที่เค้าให้เราแปลก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของพนง.ธนาคารเลย

ตลอดการ Presentation โดยคนสิงคโปร์ สำเนียงภาษาอังกฤษของเค้าอยู่ในเกณฑ์ธรรมดา สำเนียง Singlish แต่ฟังได้เข้าใจหมด เพราะลีลาเค้าเป็นธรรมชาติมากๆ เหมือนเป็นภาษานึงของเค้า คล่องปาก ใครถามไรเค้าก็ตอบได้ โดยไม่เคอะเขิน....ทำให้เราคิดอยู่ตลอดเวลาเลยว่า เออ..ที่เราปูพื้นภาษาอังกฤษให้ลูกเรามาถูกทางแล้วล่ะ เราอาจจะไม่ได้สอนถึงขั้นล้ำลึกจนไปประกอบอาชีพอย่างคนพวกนี้ได้ แต่พื้นฐานและทัศนคติที่เราวางไว้ให้ ก็หวังว่าเค้าจะเอาไปต่อยอดให้กับหน้าที่การงานในอนาคตเค้าเองได้ไม่มากก็น้อย........

[แม่น้องยูกิ]

เปิลต้องดูแลชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจาก Singapore , Malaysia เดือนละครั้ง และประเทศอื่นๆด้วย เคยถามเค้าเรื่องค่าเทอมที่ประเทศเค้าราคาถูกกว่า ถ้าเทียบกับโรงเรียนนานาชาติบ้านเรา เพราะบ้านเค้าสอนภาษาตั้งแต่เล็กๆต้องพูดได้ 2-3 ภาษา ขึ้นไป โห !!!

[แม่น้องยูกิ]

เห็นด้วยค่ะ

[แม่น้องอุลตร้า/ใบข้าว]

ขอบคณสำหรับคำบอกเล่าดีๆ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น สอนลูกแล้วยังต้องเอามาใช้เองด้วย มีการบ้านให้ทำทุกวัน เรียนเองก็ยากอยู่แล้ว แต่การถ่ายทอดยากยิ่งกว่า นึกถึงคุณครูเลย มองเห็นประโยชน์อย่างที่คุณอรนัยบอก ต้องอดทน พยายามต่อไป

[Rawadee Niamkrod]

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

[แม่น้องไนน์]

ขอบคุณค่ะ

[แพรวาฏ์ว เกิดศักดิ์]

เห็นด้วยครับ

[แม่ติ๊ก&น้องต้นกล้า]

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้วคะ แต่ว่าไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหนเพราะเราก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ จริงๆแล้วก็นึกท้อบ่อยๆ วันนี้ก็ท้ออยู่เหมือนกัน.............

[nat]

เห็นด้วยจ้า

[Daddyปันดี]

ใช่แล้วครับคุณกอหญ้ามัม ที่ The UK เค้าเปิดโอกาสให้กับทุกคน ขอแค่เพียงพูดภาษาอังกฤษได้ มีวิสัยทัศน์ดี อาจไม่ต้องมีประสบการณ์ด้วยซ้ำครับ ... พูดแล้วคิดถึงลอนดอนบ้านเก่าทันที

[กอหญ้ามัม]

รู้จักน้องคนไทย ที่มาเรียนป.เอกการเงิน ที่นี่ (อังกฤษ) น้องไม่ได้ถึงกับเป็นเด็กสองภาษา
เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่เค้าสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ สนับสนุนทุกอย่าง ทั้งสื่อภาษาอังกฤษ
ปิดเทอมเข้าแค้มป์ภาษา (ตามสภาพสมัยสิบปีก่อนอ่ะค่ะ) สำเนียงน้องเค้าไม่ได้เป็นฝรั่งจ๋า ยังคงมีกลิ่นของภาษาไทย
แต่บุคลิกเจ้าตัวเวลาพูด มีความมั่นใจ ฉะฉาน แล้วก็คล่องไม่มีติด เนื่องจากเค้าคุ้นเคยกับการใช้ภาษามาตั้งแต่เด็ก
ไม่ต้องมามัวนึก หรือแปลจากไทยมาอังกฤษ ... น้องเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอน (TA) ที่ไม่เห็นมีปัญหาว่าเด็กฝรั่งจะไม่เข้าใจสำเนียง และการได้ฝึกฟังตั้งแต่เด็ก ก็ทำให้ทักษะการฟังเค้าดีกว่าคนที่มาฝึกภาษาเอาตอนที่จะมาเรียนต่อ ตอนนี้น้องเค้าอยู่ในขั้นตอนขอจบ แต่ได้งานแล้วเป็นอาจารย์ที่มหาลัยดังแห่งหนึ่งของที่นี่ ทั้งที่มีเจ้าของภาษาไปสอบแข่งขันด้วย

เลยขอเป็นอีกหนึ่งเสียงค่ะที่ยืนยันว่า ... การค่อยๆ ฝึกภาษาอื่นให้ลูกตั้งแต่เด็ก เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับตัวเล็กในวันที่เค้าโตขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสในสิ่งเค้าอยากทำในอนาคต ส่วนสำเนียง จากที่ได้สัมผัสที่นี่ พวกคุณอินเดีย กับคุณคนจีน ฟังยากกว่าคนไทยหลายเท่า แต่ก็เห็นเค้าพูดน้ำไหล ไฟดับ ท้ายที่สุดแล้ว บุคลิกของความเป็นเด็กไทยมักจะชนะใจกรรมการ (ประหนึ่งว่าประกวดนางงามเลย) หรือคนรอบข้าง เพราะหลายคนบอกว่า ชอบที่คนไทยดูนุ่มนวล มีน้ำใจ humble (ถล่มตัว..ตลอด)