เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

"การเลี้ยงดูลูก" และ "การสั่งสอนลูก" คือประโยคสองประโยคที่คนเป็นพ่อแม่คงคุ้นเคยกันดี ประโยคแรก "การเลี้ยงดูลูก" เป็นการบ่งบอกไปในทาง physical หรือเป็นการปฏิบัติ ดูแลทางด้านการพัฒนาทางร่างกาย ส่วนประโยคที่สอง "การสั่งสอนลูก" เป็นการบ่งบอกไปในทาง emotion หรือใรทางจิตใจ การพัฒนาการทางจิตจะอาจะไม่เห็นได้เป็นตัวตนเหมือนการพัฒนาการทางร่างกายของลูก แต่การพัฒนาการทางจิตใจมีความสำคัญไม่แพ้การพัฒนาการทางร่างกายเลยทีเดียว

คำถามที่หลายๆคนอาจจะมีอยู่ในใจ คือ "ทำอย่างไรถึงจะเลี้ยงลูกให้ได้ดี" คำว่า "ได้ดี" หมายถึงอะไร สำหรับตัวดิฉันเองแล้ว คิดเสมอ ว่า เลี้ยงลูกได้ดีหรือไม่ได้ ใครคือคนตัดสิน สังคม คนรอบข้าง หรือตัวพ่อแม่เอง สังคมและคนรอบข้างอาจจะมีส่วนประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเลี้ยงดูลูกของแต่ละบุคคล ในสังคมที่แตกต่างกัน อาจจะมองในสิ่งเดียวกันแตกต่างกันไป เมื่อสังคมคือแค่ส่วนประกอบ แล้วอะไรคือตัวหลักที่จะช่วยในการเลี้ยงดูลูกล่ะ "พ่อแม่" นั่นเอง คือตัวหลักที่จะ ทำให้ลูกมีการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจที่ดี

ร่ายมาก็ซะยาว อะไรหนอที่จุดประกายทำให้แม่มาบ่นเรื่อยเปื่อย จากที่เกริ่นเอาไว้แต่ต้นว่าสังคมและคนรอบข้างมีส่วนสำคัญในการเลี้ยงลูก เมื่อลูกเป็นเด็กที่มีสองสังคม หน้าที่ ที่จะดูแลลูกอบรมให้ลูกเข้าใจทั้งสองสังคมก็ดูจะหนักขึ้นเป็นสองเท่า ตัวแม่เองดูแล และเลี้ยงดูลูกใช้พื้นฐานของทั้งสองวัฒนธรรม ทุกอย่างผ่านมาด้วยดีจนเมื่อลูกเริ่มเข้าขวบปี มีการตอบโต้ได้มากขึ้น การตอบโต้กลับของลูก เป็นเหมือนตัวประเมิณผลงานของแม่เอง ว่าแม่ทำหน้าที่ของแม่ได้ดีขนาดไหน แม่อยากจะพูดถึงอีกหนึ่งตัวประเมิณที่แม่ได้สัมผัสในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้แม่ได้มีโอกาศเห็นถึงพัฒนาการทางด้านที่ไม่ค่อยดีของหนูอีกอย่างหนึ่ง หนูเริ่มที่จะติดที่จะใช้จุกหลอกมากขึ้น จากที่เคยใช้แค่อันเดียว เวลานอน พอตื่นก็จะคายออกวางไว้ที่เตียงแล้วเดินออกมาจากห้องนอน ก็กลายเป็น ไม่ยอมคาย จะอมเอาไว้ตลอดเวลา จากที่ใช้แค่อันเดียว ก็เปลี่ยนมาใช้ถึงสามอัน อันนึงใส่ปาก อีกสองอันเอาไว้ในมือ มือละข้าง สำหรับแม่ มันเป็นอะไรที่แม่รับไม่ได้มาก จากที่แต่แรกหนูเกิดไม่เคยอยากให้ใช้จุกหลอกเลย แต่ครอบครัวทางด้านของพ่อของหนูใช้กัน พอหนูไปบ้านโน้นก็กลายเป็นนิสัยติดมา พออาทิตย์ที่ผ่านมาทุกอย่างเริ่มเหมือนจะแย่ลง วันอาทิตย์ที่ผ่านมาหนูร้องให้จะเอา nuk-nuk ทั้งวัน อมไว้ไม่ยอมปล่อย แม่เหมือนมองเห็นในอนาคต ลูกสองขวบ สามขวบ แต่ยังอมจุกหลอกอยู่เหมือนเป็นเด็กๆ คิดอยู่นานจะทำอย่างไรดี ถ้าปล่อยให้โตไปใช้จุกหลอกอย่างนี้ต่อไป ถ้าหนูโดนเพื่อนๆล้อคงจะทำลายจิตใจหนูเอง ทำให้พัฒนาการทางจิตใจหนูด้อยลง พอแม่คิดได้ ตอนแรกแม่ก็แพลนเอาไว้ว่า จะไม่ให้หนูอมจุกในช่วงเวลากลางวัน แต่กลางคืนโอเค

วันจันทร์ตอนเย็น พ่อเอาหนูนอน หนูไม่ยอมนอนงอแงจะร้องเอาจุกทั้งๆที่มีอยู่แล้วหนึ่งอันในปาก แม่นั่งกุมขมับ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ท่าทางจะเลิกแค่กลางวันมันคงจะมีแค่ความหวังริบหรี่ แม่บอกพ่อบอกว่า We must give her her nuk-nuk only when she go to bed. สักพักหนูหายไป หนูแอบไปนั่งที่เตียงพร้อมทำเสียง nuk nuk แหมมอะไรจะรู้ขนาดนั้นว่าพ่อแม่คุยอะไรกัน พอแม่แกล้งยื่นให้เท่านั้น ลูกสาวคนดีเดินลงจากเตียง ก็ได้ของที่อยากได้แล้ว แม่จะมีความหมายอะไร คืนนั้นแม่ทำงานคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอด คิดอยู่นานว่าจะปล่อยให้ลูกใช้จุกไปเรื่อย จะให้ลูกใช้แต่ตอนกลางคืน หรือจะเลิกไปเลย สุดท้ายแม่เลยตัดใจได้ เพื่อเป็นผลดีต่อทั้งพ่อแม่ และหนูเอง เพราะฉะนั้นเลิกมันไปเฉยๆเลยก็แล้วกัน

วันอังคารเย็นแม่ได้มีโอกาศดูหนู หนูยังงอแงเหมือนเดิม จะเอาแต่จุกหลอก แม่ด้วยความโมโห เลยเอาทุกอย่างไปซ่อนหมดเลย พอถึงเวลานอนหนูกลับนอนได้อย่างไม่มีปัญหา ทำเอาแม่โล่งใจว่าคงไม่ยากอย่างที่แม่คิด พอตีสองแม่ได้ยินเสียงร้องหนู ตื่นขึ้นมาจากปกติเอาจุกยัดปากแล้วก็เดินไปเอาขวดนม วันนี้ไม่มีจุก หนูเลยร้องให้เหมือนโลกจะแตกก็วันนี้แล้ว แม่เอานมให้ก็ไม่กิน ร้องให้จนสิบนาทีผ่านไป แม่ดูออกว่าไม่ได้ร้องแบบเจ็บปวดแต่เป็นการร้องแบบไม่ได้ดังใจ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง แม่แทบจะวิ่งไปเอาจุกหลอกมายัดปาก แต่พ่อเตือนแม่ว่า Ater all the crying we just went through and you want to give her that...... แม่กลับมานึกได้ แม่ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่า เป็นพ่อแม่รังแกฉัน แม่ท่องเอาไว้จากหนึ่งถึงร้อย "ต้องใจแข็ง ต้องใจแข็ง" สุดท้ายหนู ร้องให้จนเหนื่อยหลับไปเอง

วันพุธ ทั้งวันหนูโอเค ไม่มีการถามหาจุกหลอก กลางคืนนอนหลับได้โดยไม่มีจุกหลอก พอหนูนอนแม่ก็ใจหวิวๆเตรียมตัวรับการร้องให้ของหนู แต่แปลกมาก หนูตื่นมาร้องกินนมแต่ไม่มีร้องโววายเหมือนคืนแรก ทานนมจนหมดแล้วก็หลับไป

วันพฤหัส (วันนี้) วันนี้มีร้องให้จะเอาจุกหลอกตอนกลางวัน แต่แม่ยังคงความใจแข็งเอาไว้ ยังไงเราก็ทำกันมาสองวันแล้ว แม่ยอมทน คืนนี้แม่จะดูว่าหนูจะร้องอีกหรือเปล่า แม่เห็นได้ว่าทุกๆวันอาการของหนูจะดีขึ้น อย่างเดียวที่แม่ต้องจำไว้คือใจแข็ง น้ำตาของลูกไม่มีใครอยากที่จะเห็น ลูกร้องให้แม่เองอยากร้องให้มากกว่าเป็นสิบเท่า

ถ้าเราผ่านปฏิบัติการนี้ไปได้ อันต่อไปที่แม่อยากจะทำคือ เลิกขวดนม และให้หนูนอนในเตียงของหนูข้างๆเตียงพ่อแม่ได้เองตลอดคืน

แล้วแม่จะมาบันทึกเพิ่มเติมนะคะ

Views: 251

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น on March 16, 2010 at 2:45pm
ตอนนี้ลิซซี่เป็นไงบ้างคะ
อ้อไม่เจอปัญหาติดขวดนมหรือจุกหลอกค่ะ เพราะฟ้าใสเลิกกินนมขวดเองตอน 1 ขวบเพราะมันไม่ทันใจ
แต่อ้อเจอปัญหาลูกติดนมแม่ค่ะ ตอนนั้นตั้งใจจะให้ลูกเลิกนมแม่ตอน 2 ขวบ
พอถึงเวลาจริงๆ ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อลูกร้องไห้ขอนม น้ำตาไหล บอกว่า "หนูหิว"
คนเป็นแม่ก็ทำใจไม่ได้ สงสารลูก
แต่สุดท้ายก็ใจแข็ง แต่ไม่ได้ทำร้ายจิตใจลูกค่ะ

ค่อยๆ บอกเค้าว่าหนูโตแล้ว หนูจะไปโรงเรียนแล้วนะ
คุณรีลองบอกเค้าสิคะว่าถ้ากินนมขวดแล้วหนูจะไม่สวยนะ ฟันจะเหยิน
เด็กผู้หญิงน่าจะรักสวยรักงาม พูดกรอกหูไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เลิกค่ะ
Comment by หม่ามี้พี่กาตาร์&น้องลาเต้ on March 15, 2010 at 2:51am
เก่งจังเลยทั้งพี่รีทั้งคุณมิคกี้ที่ยอมตั้งใจทนให้ลูกเลิกจุกนมหลอก แต่สงสัยถ้าเลิกขวดจะต้องอดทนมากกว่านี้ ขอแชร์ประสบการณ์เลิกนมขวดของน้องกาตาร์นะคะ เผื่อคราวหน้าคราวหลัง ที่หญิงให้น้องกาตาร์เลิกนมขวด เพราะว่าเป็นหวัดบ่อยขึ้นมาก (น้องเพิ่งทานนมขวดเป็นตอนขวบสามเดือน) ประกอบกับเดี๋ยวนี้ชอบอนกินนมแล้วอมขวด ทานหมดช้า เลยตัดสินใจว่าเลิกขวดนมดีกว่าตอนสองขวบเจ็ดเดือน เลิกน้องกาตาร์ใช้เวลาตั้งแต่เลิกขวดจนยอมกินนมเป็นปกติรวมแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ก่อนเลิกได้ให้ทำใจบอกว่าลูกโตแล้ว สักวันขวดนมจะไปอยู่กับน้องตัวเล็ก พอวันที่เลิกจะเก็บขวดไปซ่อนไม่ให้เห็น พอน้องถามหาก็บอกว่าหายไปแล้ว พร้อมพาไปให้ดูว่าที่เคยเคยมี ไม่มีเหลือเลยซักชิ้น จากนั้นให้ข้าวให้นมตามปกติแต่ให้ทานกับแก้วแทน (เช่นใช้แก้วที่ชอบ ลายน่ารักๆ) ถ้าน้องไม่ทานนมก็ไม่ต้องบังคบคะ อดทนนิดหน่อย ทานแค่ไหนแค่นั้นไม่มีคะยั้นคะยอคะ เค้าก็เริ่มจะทานมมากขึ้น สุดท้ายพอเลิกขวดนม ทำให้หวัดที่เป็นๆหายๆก็หายสนิท แล้วก็ทานข้าวและอาหารอื่นได้มากขึ้น ทานนมเป็นปกติอีกครั้ง

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ต้องรีบเลิกนมขวดก็ได้คะ ถ้าน้องยังมีความสุขกับการกินนมขวดอยู่ เลี้ยงตามสไตล์ของเราเองค่ะ
Comment by ภิรมย์พร เด็ทท์บาร์น on January 26, 2010 at 9:40pm
โดนใจอีกแล้วพี่ เหมือนกันเลยค่ะ แต่พี่รีเก่งกว่าจิ๊บเยอะเลย นิโคลัสสองขวบกว่าแล้วยังติดจุกหลอกอยู่เลย แต่จะติดเฉพาะกลางคืน พยายามจะเอาไปซ่อนนะ แต่พอลูกร้องก็สงสารทุกทึ เอาล่ะ ทีนี้ได้ตัวอย่างดีๆแล้ว ต้องใจแข็งเหมือนพี่รี
Comment by Alisa Rojsuwanishakorn on January 18, 2010 at 11:11pm
อ่านแล้วตื่นเต้นมากกกค่ะพี่รี ต้องใจแข็งค่ะ เฮ้ออออ ตูนก็มีปัญหาเหมือนกันค่ะ ตอนนี้แข็งมาก เพราะลูกกรี้ดจะเอาของ ปล่อยกรี๊ดไปสักพักก็หยุดเอง แต่ว่าปัญหาคือตอนนี้เค้าเริ่มติดพี่เลี้ยงอ่ะค่ะ ทั้งที่จิง จิง ไม่เคยเลยค่ะ สงสัยลูกจะเห็นว่าตูนดุน่ะค่ะ เลยไปติดพี่เลี้ยงซึ่งตามใจกว่า เศร้า......
Comment by ยศภัด มีเดช on January 18, 2010 at 10:25pm
คุณรีใจแข็งจริงๆ แค่อ่านแล้วเห็นภาพอยากร้องไห้สงสารน้องลิชชี่ แล้วเราจะทำได้มัย น้องเอม่อนจะ 3 ขวบแล้วยังไม่เลิกนมขวดเลย ประโยคนี้โดนค่ะขีดเส้นใต้ไว้ "แม่ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่า เป็นพ่อแม่รังแกฉัน แม่ท่องเอาไว้จากหนึ่งถึงร้อย "ต้องใจแข็ง ต้องใจแข็ง"
Comment by สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง) on January 16, 2010 at 11:45am
ถึงว่าล่ะ พี่เล็ก ตอน1-2 ปี ปั้นๆ ฟันล่างไม่ยื่นเลย ตอนนี้ 3 ปีแล้ว ฟันล่างครอบฟันบนเล็กน้อย ไม่สบกันดี เพราะใช้ขวดนมอยู่ใช่ไหมพี่เล็กขา ทำไงเนี่ย ยากจริงๆ โดยเฉพาะ อยู่กินบนรถ หล่อนต้องใช้ขวดนม ไม่งั้นคงร้องจนคอแหบ ไม่ก็อ๊วกไปข้างเลย
Comment by Prim & Poom on January 15, 2010 at 11:26pm
ฟังเรื่องติดนมขวดของพี่เล้กแล้ว หนาววววววว เลยอะ
เอ หรือว่า ทุกวันนี้ที่พริมกินช้าเพราะติดนมขวดตอนเด็กจนโตรึป่าวน๊อ
Comment by Clamp ka on January 15, 2010 at 11:05pm
พี่รี่ต้องใจแข็งไว้น้า
เรื่องจุกนมหลอกเนี่ย ป๊อปเห็นฝรั่งเค้าชอบใช้กันเนอะ
เวลาทำงานบนเครื่อง ถ้าฝรั่งเอาลูกมาด้วย ร้อยละแปดสิบเลยที่มีจุกหลอก
ป๊อปไม่ค่อยเข้าใจว่ามันช่วยอะไรยังไงค่ะ

ขอให้น้องเลิกขวดแล้วก็นอนเตียงของตัวเองได้ซะทีนะคะ
Comment by แม่โบว์ของไอ้แฝด on January 15, 2010 at 10:42pm
เหอๆ เข้าใจค่ะ เคยคิดจะให้น้องแฝดใช้จุกหลอกเหมือนกัน แต่ว่ามาคิดๆ ดู แล้วอย่าดีกว่า ตอนนี้นอนยาวตอนกลางคืนได้ตลอดคืนค่ะ เลิกนมมื้อดึกได้แล้ว กะว่าปิดเทอมใหญ่คราวนี้จะปฏิบัติการเลิกขวดนมอย่างจริงจังสักที เป็นกำลังใจให้นะคะคุณรี
Comment by ต้นไม้และดวงจันทร์ on January 15, 2010 at 7:39pm
ว๊ากกกกก ตอนนี้ไทคิสองขวบแปดเดือนยังให้กินนมขวดอยู่เลยคะ เช้ากลางวันเย็น แบบว่ากลัวลกไม่กินนม ลูกไม่ติดขวดนม ไม่เคยร้องหานม บางครั้งแม่เหนื่อยหลับไปลืมเอานมให้กินก็มีคะ ลูกก็ไม่เคยร้อง แต่คุณแม่กลัวลูกไม่สูง เลยเอาใส่ขวดให้กินทุกวัน แป่ว จากนี้ไปต้องหัดให้เลิกกินจากขวดเสียแล้ว เป็นกำลังใจให้รีด้วยนะขอให้น้องลิสสี่เลิกจุกนมได้เร็วเร็วนะจ๊ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service