เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

มีลูกสองคนนะคะ สี่ขวบครึ่ง ไปโรงเรียนแล้ว กับคนเล็กขวบครึ่ง เลี้ยงเองค่ะ พื้นฐานทางภาษาของแม่ พอใช้ เป็นคนที่รู้ศัพท์น้อยมากค่ะ

พึ่งจะเริ่มเอาจริงเอาจังกับการสอน และศึกษาหลักการตามหนังสือได้ไม่นานนะคะ

 

โดยพื้นฐานแล้ว

-  ลูกสาวคนโตจะฟังภาษาอังกฤษได้รู้เรื่องพอสมควร แต่จะไม่ยอมพูด เลือกที่จะตอบเป็นภาษาไทย หรือ บางครั้ง ก็มี yes no บ้าง อันนี้เป็นสัญญาณที่ดีหรือเปล่าคะ ควรสร้างแรงบันดาลใจอะไรให้เขาดี ขอตัวอย่างที่พ่อๆแม่ๆเคยใช้หน่อยนะคะ เคยบอกเขาว่า พูดเก่งๆจะได้ไปเล่นหิมะ กับ จะได้ขอของขวัญกับซานตาครอสได้ ก็ไม่ค่อยจะเป็นผลเท่าไหร่

-  ส่วนลูกชายคนเล็ก อยู่กับเขาทั้งวัน ก่อนหน้านี้พูดไทยตลอด พึ่งมาเริ่มเปลี่ยนโหมดได้ไม่นาน เลือกใช้ OPOL ค่ะ กดดันตัวเองนิดหน่อย แต่ก็ยังไปได้เรื่อยๆ อยู่ในช่วงสะสมคำศัพท์ แต่พอลูกคนโตเลิกโรงเรียน ก็ต้องหันไปพูดไทย กับ คนโต ประโยคไทย บ้าง อังกฤษบ้าง แบบนี้ผิดกติกา หรือ ทำให้เขาสับสนหรือเปล่าคะ ควรทำอย่างไรดี

 

 

 

Views: 305

Replies to This Discussion

ขาดการพยุงคำพูดให้ลูกหรือป่าวคะ เท่าที่อ่านนะ เด็กส่วนใหญ่ฟังเข้าใจอยุ่แล้ว  ทำให้เป็นเรื่องสนุกๆคะ หากิจกรรมอะไรทำก็ได้คะ แล้วพูดเป็นอิงแทนคะ

 

ใช่เลยค่ะ ห่างจากการพูดมานานมาก พึ่งจะมาเริ่มทำใหม่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก นะคะ
ทำๆหยุดๆมาหลายรอบค่ะ ปกติแล้วเด็กจะเข้าใจสิ่งที่เราพูดอยู่แล้วค่ะ กรณีของเจเจแม่ใช้คนอื่นๆที่พร้อมจะช่วยเราค่ะ แม่จะพูดกันคนอื่นๆเป็นภาษาอังกฤษ เจเจก้ออยากจะพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่นบ้างค่ะ แล้วเวลาเจอชาวต่างชาติเดินงงๆ ยางแบน น้ำมันหมด ก้อเค้าไปคุยไปช่วยเค้า ลูกจะเห็นว่าถ้าเราพูดภาษาอังกฤษได้จะช่วยคนอื่นได้เป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ค่ะ ทำให้ลูกมีทรรศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ พยุงการพูดของลูกไปเรื่อยๆค่ะ หาสิ่งที่เค้าชอบแล้วเค้าจะให้ความร่วมมือค่ะ ทำให้มันเป็นเรื่องสนุกนะคะ เจเจชอบทำขนมแม่เลยให้ดูวิธียูทูปวิธีทำขนม นั้นๆเป็นภาษาอังกฤษ เค้าดูได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจนะคะ

ของป้อก่อนหน้านี้คนโต(อิงอิง, 4ขวบค่ะ) ก็ฟังพอรู้เรื่องค่ะแต่ไม่ยอมพูด แต่หลังจากหา"แรงบันดาลใจ"ให้เค้า+เพิ่มความเข้มข้นของระบบOTOL  เค้าก็พยายามฝึกพูดมากขึ้น จนผ่านไปเดือนกว่าๆก็ได้ผลออกมาน่าพอใจค่ะ  "แรงบันดาลใจ"ของป้อคือจะพาเค้าไปเที่ยวสิงคโปร์ปีหน้าค่ะ(สัญญากันยาวววเลยค่ะ) ก็จะหารูป โฆษณา อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับสิงคโปร์แล้วก็เป็นเรื่องที่เค้าสนใจให้เค้าดู เค้าก็จะแบบ "อยากไปอะ หม่าม๊า" ก็จะบอกว่า "ถ้าไปต้องฝึกพูดอังกฤษไม่ก็จีน เพราะที่โน่นเค้าใช้สองภาษานี้ เกิดไปด้วยกันแล้วหลง อิงอิงพูดกับเค้าไม่รู้เรื่อง ทีนี้ก็จะไม่ได้เจอป่าป๊าหม่าม๊าอีกนะ"  ได้ผลค่ะ ขยันขึ้นจนผิดหูผิดตา ปกติเวลาให้พูดตามจะไม่ยอมพูด พอพูดถึงเรื่องไปเที่ยวสิงคโปร์ก็จะยอมพูดทันที บางทีเค้างอแงไม่ยอมพูดก็จะบอกเค้าว่า "สงสัยปีหน้าอี้หมิง(น้องชาย)จะได้ไป อิงอิงคงอด เพราะอี้หมิงพูดอังกฤษได้" เท่านั้นแหล่ะค่ะ ให้พูดอะไรพูดตามหมดเลยยย  ลองหาดูนะค่ะว่ามีอะไรที่จะใช้กับลูกสาวคุณอ้นได้บ้าง กว่าป้อจะหา"แรงบันดาลใจ"ได้นี่ก็เป็นปีเหมือนกันค่ะ

สำหรับคนเล็กของป้อก็OPOLกับเค้ามาตั้งแต่เล็ก  ของป้อจะเป็นประมาณเดียวกับคุณอ้นเลยค่ะ หันไปพูดไทยกับพี่สาว หันมาพูดอังกฤษกับน้องชาย แต่ไม่ได้เป็นลักษณะแปลหรอกนะค่ะ พูดไปเรื่อยๆเพียงแต่คนละภาษา   บางทีก็มีไทยบ้างอังกฤษบ้าง แล้วแต่ว่าปย.ไหนพูดได้พูดไม่ได้ แต่ย้ำค่ะ ว่าจะไม่มีไทยผสมอังกฤษในปย.เดียวกัน...ไทยก็ไทยล้วน อังกฤษก็อังกฤษล้วนค่ะ...ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ ค่อยเป็นค่อยไป

   อ้นก็บอกเขาเหมือนกันค่ะ ว่าจะพาไปเล่นหิมะ ที่นั้นไม่มีใครพูดไทยได้ แต่ก็ไม่ได้ สรรหารูป ที่สวยๆ หรือ สวนสนุกมาให้ดูนะคะ เดี๋ยวจะลองมั้งค่ะ ขอบคุณสำหรับ แรงบันดาลใจ ดีๆนะคะ ดีใจที่ได้อยู่หมู่บ้านนี้ค่ะ ผู้ใหญ่บ้านก็น่ารัก ลูกบ้านแต่ละคน ก็ช่วยเหลือกันดีค่ะ

ลองอ่านอันนี้ดูคะ

เอาล่ะ....เข้าเรื่องกันซะที(ยาวหน่อยนะ แต่เป็นขั้นตอนที่เราทำมา ตลอด 5 เดือน)
เป็นขั้นตอนสำหรับฝึกภาษาอังกฤษของคนที่ไม่เก่งให้ดีขึ้น และสอนลูกได้ด้วยค่ะ

• ตอนแรกปรับทัศนคติของคุณก่อน เพราะเราสอนลูกตอนโต เราก็คาดหวังว่าเค้าจะรู้เรื่องมากกว่าเด็ก แต่จริงๆเค้าก็เหมือนเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเหมือนเด็กๆ คุณสอนลูกพูดตอนเด็กยังไง กว่าเค้าจะพูดเป็นปี คุณพูดไปคนเดียวนานแค่ไหน อย่าลืมค่ะ ตัดความคาดหวังออกไป ความเครียดของคุณจะลดลง และมีแรงสู้เพื่อลูกค่ะ

• ภาไม่ได้เลือกระบบ OPOL และเลือกไม่ได้ เพราะปัญหาแรกคือ เราไม่เก่งภาษาอังกฤษ พูดไม่ได้ตลอด และคุณพ่อณิตามีเวลาอยู่กับลูกน้อย เราไม่ได้กลัวปัญหาเรื่องณิตาพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่เราต้องสอนอย่างอื่นและก็อยากพัฒนาการอ่าน การฟังภาษาไทย จากการอ่านนิทานไทยด้วย

• เริ่มต้นจากปรับตัวเองให้เป็นคนที่ต้องการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เมื่อก่อนน่าจะยาก แต่ตอนนี้เรามีลูกเป็นแรงขับดันอยู่แล้ว ทำได้แน่นอน
• เราเริ่มจากคำศัพท์ทุกคำที่เราเห็น พูดออกมา พูดทุกครั้งที่เห็น ให้ลูกได้ยิน ให้ตัวเองได้ยิน ถ้าเราไม่รู้ศัพท์คำนี้ (เชื่อว่ามีศัพท์เยอะมากในบ้านที่เราไม่รู้) ไปเปิดดู ไปหา เราจะได้ศัพท์ใหม่มากมาย ....การพูดทุกครั้งจะทำให้เราจำได้ และคิดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ (เราเพิ่งเข้าใจหนังสือภาษาอังกฤษที่เค้าบอกว่า ให้พยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษ อย่าคิดไทยแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษ ก็ตอนที่ผ่านน้ำพุและพูดกับลูกทุกวันว่า fountain เห็นทุกครั้งเราก็พูดทุกครั้ง และเราเริ่มสังเกตตัวเองว่าเราเห็นของหลายอย่างและเราก็คิดชื่อมันเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาไทย จริงๆเวลาที่เราเห็นของ ถ้าคุณสังเกตตัวเอง คุณไม่ได้นึกชื่อมันหรอก แต่มันเป็นอานิสงค์ จากที่บอกลูกทุกวัน มันเลยฝังใจ) ลูกได้ยินบ่อยๆ ลูกก็จะจำได้ค่ะ ได้ประโยชน์หลายสถาน

• ไม่เอาเรื่องไกลตัว เช่น เปิดหนังสือมีผัก มีสัตว์ ของทุกอย่างสอนหมด เราก็หนัก ลูกก็หนัก (อย่าลืม คิดถึงตอนท่องศัพท์เยอะๆตอนเด็กๆ อึ๊ย....) เอาเฉพาะที่เห็นก่อนนะคะ
• ทุกอย่างในโลก มีชื่อ...พยายามหามันเก็บไว้ แต่ยังไม่ต้องสอนก็ได้ เพราะถ้าคุณสอนลูกตอนอายุประมาณนี้ และลูกเริ่มเครื่องร้อน ลูกจะถามว่าอันนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร...ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ตอนนี้คุณเริ่มเป็นคนชอบค้นคว้าและรักการเรียนรู้อย่างไม่น่าเชื่อแล้วค่ะ (แล้วคุณก็จะคิดในใจว่า ถ้าชั้นขยันแบบนี้ได้ซักครึ่งตอนเรียน ป่านนี้ก็คงเก่งไปแล้ว..เอาน่าตอนนี้ก็น่าจะทัน)

• เรื่องคำศัพท์และการออกเสียงภาไม่ค่อยมีปัญหามากนัก เพราะเป็นเด็กท่องมาตลอด มีปัญหาที่วลีและการผูกประโยค ดังนั้นเราจึงเริ่มที่หนังสือคุณบิ๊กเลย ท่องประโยคที่เราคิดว่าจะต้องทำแน่ๆในแต่ละวัน เริ่มจากอาบน้ำ แต่งตัวก่อน(ขอบอกว่าท่องจริงๆ) พูดไปเรื่อยๆ เหมือนตอนที่เค้ายังพูดไม่ได้ พูดคนเดียวเหมือนบ่นๆไป อย่าคาดหวัง เพราะพอคาดหวัง ความเครียดจะตามมาทันทีค่ะ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้คำศัพท์ ไม่เป็นไรค่ะ เห็นคุณพ่อท่านหนึ่งเคยเข้ามาและบอกว่า ไม่รู้คำศัพท์ ต้องซื้อผลไม้มาเล่นกับลูก และติดชื่อไว้ตัวเองจะได้อ่านตอนเล่นกับลูก จะได้ท่องได้ คุณแม่ท่านหนึ่งก็บอกว่า ติดประโยค ติดคำศัพท์ไว้ฝาบ้านจนลายไปหมด คุณมีเพื่อนสู้ค่ะ ค่อยๆทำไป และคุณเองก็จะเก่งขึ้นด้วยค่ะ
• ไปซื้อหนังสือกริยาล้วนๆมา (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะเนี่ย) เรากำลังจะเริ่มเป็นเด็ก ป. 1 ที่ต้องเรียน verb ก่อนจึงจะผูกประโยคได้ ยังไม่ต้องสอนทั้งหมด ขีดไว้ว่า สัปดาห์นี้คุณจะสอนอะไรค่อยๆเพิ่มให้ลูกไปเรื่อยๆค่ะ รวมทั้งตัวคุณด้วยค่ะ

เรื่องสำเนียงอย่ากังวลมากเลยค่ะ ความคิดเห็นของภาคือ เน้นพูดเป็นหลักดีกว่าเนอะ คิดหลายอย่างเดี๋ยวเครียด แย่เลย เดี๋ยว โตขึ้นก็ให้เค้าปรับไป มีคนบอกว่าสำเนียงแต่ละที่ก็แตกต่างกัน ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าค่ะ
• ยังไม่ต้องอ่านหนังสือแกรมม่า เพราะภาอ่านจบหลายเล่มแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาเดิมคือเลือกใช้ไม่ค่อยถูก เพราะฉะนั้น อ่านตอนที่เราสงสัยก็พอและการไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มสำหรับมาสอนลูก ก็อย่าเพิ่งเลยค่ะ เพราะเคยไปเรียนมาก่อนหน้าที่จะสอนลูก ภาษาอังกฤษก็ยังคล้ายๆเดิมกับเรื่องเดิม พ่อณิตาบอกว่า ตอนนี้เราเก่งกว่าตอนไปเรียนอีก เลยได้สัจธรรมว่า ฝึกพูด และค้นคว้าเองเท่านั้น ถึงจะทำให้เราดีขึ้นได้ (ถ้าจะเรียนก็เรียน ที่คุณจะเอาประโยคมาใช้พูดกับลูกเลยดีกว่าค่ะ)

• มาห้อง eng club ก๊อปกระทู้เดิมๆไปนั่งอ่าน นั่งอ่าน นอนอ่าน อ่านไปอ่านมา และเอาไปพูด ไม่ต้องเอาไปพูดทั้งหมด เพระจำไม่ได้หรอกค่ะ เยอะมาก ค่อยๆพูดไปวันละประโยค 2 ประโยค เวลาผ่านไป คุณจะพูดได้เยอะขึ้นมาก อย่างไม่น่าเชื่อ

• ดู คลิปน้องเพ่ย เพ่ย เอาประโยคที่คุณบิ๊กพูดกับลูกมาพูดกับลูกบ้าง เอาประโยคที่น้องเพ่ย เพ่ยพูดมาฝึกลูกเราพูดบ้าง และในนั้นจะเห็นว่าคุณบิ๊กใช้ประโยคง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่มีศัพท์ยาก เก็บมาเป็นวิธีสอนลูกเราได้ค่ะ (ถ้าคุณบิ๊ก ได้อ่านขอความกรุณาลงคลิปเพิ่มด้วยนะคะ เพราะมีใครบางคนรอลอกประโยคจากคุณบิ๊ก และวิธีการที่แอบได้ เวลาดูคลิปด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ อิอิ)
• ดูการ์ตูนกับลูก ตอนแรกไม่ต้องตกใจค่ะ ว่าตัวเองฟังไม่ค่อยออก เป็นเหมือนกันค่ะ แต่ฟังบ่อยๆ ก็จะฟังออกมากขึ้นค่ะ และบ่อยเท่าไหร่ประโยคที่ฟังออกจะมากขึ้นจริงๆค่ะ อันนี้ยืนยันด้วยตัวเองและหลายคนใน web นี้ค่ะ
• หา VCD เพื่อการศึกษาที่เค้าใช้สอนเด็กอื่นๆมาดูค่ะ จะได้รู้ว่า เค้าสอนเด็กฝรั่งกันยังไง ไม่ต้องเอาหนักมากนะคะ เอาแบบกึ่งๆการ์ตูนน่ะค่ะ เพราะเค้าจะสอนประโยคช้าๆชัดๆ ซ้ำๆ มีหลายอันเลย จะได้เพิ่มประโยคของตัวเองและไปพูดกับลูก
• หา VCD การ์ตูนอื่นๆที่มี subtitle มาช่วยเพิ่มประโยค ถ้าเจอประโยคเด็ดๆ ก็รวบรวมไว้ค่ะ ค่อยๆทำไป ทำไปบ่อยๆ จะรู้สึกว่า ไม่ต้องพึ่ง subtitle ค่ะ(จริงๆนะ)

• อ่านนิทานภาษาอังกฤษของเด็ก ให้ลูกฟังบ่อยๆ และนั่งอ่านเองด้วย จดประโยคที่จะเอามาใช้กับลูกได้ (เอาบางประโยคนะคะ) เอามารวบรวมในประโยคที่คุณรวบรวมไว้อ่าน อ่านซ้ำไป ซ้ำมา เดี๋ยวก็จำได้ เอาไปพูดได้
• หาหนังสือที่มีตัวอย่าง ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ลองเปิดอ่านแล้ว มีประโยคที่คุณจะเอาไปปรับ ใช้พูดกับลูกได้พอสมควร ซื้อมา รวบรวมประโยคเหล่านั้นมาอ่านซ้ำไปซ้ำมา และเริ่มหยิบมาใช้
• เจอเพลง เจอประโยคอะไรที่เอามาใช้พูดกับลูกได้ เอาประโยคเหล่านั้นมารวบรวมไว้และอ่านซ้ำไปซ้ำมา และหยิบมาใช้
• แล้วคุณสงสัยมั้ยคะ ว่าจะอ่านตอนไหนดีเนี่ย ก็ตอนก่อนคุณจะนอนก็หยิบขึ้นมาอ่านก่อนหลับ ตอนลูกเล่นเพลินๆคนเดียว หยิบขึ้นมาอ่านบ้าง ไปโน่นมานี่ก็หยิบติดมือไป ได้วันละประโยค 2 ประโยค คุณก็เก่งแล้วค่ะ

พอคุณพูดได้เยอะขึ้น คุณจะเริ่มจับทางได้ว่า อ๋อ ถ้าพูดสถานการณ์คล้ายๆแบบนี้มันจะมีคำนี้มาตลอดเลย ถ้าพูดแบบนั้น มันจะมีคำนี้มานี่นา คุณจะเริ่มเข้าใจไวยากรณ์โดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องท่องให้เหนื่อยค่ะ และถ้าคุณเริ่มแต่งประโยคเองได้แล้ว คุณไม่มั่นใจ ก็เข้ามาที่ eng club ค่ะ มีบรรดา คุณพ่อคุณแม่ ใจดีช่วยแก้ประโยคและเสริมความมั่นใจกรณีที่คุณตอบถูก และยิ้มหน้าบานไปพูดกับลูกอย่างภาคภูมิใจค่ะ

ตอนนี้คุณเริ่มพูดได้เยอะขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ นั่นก็คือ มันต้องกินเวลาไปแล้วหลายเดือนเชียวค่ะ ไม่ต้องเร่งนะคะ เหนื่อยก็พักค่ะ ไม่ต้องทำตลอดเวลา ไม่ต้องทำทุกวัน ไม่มีตารางแน่นอน ทำไปเรื่อยๆ ค่ะ เราไม่มีกำหนดส่งผลงานค่ะ

• อ่านหนังสือ คุณบิ๊กหลายๆรอบค่ะ ระหว่างทางที่คุณก้าวไป คุณจะพบกับอุปสรรค ปัญหามากมาย ที่ผ่านมาเคยเจอปัญหาและก็แก้เองผ่านไปได้ พอกลับมาอ่านหนังสือ เอ๊า..คุณบิ๊กเค้าก็บอกไว้นี่นา เราอ่านไม่ดีเอง รึไม่ก็ยังไม่เข้าใจเพราะยังไม่เจอเอง มันมีปริศนาธรรมอยู่ในนั้น 555….

สุดท้าย ต้องขอขอบคุณคุณบิ๊ก อย่างเป็นทางการ พ่อณิตาบอกว่า คุณบิ๊กได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยจริงๆ เห็นด้วยค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ที่ทำให้เรามีโอกาสสร้างครอบครัว 2 ภาษาแม้จะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบนัก

นอกจากนี้ ขอขอบคุณ แม่บ้านประจำ web คุณแพท คุณอ๊อบ ที่ใจดีเสียสละเวลามาตอบคำถาม ตลอดเวลา และยังเคยให้กำลังใจภาด้วยตอนท้อ ทั้งที่จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเลย
คุณเล็ก ที่ทำให้เห็นความมุ่งมั่น ให้กำลังใจภาตอนท้อแท้ ทำให้มีพลังสู้ต่อไป
คุณดา คุณแนท คุณจิ๊ คุณแม่ คุณพ่ออื่นๆ เอ่ยชื่อคงไม่หมด ที่มาช่วยตอบคำถาม มาช่วยถามคำถามให้ได้รับความรู้ มาช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกัน จริงๆ เวลาเห็นกระทู้ที่ท้อแท้ก็อยากเข้ามาตอบให้กำลังใจทุกคนจริงๆ เพราะตัวเองก็เคยท้อแท้ มาบ่น พอมีคนให้กำลังใจ เราก็มีแรงต่อไป แต่ไม่มีเวลาจริงๆค่ะ ลำพังแค่มาตามกระทู้ทุกวันก็ไม่ทันแล้ว

ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ ทุกท่านนะคะ ให้ก้าวต่อไป คุณต้องทำได้แน่ค่ะ นอกจากคุณทำเพื่อลูกคุณเองแล้ว คุณยังทำเพื่อประเทศชาติอีกนะคะ สู้ สู้ ค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service