หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

อยากได้ความรู้เกี่ยวกับการทำ home school ใครพอรู้ช่วยแบ่งปันหน่อยจ้า

พอดีลูกอายุ 2 ขวบแล้ว และก็ยังหาโรงเรียนถูกใจไม่ได้

คุณพ่อน้องเลยอยากให้ทำ home school ที่บ้าน เพราะเลี้ยงลูกเต็มเวลา

แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเลยจ้า

ใครพอมีข้อมูลช่วยแนะนำหน่อยค่ะ

Replies to This Discussion

Permalink Reply by กุลฑลีย์ ลีกตเวทิน on December 27, 2010 at 9:28am

จริงๆการทำ homeschool ไม่ยากเลยค่ะ(อันนี้คือจากประสพการณ์ที่ทำ อาศัยจากการอ่าน และ ลองผิดลองถูก) อันดับแรก การเรียนการสอนต้องเป็นไปตามวัยของเด็ก เราต้องเอาเค้าเป็นที่ตั้ง อย่าทำให้รู้สึกว่ายัดเยียด

เราต้องเรียนรู้ก่อนว่าเด็กวัยนี้ มีความสามารถในการเรียนรู้อะไร และ อย่างไร การเรียนรู้จะต้องตรงกับพัฒนาการด้านร่างกายของน้องด้วย เช่น วัยสองขวบ กล้าวเนื้อมัดเล็กยังไม่แข็งแรง เราก็ไม่ต้องเร่งให้น้องไปหัดเขียนอะไรมากมาย การสอนบางอย่างก็ไม่ได้สอนตรงๆ แต่อาจจะเน้นไปทางเล่นมากกว่า ในช่วงลูกสองขวบดิฉันไม่ได้เน้นอะไรมาก แต่จะให้ความสำคัญกับพัฒนาการด้านร่างกายก่อน แล้วก็สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเค้าคือการเรียนรู้สำหรับเค้าทั้งหมด

ถ้าทางวิชาการหน่อย ก็เริ่มสอน Phonics ตั้งแต่ 1.5 ขวบ เริ่มรู้จักตัวเลข นับตัวเลขได้ รู้จักสี รูปทรง รู้จักคำสั่งต่างๆ รู้จักคำศัพท์(บังเอิญแพรวเค้าได้ ทั้ง ไทย อังกฤษ แล้วก็จีนด้วยค่ะ ไม่ได้สอนแบบแปล เพราะอยู่กับคุณตากับคุณยาย ก็พูด จีนกลาง อยู่กับคุณแม่ก็อังกฤษ อยู่กับคุณพ่อก็ภาษาไทย ความสามารถในการเชื่อมโยงคำศัพท์ของลูกเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะเค้าได้คำศัพท์จากการใช้ใชีวิตประจำวัน)

คุณแม่อาจจะ search คำว่า Homeschool ใน net ก็จะมีบรรดาแม่ๆ เมืองนอกมากมายที่ทำ Homeschool แล้วก็มา post กิจกรรมต่างๆ เราก็เอามาปรับใช้กับลูกเราก็ได้

ดิฉันแนะนำว่า ถ้าเป็นเด็กเล็ก ก็จะมีแนวการสอน ที่น่าสนใจก็คือแนว Montessori กับ Waldorf ก็ลองหาหนังสือมาอ่านดูได้ค่ะ แต่ดิฉันเลือกแนวของ Waldorf มากกว่า สามารถหาหนังสือจากโรงเรียน ปัญโญทัยได้ คือเข้าไปใน web แล้วลองเลือกหนังสือดูค่ะ หรืออีกเล่ม เป็นหนังสือแปล คุณคือครูคนแรกของลูก หาซื้อได้จาก Se-ed ค่ะ

อีกเล่มที่ดิดฉันอ่านก็คือ กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว จะได้รู้ว่า ช่วง ก่อนที่ลูกจะเข้าเรียนเราจะต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง โดยไม่ต้องรอ ถึงแม้ว่าจะเลือก ทำHomeschool ก็สามารถอ่านได้ อ้อ อีกเล่มที่ขาดไม่ได้ก็คือ การทราบถึงพัฒนาการในแต่ละวัย จะได้เลือกเนื้อหา และ วิธีการได้ถูก ก็มีคู่มือการเลี้ยงลูก ของคุณหมอชนิกานต์ ตู้จินดา หรือ จะเป็นคู่มืออื่นก็หาได้มากมายในท้องตลาด

ช่วง 0-3 ขวบของลูก ดิฉันจะเน้นเรื่องให้เค้าสนุก มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายที่แข็งแรง มีความสุขกับทุกๆอย่างที่ได้เจอ แล้วพอหลังสามขวบถึงจะมาเน้นเรื่องวิชาการอื่นๆ ตอนนี้ลูก 5 ขวบแล้ว ได้ไปโรงเรียน แต่ก็ยังใช้แนว homeschool สอนเค้าอยู่ทุกวัน ตามแต่เวลาจะอำนวย ลูกสามารถบวกเลข 2 หลักได้ กำลังจะฝึกลบ (คือเข้าใจ concept ของการบวก ลบ มานานแล้ว แต่ตอนนี้เน้นมาทำแบบฝึกหัด รวมทั้งโจทย์ปัญหา) ภาษาไทยเริ่มอ่านคำที่มีตัวสะกด และ ผันวรรณยุกต์ได้ เริ่มท่องสูตรคูณแม่ 2, 3, 5 ได้ ภาษาอังกฤษไม่ต้องพูดถึงอ่าน ORT - Read at home จบ Level 5 แล้ว และตอนนี้กำลังเริ่มสนใจ แนว Non Fiction มากขึ้น ดิฉันก็เริ่มสอนโดยใช้ Lapbook (ลอง Search หาคำนี้ได้ค่ะ) ช่วงนี้เป็นช่วงที่ลูกเริ่มรับรู้เรื่องราวมากขึ้น มีwebsite ที่มีข้อมูล หรือ เนื้อหา รุปภาพ ให้เราได้เลือกใช้อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องสมัครสมาชิกรายปี แต่ก็คุ้มค่ะ ปีละ ไม่กี่ร้อยบาทเอง เด๋วถ้ามีเวลาว่างจะลอง upload ตัวอย่าง Lapbook ที่ทำให้แพรวมาให้ดูนะคะ

ดีใจค่ะที่คุณแม่ ตัดสินใจทำ Homeschool ให้ลูก เพราะเป็นสิ่งที่ดิฉันกับสามี ก็ทำมาตลอด ไม่ทราบว่าคุณวรีพรอยู่ที่ใหนคะ พอดีทราบมาว่าที่เชียงใหม่ คนที่ทำ Homeschool ค่อนข้างเยอะ แล้วก็เป็น network เลยค่ะ ของดิฉันอยู่หาดใหญ่ค่ะ ยังไม่ค่อยมีคนทำเท่าไหร่

ลองดูค่ะ ถ้ามีอะไรช่วยได้ ก็ยินดีค่ะ ตัวเองไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เพราะยังมีคุณพ่อคุณแม่ในหมู่บ้านนี้ที่เก่งๆก็อีกมาก แต่สิ่งที่ทุกท่านมีเหมือนกันคือความตั้งใจ และ ความทุ่มเท ที่ให้กับลูกค่ะ

Permalink Reply by ลภัสรดา on December 28, 2010 at 4:01pm

สวัสดีค่ะ คุณกุณฑลีย์

ดิฉันเข้าไปเว็บร.ร.ปัญโญทัยมาแล้วค่ะ มีหนังสือหลายเล่ม แต่ไม่รู้ว่าจะต้องซื้อเล่มไหนถึงจะเหมาะ คุณกุณฑรีย์ช่วยแนะนำหนังสือให้หน่อยได้ไหมคะ คือ ดิฉันอยากได้หนังสือที่บอกกิจกรรมให้เด็กทำตามแต่ละช่วงวัยน่ะคะ ว่าวัยนี้ควรทำกิจกรรมอะไรกับเค้า รบกวนช่วยบอกชื่อหนังสือให้หน่อยนะคะ เอาที่คุณกุณฑลีย์มีก็ได้ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

แม่น้องมุก

Permalink Reply by กุลฑลีย์ ลีกตเวทิน on December 28, 2010 at 5:22pm

ส่วนใหญ่ หนังสือ ของปัญโญทัย จะบอกถึง concept ของ Waldorf ถ้าจะเน้นกิจกรรม ก็จะมีของ ที่เป็นแนว Montessori ที่อีกทู้นึงแนะนำ และ ที่กุลเห็นดีอีกอันนึงเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ Kids and School แล้ว ก็ High Five แต่ว่าถ้าจะเอาเป็นหนังสืออื่นๆอีก เด๋วขอคืนนี้อีกทีนะคะ พอดี มันอยู่อีกที่นึงต้องไปดูให้ค่ะ

Permalink Reply by กุลฑลีย์ ลีกตเวทิน on December 29, 2010 at 9:07am

มาบอกชื่อหนังสือที่ค้างไว้ค่ะ ลองดูละกันนะคะ บางอย่างเราอ่านแล้วมาลองเล่นกับลูก แต่ถ้าเค้าไม่ชอบก็ต้องปรับเปลี่ยนอ่ะค่ะ ลูกจะเป็นคนบอกเราได้ดีที่สุดว่าจะให้เราสอน หรือ เล่นกับเค้าในรูปแบบใหน แต่เราก็ต้องสังเกตเค้าเยอะๆด้วยค่ะอันที่

1. Brain games for preschoolers เกมหรรษาพัฒนาสมองลูก วัย 2-5 ขวบ (ของซีเอ็ดค่ะ)

2.เสริมพัฒนาการลูกน้อยด้วยของเล่น (อันนี้ได้มาจากร้านดวงกมล ตอนลดราคา ก็จะบอกว่าในแต่ละช่วงอายุทำอะไรได้บ้าง แล้วก็มีแนะนำกิจกรรมค่ะ)

3.เล่นกับลูก 100 กิจกรรมพัฒนา IQ/EQ ลูกรัก ประถมต้น (ซีเอ็ด)

ยังมีหนังสือกิจกรรมอื่นๆอีก แต่เป็นแนวอื่นเช่นแนวศิลปะ แนววิทยาศาสตร์ แนวธรรมชาติ แต่ไม่แน่ใจว่าจะสนใจมั๊ยนะคะ พอดีลูกกุลอายุ 5 ขวบกว่าแล้วน่ะค่ะ หนังสือกิจกรรมที่มีก็เลยจะเป็นของเด็กโตมากขึ้น ตอนช่วงเล็กๆ ไม่ได้อ่านมากเท่าไหร่ เพราะใช้เหมือนกับใช้ sense แล้วก็ดูลูกว่าชอบแบบใหนก็ดัดแปลงไป บางอย่างชอบก็เล่นซ้ำๆ

มีอีก 3-4เล่มที่อยากแนะนำให้อ่านค่ะ

1. คำถามสารพันสร้างสรรค์ปัญญา - หม่อมดุษฏี บริพัตร ณ อยุธยา

2.เพลินคิด พลอยฝัน - หม่อมดุษฏี บริพัตร ณ อยุธยา

3. วิธีสั่งสมองให้เรียนเก่ง - แปลโดย - หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา

4. 100 วิธี เลี้ยงลูกสาวให้ เก่ง กล้า น่ารัก - หนังสือแปล

หนังสือ 3+4 จาก รักลูกบุคส์ ค่ะ

Permalink Reply by chiangmaihomeschool on April 4, 2011 at 4:19pm

link ตาม link ใครสนใจ คุยกันได้ค่ะ

Permalink Reply by โอ๋...จัง on April 17, 2011 at 10:11pm

เห็นด้วยค่ะว่าลูกจะบอกเราเองว่าเค้าชอบการเรียนรู้แบบไหน

ของเราลูกสามารถจะอยู่กับแม่ได้ทุกที่แม้แต่เวลาแม่อึ๊..จริงๆนะค่ะ

แล้วก็จะคุยกับลูกทุกเรื่อง อย่างเข้าครัวให้เค้าช่วยล้างผัก หยิบจาน หยิบชาม เค้าก็เลือกหยิบถูก(เวลาสั่งลูกจะแอบตามไปดูว่าเค้าเลือกถูกไหม) สอนว่านี่เรียกว่ากระทะ ตะหลิว หม้อ ...แค่นี้เราก็คิดว่าเป็นhome schoolแล้วล่ะค่ะ

เวลาเล่นปั้นจักรยานเค้าเลี้ยวซ้ายเราก็พูดไปด้วยว่าเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา จอด..

เวลาเล่นบล็อคต่างๆก็ถามเค้าว่าบล็อกสีอะไร นับบล็อกกัน

มีมากมายสอนได้ไม่รู้จบค่ะ

Permalink Reply by มิ้น on April 9, 2011 at 12:06am

เป็นคนนึงที่พยายามทำโฮมสคูลแต่เหนื่อยมากและไม่ค่อยสำเร็จ แต่ก็มีบางส่วนที่เวิร์ค

คิดว่าถ้าจะทำควรจะต้องมีคนช่วยงานบ้าน หรือทำอาหาร ถ้าแม่จะทั้งสอนลูก ทำงานบ้าน และทำอาหารด้วย ก็จะไม่มีเวลาคิดว่าควรสอนอะไรลูก วันๆก็จบไปกับการทำงานบ้าน หาเวลาไปซื้ออุปกรณ์ง่ายๆมาใช้สอนลูกยังไม่ได้เลย ซึ่งมิ้นอยู่ในประเภทนี้

ในทางกลับกัน ถ้าจะเป็นแม่บ้านเต็มตัวและอยากทำโฮมสคูลให้ได้ดี มิ้นเห็นว่าชาวญี่ปุ่นเขาจะรับสื่อพัฒนาเด็กรายเดือน รายปี อย่างในห้องญี่ปุ่นที่คุยๆกัน เขาแนะนำชิมาจิโร่ ซึ่งทางบริษัทจะส่งหนังสือ ของเล่น ที่คัดเลือกแล้วว่าเหมาะกับเด็ก ส่งมาให้สอนเป็น step ไป มีคำแนะนำมาด้วย แบบนี้ก็สำเร็จรูป เหมาะกับแม่ที่ต้องใช้เวลาทำงานบ้าน ไม่มีเวลาศึกษาว่าควรสอนอะไรเด็ก และไม่มีเวลาเตรียมอุปกรณ์การสอน

มิ้นเคยจะพาลูกไปรร. ตอน 2 ขวบ เพราะรู้สึกว่าเด็กต้องการเล่นกับเพื่อน แล้วแถวบ้านนี่เด็กแต่ละครอบครัวก็ตื่น-หลับไม่พร้อมกัน หากลูกไม่ไปรร. ก็ไม่มีเพื่อนเล่น พอไปคุยกับครูว่าเขาสอนอะไรบ้าง ก็รู้สึกว่าสอนลูกเองได้ ก็กลับมาสอนลูกให้หัดใส่รองเท้าเองให้เป็น สอนเช็ดน้ำที่หก ช่วยแม่เอาขยะไปทิ้ง ฝึกเข้าห้องน้ำ ฝึกกินข้าวเอง วันที่ว่างก็พาลูกระบายสีบ้าง ทำเครื่องเขย่าเสียงให้เล่นบ้าง ทำบ้านกระดาษ(จากลัง)บ้าง พยายามทำกิจกรรมเล่นที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะอยากให้ลูกเริ่มหัดคิดที่จะหยิบของรอบๆตัวมาเล่นให้เป็น พอเขาเล่นเองเป็น ใช้จินตนาการเป็น คิดว่าเราคงเบาแรงไปเยอะ ก็เลยพยายามนำการเล่น และอ่านหนังสือให้เขาฟังเยอะๆ หนังสือเหมือนตัวเปิดโลกของเด็กเลย ถ้าเราไม่ค่อยว่างพาเขาไปเที่ยว หนังสือก็ให้ประสบการณ์ได้ระดับนึง

มันได้ผลดีนะคะ เอาลูกไปเข้าเรียนจริงๆ 2 ขวบ 7 เดือน ครูรายงานว่าลูกช่วยเหลือตัวเองได้ตามวัย

แต่ช่วงที่มีปัญหามากๆ คือตอนลูก 2 ขวบ 5-6-7เดือน เพราะช่วงนี้ลูกซนจนเอาไม่อยู่แล้ว รื้อนั่นนี่ทั้งวัน (อาจจะเพราะช่วงนี้เราเริ่มนั่งโต๊ะทำงาน พอให้เด็กเล่นเองเขาก็เล่นเลอะ) แค่ตามเก็บก็หมดเวลา เลยพาไปรร.

มิ้นเป็นแม่ที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือสอนลูก แพ้แนววิชาการค่ะ อ่านแล้วหลับ แต่มิ้นใช้ความทรงจำในวัยเด็กของตัวเอง จำได้ว่าเราอยากเล่นนั่นเล่นนี่ แล้วการเล่นก็ได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ เช่น เล่นกดขันให้จมน้ำ เราจะสงสัยว่าทำไมมันกดยาก มีอากาศออกมา เชื่อว่าการเล่นทุกอย่างเด็กได้คิดหมด แต่ถ้าไม่ได้เล่น ทำอะไรซ้ำๆเดิมๆ เด็กก็ไม่ได้ใช้สมอง ถ้าเห็นเด็กเบื่อ อย่างน้อยก็ต้องพาไปออกกำลังกาย ไปดูนกดูปลานอกบ้านบ้าง และถ้าเวลาเราพาลูกไปนอกบ้าน ถ้าเราไม่เหม่อหรือเก็บเรื่องงานเรื่องกลุ้มใจมาคิด เราเพ่งความสนใจไปที่ลูก ว่าลูกให้ความสนใจอะไร แล้วเราก็เข้าไปสอนเรื่องนั้นๆ จะได้ผลดีมาก

Permalink Reply by แม่น้องน้ำ on April 9, 2011 at 12:27am