หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ท้อจังเลยเป็นสมาชิกมาปีกว่าแล้ว ลูกยังพูดไม่ได้เลย

ตอนนี้ลูกอายุสามขวบ สามเดือนแล้วเคยเข้าเวิร์คชอบแล้ว แต่ยังทำไม่สำเร็จเลย เนื่องจากดิฉันต้องทำงานเป็นกะมี่เวลาอยู่กับลูกน้อยมากและที่สำคัญตัวดิฉันต้องสอนลูกเองทั้งไทย-อังกฤษ ตอนดิฉันพูดกับลูกเป็นอังกฤษลูกไม่ยอมพูดด้วย กลับพูดเป็นไทยแทนและทำหน้างง แม่ไม่รู้พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลย หนูไปคุยกับพ่อดีกว่า แต่ดิฉันก็ให้ลูกฟังเพลงอังกฤษ ดูคายุนะชอบมากแต่ไม่ยอมพูดตาม เพื่อนคนไหนที่ลูกมี่อาการแบบนี่ช่วยขอคำแนะนำหน่อยนะคะคุณแม่เริ่มท้อแล้วล่ะค่ะ

Replies to This Discussion

Permalink Reply by เอ๋ on March 22, 2011 at 2:48pm

อย่าท้อนะคะ เราเองก็เคยท้อ ลุกก้พุดไม่ได้ค่ะ พูดเป้นคำๆๆ เลือกพูดไทยมากกว่า แต่เราก็คิดว่าอย่างน้อยลุกก้พอเข้าใจ และคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ ลองหาแรงจูงใจแบบที่คุณบิ๊กแนะนำมั้ยคะ อค่ยๆๆเป็นค่อยๆๆไป จะได้ไม่เครียดนะคะ

Permalink Reply by แม่น้องกุน & น้องญาญ่า รักในหลวง on March 22, 2011 at 3:08pm

แนะนำนะคะ ต้องหาแรงจูงใจ และสร้างเงื่อนให้เด็กอยากพูดออกมาและต้องทำเป็นธรรมชาติคะ ที่สำคัญต้องใช้ความถี่สะสมและช่วยพยุงการพูดให้เขาด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าคุณสุจิตราจะทำงานด้วยก็ตาม ต้องอาศัยความอดทนคะ ดิฉ้นเองทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกเองไปด้วยคะ ถึงแม้ปีกว่าแล้วก็ตาม ต้องอาศัยความถี่มากๆ เพราะว่าสภาพแวดล้อมของเขาพูดไทยมากกว่าคะ

Permalink Reply by เอ๋ on March 23, 2011 at 4:28pm

เห็นด้วยค่า

Permalink Reply by มาม๊าน้องบุหลัน on March 22, 2011 at 11:54pm

แค่น้องไม่ปฏิเสธที่จะดูสื่อภาษาอังกฤษก็นับว่าคุณแม่ประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้วนะคะ

ใจเย็นๆค่ะ และอย่าไปสนใจว่าเวลาผ่านมานานแค่ไหนแล้ว เพราะยังมีเวลาเหลืออีกทั้งชีวิตของเราค่ะ

พยายามมีความสุขกับทุกวินาทีที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับลูก อย่าเครียดนะคะ เพราะเด็กเค้าจะมีสัมผัสพิเศษ ที่สามารถสัมผัสถึงรังสีความตึงเครียดจากคนรอบๆตัวได้ ค่อยๆสังเกตุหรือทดลองไปเรื่อยๆว่าอะไรจะเป็นแรงจูงใจให้เค้าสื่อสารกลับมาเป็นภาษาอังกฤษได้ เช่น ลองหากิจกรรมสนุกๆที่ลูกชอบเป็นพิเศษแล้วค่อยๆสอดแทรกประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆเข้าไปทีละน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ลูกค่อยๆซึมซับว่าแม่จะพูดแบบนี้เป็นเรื่องปกติ หรือหาเพลงสนุกๆที่เป็นภาษาอังกฤษมาเปิดแล้วร้องเต้นด้วยกันบ่อยๆ เพื่อสร้างโอกาสให้เค้าได้เปล่งเสียงออกมา (คุณแม่ลองหา monkey see monkey do ใน youtube แล้วให้น้องดู ถ้าเค้าชอบ คุณแม่ก็ต้องร้องเต้นเล่นไปกับเค้าด้วย เวลาเค้าสนุก เค้าจะร้องตามไปเองโดยอัตโนมัติค่ะ ค่อยๆเพิ่มความคุ้นชินในการเปล่งเสียงเป็นภาษาอังกฤษ )

หาแรงบันดาลใจให้ลูกไปเรื่อยๆ มันต้องเจอเข้าซักวันค่ะ

แอนเป็นคุณแม่ที่มีเวลาน้อยมากเช่นกันแถมพูดอังกฤษก็ไม่เก่ง แต่คิดเสมอว่าได้ทำเท่าที่ทำได้ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และรู้สึกว่าโชคดีมากที่เราไม่ล้มเลิกไปในช่วงแรกๆที่ต้องเจอด่านทดสอบกำลังใจมากมาย ตอนนี้ไม่มีคำว่าล้มเลิกสำหรับแอนแล้วค่ะ มีแต่ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และจะทำอย่างมีความสุขด้วยค่ะ

Permalink Reply by สุจิตรา นวลอ่อน on March 24, 2011 at 12:00pm

ขอบคุณมากเลยค่ะคุณแม่น้องบุหลัน คุณคือหนึ่งแรกบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันกลับมาคิดใหม่ทำใหม่ค่ะ ได้อ่านหนังสือสองภาษาโฟนิกส์จบแล้วเจอคุณหนึ่งในครอบครัวตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จดีใจด้วยจริงๆค่ะดิฉันจะพยายามทำให้ได้ค่ะ

Permalink Reply by Apple on March 23, 2011 at 10:06am

อยู่ในสถานะการณ์เดียวกันค่ะ ลูกอายุเท่ากันด้วยค่ะ เปิ้ลเองก้อต้องทำงาน สอนทั้ง-ไทย และ อังกฤษ เหมือนกันเลยค่ะ ตอนนี้ ทำแบบนี้ค่ะ

1. เลือกที่จะคุยกับเค้าเป็นเวลาค่ะ เช่น เวลาอาบน้ำ กับ เวลานอน จะคุยกับเค้าเป็นภาษาอังกฤษค่ะ

2. เวลาอืน ๆ เป็นไทยทั้งหมด อาจมี สอดแทรก คำศัพท์ บ้างเมื่อเห็นก้อ ชี้ แล้วพูด ศัพท์ คำนั้น ๆ แล้วก้อให้เค้าพูดตามค่ะ

3. ตอนนี้ น้องนะโม รู้ประโยค เกี่ยวกับอาบน้ำแปรงฟัน และ อุปกรณ์ในห้องน้ำ เป็นอย่างดีค่ะ และ ประโยคก่อนจะนอน

4. ตอนนี้เริ่มที่จะขยับ มาเป็นเวลาอื่น บ้างแล้วค่ะ เช่น เวลากินข้าวด้วยกัน และ เวลาเล่นด้วยกันค่ะ

.... ใจเย็น ๆ น๊ะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ... ^_^ ...

Permalink Reply by สุจิตรา นวลอ่อน on March 24, 2011 at 11:54am

ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ คงต้องเริ่มลงมือเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เริ่มที่ตัวเองก่อนใช่มั๊ยค่ะยังไงคงจะรบกวนปรึกษาคุณเปิ้ลบ้่างหล่ะคราวนี้

Permalink Reply by น้องแพง รักในหลวง on March 23, 2011 at 11:02am

เลี้ยงลูกคล้ายๆ กันค่ะ คือว่าเราจะสอนภาษาอังกฤษอย่างเดียวแล้วทิ้งภาษาไทยให้คนอื่นสอนเลยก็ไม่ได้ เพราะคนรอบข้างส่วนใหญ่พูดภาษาเหนือ เราก็เลยต้องสอนน้องแพงทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งคุณแม่เองก็ต้องทำงานตอนกลางวันด้วยค่ะ ตอนนี้น้องแพงอายุได้สามขวบแล้ว (วัยใกล้ๆ กันเลยค่ะ) เริ่มสอนสองภาษามาได้ปีกว่าเหมือนกันค่ะ น้องแพงฟังภาษาอังกฤษเข้าใจนะคะแต่แกจะถนัดใช้ภาษาไทยซะมากกว่า คุณแม่ต้องพยายามกระตุ้นให้เค้าพูดภาษาอังกฤษค่ะ คือจะพยายามใช้ภาษาอังกฤษพูดกับเค้าให้มากที่สุด ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษน้องแพงก็จะตอบเป็นภาษาอังกฤษ บางทีเค้าไม่ยอมพูดเค้าก็จะเถียงเป็นภาษาไทย คุณแม่จะบอกเค้าว่า 'i don't understand, what do you say?' อะไรประมาณเนี้ยค่ะ หรือบางทีเค้าพูดภาษาไทย เราก็จะบอกเค้าว่าให้พูดภาษาอังกฤษ เช่น เวลาป้อนข้าว น้องแพงอิ่มแล้ว เค้าก็จะบอกว่า 'no, อิ่มแล้ว' คุณแม่ก็จะบอกว่า 'you have to say...no, mamy i'm full' แล้วคุณแม่ก็จะแทรกคำถามเข้าไปเลย 'are you full?' (เอามือแปะที่ท้อง...ประมาณให้เค้ารู้ว่าถามเกี่ยวกับท้องของเค้าน่ะคะ) น้องแพงเค้าก็จะตอบว่า 'yes, i'm full' ประมาณนี้น่ะค่ะ พยายามพูดบ่อยๆ ค่ะ น้องเค้าก็จะเข้าใจและเลือกใช้ได้เอง

อย่าเพิ่งท้อนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ถ้าเราสอนแบบไม่เครียดเดี๋ยวน้องเค้าก็จะซึมซับไปเองค่ะ เราเริ่มนับหนึ่งดีกว่าเราไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยนะคะ การที่น้องเค้าไม่ต่อต้านการดูการ์ตูนภาษาอังกฤษก็แสดงว่าเป็นสัญญาณที่ดีค่ะ

อ้อ...เวลาไปรับน้องแพงกลับจากโรงเรียน คุณแม่ก็จะชวนคุยไปเรื่อยค่ะ เห็นอะไรก็ชื้ให้ดู แล้วก็ตั้งคำถามนำค่ะ อย่างเช่น มีพระห้อยอยู่ที่กระจกหน้ารถ

คุณแม่ : what is it?
น้องแพง : i don't know
คุณแม่ : it's amulet, we have to pay respect to the amulet.
น้องแพง : amulet (ยกมือไหว้ แล้วพูด..สาธุ)
คุณแม่ : what is it?
น้องแพง : amulet
(คุณแม่จะถามคำถามซ้ำๆ ประมาณสามรอบค่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าเค้ารู้จักแล้ว) ทีนี้เหรียญมันมีสองด้านค่ะ ด้านหน้ามีรูปพระ และด้านหลังเรียบๆ คุณแม่ก็เลยตั้งคำถามใหม่
คุณแม่ : can you see it? (หันด้านที่มีรูปพระให้ดู) พอเห็นน้องแพงทำหน้างงๆ ก็ตอบนำค่ะ
คุณแม่ : yes, i can see.
คุณแม่ : can you see it?
น้องแพง : yes, i can see.
คุณแม่ : can you see it? (หันด้านหลังให้ดู)
น้องแพง : no, i can't see.
คราวนี้เค้าสนุกเลยค่ะ จับเหรียญพลิกไปมาแล้วก็ให้คุณแม่ถาม แล้วเค้าจะเป็นคนตอบ บางทีเค้าก็ถามแล้วให้คุณแม่เป็นคนตอบ ก็ใช้แบบนี้ทุกวัน จนตอนนี้น้องแพงสามารถตอบ yes, no ได้แล้วค่ะ

อีกมุกนึงนะคะ คุณแม่เริ่มสอนให้เค้านับตัวเลขและตอบคำถามค่ะ เช่น เราอยู่ในรถสองคน
คุณแม่ : how many people are there in this car?
น้องแพง : (เริ่มนับจากตัวเอง) one..two
คุณแม่ : There are two people in this car.
น้องแพง : There are two people in this car.
(ถามคำถามเดิมอีกสักสองสามครั้งค่ะ น้องเค้าก็จะเริ่มเข้าใจคำถาม และรู้ว่าจะต้องตอบยังไง) ทีนี้คุณแม่ก็ใช้มุกนี้กับของอย่างอื่นบ้างค่ะ

ตอนนี้เวลาเล่นคนเดียวน้องแพงพูดปนกันไปหมดเลยค่ะ ทั้งไทย-อังกฤษ-เหนือ จนคุณตาคุณยายเค้าหัวเราะกันทั้งบ้านเลยค่ะ

Permalink Reply by สุจิตรา นวลอ่อน on March 24, 2011 at 11:51am

ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจ ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่าควรเริ่มที่ตอนแม่ก่อน อ่านหนังสือสองภาษาเล่มหนึ่ง สองอีกครั้ง หาคลังคำศัพท์เพิ่มยังไงต้องขอคำแนะนำจากคุณแม่น้องแพงด้วยนะคะ

Permalink Reply by ฐานิตา ครสวรรค์ on March 23, 2011 at 3:02pm