เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ในครอบครัวใช้ 3ภาษา ดิฉันใช้ภาษาไทยกับลูกมาโดยตลอด พ่อใช้ภาษาอังกฤษปนญี่ปุ่น

ส่วนตัวดิฉันใช้ภาษาอังกฤษกับสามี  ตอนอยู่เมืองไทยก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่เมื่อย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นเกิดความสับสนคะว่าควรใช้ภาษาอะไรดีระหว่างดิฉันกับลูก สามีแนะนำให้ดิฉันเลิกใช้ภาษาไทย และฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นไปพร้อมๆกับลูก อย่างนี้จะดีหรือคะ ตัวดิฉันอยากให้ลูกใช้3ภาษา ตังเองก้ออยากใช้สามภาษาด้วยคะ จะฝึกสอนกันอย่างไรดีคะ ขอบคุณคะ

 

Views: 341

Reply to This

Replies to This Discussion

คุณใช้ภาษาไทยเหมือนเดิม พูดเฉพาะกับลูก เด็กเล็กๆ จะจำง่ายและลืมง่ายเช่นกัน

ยังไงภาษาไทยเขาพูดได้อยู่แล้วไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากไม่มีใครพูดกับเขาก็จะลืมเช่นกัน

ยกเว้นเด็กอายุมากกว่า 10 ขวบ ยิ่งไม่ได้อยู่เมืองไทยด้วยแล้วยิ่งจะลืมภาษาไทยได้ง่ายค่ะ

 

คุณควรใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดกับสามี เพราะอยู่ญี่ปุ่นมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นมากกว่าอังกฤษ

นอกจากคุณแบ่งภาคได้ (ดังเช่นดิฉันแบ่งภาคตัวเอง พูดอังกฤษกับสามี พูดเยอรมันกับคนอื่น เช่นเวลาไปตลาด

ไปหาหมอ ฯลฯ และพูดไทยกับลูก)

 

แบ่งภาคภาษาของตัวเองออกมา 3 ภาษา แล้วเลือกพูดตามสถานการณ์ ลูกจะได้ภาษาอังกฤษจากพ่อแม่คุยกันด้วย

แต่ข้อเสียคือ ภาษาที่ 3ของเรานั้น (ของคุณคือภาษาญี่ปุ่น) หากคุณไม่เคยเรียนมาก่อน หรือรู้แค่นิดๆ หน่อยๆ โอกาสที่

ภาษาญี่ปุ่นจะพัฒนานั้นจะยากและช้า เนื่องจากเวลาใน 1 วัน คุณต้องแบ่งการใช้ภาษาในแต่ละชั่วโมง เช่น ตอนเช้าได้พูดไทยกับลูก

และได้พูดอังกฤษกับสามีเล็กน้อย พอลูกไปร.ร สามีไปทำงาน เราได้ออกไปตลาด ได้พูดญี่ปุ่นอีกนิดหน่อย

พอบ่ายลูกกลับมา ได้พูดไทยอีกหน่อย และพอเย็นสามีกลับมาได้พูดอังกฤษอีกหน่อย

หากวันไหนไม่ออกไปนอกบ้านก็ไม่มีโอกาสพูดญี่ปุ่น เพราะเราเน้นไทยกับลูก เล่นเน้นอังกฤษกับสามี แบบนี้ค่ะจะทำให้ตัวเรา

พูดญี่ปุ่นได้ช้าลง แต่หากช่วงลูกไปร.ร.แล้วคุณมีสังคมนอกบ้าน เช่นไปเรียนภาษา หรือไปทำงาน มีคนสนทนาญี่ปุ่นด้วย

ก็จะได้พัฒนาภาษาได้เร็วกว่า (แต่กลับมาบ้านก็ไม่ไ่ด้ใช้ค่ะ แต่ก็ยังดีได้พูดหลายชั่วโมง)

 

หากพ่อพูดญี่ปุ่นกับลูก ลูกไปร.ร.ก็ได้ญี่ปุ่นอีก ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ จะมีปัญหาแต่ตัวเรานี่แหละ

ที่หากว่าไม่พูดญี่ปุ่นกับสามี เราจะพูดเป็นช้า เวลาออกไปไหนคนเดียวลำบากเรื่องการสื่อสาร

แต่หากยอมลำบากพูดอังกฤษกับสามี ลูกก็จะได้ภาษาอังกฤษในบ้านไปด้วย

 

ก็เลือกเอาค่ะ ส่วนใหญ่ลูกครึ่งที่ไม่ได้อยู่ในไทย หากแม่เก่งภาษาในประเทศนั้นๆ ลูกมักไม่เก่งภาษาไทย

แต่หากแม่ไม่เก่งภาษาของประเทศนั้นๆ ลูกมักจะเก่งไทย เพราะแม่เอาเวลาทั้งหมดที่มีพูดไทยกับลูก

 

*ยกเว้นคนที่ไปอยู่ต่างประเทศแต่งงานหลายปี เรียนและฝึกพูดภาษาของประเทศนั้นๆ จนถึงขั้นดีแล้วจึงมีลูกภายหลัง

ก็จะสอนลูกพูดไทยได้เก่ง โดยที่แม่เองก็เก่งภาษาที่สามด้วย


(แต่บางคนไม่สอนไทยให้ลูกเพราะคิดว่าไม่จำเป็น ไม่กลับไทยแล้ว อะไรประมาณนี้ แต่ก็เป็นส่วนน้อย)

 

ก็เลือกเอาค่ะ ว่า

คุณแม่อยากเก่งญี่ปุ่น แต่ลูกไม่เก่งไทยหรืออาจจะลืมไทยไปเลย

หรือ

คุณแม่ยอมไม่เก่งญี่ปุ่น แต่ลูกพูดไทยได้พัฒนามากขึ้นตามวัย

 

เลือกเอาตามความเหมาะสม การใช้งานในอนาคต ตามวิถีชีวิตของครอบครัวคุณ ซึ่งทุกคนนั้นไม่เหมือนกัน

 

ขอให้โชคดีในการตัดสินใจนะคะ

ขอขอบคุณ คุณพลอยชมพูมากคะ ที่ให้คำแนะนำดีๆ

 

 

 

สวัสดีครับ พอดีผมก็กำลังสนใจเรื่อง 3 ภาษา กับลูกเหมือนกัน คิดว่าอ่านกระทู้แล้วรู้สึกสนใจครับ แบบว่า

ตอนนี้ คิดกว้างๆว่า ผมต้องการพูดจีนกับลูก แล้วให้ภรรยาคุยภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาไทยทั้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายหรือใครๆก็พูดกับน้องเขาอยู่แล้ว จึงคิดว่า น้องคงจะได้อยู่แล้ว ผมและภรรยาจึงคิดจะแบ่งกันคนละภาษาไปเลย แบบว่า OPOL one parent one language แต่มีปัญหาอยู่ว่า

ภาษาจีน ผมพอพูดได้แต่ไม่ได้แม่นมาก และ ไม่ได้โตที่ต่างประเทศ (ผมเป็นคนไต้หวันแต่โตอยู่ในไทยตั้งแต่เกิด พ่อแม่เป็นคนไต้หวัน) ผมก็อยากจะฝึกภาษาจีนให้กับตัวเองและสอนลูกไปด้วย

ภาษาอังกฤษ ภรรยาก็ยังไม่แข็ง แต่พอได้บ้าง ก็อยากจะให้เธอฝึกไปด้วย สอนลูกไปด้วยเช่นกัน

 

แต่เธอก็กังวลว่า จะทำได้หรือไม่ และ กลัวว่าจะทำให้ลูกภาษาอะไรก็ไม่แข็งแรงสักอย่าง

จึงอยากได้คำแนะนำของผู้ที่มีประสบการณ์ด้วยครับ 

Attachments:

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:22383

 

ลองอ่านดูนะคะ น่าจะมีคำตอบ

อ่านแล้ว เม้นท์แล้วด้วยครับในหัวข้อนั้น ขอบคุณมากครับ...^_^ สำหรับความคิดดีๆ

แม้ว่าคุณแม่ทั้งสองอาจไม่ใช่คนจีน แต่อ่านภาษาไทยได้ก็พอ ผมก็ขออวยพร Happy Chinese New Year 2011 น่ะครับ 

ในปีเถาะ (兔年) 2554 นี้ ขอให้ทุกคน

 

恭喜发财 ขอให้ร่ำรวยเงินทอง

 万事如意 ขอให้สมปรารถนาในทุก ๆ สิ่ง
工作顺利 ขอให้การงานราบรื่น
身体健康 ขอให้สุขภาพแข็งแรง...

ขอบคุณค่า

สวัสดีคะ หลังจากศึกษาและหาขอมูลจากหมู่บ้านเด็กสองภาษาอยู่สองสามวัน ก็ได้คำตอบว่าควรจะเลือกทำอย่างไรและแบบไหนถึงจะดี ดิฉันเข้าไปอ่านในบล็อกของต้นไม้ของแม่ ในเจแปนนิสคลับ ซึ่งมีความคล้ายกับสภาพแวดล้อมของตัวเองจึงคิดว่าควรจะเลือกใช้วิธีการเดียวกันกับเขา เลือกที่จะใช้ภาษาไทย 30% อีก 70% ยกให้ภาษาอังกฤษ สำหรับภาษาญี่ปุ่นคงต้องให้สิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างลูกช่วยสอน สำหรับดิฉันเองคงต้องเหนื่อยพอสมควร เพราะต้องศึกษาสองภาษาเช่นกัน โดยเฉพาะภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้ลูกสาวอายุใกล้จะ 4 ขวบ ลูกสาวพูดและเข้าใจภาษาไทยได้แทบจะเป็นภาษาหลักของเขาคะ แต่ทุกวันนี้ดิฉันได้ยินคำภาษาญี่ปุ่นหลายคำแล้ว ภาษาอังกฤษเขาเข้าใจหลายคำ นี่ก็เป็นอีกเหตุผล ที่ทำให้ดิฉันคิดว่าดิฉันควรจะเริ่มใช้ภาษาอังกฤษกับลูก และไม่กลัวที่ลูกจะลืมภาษาไทยเพราะดิฉันก็ยังคงใช้ภาษาไทยไปพร้อมกับภาษาอื่น  นี่น่าจะเป็นการลอกเลียนแบบที่ดีใช่ไหมคะ

 

อย่างนั้นก็ได้ค่ะ 30 เปอร์เซ็นต์พูดไทย 70 เปอร์เซ็นต์อังกฤษ

แต่ก็ต้องยอมรับผลของมันด้วยนะคะ ว่าเราสอนลูกแค่ไหน เราก็จะได้แค่นั้น

หากสอนไทย 30 เปอร์เซ็นต์ ลูกก็จะได้ไทย 30 เปอร์เซ็นต์ ตามนั้นค่ะ

ส่วนภาษาอังกฤษจะได้เพิ่มเติมที่ร.ร.อีก คงจะได้ 100เปอร์เซ็นต์อีกไม่นาน

หรือจะเพิ่มเติมไทยทีหลังก็ได้ แต่ยิ่งโตก็จะสอนยากขึ้นเท่านั้นเองค่ะ

 

ตอนนี้ลูกดิฉันเพอเฟคไทย-เยอรมัน แต่ยังอ่อนอังกฤษ ซึ่งก็มาเพิ่มเติมกันทีหลัง

หากเราเน้นภาษาแม่ก่อน (ไทย-เยอรมัน หรือ ไทย-ญี่ปุ่น) นั่นคือการทำให้ลูกแข็งแรงในภาษาแม่

ซึ่งมีผลในการเรียนภาษาอื่นๆ ค่ะ (หมายถึงภาษาแม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อน) จะเรียนภาษาอื่นง่ายขึ้นมากค่ะ

อันนี้แล้วแต่คุณแม่นะคะ ที่จะสอนลูกด้วยวิธีไหน ยังไงก็ขอให้สำเร็จค่ะ เอาใจช่วยนะคะ

 

ป.ล.1

ดิฉันสอนไทยลูกแบบ 100เปอร์เซ็นต์ แต่ลูกได้รับจริงๆเพียง 70-80เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเองค่ะ

เช่นเขาอายุ 10ขวบ แต่การพูดและเข้าใจภาษาไทย อาจจะเท่าเด็กอายุ 7-8ขวบเท่านั้นค่ะ

ไม่อาจจะทำได้ผลเต็มร้อย เพราะอยู่ในสังคมต่างชาติมาตลอด 10 ปี อันนี้แค่ประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ

 

ป.ล.2

หากคุณแม่เก่งและมีวิธีจัดการเรียนการสอนที่ดี อาจจะได้ผลเต็มร้อยก็ได้ค่ะ อันนี้ต้องลองเองค่ะ เอาใจช่วยนะ

ลองช่วยคิดเล่นๆ นะค่ะ ให้คุณแม่พูดไทยกับญี่ปุ่นกับลูก วันละภาษา

ส่วนคุณพ่อก็พูดญี่ปุ่นกับอังกฤษกับลูก วันละภาษาเช่นกัน

คุณแม่ก็มีโอกาสได้ญี่ปุ่น ลูกก็ได้ทั้ง 3 ภาษา

(ตอนนี้สอนให้ลูก 3 ภาษาเหมือนกันค่ะ แม่สอนคนเดียวสองภาษา จีนกับอังกฤษ สลับวันพูดวันละภาษาค่ะ ผลที่ได้ก็ออกมาดีนะค่ะ)

ภาษาญี่ปุ่นคุณแม่ก็เรียนแล้วพูดกับลูกไปพร้อมๆกัน เริ่มจากศัพท์เป็นคำๆก่อน ไปอยู่สักปีคุณแม่ก็น่าจะพูดปร๋อแล้วมั้งค่ะ เอาใจช่วยนะค่ะ

ขอบคุณ ความคิดเห็นทั้งสองท่านคะ

ได้เห็นคุณแม่น้องพลอยชมพูพูดถึง ภาษาแม่  นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ดิฉันอยากเอามาพูดคุย ดิฉันได้ปรึกษากับสามี เรื่องสามภาษาของลูก สามีก็พูดเรื่องของ ภาษาแม่ ขึ้นมาเหมือนกัน เขาบอกว่าภาษาแม่มีความสำคัญต่อความนึกคิด ซึ่งตัวดิฉันเองก็เห็นด้วยกับทั้งสามี และคุณแม่น้องพลอยชมพู เลยทำให้ต้องกลับไปอ่านคำแนะนำของคุณแม่น้องพลอยชมพูอีกครั้ง จริงๆแล้วอ่านมากกว่าสองครั้ง ในสถานการณ์ของดิฉันตอนนี้ มันเหมือนกับที่คุณแม่น้องพลอยเขียนไว้ คือดิฉันแบ่งภาคตัวเองออกเป็น สามภาษา และเลือกใช้ตามเหตการณ์ แต่บางครั้งก็เกิดความสงสารลูก ถ้าแม่มัวแต่พูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษอาจจะทำให้ลูกได้ภาษาญี่ปุ่นช้า แต่ครั้นจะพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นก้อเสียดายภาษาไทย และอังกฤษ นี่คือต้นเหตุให้ดิฉันเกิดความสับสนว่าจะเอาอะไรใส่ให้ลูกก่อนดีนะ สุดท้ายนี้ก้อพอได้ข้อสรุปคะว่า ที่ทำมาก็น่าจะพอใช้ได้แล้วไ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง เป็นไปตามธรรมชาติ แต่มีความใส่ใจที่จะให้สิ่งดีๆกับลูก

ขอให้ครอบครัวของคุณโย มนตรี  ประสบความสำเร็จในการให้สิ่งที่ดีกับลูกเช่นกันนะคะ

 

 

 

 

ขอโทษทีคะ ดิฉันดูผิดระหว่างคุณโยมนตรี กับแม่ฮิโระจัง แต่ก็ขอแสดงความขอบคุณถึงทุกท่านที่ให้คำแนะนำนะคะ  

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service