เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ตอนที่ 2 ฝึกทักษะชีวิตประจำวันสำหรับเด็ก (ภาษาจีนแปลไทย)

ฝึกทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวันสำหรับเ้จ้าตัวน้อย ด้วยระบบการศึกษามอนเตสซอรี่ ตอนที่ 1


Montessori School คืออะไร

จำ ได้มั้ยครับตอนเด็กๆ ที่เราเคยถูกผู้ใหญ่บางคนเปรียบเทียบเรากับเด็กคนอื่นที่เก่งกว่าแล้วเราก็
จะหงุดหงิด มาก บางคนก็บอกว่า "คนอื่นก็มีสี่มือสี่เท้าเหมือนกับเรา"
นั้นไม่ได้เป็นความคิดที่ถูกนัก
เพราะเด็กทุกคนก็จะมีศักยภาพและความสามารถแตกต่างกันไป
เพียงแต่เราอาจจะยังค้นหาพรสวรรค์ของเขาเหล่านั้นไม่เจอ

มนุษย์ ทุกๆ คนนั้นเริ่มการพัฒนาตนเองตั้งแต่เริ่มเกิดก่อเป็นตัว และแต่ละคนก็มีวิธีการอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และมนุษย์ก็ไม่เหมือนกับสัตว์ที่จะได้รับการถ่ายทอดสัญชาติการดำรงชีวิตจาก
พ่อแม่ได้เหมือนกับสัตว์ทั่วๆ ไป ดังเช่น ลูกเสือ ลูกหมา หรือลูกแมว
ซึ่งจะมีพฤติกรรมคล้ายๆ กับพ่อแม่ของตน
ในขณะที่ทารกของมนุษย์นั้นไม่สามารถรับลักษณะของพฤติกรรมอันเป็นของพ่อแม่มา
ได้ แต่เด็กๆ นั้นเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
จากแรงปรารถนาของตนเองและแรงผลักดันจากสิ่งแวดล้อม
และนี่ทำให้เด็กแต่ละคนมีความเป็นหนึ่งเดียว
เหมือนกับอัญมณีที่ยังไม่ได้ถูกเจียรไน และแตกต่างจากคนอื่นๆ

หลัก การของโรงเรียนแบบ Montessori เน้นที่การพัฒนาของมนุษย์คนหนึ่งตั้งแต่เกิดจนโต เด็กคนหนึ่งๆ
จะมีการสร้างความรู้ความเข้าใจของตนเองสะสมเรื่อยมาจากลักษณะที่ติดตัวมาแต่
เกิดจากแผนพัฒนาของเขา หรือลักษณะทางจิตใจ ภายในของเขาเอง ดอกเตอร์
มอนเตสซอรี่ เชื่อว่าลักษณะเฉพาะภายในตัวของเด็กจะถูก


อ่านเพิ่มเติมต่อได้ที่นี่เลยจ้ะ


http://www.parents2child.com/articles/montessori_school.htm

ต่อไปนี้ขอนำวีดีโอวิธีการสอนแบบมอนเตสซอรี่ มาฝากสำหรับแม่ๆ พ่อๆ และผู้ปกครองที่สนใจการศึกษาแบบนี้ จะเอามาลงให้เป็นตอนๆ นะจ้ะ






Views: 1702

Replies to This Discussion

ตอนแรกจ้ะ



น้องๆ ช่วยด้วยภาษาแปลของพี่ธีด้วยนะ ว่าแปลผิดตรงไหนบ้าง
ตอนที่ 2

เนื่องจากชุดการสอนนี้เป็นภาษาจีน จะขอสรุปย่อๆ ให้เป็นตอน เพื่อที่จะได้เข้าใจง่ายขึ้น

ชุด การฝึกทักษะในชีวิตประจำวัน ภาคแรก ของการศึกษาระบบมอนเตสซอรี่

สถานการณ์ที่ 1 เจ้าหนูน้อย ถูกแม่ดุว่าที่ทำเนื้อตัวเปียกเลอะเทอะไปหมด
สถานการณ์ที่ 2 น้องหนูเอากระเป๋าเครื่องมือเย็บผ้าของคุณแม่มาเพื่อจะเย็บเจ้าพี่ตุ๊กตาที่ ขาด คุณแม่กล่าวเืตือนว่า มันอันตราย หนูยังเย็บเองไม่ได้ เดี๋ยวแม่ทำให้เอง
สถานการณ์ที่ 3 หลานชายอยากจะช่วยอาม่าล้างจาน แต่อาม้าบอกว่าไม่เป็นไร เด็กผู้ชายไม่จำเป็นต้องล้างจานเอง

จากสถานการ์ณทั้ง 3 รวมกับท่าทาง และคำพูดต่างๆ หลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี ที่อาจจะเคยประสบกับตัวเอง และอาจกำลังปฏิบัติลูกที่บ้านอยู่เหมือนกัน ขอให้ทุกคนเข้าใจใหม่ว่า เด็กทุกคนมีพลังในการเรียนรู้สูงมาก เราไม่ควรที่จะคอยพร่ำบ่นหรือห้ามเด็กๆ ตลอดเวลา เช่น อันนี้ทำไม่ได้นะ อันนี้เล่นไม่ได้นะลูก เป็นต้น หรือกังวลไปต่างๆ นานา ถ้าไม่คนอยู่ด้วย จะได้รับบาดเจ็บไหม จึงส่งเสียงโวยวายว่า ซนอะไรอีกแล้ว !!! จนประสาทเสียไปทั้งแม่ๆ ทั้งลูก และยิ่งกังวลไปอีกว่า เมื่อไรน้อออ ลูกจะโตจนรู้เรื่อง โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องกังวลใจสักที

สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้น เพราะพ่อแม่ไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญศึกษาค้นคว้า ในเรื่อง ทักษะการใช้ชีวิตประจำวันของลูก แต่ในระบบการศึกษามอนเตสซอรี่ ทักษะการใช้ชีิวิตประจำวันของเด็กนั้น ไม่อาจจะสามารถหาหรือฝึกได้ทุกอย่างในโรงเรียนอนุบาลได้ โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำว่า 4 ขวบลงมา การเรียนการสอนในโรงเรียนอนุบาล ยังไม่ตอบสนองต่อการพัฒนาทักษะที่จำเป็นของเด็กๆ ในช่วงอายุนั้น

การฝึกทักษะชีวิตประจำวันของเด็กเล็กนั้น ไม่ใช่การเรียนการสอนที่เหมือนกับชั้นเรียนที่มีสอนกันมาแต่เดิมหรือที่เป็น อยู่ในปัจจุบัน หรือที่มีสอนอยู่ในระดับประถม

ในชุดการสอนนี้ จะนำเอาปัญหาต่างๆ ที่ทำให้พ่อแม่ทุกคนปวดเศียรเวียนเกล้ามาพูดคุยถกเถียงกัน จากนั้น ก็เอาระบบการศึกษามอนเตสซอรี่มาอธิบายถึงที่มาที่ไปของพฤติกรรมหรือปัญหา ต่างๆ ว่ามาจากไหน พร้อมกันนี้ จะนำเสนอวิธีการต่างๆ ที่จะสามารถช่วยแม่ๆ ทั้งหลาย ให้สามารถเตรียมความพร้อมให้กับเด็กได้

เราลองมาสังเกตถึงระบบการศึกษาทั่วไปในทุกวันนี้ จะพบว่า ห้องเรียน คือสถานที่ที่เรามาเรียนหนังสือและฝึกฝนความรู้ที่เรียนมา เด็กจะถูกจำกัดให้นั่งอยู่อย่างเรียบร้อย อ่านๆ เขียนๆ โดยมีครูคอยสอนและป้อนความรู้ต่างๆ ให้เด็กนักเรียน แต่ถ้าลองมาดูในห้องเรียนที่ใช้ระบบมอนเตสซอรี่ อาจจะตกใจที่เห็นเด็กๆ กำลังยุ่งวุ่นวายกับสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับด้านวิชาการเลย

น้องๆ พี่ๆ คนไหนที่สามารถฟังภาษาจีีนรู้เรื่อง สามารถเข้าไปติดตามต่อได้จากเวปนี้นะจ้ะ

http://6.cn/plist/8243/0.html
กิจกรรมที่มักจะพบเห็นในห้องเรียนมอนเตสซอรี่ เช่น เด็กบางคนกำลังถือไม้กวาดทำความสะอาดพื้นอยู่ บางคนกำลังเช็ดกระจกหรือรองเท้า บางคนอาจกำลังปักดอกไม้ในแจกัน รดน้ำต้นไม้ ขณะเดียวกัน เราก็พบเห็นเด็กอีกกลุ่ม กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหาร และอาหาร หรือ เก็บกวาดหลังจากทานอาหารกลางวันกันแล้ว มีหลายคนบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระ เสียเวลาเปล่า สู้เอาเวลาเหล่านี้ ไปอ่านหนังสือ เรียนเลขดีกว่า แต่ระบบมอนเตสซอรี่ เห็นว่าการฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวันของเด็กเหล่านี้ มีความสำคัญมากกว่า

โดยให้ความสำคัญต่อการการเรียนรู้เรื่องราวรอบตัวต่างๆ ด้านอารมณ์ สติปัญญา และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี โดยคำนึงว่า ในแต่ละการทำงานของเด็กทุกครั้ง คือ การที่เด็กจะได้ค้นหาและหล่อหลอมความเป็นตัวเอง โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 3-6 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับเด็กที่จะพัฒนาและหล่อหลอมบุคคลิกลักษณะนิสัย และสติปัญญาในอนาคต

ถ้าผู้ปกครองที่ต้องการปูพื้นฐานทักษะต่างๆ เหล่านี้ให้กับเด็กๆ ควรหันมาทำความเข้าใจ และพัฒนาทักษะต่างๆ ให้ตรงกับบุคคลิก ลักษณะนิสัย สติปัญญา และความเคยชินของเด็กแต่ละคน เช่น การเรียนรู้สิ่งแปลกๆ ใหม่ ทักษะการเรียงลำดับ การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ฝึกความมีสติ มีเหตุมีผล ทักษะด้านทิศทาง การลงมือปฏิบัติจริง การทบทวนซ้ำ เป็นต้น ทักษะเหล่านี้ จะส่งผลต่อการพัฒนาสติปัญญาและบุคคลิกลักษณะนิสัยของเด็กคนนั้น

ดังนั้น กิจกรรมต่างๆ ในห้องเรียนของมอนเตสซอรี่ จะถูกออกแบบมาให้ตอบสนองต่อการพัฒนาด้านต่างๆ เหล่านี้ และขณะนี้ ยังไม่พบวิธีการอื่นๆ ที่ดีกว่า การฝึกทักษะเหล่านี้

จุดมุ่งหมายและประโยชน์ของการฝึกทักษะกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
เมื่อเด็กๆ กำลังจะเริ่มฝึกทักษะกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้น คุณครูควรจะอธิบายจุดมุ่งหมายและประโยชน์ข้อดีของการทำกิจกรรมนั้นๆ ให้กับเด็กๆ ซึ่งหากครูไม่เข้าใจ หรือไม่รู้จุดมุ่งหมาย หรือแก่นที่แท้จริง หรือขาดเทคนิคในการสอนกิจกรรมนั้น ย่อมจะส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ของเด็กอย่างมหาศาลทีเดียว

เวลาที่เราเห็นเด็กๆ กำลังตั้งอกตั้งใจทำอะไรสักอย่าง เช่น เด็กกำลังขะมักขะเม้นใช้ตะเกียบคีบเม็ดถั่วอย่างมีสมาธิ ุ ถ้าเราลองสังเกตใบหน้าของเด็กๆ จะพบความมุ่งมั่นและความพึงพอใจฉายออกมาให้เห็น และแน่นอนว่า เด็กๆ ต้องอยากที่จะกลับไปทำอีกเรื่อยๆ

เด็กจะเกิดความสนใจและตอบสนองต่อสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ได้อย่างเป็นรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ ภายในตัวตนของเด็กจะประกอบด้วยพลังชีวิต ที่พร้อมจะขับเคลื่อนตัวเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ เมื่อความสนใจเกิดขึ้น เด็กๆ จะพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกััน ความเป็นตัวของตัวเอง หรือความมั่นใจของเด็กก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มนุษย์เราเมื่อได้รับการตอบสนองขั้นพื้นฐาน จะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจให้รู้สึกมีความสุขและเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง หรือที่เรียกว่า ความรู้สึกประสบความสำเร็จ โดยจะส่งผลให้เด็กอยากทำกิจกรรมนั้นๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทีเดียว และนี่คือรสชาติความสนุึกของชีวิตนั่นเอง

บ่อยครั้งทีเดียว ที่เราจะได้เห็นความรู้สึกของการทำได้!!! ทำสำเร็จ!!! ของเด็กๆ ที่อยู่ภายในห้องเรียนมอนเตสซอรี่

ระบบการเรียนการสอนในระบบมอนเตสซอรี่นั้น จะช่วยพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ที่จำเป็นของเด็ก โดยคำนึงถึงธรรมชาติการเติบโตของเด็กเป็นสำคัญ เด็กๆ จะได้รับโอกาสเรียนรู้เทคนิคของทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้องตามขั้นตอน อีกทั้ง หาวิธีการต่างๆ ช่วยเด็กได้ทำในสิ่งที่เค้ายังไม่สามารถทำสำเร็จได้

ในการเริ่มต้นฝึกทักษะนั้น ครูจะคอยช่วยเหลือเด็กๆ ใน 3 เรื่องดังนี้
1. สร้างแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจต่อกิจกรรมนั้นๆ ให้กับเด็กๆ
2. ตอบสนองต่อความต้องการที่เกิดขึ้น หลังจากได้ทำกิจกรรมนั้นๆ แล้ว
3. สอนทักษะการใช้ชีวิตประจำวันตามขั้นตอนที่ถูกต้อง นำมาปฏิบัติจนเกิดความชำนาญและเคยชิน

ชุดการฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวันของเด็ก จะมีทั้งหมด 10 ตอน จะทยอยเอาวีดีโอและคำแปลมาลงให้จ้ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งคุณแม่มือใหม่ มือเก่าทั้งหลาย ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะชีวิตให้กับลูกตัวเอง โดยที่เราไม่ต้องหวังแต่จะพึ่งแต่โรงเรียนอนุบาลอย่างเดียว เราสามารถฝึกลูกเราได้ตั้งแต่เล็กๆ




ฝึกทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ด้วยระบบการศึกษามอนเตสซอรี่ ตอนที่ 2

การออกแบบกิจกรรมฝึกทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเด็กๆ

ควรเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ สามารถพบเห็น และลงมือทำในบ้านทุกๆ วัน โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองทำ หยิบจับ และใช้สอย โดยเริ่มต้นจากงานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน มีขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อทำให้เด็กเกิดความสนใจและสนุกที่จะทำ

จุดมุ่งหมายหลักของฝึกทักษะในชีวิตประจำวันนั้น นอกจากจะให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยงาน รู้ขั้นตอนและวิธีการใช้สิ่งต่างๆ ในบ้านแล้วนั้น สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือ ฝึกให้เด็กสามารถจัดการสิ่งต่างๆ หรืองานการต่างๆ ในบ้านด้วยตัวเอง และรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนั้นได้ เปิดโอกาสให้เด็กพัฒนาความสามารถพื้นฐาน และรวมถึงมารยาททีดีของตนเองในอนาคตได้ จากการฝึกฝนทักษะเหล่านี้เป็นประจำ ตามความตระหนักรู้และความเป็นตัวของตัวเองของเด็กแต่ละคนเป็นหลัก ขณะเดียวกันส่งเสริมพัฒนาสมาธิ ความมุ่งมั่น ความเข้าใจ การจัดระดับขั้นตอน

Douay นักการศึกษาร่วมสมัยคนหนึ่ง เป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนระบบการศึกษาแบบมอนเตสซอรี่ Douay เห็นด้่วยกับคำที่ว่า ชีวิต คือการศึกษา กิจกรรมฝึกทักษะชีวิตประจำวันทั้งหมดที่ระบบมอนเตลซอรี่ใช้ สามารถควบรวมเข้าไว้ในระบบการศึกษากระแสหลักได้

Douay หวังให้คุณครูและผู้ปกครองร่วมมือกัน พัฒนาเด็กๆ โดยด้านหนึ่ง กระตุ้นส่งเสริมความสามารถด้านสติปัญญาของเด็กให้สอดคล้องกับมาตราฐานของระบบการศึกษากระแสหลัก อีกด้าน พัฒนาการตามความต้องการของเด็ก เพื่อให้ครูและผู้ปกครองสามารถพัฒนาสื่อการสอน และจัดเตรียมสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เหมาะสมต่อการพัฒนาความเป็นตัวของตัวเองและเติบโตมาอย่างสมบูรณ์สวยงาม ของเด็กๆ

กิจกรรมทักษะในชีวิต ประจำวันต่างๆ ที่มอนเตสซอรี่ จัดขึ้นมาเป็นพิเศษนั้น อยู่บนพื้นฐานสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 2 หัวข้อดังนี้
1 การดูแลตัวเอง เช่น สวม-ใส่ เสื้อผ้า รองเท้า. แปรงฟัน ล้างมือ ล้างหน้า หวีผม ตัดเล็บ ซักและรีดเสื้อผ้า เป็นต้น
2. การดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น ปัดฝุ่น กวาดบ้าน เช็ดโต๊ะ เช็ดกระจก ขัดเครื่องทองเหลือง ปักดอกไม้ในแจกัน เช็ดใบไม้ เป็นต้น

ระบบการศึกษามอนเตสซอรี่นั้น ประกอบด้วย การพัฒนาทักษะในชีวิตประจำวัน ประสาทสัมผัส คณิตศาสตร์ ภาษา
แ่ต่เพราะเหตุใด เราถึงให้ความสำคัญกับการฝึกทักษะในชีวิตประจำวันก่อนเป็นอันดับแรก

1. เมื่อเด็กๆ ถึงวัยที่จะต้องจากบ้าน เพื่อมาเข้าโรงเรียน เด็กๆ ต้องเริ่มปรับตัวเพื่อรับมือกับความรู้สึกกังวลใจที่ต้องจากบ้าน จากสิ่งที่คุ้นเคย ขณะเดียวกัน ต้องการความรู้สึกปลอดภัย ดังนั้น ในห้องเรียนมอนเตสซอรี่ จะจัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งแวดล้อมให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนอยู่กับบ้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เด็กค่อยๆ ลดความกังวลใจต่อสถานที่แปลกใหม่ ผู้คนใหม่ๆ ขณะเดียวกัน เพิ่มความรู้สึกปลอดภัยให้กับเด็กมากขึ้น

2. ความรู้สึกที่เป็นจริง การฝึกทักษะในชีวิตประจำวันนั้น เปิดโอกาสให้เด็กได้สนใจถึงทักษะในชีวิตประจำวันต่างๆ มากมาย
และ หลักการฝึกฝนทำซ้ำ ซึ่งหมายถึง การเข้าใจเคล็ดลับการทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ เด็กๆ ควรเริ่มจากโลกความเป็นจริงภายนอก สร้างความฉลาดทางสติปัญญา

แรงจูงใจที่เต็มเปี่ยม
v
v
ทำซ้ำ
v
v
ค่อยก้าวไปสู่ความสมบูรณ์
v
v
บรรลุถึงความสมบูรณ์

ในช่วงอายุเด็กแรกเกิด ถึง 6 ขวบ ยังไม่สามารถแยกแยะความฝันและความจริงออกมาได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เพื่อที่จะเรียนรู้โลกภายนอก (โลกแห่งความเป็นจริง) ให้ได้อย่างเข้าใจ เด็กควรเริ่มจากการฝึกทักษะต่างๆ ในชีวิตประำจำวันก่อน

ตัวอย่าง ถ้าเด็กไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร ทำความสะอาดโต๊ะอาหาร ล้างและเช็ดถ้วยชามให้สะอาดด้วยตนเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ เด็กก็จะหมดโอกาสที่จะพัฒนาทักษะด้านการแยกแยะความเป็นจริงนี้ไปตลอดชีิวิตทีเดียว

3. ทักษะต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ที่เด็กๆ ฝึกนั้น ถือเป็นทักษะพื้นฐานของชีวิตและสามารถใช้ได้จริง ซึ่งจะประกอบด้วย

3.1 coordination การทำงานประสานกันของส่วนต่างๆ ในร่างกาย
3.2 concentration การฝึกสมาธิ
3.3 order การเรียงลำดับก่อน-หลัง ตามขั้นตอนต่างๆ
3.1 independence ความเป็นตัวของตัวเอง


จุดมุ่งหมายที่สำคัญของการฝึกทักษะในชีวิตประจำวัน คือ การที่เด็กสามารถทำสิ่งๆ ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างสำเร็จได้ด้วยตนเอง
ตามติดกระทู้นี้ค่ะ คุณธีร์
....................................

ตามไปดูต่อที่นี่นะค่ะ ตอนที่ 2
7 หัวข้อของทักษะต่างๆ ในชีวิตประำจำวันที่เด็กควรรู้ ของระบบการศึกษามอนเตสซอรี่ (ตอนที่ 2)

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:359730

...........................................
เปิดหาไม่เจออ่ะค่ะ กะลังต้องการด่วนมากเลย เพราะจะทดลองทำกิจกรรมใหม่ในรร. ทักษะชีวิตสำหรับเด็กอนุบาล หา 7 หัวข้อ ฯ (ตอนที่ 2) ไม่เจออ่ะค่ะ เป็นคนโลว์เทคโนค่ะ ช่วยแนะนำผู้น้อยด้วย ขอบคุณค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service