เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

มีน้องที่เป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กยุคใหม่มาให้อ่านค่ะ

อ่านเจอในโพสต์ทูเดย์เลยขอมาแบ่งให้เพื่อนๆอ่านนะคะ

 

จาก คอลัมน์ดาวมหาวิทยาลัย Post Today

อรภา ศิลมัฐ(ว่าที่)คุณหมอคิดนอกกรอบ
22 เมษายน 2553 เวลา 18:05 น.
เอนทรานซ์ติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐบาลคะแนนสูงอันดับต้นๆ ของประเทศแต่นักศึกษาแพทย์หน้าคนนี้กลับตัดสินใจเลือกเล่าเรียนศึกษานอกกระแสหลัก

โดย ปอย / ภาพ : ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

เอนทรานซ์ติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐบาลคะแนนสูงอันดับต้นๆ ของประเทศเป็นปลื้มทั้งครอบครัวแล้ว แต่นักศึกษาแพทย์หน้าใสกิ๊ง “น้องมิ้นต์” อรภา ศิลมัฐ กลับตัดสินใจเลือกเล่าเรียนศึกษานอกกระแสหลัก คณะแพทย์เอกชน น้องมินต์ บอกยิ้มหวานว่า กำลังศึกษาปีที่ 5 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ บอกให้ฟังกันเป็นเรื่องธรรมดาๆ กันอย่างนี้ ก็คงไม่ต้องแจกแจงกันยาวว่า เธอเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง

มิ้นต์กำลังศึกษาในคณะแพทย์แผนจีน วันนี้ยังไม่มีแพทย์ที่จบในเมืองไทยเลย มิ้นต์บอกภาคภูมิใจกับเครื่องแบบมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่อกซ้ายติดเข็มกลัดอักษรจีน ตัว “เสียง” แปลว่า คุณงาม ความดี

แสดงถึงอุดมการณ์ และความพร้อมพาชีวิตออกนอกกรอบจากเส้นทางเดิมๆ อย่างไม่ยำเกรงการเดินฝ่าออกนอกเส้นทางใหม่ๆ ที่อาจมีสิ่งไม่คาดฝันให้น่าตื่นเต้นได้ตลอดเวลา


“ปรึกษาคุณแม่ บอกมิ้นต์เอนท์ติดแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มิ้นต์ไม่เรียนได้ไหม? โดยมิ้นต์มีเหตุผลเราเรียนจบ 6 ปี ใช้ทุนอีก 2 ปี แล้วไปเรียนต่อเฉพาะทางอีก 2 ปี ออกมาทำงานเปิดคลินิกหลังเลิกงานเหรอ? ให้ไปทำงานเป็นแพทย์ชนบทอยู่ชายแดนท้าทายสนุกกว่าไหมคะแม่? มิ้นต์เป็นคนดื้อมั้งคะ (หัวเราะเบาๆ) คุณแม่ก็บอกว่า... 6 ปีที่เรียนหมอกับอีกตลอดชีวิตการทำงาน ชีวิตเป็นของเธอ เธอโตแล้ว ลองคิดชั่งน้ำหนักดูเอาเองว่าอย่างไหนทำแล้วมีความสุขกว่ากัน

...ซึ่งคำว่า แพทย์แผนจีน ฟังๆ ดูก็ประหลาด (หัวเราะ) เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนรุ่นมิ้นต์ ลองไปค้นคว้าศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แล้วคุณแม่ก็ทำงานในฝ่ายพัสดุประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แม่แนะนำให้มิ้นต์ลองไปคุยกับพวกคุณลุงคุณอาหมอๆ ดู เกือบทุกท่านเลยค่ะบอกว่า น่าจะลองดูนะ เพราะแนวโน้มแพทย์ทางเลือกกำลังมาแรงมาก ความใฝ่ฝันของมิ้นต์ คืออยากเป็นหมอที่ดี ...หมอที่ดีคือหมอที่ไม่เลี้ยงไข้ มีคนไข้เหตุฉุกเฉินดึกๆ ดื่นๆ ก็ต้องรีบมา มิ้นต์อยากเป็นคนทำงานแบบนี้ค่ะ และอยากกรุยทางด้วยตัวเอง ไม่อยากเดินตามทางที่คนอื่นปูไว้ให้ก่อนแล้ว ปรากฏว่า|ลูกสาวรอด แต่คุณแม่โดนคนรอบๆ ข้าง ญาติๆ ต่อว่ามากกว่ามิ้นต์อีก (หัวเราะ) ว่าทำไมปล่อยลูกสาวมาเรียนที่นี่ล่ะ เพราะอนาคตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ คือสิ่งที่เห็นๆ อยู่ว่าดีที่สุดอยู่แล้ว” มิ้นต์ ว่า

เมื่อถามเรื่องท้าทายสำหรับมิ้นต์ในการเรียนสาขานี้ มิ้นต์บอกคือการเรียนภาษาจีนที่เป็นอักษรภาพ 1 คำศัพท์แทน 1 ความหมาย ไม่ใช่การเรียนในทางทฤษฎีแพทย์จีน เพราะเรื่องใหม่น่าสนุกสนานมากกว่าเครียด


“เช่นการ แมะ หรือการตรวจชีพจรที่มีถึง 28 แบบ มิ้นต์ยังจับได้ไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ แต่ละอย่างก็แปลกดี เช่น การตรวจจับชีพจรคนไข้ขณะมีประจำเดือนจะเหมือนเอามือไปสัมผัสปั่นกับ ลูกปัด ที่วางอยู่บนจาน หรืออีกแบบถ้าคนไข้เครียด หรือปวดเมื่อยที่ใดที่หนึ่ง ชีพจรก็ตึงๆ เหมือนสายกีตาร์ หรือความรู้ใหม่ที่รากไม้ใบหญ้าคือยา เป็นเรื่องมหัศจรรย์เป็นโลกใหม่ที่น่าศึกษาจริงๆ ค่ะ” มิ้นต์ กล่าว

วิธีการเรียนสาวน้อยว่าที่คุณหมอหน้าหวานที่เรียนเก่ง ติดอันดับ 1-5 ของชั้นเรียนมาโดยตลอด มิ้นต์บอก วิธีการเรียนมีแต่ความใฝ่ฝันอยากนำหน้าชื่อด้วยคำว่า “แพทย์หญิง” ไม่เคยตั้งเป้าเลย แต่ถ้าผลลัพธ์ทำได้ดีจึงค่อยตั้งความหวัง ซึ่งการคิดอย่างนี้ทำให้ไม่เครียด
“ตอนนี้เกรดยังพอใช้ได้อยู่ ตั้งเป้าว่าอยากได้เกรด 3.75 เกียรตินิยม ตอนนี้ได้เกรด 3.82 แล้วค่ะ มิ้นต์ตั้งใจเรียนในห้องให้มากที่สุดค่ะ” มิ้นต์ บอกทิ้งท้ายแบบถ่อมตัวพร้อมรอยยิ้มหวาน

มิ้นต์ฝากบอกเพื่อนๆ ใครเรียนหนัก อาจมีอาการเครียด การอ่านหนังสือหนักๆ มากเกินไปในช่วงสอบอาจเกิดอาการหดหู่ เบลอจำอะไรไม่ค่อยได้ นาทีนี้|หัวเราะอยู่แต่อีกนาทีต่อมาน้ำตาไหลได้ง่ายๆ นอนไม่ค่อยหลับ ร้อนวูบวาบเหงื่อออกทั่วตัว หมอมิ้นต์บอกอย่าวิตกกังวลว่าตัวเองเข้าขั้นเพี้ยน เพราะมิ้นต์ก็ (เคย) มีอาการแบบนี้ นี่คืออาการเครียดบำบัดได้โดยการกินขนมหวาน “เต้าทึง” เพราะมีพุทราจีน ลำไยแห้ง ที่เป็นยาปรับสมดุลขั้นต้นได้ชะงัดนัก ใครเครียดต้องลองไปซื้อเต้าทึงมากินซะแล้ว




Views: 1338

Replies to This Discussion

ข้างล่างเป็นอีกเว็บที่มีข้อมูล http://campus.sanook.com/u_life/showroom_06168.php

เด็กเด็ด ๆ รอบรั้วหัวเฉียว

หนี่ห่าว ! สวัสดีคะ ! เด็กเด็ด ๆ รอบรั้วหัวเฉียว จะขอนำเสนอเรื่องราวดี ๆ ของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (มฉก.) หรือ Huachiew Chalermprakiet University (HCU) มาฝากกัน รับรองว่าถ้าอ่านแล้ว ต้องได้รับประโยชน์ไม่มาก ก็น้อย ประเดิมด้วย สาวน้อยแก้มป่องมากความสามารถ

น้องมิ้นต์ อรภา ศิลมัฐ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะการแพทย์แผนจีน

น้องมิ้นต์ เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ที่ทั้งสวยและเก่ง การันตีด้วยเกรดเฉลี่ยสะสม 3.87 และตำแหน่งดาวคณะการแพทย์แผนจีนและดาวมหาวิทยาลัย ปี’49 ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนในการประกวดสุดยอด ดาวเดือน one-2-call freedom freshy friend 2007 เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายในการประกวด Miss Thailand World 2007 รางวัลชนะเลิศการประกวด “เส้นทางบันเทิงค้นหาผู้ประกาศหน้าใหม่ ปี 2552 ทางช่อง 7”

แต่แหล่งข่าวสืบทราบมาว่า รางวัลล่าสุดที่น้องมิ้นต์ได้รับและภาคภูมิใจมาก ก็คือ รางวัลเยาวชนจิตอาสา ปี 2552 ซึ่งมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาคนดีของม.หัวเฉียวฯ ที่มีจิตอาสา ช่วยเหลือกิจกรรม ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย และรู้จักเสียสละต่อส่วนรวม

แม้จะเรียนหนักเพราะเป็นศาสตร์การแพทย์ตะวันออกที่ยากและลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็น การแมะ ฝังเข็ม ทุยหนา ตำรายาสมุนไพรจีน ฯลฯ และยังต้องท่องตำราภาษาจีน แต่น้องมิ้นต์ก็สนุก กับการแบ่งเวลามาทำกิจกรรม เป้าหมายในชีวิตของน้องมิ้นต์น่าสนใจมาก “อยากเป็นแพทย์จีนที่ประสบความสำเร็จและมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ก็ให้ความสำคัญกับสองข้างทางที่จะก้าวไปสู่เป้าหมาย จึงพยายามเก็บเกี่ยวสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวให้เป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิตเอาไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง”

ฟังเป้าหมายในชีวิตของน้องมิ้นต์แล้วก็อยากจะทราบต่อไปว่า ความฝันสูงสุดของสาวน้อยคนนี้คืออะไร แล้วก็ได้คำตอบที่ต้องอมยิ้ม เพราะความฝันสูงสุดของน้องมิ้นต์ คือ การได้แต่งงาน “ผู้หญิงในตระ...ลจะทำงานเก่งไม่มีใครได้แต่งงานเลยสักคน มิ้นต์จึงกลัวว่าจะไม่ได้แต่งงานมาก ๆ ค่ะ”

ความประทับใจของน้องมิ้นต์ “ มิ้นต์มีการเรียนและการงานที่ดีได้อย่างทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการดูแลเอาใจใส่และปลูกฝังคุณธรรมจากม.หัวเฉียวฯ โดยเฉพาะ ความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมที่สำคัญ ของชาวหัวเฉียวฯ หากไม่ลืมผู้ที่สนับสนุนส่งเสริมและตอบแทนบุญคุณท่านเหล่านั้น ก็จะทำให้เราได้รับ แต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตค่ะ”

ท้ายนี้ก็ขอให้น้องมิ้นต์ประสบความสมหวังดังตั้งใจไว้ทั้งเป้าหมายในชีวิตและความฝันสูงสุดจ๊ะ
“ใครว่าคนดีและคนเก่ง ไม่ใช่คน ๆ เดียวกัน” สวัสดีจ้า
Attachments:
ว้าว ถูกใจจริงๆ เลย แนวนี้
เสียดาย เราไม่มีเรียน แมะ แบบนี้เลย
น่าสนุกจริงๆ นอกกรอบแบ คิดใหม่ทำใหม่ ถ้าเป็นลูก เอาเลยลูก ลุยยยย
ว่าแต่หัวเฉียว ไม่ต้องเอ็น รับตรงไหมคะเนี่ย
คุณสุภาพร...พอดีไม่ค่อยรู้เรื่องเอ็นท์เลยล่ะ เพราะลูกพวกเรายังเล็กอยู่ (ดูภาษาที่ใช้ อย่างคำว่า เอ็นท์ฯก็พอรู้เนอะ สมัยนี้ ว่ากันว่าเค้าสอบแกะกับแพะ เอ๊ย แก็ตกับแพ็ต อะไรทำนองนี้อ่ะ) ไว้รอผู้รู้มาเสริมละกันนะ และถ้ามีลูกสาวน่ารักแบบน้องมิ้นท์ ก็คงปลื้มเหมือนกัน (เสียดายไม่มีลูกสาวจ๊ะ)

อ่านจบแล้วอดไม่ได้ต้องเข้ามาเม้นท์ เพราะส่วนตัวชอบอ่านเรื่องแพทย์แผนจีนอ่ะค่ะ (อ่านคอลัมน์หมอไพรในเนชั่นสุดสัปดาห์อ่ะค่ะ)
คิดว่าน่าสนใจมากๆ ยิ่งรู้ ก็ยิ่งทึ่งในภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของคนจีนโบราณ ที่เข้าถึงกลไกธรรมชาติของร่างกายได้ดี โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือวิทยาศาสตร์แบบชาวตะวันตก....

และน้องเค้าน่าชื่นชมจริงๆค่ะ นอกจากเก่งแล้ว ยังมีความคิดเป็นของตัวเอง กล้าออกนอกกระแส
แต่คิดว่าต่อไป แพทย์แผนจีนจะยิ่งบูมกว่านี้แน่นอนค่ะ ฟันธง!!
จริงๆ ชอบๆ แพทย์ทางเลือกมาแรง ชอบแนวนี้ เป็นเด็กแนว (แนวนี้อยู่พอดี) 555...
สวย น่ารัก ถูกใจ ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะที่แบ่งปัน
พี่บีมาพร้อมกันเรื่องราวดีๆ เช่นเคย เห็นแล้วที่งน้องคนนี้จัง ทั้งสวยทั้งเก่ง ชื่นชมความกล้าหาญและความเ็ป็นตัวของตัวเองมากที่กล้าตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง ส่วนตัวคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่น้องเค้าเป็นอย่างนี้ได้ น่าจะมีครอบครัวที่เ้ข้าใจ สนับสนุน และเคารพการตัดสินใจของน้อง

ปล. พี่บีสบายดีนะค่ะ
K.Tao Mamy บีชอบอ่านหมอไพรในเนชั่นสุดสัปดาห์และแพทย์ทางเลือกในมติชนสุดสัปดาห์เหมือนกัน :-) คิดว่าการแพทย์ทางเลือกน่าจะเป็น trend ในอนาคต (เพราะคนเริ่มกลัวเป็นหนูลองยาฝรั่ง)

K.Mom Jenita กะน้องธีร์......ชอบที่น้องมินต์เค้ารู้ว่าเค้าชอบทำอะไรและปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ ถ้ามั่นใจ ลุยโลด...โดยคุณพ่อคุณแม่ก็น่ารัก คอยสนับสนุนการตัดสินใจของน้อง เพราะการจะฝ่ากระแสสังคมและเสียงคนรอบข้างไม่ใช่เรื่องง่าย
เข้ามาอ่าน ชอบคนดีและเก่ง แต่ไม่เม้นท์ 555
น้องทั้งเก่ง ทั้งฉลาด และ เป็นตัวของตัวเอง
น่าภูมิใจแทนคุณแม่ คุณพ่อจริง ๆเลยค่ะ

ขอบคุณ คุณบีมาก ๆ ค่ะ
ยินดีค่ะคุณหน่อย....
อาการเครียดอันเกิดจากการอ่านหนังสือมากเกินไป !

ทำให้นึกถึงหลานชายตัวเอง เค้าอยากเรียนแพทย์ เรียนเพื่อนวดแผนโบราณ (ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าสาขาอะไร) ติดที่ ม.มหิดล เทอมแรกได้เกรด ไม่ถึง 2 แถมติด F ด้วยความที่อยากเรียนมาก แต่วิชาบังคับ อังกฤษ ไทย แคลคูลัส เศรษฐศาตร์ ฟิสิกซ์ เยอะซะจนเค้าเรียนไม่ไหว นอนดึกตื่นเช้า เพื่อนก็มาติวให้ถึงบ้าน ก็ไม่ไหวค่ะ พอเกรดเทอม 2 ออก นีบอกให้เค้าลาออก เพราะถ้ายังขืนเรียนต่อไป ไม่จบแน่ๆ ยอมเปลี่ยนมาเรียนที่ ม.รังสิต สาขาภาษาจีน (ไม่รู้ชื่อสาขาค่ะ) จบปีหนึ่ง ได้เกรด 3กว่า แถมเครียดน้อยกว่าอีก

ปล.ทั้งบ้านกลัวว่าจะเป็นบ้า เค้าเครียดมากเลยค่ะ หน้าตาดูไม่ได้เลย ไม่พูดไม่จากับใคร อยู่แต่ในห้อง

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service