อยากรู้จักคุณพ่อ - คุณแม่ ที่เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกที่โตแล้วจังค่ะ

[ทิพวัลย์]

เพิ่งเข้ามาใหม่ค่ะ  อยากจะรู้จักคุณพ่อ - คุณแม่ ที่เริ่มกับลูกตอนที่ลูกโตแล้ว   อยากจะทราบวิธีการที่ทำอยู่ว่าต้องทำอย่างไงบ้างสำหรับเด็กโต  แล้วก็การพัฒนาการของเด็กๆ  เป็นอย่างไงบ้าง  คุณพ่อ คุณแม่ต้องทำการบ้านหนักขนาดไหน  อยากให้เล่าให้ฟังบ้างค่ะ   ขอแนะนำตัวเองก่อนนะค่ะ  ชื่อทิพวัลย์ค่ะ  อยู่จังหวัดอุตรดิตถ์  มีลูก 2 คน ชื่อน้องขุน  กับ  น้องขิม  อายุ 10 ปี  กับ 9 ปีค่ะ  เรียนอยู่โรงเรียน 2 ภาษาของจังหวัดค่ะ  เพิ่งเริ่มได้ไม่กี่วันนี้เองค่ะ  ก็กังวลเหมือนกันค่ะ   กลัวจะทำไม่ได้  ก็เลยอยากจะถามคนที่มีประสบการณ์กับเด็กโตนะค่ะ   ตอนนี้ก็รู้สึกมึนๆ  จะสำเร็จไหมนะ   ตอนนี้ก็พยายาม  หาโพย  จดไว้  ว่าจะพูดอะไรกับลูกบ้างในสถานการณ์ต่าง ๆ  แล้วก็ให้ครูมาสอนที่บ้านให้ด้วยค่ะ   กลัวพูดไม่เป็น  อันนี้ กลัวมากกกก

[ทิพวัลย์]

ตอนนี้ก็คือพูดภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เท่าที่พูดได้ ถามว่าตัวเองพูดเก่งไหม ไม่เก่งค่ะ พอพูดได้แต่ว่าบังเอิญ เวลาที่อยู่ด้วยกันก็น้อย แล้วส่วนใหญ่ในช่วงนี้สถานการณ์ที่พูดกัน มักจะเป็นเรื่องเดิมๆ จะพูดภาษาไทยเหมือนกันเวลาต้องอบรม แล้วก็เวลาสอนการบ้านค่ะ ตอนนี้ยังมีต่อต้านเป็นพักๆ เป็นบางวัน ทำไมแม่ต้องพูดภาษาอังกฤษด้วย ทำไมไม่พูดภาษาไทย ถามตลอด ก็จะบอกว่าแม่อยากให้หนูพูดเป็นค่ะ เพิ่งเริ่มเหมือนกันค่ะ บางวันก็ให้ความร่วมมือดี บางวันก็ไม่ค่ะ ผ่านไปเกือบ 1 เดือน ดูแล้วยังไม่ไปถึงไหน ที่สำคัญคือพูดไม่ชัดทั้งแม่และลูก 5555 แม่ก็ต้องเรียนใหม่เหมือนกัน เรียนไปพร้อมลูกค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มจาก ABC - consonants - vowels กันเลยล่ะค่ะ ลูกสาวยังอ่านไม่ค่อยเก่ง ก็เลยต้องเริ่มใหม่ ค่อยๆ ไป ฝึกสะกดเหมือนน้องๆ ไปก่อน ถ้ามีวิธีการดีๆ กว่านี้ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ

[พ่อพี่เน็กซ์ กะน้องเนม]

เริ่มช้า ดีกว่ายังไม่เริ่มซักทีครับ คุณบิ๊กเคยบอกว่า ต้องเริ่มทันทีครับ

[ทิพวัลย์]

ผ่านไป 1 เดือน กับอีก 1 อาทิตย์ เธอทั้งสองก็ยังคงโวยวายกันอยู่ แต่ก็น้อยลงแล้ว เวลาเผลอๆ เค้าก็จะพูดเป็นภาษาอังกฤษประโยคง่ายๆ เช่น Where is papa? I want ..... อะไรประมาณนี้ ยังไม่มีอะไรมากค่ะ คงต้องรอไปอีก

[ยศภัด มีเดช]

สวัสดีค่ะเอ่ก็เริ่มกับน้องเอมมี่ 4ขวบกว่า ใช้แบบ One Time One Language ค่ะ โดยเฉพาะตอนนั่งในรถไป-กลับโรงเรียน และก่อนนอน ก็OK เราพอใจในระดับนี้ ส่วยเอม่อน ก็เริ่มตอน ขวบกว่า ๆ ได้ผลเกินคาดเพราะเอม่อนไม่ค่อยพูดไทยเลย อิอิอิ

[Suthawadee C.]

ตอนนี้ลูกเริ่มพูด Eng กับแม่บ้าง แต่เวลาพูดกันเองใส่ไทยกันเต็มที่ แต่ดูแนวโน้มแล้วก็น่าจะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ (ทำเต็มที่มา เกือบ 2 เดือนแล้ว) ของคุณทิพวัลย์เป็นไงบ้างค่ะ

[ทิพวัลย์]

ทำมาได้เดือนกว่าๆ พยายามเต็มที่อยู่เหมือนกันค่ะ ลูกสาวค่ะ คือน้องขิมอายุ เกือบ 9 ขวบ วันก่อนเล่าเรื่องวงจรชีวิตของกบ เอารูปมาให้ดูด้วย ทำเป็นวงจรชีวิตของกบ ก็เหมือนสอนวิทยาศาสตร์กันเลยค่ะ แต่พูดเป็นภาษาอังกฤษ แม่เตรียมโพยไว้ สอนว่าส่วนนี้ของกบเรียกว่าอะไรบ้าง พอสอนจบ น้องขิมก็แต่งของเธอเองเลยค่ะ เป็นภาษาอังกฤษ Frog has powerful leg . Frog can jump. Frog lay eggs 1000 eggs. This is tadpole. It grow up. Tail is short. .... อะไรไป แม่อึ้งค่ะ ไม่คิดว่าลูกจะพูดได้เยอะ ขนาดนี้ ก็ปลื้มเหมือนกัน ส่วนน้องขุน 10 ขวบ ยังนิ่งค่ะ อาจจะเป็นเด็กผู้ชายด้วย ไม่เหมือนลูกผู้หญิง เมื่อเช้านี้ก็คุยกันเรื่อง ผลไม้ ต้นชมพู่มะเหมี่ยวมันออกลูก แล้วมันก็ร่วง ก็คุยให้ลูกฟังว่า Fruit fall down from the tree. I feel sad. ขิม เค้าก็ตอบกลับมา บอกว่า I have banana tree. ขิมพูดว่า It is grow up. I give you banana. พูดผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็พูด บางครั้งเวลาหงุดหงิดก็ยังบ่นเรื่องไม่ชอบให้แม่พูดภาษาอังกฤษอยู่ แต่ก็ยอมรับมากขึ้นค่ะ ทำกันต่อไปค่ะ สู้ๆ

[พ่อพี่เน็กซ์ กะน้องเนม]

เดือนกว่าได้ขนาดนี้ ถ้าปีกว่าจะขนาดไหนหละครับ เก่ง จริง ๆ

[Riya]

สวัสดีค่ะ..คูณแม่น้องขูน น้องขิม ดิฉันชื่อริย๋าค่ะ มีลูกสองคนเหมือนกันอยู่กรุงเทพ ลูกเรียนอยู่โรงเรียนสองภาษาเหมือนกัน ชื่อพี่เคนจิ และน้องจีจี้ค่ะ 7 ขวบและ 6 ขวบ เคนจิจะขึ้น G.3 จีจี้ จะขึ้น G.2 เรียนเร็วทั้งค่ะ
เรียนโรงเรียน 2 ภาษาจะหนักหน่อยนะค่ะ ต้องมีเวลาให้ลูกมากๆ และเรียนไปพร้อมกับลูกค่ะ ดิฉันให้คุณพ่อเป็นคนพูดภาษาอังกฤษ 100 % ส่วนดิฉัน เป็นบางเวลาเพราะต้องสอนภาคภาษาไทยด้วยแล้วที่โรงเรียนก็มีภาษาจีนเสริมอีก 1 ก็เลยต้องช่วยสอนลูกด้วย แล้วสอนญี่ปุ่นที่ดิฉันเคยสอนตั้งแต่ลูกเล็กๆเพราะเสียดายไม่อยากให้ลืมค่ะ จริงไม่ได้เก๋งนะคะอาศัยเรียนไปพร้อมกัน ไม่ได้ให้ลูกเรียนพิเศษอะไรเลยค่ะ เพราะมีความเชื่อว่า เราต้องรู้จักลูกเราดีกว่าคนอื่น แต่ต้องอาศัยการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมมากหน่อยค่ะ
เพราะลูกเรามีเวลาเรียนเท่าคนอื่น แต่ถูกแบ่งเป็นสองภาควิชา เช่น เรียนภาคไทย 7 วิชา ก็ต้องเรียนภาควิชาภาษาอังกฤษ 7 ภาควิชาเหมือนกัน ในส่วนวิชาการไทยก็จะลงรายละเอียดน้อยกว่าโรงเรียนทั่วไป แต่เวลาสอบ เอเน็ต หรือ โอเน็ต เป็นข้อสอบชุดเดื่ยวกัน ฉะนั้นคุณแม่ต้องช่วยเสริมในส่วนวิชาการไทยข้างนอกให้มากขึ้นค่ะ
ส่วนภาษาอังกฤษน้องจะได้เรียนกับครูต่างชาติในวิชาภาคภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ต้องสอนน้องให้กล้าที่จะพูดคุยกับครูต่างชาติให้มากๆ ส่วนเวลากลับมาบ้านคุณแม่ต้องตกลงกับคุณพ่อว่าใครจะเป็นคนพูดภาษาไหน ไม่ต้องรีบร้อน ตอนแรกอาจใช้แบบเป็นบางช่วงเวลาไปก่อนให้น้องคุ้นเคย เช่นอาจบอกลูกว่า 2 ชั่วโมงต่อไปนี้เราจะพยายามสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษนะ ซื่งถ้าคุณแม่ไม่ค่อยถนัดก็ต้องเตรียมคำศัพท์หรือประโยคสอนลูกล่วงหน้า ก่อนเพราะน้องโตแล้วอาจต่อต้านเมื่อเวลาน้องไม่เข้าใจแล้วจะต้องสื่อสารไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี เราก็พูดนำลูกก่อน ถ้าลูกพูดผิดเราก็แก้ให้ลูกตอนนั้นเลยเป็นประโยคที่ถูกต้องแล้วให้น้องพูดซ้ำอีกครั้งค่ะ
หรือจะเลือกวิธิการสอนเรื่องใกล้ตัวก่อนเช่นคำศัพท์ที่อยู่ใกล้ตัวและประโยคที่น้องและคุณแม่ต้องพูดบ่อยๆ
มาสอนก่อนเช่นภายใจห้องรับแขกมีอะไรบ้าง แล้วให้น้องลองฝึกแต่งประโยคแทนความรู้สึกของตัวเอง แบบง่ายโดยยกตัวอย่างให้ก่อน เช่น There are flowers in the vase. The telephone is ringing. แล้วให้ลูกลองเอาคำศัทพ์ใกล้ตัวมาแต่ต่ออีก เช่น Can I open the window? เป็นประโยคคำถามบ้าง น้องโตแล้วริย๋าเชื่อว่าน้องทำคำศัพท์ง่ายๆแบบนี้ได้แน่ๆ แต่ขอให้เป็นบรรยกาศที่สนุกไม่ไปคาดหวังว่าน้องต้องทำได้เท่านั้นเท่านี้ เด็กๆก็จะสนุก เมื่อน้องทำได้แล้วต้องชม และบอกว่าแม่ชอบให้ลูกพูดภาษาอังกฤษมาเลยเพราะดีและน่ารักมาก ชมเยอะๆ แล้วเด็กถึงความสำคัญของภาษาว่าถ้าเราสื่อสารได้มากก็จะดีอย่างไร
เริ่มต้นโดยคุณแม่พูดคำง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน กับลูกก่อนอาจเป็นตอนไปปลุกลูกตอนเช้า เช่น Good morning kim it's time to get up. ลูกอาจตอบว่า Morning Mommy. I'm already awake. แม่ That's good. > Everyone. breakfast is ready. Today I've made 'Khawtom Kai' พูดง่ายแบบนี้ให้ลูกคุ้นเคยก่อนก็ได้ค่ะแล้วค่อยขยับขึ้นทีละสเต็ป ตัวเราก็จะได้หาความรู้ใหม่ในสถานะการณ์แตกต่างกันออกไปในชีวิตประจำวัน มาค่อยสอน สำคัญที่สุดทำให้มันเป็นเรื่องสนุกนะคะ ส่วนคุณพ่อก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันนะคะ
ตอนนี้ลูกริย๋าสื่อสารได้ดีค่ะโดยเฉพาะคนโตถ้าเราถามด้วยภาษาอะไรเค้าก็สามารถตอบภาษานั้นได้เลยส่วนไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน บางครั้งร้องไห้เสียใจก็บรรยายความรู้สึกออกมาเป็นภาษาอังกฤษหรือตอนละเมอก็มีค่ะลูกสาวก็อาจมีสับสนบ้างพูดญี่ปุ่นปนจีน พูดอังกฤษปนไทยบ้างแต่มีความเข้าใจในสิ่งที่เราพูดก็โอเคแล้วค่ะ
ค่อยปรับโหมดให้เหมือนพี่อยู่ค่ะ..
ขอให้คุณแม่มีความมุ่มมั่นและตั้งใจริย๋าเชื่อว่าทำได้แน่ๆ ค่ะถ้ามีปัญหาหรือท้อใจอย่าลืมหมู่บ้านสองภาษาเป็นผู้ช่วยนะคะโดยเฉพาะ หัวเรือใหญ่ของเรา ผู้ใหญ่บิ๊ก บิ๊กสมชื่อจริงๆค่ะ แล้วยังมีพี่ๆน้องๆอีกหลายๆท่านที่มีประสบการณ์ที่หลายหลายมากมายมาแบ่งปันวิธีกันค่ะ เรายังมีคนอื่นๆที่มีปัญหาเหมือนเรา อย่ารู้สึกโดดเดี่ยวนะคะ สร้างคลังคำศัพท์ให้น้องเยอะๆ ส่วนตัวเราจะพูดถูกพูดผิดไม่ต้องไปอายใครไม่ได้มีใครมาวัดผลเรากับลูกคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่เราวางรากฐานที่ดีให้กับลูกของเราที่ถูกต้องแล้วก็เชื่อมั่นและหนักแน่นเข้าไว้นะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะคุณแม่ น้องขิมน้องขุน เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ มีอะไรที่ริย๋าพอจะช่วยได้บ้างยินดีและเต็มใจเสมอค่ะเรามาร่วมสร้างเด็กไทยรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและจิตใจมีคุณธรรมร่วมกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ
แม่ริย๋า

[theeranuch]

สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกวันนี้ค่ะ ชื่อนุชนะคะ ลูกชายชื่อ แกรนิตค่ะ อายุ 7 ขวบแล้วกำลังจะขึ้น ป. 2 ได้เจอกระทู้นี้ดีใจนะคะ เพราะดิฉันก้อมีความสนใจและอยากให้ลูกมีความสามารถที่จะได้ภาษาที่ 2, 3 แต่ตัวดิฉันเองก้อไม่เก่งเหมือนกันพยายามแต่อาจเป็นเพราะว่าเราอาจจะแก่เกินไป อิอิ ต้องพยายามท่องคำศัพท์ ทั้งท่องประโยคที่จะต้องสนทนา สื่อสาร โต้ตอบกับลูก ลูกชายเป็นคนชั่งซักถามขนาดภาษาไทยบางคำถามของเขาดิฉันยังอึ่งเลย ^_^ พออยากให้ลูกเก่งภาษาที่ 2 ต้องหนักใจมากแต่ก้อต้องพยายามเพื่อเขาให้มาก ^_^

[ทิพวัลย์]

ใช่แล้วค่ะ สู้กันไป แล้วเราจะสำเร็จไปด้วยกัน ต้องมีวันของเราอยู่แล้ว

[ทิพวัลย์]

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำที่มีประโยชน์จะพยายามต่อไปค่ะ ถ้าทำได้ดีขึ้นก็จะมาเล่าให้ฟังค่ะ ตอนนี้ก็ต้องสู้ต่อไป คนสู้ชีวิต ต้องดื่ม เอ็ม 100 ด้วยหรือเปล่าค่ะเนี่ย

[Suthawadee C.]

คุณริย๋า เริ่ม 2 ภาษากับลูกนานหรือยังคะ แล้วการเรียนที่ รร. 2 ภาษา ได้ผลไม๊คะ