โรงเรียนสองภาษาในจังหวัดชลบุรี

[Santi Kumk]

ตอนนี้ลูกชายชื่อน้องนอฟ อายุ 3.8 เดือน เรียนสองภาษาที่จังหวัดเชียงใหม่ ชั้นอนุบาล1 แต่ทางครอบครัวมีความจำเป็นต้องย้าย ไปประกอบอาชีพ ที่จังหวัดชลบุรี ในปี 53 เป็นห่วงลูกมากครับ เพราะเพิ่งปรับตัวเข้ากับโรงเรียนได้ และชอบไปโรงเรียนแล้ว เนื่องจากโรงเรียนนี้ดูแลเด็กค่อนข้างดี จึงกลัวว่าหากต้องย้ายไปเรียนที่ชลบุรี จะมีโรงเรียนสองภาษาที่ดีแบบนี้อีกหรือไม่ ผู้ปกครองท่านใดพอมีความรู้ แนะนำโรงเรียนให้หน่อยครับ ไม่เน้นเก่งวิชาการมากไป แต่เน้นเปิดกว้าง และสอนให้เด็กคิดเป็น ทำเป็น และกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ส่งเสริมความคิดสรางสรรค์เด็ก ไม่ยึดตำราเรียนมากเกินไป ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[panchalee]

สนับสนุน Home school ด้วยค่ะ ยิ่งถ้าลูกป่วย ยิ่งสนับสนุนค่ะ

อยากคุยกับคุณแม่ "พาลิน" ด้วยจังเผื่อจะมีคำแนะนำดีดีให้บ้างน่ะค่ะ

[Pavina Pleansrikhaw]

อยู่ 9 กิโลศรีราชาเหมือนกันค่ะ คิดเหมือนกันเลย หาแนวร่วม [e-mail]

[แม่ลูกน้ำ]

สนใจโรงเรียนสาธิตม.บูรพา เพราะใกล้บ้าน และเห็นว่ามีสองภาษาเหมือนกัน บ้างก็มีคนแนะนำวาเกรดพอ ๆ กับ สาธิตเกษตร แต่ก็กำลังเปรียบเทียบกับอนุบาลชลบุรี EP ไม่ทราบว่าใครมีข้อมูลแนะนำบ้างค่ะ

[Promphan]

ก่อนอื่นต้องให้คุณแม่ลูกน้ำประเมินลูกก่อนคะว่าเป็นเด็กน้อยที่มีลักษณะนิสัยแบบไหนเพราะโรงเรียนแต่ละโรงเรียนที่คุณแม่เลือกมามีความโดดเด่นคนละอย่าง
ก่อนอื่น สาธิตเกษตรไม่ใช่โรงเรียนสองภาษานะคะแต่เป็นพหุภาษา เรียนสองภาษาขึ้นไปแต่เป็นการเรียนแบบรายวิชา
ส่วนสาธิตบูรพา กับอนุบาลชลเป็น EP ถ้าเป็นสองโรงเรียนนี้คุณแม่ต้องให้เข้าตั้งแต่อนุบาลค่ะ เพราะถ้าเป็นชั้นอื่นจะเข้ายาก หรือเข้าไม่ได้เลย เนื่องจากจะใช้การเลื่อนระดับชั้นเรียนซึ่งก็ไม่ค่อยมีเด็กออกซักเท่าไหร่คะ ส่วนสาธิตเกษตรนั้น คุณแม่สามารถสำรองเป็นที่สุดท้ายได้เพราะมีการสอบหลายรอบค่ะ บางทีเด็กไม่เต็มก็รับเด็กอนุบาล2เข้าเรียนประถม1ก้อบ่อย
ส่วนข้อดีของสาธิตเกษตรก็สถานที่น่าเรียนค่ะ วิชาการก็ดี แต่ภาษาคงต้องเรียนเสริมบ้าง
แต่ถ้าเป็นสาธิตบูรพาอันดับแรกคือค่าใช้จ่ายพอประมาณคะถูกกว่าสาธิตเกษตรเยอะ วิชาการเด็กที่นี่เก่งคณิ่ต วิทย์มาก ภาษาก็ดี แต่ถ้าเป็นคนรักลูกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆก็จะกังวลเรื่องสถานที่ เพราะรั้วรอบขอบชิดไม่ค่อยมี
ถ้าจะให้ดีที่สุดสำหรับดิฉันซึ่งมีลูกหลายเรียนทั้ง3โรงเรียนนี้ขอบอกว่าอนุบาลชลบุรีค่ะ ที่บอกแบบนี้เพราะมุมมองของดิฉันซึ่งมีลูกผู้ชายนะคะ คุณแม่ท่านอื่นอาจคิดไม่เหมือนกันก็ได้ ส่วนตัวดิฉันคิดว่าอนุบาลชลบุรีเป็นโรงเรียนที่สร้างเด็กให้มีระเบียบวินัยและรู้หน้าที่ค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นอนุบาลของรัฐ ครูจะไม่เอาอกเอาใจเด็ก ถ้าจะใช้คำว่าเข้าไปเพื่อขัดเกลาก็ไม่ผิดค่ะ และวิชาการของที่นี่ก็โดดเด่นมากเพียงแต่สถานทค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับสาธิตทั้ง2โรงนะคะดังนั้นคุณแม่ลูกน้ำก็ต้องดูเอาน่ะค่ะว่าลูกควรเสริมเรื่องอะไร ขาดเรื่องอะไร แล้วก็เลือกเอาน่ะคะ เช่นลูกชายดิฉันเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ค่อนข้างแข็งกร้าว ก็เลยเอาเข้าอนุบาลชลบุรีเพราะครูที่นี่มีประสบการณ์สูงควบคุมได้ แต่หลานชายเป็นเด็กที่หัวอ่อนชอบเรียน แต่เป็นแบบไม่เครียดมาก และแม่เค้าก็เป็นคนระเบียบจัดอยู่แล้ว ที่บ้านก็เลยให้เรียนสาธิตบูรค่ะ

[MaMa n'JaY]

คุณจู ... ได้ค่าโฆษณาจากร่มไม้ป่าวค๊า ;) (กันล้อเล่นน่ะค่ะ)

กันจะบอกเสริมกะคุณจูด้วย น้องเจก็เรียนที่ร่มไม้ค่ะ แต่แอบชมน้องข้าวสวยก่อนน๊า งานวันปิดภาคเรียน เต้นเป็นบาร์บี้เกิร์ลน่ารักดี กันแอบถ่ายรูปไว้ด้วยล่ะ ... น้องเจเต้นก่อนน้องข้าวสวยเพลงนึง เห็นหน้าน้องเจป่าวววว ตัวสูง ๆ เสียงดัง ๆ อยู่ตรงกลางข้างหลังล่ะ ;)

ในส่วนของกัน กันมองว่าที่ร่มไม้นอกจากที่คุณครูจะดูแลเด็ก ๆ ดีแล้ว โรงเรียนมุ่งเน้นให้นักเรียนกล้าแสดงออก (ซึ่งพิสูจน์แล้วจากงานวันปิดภาคเรียนเมื่อวันที่ 15/3/53 ที่ผ่านมา เพราะน้องเจกล้าซ้อมอะไรทุกอย่าง พอถึงวันจริงไม่ยอมแต่งตัว ไม่ยอมแต่งหน้า ตอนแรกกันก็ลุ้นนะ ตอนประกาศรายชื่อผู้แสดงน้องเจจะงอแงไม่ขึ้นรึป่าว แต่ไม่เลย น้องเจขึ้นมายิ้ม เต้นแบบสุดเหวี่ยงมาก ๆ เหมือนกะตอนที่ซ้อมกะกันที่บ้านเลย เค้าเห็นกันถือกล้องอยู่ด้านล่าง โบกมือให้กันนิด ๆ ด้วยล่ะ)

อีกส่วนนึงที่กันได้จากการปฐมนิเทศน์เมื่อเทอมที่แล้ว และจากตลอดทั้งปีชั้นเตรียมอนุบาลของน้องเจ สรุปภาพรวมว่ากันพอใจมาก ๆ ที่ส่งน้องเจไปเรียนที่ร่มไม้ เพราะถึงแม้จะเป็นชั้นเตรียมอนุบาลก็จริง แต่เค้าก็มีหลักสูตรและมีสมุดสื่อสารที่ทางคุณครูสื่อให้เราได้รู้พัฒนาการทุกวันที่สำคัญทำให้เรารู้ว่าเรื่องอาหารการกิน การนอน พัฒนาการ อารมณ์ สังคม ในแต่ละวันลูกเราเป็นยังงัย ดีขึ้น ด้อยลงยังงัย และที่ชอบมากที่สุดคือ "บ้านกะโรงเรียนใกล้กันนิดเดียว" ขนาดว่าตากระพริบถี่นิดเดียว หรือมีขี้ตาแฉะ คุณครูบอกกะกันว่าน้องเจกระพริบตาถึ่ น้องเจเจ็บตารึป่าว (จริง ๆ แล้ว น้องเจเค้าติดจากไหนมาไม่รู้ เป็นพฤติกรรมเลียนแบบน่ะค่ะ) ส่วนเรื่องขี้ตาแฉะ ครูบอกว่าทานน้ำเยอะ ๆ เดี๋ยวหายเอง เหมือนเป็นหวัดเข้าตา (เป็นจุดที่เล็กมาก แต่ว่าคุณครูก็ใส่ใจมาก ๆ ค่ะ บางคนอาจจะไม่สังเกตก็ได้ เพราะมันเล็กมาก) และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดกับน้องเจเมื่อเราเขียนบอกคุณครูไป คุณครูจะเทคนิคในการสอนและทำให้น้องเจกลับมา อาจจะขอโทษที่ดื้อกะมะม๊า บอกว่าวันนี้น้องเจตั้งใจเรียน บอกว่าวันนี้ได้ดาวเด็กดี วันนี้ได้กินผัก รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทางโรงเรียนจัดให้เป็นหน่วยการเรียนในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งในสมุดสื่อสารจะบอกทุกอย่างว่าสัปดาห์นี้เรียนอะไร ท่องคำคล้องจองอะไร เพลงที่จะเรียน คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวเนื่อง กิจกรรมเข้าจังหวะท่าอะไร รวมถึงข้อเสนอแนะที่คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้สอดคล้องกะทางโรงเรียนค่ะ

กันเคยคุยกะคุณครูของน้องเจนะ เวลาน้องเจดื้อกะมะม๊า คุณครูเล่าให้ฟังว่า คุณครูกอดน้องเจ บอกว่าคุณครูรักน้องเจนะครับ มะม๊าก็รักน้องเจด้วย แล้วก็จะสอนว่าเด็กดีเป็นยังงัย น้องเจทำได้มั๊ย แล้ววันนั้นน้องเจก็จะกลับมาขอโทษ บอกว่า "ขอโทษครับที่ไปโรงเรียน" ตอนแรกก็ยังงง ๆ ว่าขอโทษทำไมน๊า ไปโรงเรียนก็ดีอยู่แล้วนี่นา พอไปคุยอีกที คุณครูบอกว่าสอนให้น้องเจขอโทษที่น้องเจดื้อค่ะ แล้วก็อีกหลายเหตุการณ์ที่คุณครูกะมะม๊ามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของน้องเจ จนล่าสุดก่อนจะปิดเทอม กู๋สิทธิ์เห็นว่าอยู่บ้านบางทีน้องเจดื้อมาก กลัวว่าอยู่ รร. จะมีปัญหาอะไรรึป่าว มะม๊าก็ไม่ค่อยได้ไปรับ เพราะไม่ว่างไปคุยกะครู กู๋กลัวจะมีปัญหาเลยไปถามคุณครู คำตอบที่ได้จากครูคือ เทอมสองมานี้น้องเจเป็นเด็กที่เรียกได้ว่าเรียบร้อยที่สุดในห้อง พูดเพราะ รู้จักขอโทษ ตั้งใจฟังเวลาครูสอน ไม่คุย ไม่เล่นเหมือนเคย ไม่มีปัญหาอะไรเลย แล้วก็เป็นผู้นำเล่นของเพื่อน ๆ ด้วยอะค่ะ

ส่วนเรื่องการเรียน ก็เรียนผ่านการเล่น ลงมือทำด้วยตัวเอง ฝึกสังเกต และจำได้จากการปฐมนิเทศน์ค่ะว่า ผอ. เคยบอกว่าถึงแม้ว่าจะเป็นแค่น้องเตรียม แต่พอจบปีจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของลูกคุณ คือจะเข้าใจในสิ่งที่เรียนแบบองค์รวม และจะอ่านภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้บ้าง (ตามวัย) แบบองค์รวม จะมีความรู้รอบตัวมากขึ้น ได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษไปพร้อมกันค่ะ ช่วยเหลือตัวเองได้เยอะขึ้น สำหรับภาษา (ในความรู้สึกกันนะคะ) คือเค้าปูพื้นให้ดีค่ะ ทั้งไทยและอังกฤษ ครูใหญ่เคยบอกว่าถ้าต้องการให้พาสต์ชั้น ก็ให้คุยกะคุณครูเพื่อจัดสอบพัฒนาการค่ะ สำเนียงโอเคค่ะ พูดเยอะขึ้นค่ะ (คุณครูที่นี่สำเนียงดี ใจเย็น มีจิตวิทยาเด็กมาก่อน ไม่จำเป็นต้องจบด้านการศึกษาปฐมวัย ผอ. ว่างั้นค่ะ) เทอมสองที่ผ่านมาเป็นน้องเตรียม (หนูทดลอง) Bilingual ด้วยค่ะ เลยได้ครูต่างชาติมาประจำที่ห้องคนนึง ก็เลยรู้สึกว่าน้องเจเข้าใจและโต้ตอบครูได้บ้าง และสังเกตเก่งด้วยว่า Once ถ้าเอา c ออก ก็คือ One, Anti ถ้าเอา i ออก ก็คือ ant (อันนี้กันสังเกตจากการพาน้องเจไปข้างนอกแล้วน้องเจพูดให้ฟังค่ะ) บางทีเจอศัพท์ที่เค้าเคยเรียน หรือได้ยินฝรั่งพูดในสิ่งที่เคยฟัง ก็จะบอกหรือพูดคำนั้นออกมาค่ะ)

เดี๋ยวเทอมหน้า ขึ้น อ.1 จะมาแชร์อีกครั้งค่ะ เพราะยังไม่รู้ว่าแนวการสอนที่ร่มไม้เป็นยังงัย แต่โอเคมากกะเตรียมอนุบาล และโอเคมากที่ครูแคลร์ก็เป็นคุณครูที่สอนลูก 4 คนของคุณครูแบบเด็กสองภาษา (เคยได้ยินครูคุยกะลูกชายที่อยู่ ป.4 น้องก็สำเนียงดีมาก) ครูใช้ภาษาอังกฤษกันทั้งบ้าน คุณครูเห็นตอนที่มาแคมป์เทอมที่แล้ว กันพูดภาษาอังกฤษกะน้องเจ คุณครู (ช่างสังเกตมากค่ะ) บอกกะกันว่าให้พูดต่อเลย น้องเจมีแววทำได้นะคะ คุณแม่อาจจะยังไม่พูดเต็มร้อย แต่คุณครูมองว่าเค้าได้เยอะ กันก็เลยแบ่งเวลาเป็นสองภาษา และฝากคุณครูด้วย (เพราะบางคนที่โตหน่อย ครูแคลร์จะพูดภาษาอังกฤษด้วย เพิ่มจากครูต่างชาติอีกคนในห้องค่ะ) :) เคยถามคุณครูเรื่องหลักสูตรประถมที่นี่ คือ เป็น Bilingual ภาษาอังกฤษแยกเรียนแต่ละทักษะเป็นคนละคาบค่ะ จำไม่ได้ว่าเป็นกี่ % ของหน่วยการเรียนทั้งหมด มีเสริมภาษาจีนด้วย เริ่มจาก ป.1 ค่ะ กะว่าใกล้ ๆ ถึงอนุบาล 3 จะคุยกะคุณครูอีกครั้ง ถ้าไม่ดี คุณครูคงไม่ส่งลูกเรียนที่นี่ ;)

ตอนนี้น้องเจบอกว่าอยากเรียนภาษากะครูแคลร์ ก็เลยว่าจะคุยอีกครั้ง เพราะเคยไปคุยกะครูครั้งนึงแล้วเมื่อกลางเทอมที่แล้ว เพราะการสอนภาษาของคุณครูนั้น เน้นพูดและผ่านการทำกิจกรรม และลูก ๆ ของคุณครูทุกคนจะลงมาช่วยสอนด้วย ;) ไม่ใช่กันสอนไม่ได้นะ แต่บางทีให้อยู่กะคนอื่นบ้าง ก็น่าจะทำให้คุ้น คุณพ่อน้องเจก็เห็นด้วย เพราะเน้นพูด และเน้นกิจกรรมที่คุณครูน่าจะจัดให้เหมาะสมกะเด็ก ๆ วัยนี้ อาจจะดีกว่าเราบ้างในบางเรื่องค่ะ ;)

[แม่อั้ม&น้องกะทิ]

คุณแม่น้องเจ ลูกจะเข้าเรียนอนุบาลเทอมหน้าค่ะ จะขอรบกวนสอบถามเรื่องการเรียนน้องเจที่ร่มไม้ได้ไหม ขอเบอร์ส่งมาทางเมลล์ได้ไหมคะ mamykati@จีเมลล์.com ขอบคุณค่ะ

 

[MaMa n'JaY]

โห ... ทำไมเราเขียนยาวอย่างงี้น๊า ... ????
(งงตัวเอง ... 555+)

[วาสนา จันทะวงษ์]

โรงเรียนสองภาษาภาคเอกชนก้จะมีอนุบาลร่มไม้กับสุอารีวิทยา ค่าเทอมประมาณสี่หมื่นกว่าๆแต่คุมมากถ้าสนใจมีหลานๆเรียนกันมาก ตรงตามวัตถุประสงค์มากค่ะ

[Promphan]

ถ้าเป็นค่าเทอมปัจจุบันที่เช็คล่าสุดให้เพื่อนนะคะ คือ ร่มไม้อยู่ที่ 33000 บาท ไม่มีอินเตอร์ ทำตึกใหม่ทันสมัยดี แต่อาหารไม่อร่อย
ส่วนสุอารีสองภาษาอยู่ที่ 35000 บาท แต่ถ้าเป็นอินเตอร์อยู่ที่ 65000 บาทค่ะ ดูลูกหลานจากที่บ้านได้ด้วย แต่ว่าเด็กน้อยไปนิดค่ะ

[แม่น้องบีม]

และคิดว่าสุอารี กับ ร่มไม้ ที่ไหนดีกว่ากันค่ะ

[MaMa n'JaY]

ที่โรงเรียนอนุบาลร่มไม้ เคยทำสำรวจหลักสูตร Inter กับพ่อแม่ผู้ปกครองค่ะ แต่เข้าใจว่าผลตอบรับไม่น่าจะดี จึงไม่เปิดหลักสูตรนี้ แต่ปีนี้มีเปิดหลักสูตร Bilingual สำหรับน้องเตรียมอนุบาลแล้วนะคะ โดยปีที่แล้วนำร่อง Bilingual Pre-Kindergarten ที่ห้อง Watermelon มีครูไทย 1 คน ครูต่างชาติ 1 คน และครูผู้ช่วย 1 คนค่ะ :)

ค่าเทอมล่าสุด ปีนี้นะคะ

Pre-Kindergarten
แบบ Mini English Program (ครูต่างชาติสอนภาษาอังกฤษวันละครึ่งชั่วโมง) = 30,000.-

Pre-Kindergarten
แบบ Bilingual (ครูต่างชาติเป็นครูประจำชั้น อยู่กับเด็ก ๆ ทั้งวัน) = 40,000.-

อนุบาล
(ปีนี้แต่หลักสูตร Bilingual อย่างเดียว ไม่มี Mini English Program แล้ว มีครูต่างชาติเป็นครูประจำชั้น) = 40,000.-

ปีที่แล้วเปิดตึกประถมตึกใหญ่ ตึกใหม่ ทันสมัยไปแล้วค่ะ ปีนี้ซื้อที่ดินเพิ่มอีก 4 ไร่ กำลังจะขยายพื้นที่โรงเรียนให้เพิ่มมากขึ้น ส่วนอาหารไม่รู้อร่อยรึป่าว เพราะว่าไม่เคยชิมกะลูก ;) แต่เห็นครูว่าน้องเจขอเติมวันละ 2 จาน อาหารว่างถูกใจน้องเจอย่างแรง แต่เมนูของเด็ก ๆ โอเคมากมายค่ะ เพราะเอามาประยุกต์ทำให้น้องเจกินที่บ้านประจำ ท่าทางน้องเจจะชอบ :)

จำนวนเด็กนักเรียนที่นี่ เพิ่มขึ้นทุกปี ปีนี้ก็เพิ่มห้องสำหรับน้องเตรียม และอนุบาล 1 ด้วย จำนวนครูเองก็เพิ่มขึ้น

ทางโรงเรียน (น่าจะ) มีแผนขยายเรื่องนักเรียนชั้นประถมค่ะ ห้องเรียนน่าเรียนมาก แล้วก็เด็กที่นี่เก่งดีค่ะ กล้าแสดงออกด้วย ที่สำคัญลูกอยู่โรงเรียนทำอะไร พ่อแม่รู้หมด คุณครูรายงานได้ละเอียดถี่ยิบ และเป็นกันเองมากค่ะ ;)

[punglo]

รบกวนคุณพ่อน้องนอฟค่ะ ขอโทษนะคะ ขอสอบถามนิดนึง บังเอิญบ้านอยู่ที่เชียงใหม่อะค่ะ อยากทราบว่าน้องเรียนที่ไหนเหรอคะ แล้วดีหรือป่าว เผื่อจะได้ดูเป็นแนวทางให้ลูกหน่ะคะ ขอขอบคุณมากนะคะ รบกวนนิดนึงค่ะ