เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
รบกวนคุณครูด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
๑. แม่ขาวันนี้น้องวาเลนทีโน่นอนพักกลางวันหรือเปล่าคะ Did Valentino take a nap ? ถูกต้องไหม๊คะ
๒. แม่ครับมานอนใกล้ ๆ หนู หรืออยู่ใกล้ ๆ หนู By my side หรือ beside me mommy ถูกหรือเปล่าคะ
๓. ซิลวานา หนูเห็นตุ๊กตาแมวของน้องไหม๊ลูก Did you see cat toy of your brother ? Do you see cat toy of your brother ? Have you seen cat toy of your brother? ถูกต้องไหม๊คะ มันแตกต่างกันยังไงคะ
๔. วันนี้ใครจะไปรับหนูที่โรงเรียนค่ะ Who is pick me up after school to day? ถูกไหมคะ
๕. วันนี้ใครจะไปส่งหนูที่โรงเรียนค่ะ Who is send me to school to day ? ถูกต้องไหม๊คะ
๖. ใกล้จะถึงวันเกิดลูกแล้วน๊ะ ตื่นเต้นไหม๊]ลูก
๗. เราจะไปจัดวัดเกิดของหนูที่บ้านปู่น๊ะ และก็ไปกินอาหารค่ำที่นั่นด้วย
๘. ใครเอาหนังสือแม่ไปซ่อนไว้ที่ไหนน๊ะ เอามาให้แม่เดี๋ยวนี้เลย
๙. แม่ขาพรุ่งนี้ฝนจะตกไหม๊คะ
๑๐. พรุ่งนี้ฝนไม่ตกลูกพรุ่งนี้มีแสงแดด
๑๑. พรุ่งนี้ผนไม่ตกลูกแต่อากาศมันจะครึ้ม ๆ หน่อยนีะ ไม่มีแสงแดด
๑๑. แม่ขาแสงแดดมันเข้าตาหนู That sun shy get in to my eyes ถูกไหม๊คะ
๑๒. แม่ขาหนูโกรธตัวหนูเองแล้ว เพราะว่าหนูวาดรูปไม่ได้ (หมายถึงเขารู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่วาดรูปไม่ได้ดั่งใจอะไรประมาณเนี้ยค่ะ ) mommy I'm angry myself because I can not drawing a picture ใช้่ได้ไหม๊คะ
๑๓. ช่างมันเถอะลูก อย่าไปใส่ใจมันเลย (อาจจะพยายามทำอะไรกันอยู่แล้วมันทำไม่ได้ หรืออาจจะเห็นอะไร
ที่ดูแล้วไม่น่ามอง ประมาณเนี้ยค่ะ)
๑๔. แม่เติมเกลือหรือยังคะ ทำไมมันจืดจังเลย
Tags:
ึแชร์คำตอบนะครับคุณแม่น้อง Silvana
๑. แม่ขาวันนี้น้องวาเลนทีโน่นอนพักกลางวันหรือเปล่าคะ Did Valentino take a nap ? ถูกต้องไหม๊คะ
-> ถูกแล้วครับ และจะใช้เป็น Present perfect tense ก็ได้คือ Has Valentino taken a nap? แต่ต่างกันตรงที่แบบ Am.E. จะใช้แบบ Past simple tense แทน Present Perfect tense ในบริบทที่เหมือนกันบ่อย ๆ ซึ่งในแบบ Br.E. จะใช้ Present Perfect tense มากกว่า แต่ก็ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ
มีข้อยกเว้นเพียงแต่ว่า หากมีคำที่บอกช่วงเวลาในอดีตชัดเจน เช่น yesterday, last week, in the morning หรือ today (แต่ตอนถามเป็น afternoon หรือ evening แล้ว), ฯลฯ ก็ควรใช้ Past simple tense ครับ เช่น Did Valentino take a nap this afternoon? = Has he taken a nap?
๒. แม่ครับมานอนใกล้ ๆ หนู หรืออยู่ใกล้ ๆ หนู By my side หรือ beside me mommy ถูกหรือเปล่าคะ
-> By my side หรือ beside me จะเป็นวลี ที่จะใช้ในประโยคอีกที จะไม่ใช้เป็นประโยคคำสั่ง เช่น Can you sleep by my side/ sleep beside me? แต่หากจะใช้เป็นประโยคคำสั่งอย่างในประโยคไทยว่า "มานอน/อยู่ ใกล้ ๆหนู" แบบนี้ใช้ "Stay close to me, mommy." = อยู่ใกล้ ๆ (จะนอน หรือมานั่งใกล้ ๆ ก็ได้) หรือ "Move/come closer to me." = เขยิบมาใกล้ ๆ ก็ได้ครับ (จะเติม Can you เข้าไปข้างหน้าให้ฟังดูนุ่มนวลก็ได้นะครับ)
๓. ซิลวานา หนูเห็นตุ๊กตาแมวของน้องไหม๊ลูก Did you see cat toy of your brother ? Do you see cat toy of your brother ? Have you seen cat toy of your brother? ถูกต้องไหม๊คะ มันแตกต่างกันยังไงคะ
-> cat toy ในประโยคน่าจะเป็น "toy cat" นะครับ และ toy of your brother ควรเป็น "toy of your brother's" เพราะเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของของ brother (ทำนองเดียวกับกับ a friend of mine) แต่หากจะใช้ง่าย ๆ ก็เป็น "brother's toy cat" ครับ
นอกนั้นรูปแบบทั้ง 3 ประโยคก็ใช้ได้หมดนะครับ ต่างกันตรงที่:
- Did you see your brother's toy cat? ใช้ถามเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว เหมือนกับที่อธิบายในข้อ 1 ครับ
- Have you seen your brother's toy cat? " " " " " "
- Do you see your brother's toy cat? ใช้อย่างในบริบทเช่นว่า กำลังหาตุ๊กตาแมวในตอนนี้เลย แล้วคุณแม่ก็ถามน้อง Silvana ว่า "เจอ/เห็นตุ๊กตาแมวของน้องไม๊?" ขณะที่กำลังหาอยู่ ก็ใช้ประโยคนี้ได้ครับ
๔. วันนี้ใครจะไปรับหนูที่โรงเรียนค่ะ Who is pick me up after school to day? ถูกไหมคะ
-> เกือบถูกแล้วครับ เป็น Who is going to pick me up after school today? หรือไม่ก็ใช้ "will" แทน "is going to" ก็ได้ครับ
๕. วันนี้ใครจะไปส่งหนูที่โรงเรียนค่ะ Who is send me to school to day ? ถูกต้องไหม๊คะ
-> ส่งลูกไปโรงเรียน หรือไปที่ไหนก็แล้วแต่ ใช้ "take sb. to school" / "get sb. (off) to school" / "drop sb. off at school" มากกว่าครับ ส่วน "send sb. to school" จะมีความหมายไปอีกแบบคือ "ส่งให้ไปเข้าโรงเรียนเรียนหนังสือ" ครับ
๖. ใกล้จะถึงวันเกิดลูกแล้วน๊ะ ตื่นเต้นไหม๊]ลูก
-> Your birthday is coming up. Are you excited?
๗. เราจะไปจัดวัดเกิดของหนูที่บ้านปู่น๊ะ และก็ไปกินอาหารค่ำที่นั่นด้วย
-> We are going to throw a birthday party for you at grandpa's house. We'll have dinner there too.
๘. ใครเอาหนังสือแม่ไปซ่อนไว้ที่ไหนน๊ะ เอามาให้แม่เดี๋ยวนี้เลย
-> The one who hid my book away must get it back to me now. หรือ Who hid my book away? Go and get it back to me.
๙. แม่ขาพรุ่งนี้ฝนจะตกไหม๊คะ
-> Mommy, will it rain tomorrow?
๑๐. พรุ่งนี้ฝนไม่ตกลูกพรุ่งนี้มีแสงแดด
-> No, it won't rain tomorrow. It'll be a sunny day.
๑๑. พรุ่งนี้ผนไม่ตกลูกแต่อากาศมันจะครึ้ม ๆ หน่อยนีะ ไม่มีแสงแดด
-> There'll be no rain tomorrow, but the weather will be quite dull, no sun.
๑๑. แม่ขาแสงแดดมันเข้าตาหนู That sun shy get in to my eyes ถูกไหม๊คะ
-> ไม่ต้องมี shy และ to ก็ใช้ได้แล้วครับเป็น The sun gets in my eyes.
๑๒. แม่ขาหนูโกรธตัวหนูเองแล้ว เพราะว่าหนูวาดรูปไม่ได้ (หมายถึงเขารู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่วาดรูปไม่ได้ดั่งใจอะไรประมาณเนี้ยค่ะ ) mommy I'm angry myself because I can not drawing a picture ใช้่ได้ไหม๊คะ
-> เติม with หลัง angry และ drawing เปลี่ยนเป็น draw (หลัง can จะเป็น verb ช่อง 1 เฉยๆ ครับ) ทั้งประโยคก็ใช้ได้ครับ
๑๓. ช่างมันเถอะลูก อย่าไปใส่ใจมันเลย (อาจจะพยายามทำอะไรกันอยู่แล้วมันทำไม่ได้ หรืออาจจะเห็นอะไร
ที่ดูแล้วไม่น่ามอง ประมาณเนี้ยค่ะ)
-> "Let it be" ก็ได้นะครับ เช่น Just let it be. Don't be bothered (by it).
หาก ช่างมัน แบบทำนอง ปลง ๆ หรือ ยอมรับ เช่น "เออ จะเป็นอะไรก็ช่างมัน" ก็เป็น "So be it" เช่น You already did your best, even if it didn't come out well, so be it. That's all right. (= ลูกลองทำเต็มที่แล้วนี่ ถึงแม้มันออกมาไม่ดีเท่า ก็ช่างมันเถอะ ไม่เป็นไร)
หรือ "Leave it alone" = ช่างมัน เลิกคิดถึงสิ่งที่กวนใจ หรือ เลิกทำอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็ได้นะครับ เช่น Leave it alone. Don't think too much about it. ประโยค Leave it alone และ Let it be ใช้แทนกันก็ได้นะครับ
๑๔. แม่เติมเกลือหรือยังคะ ทำไมมันจืดจังเลย
-> Did you put salt in? I wonder why it tastes so bland.
ขอบคุณมากค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by