เห็นอันนี้หรือยังข่าว baby eitien

[แอ็บแบ้วตีนกา]

เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐวันนี้ vcd baby eistine ทำให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆได้ช้าลงจริงหรือ ผู้รู้ช่วยตอบด้วย

[Bless's Dad]

เนื้อข่าวไม่ได้ลงรายละเอียดว่าเป็นยังไง เลยไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ถ้าในความเห็นส่วนตัวของผมคิดว่า การที่ให้เด็กทารกดูทีวีหรือ vcd, dvd อื่น ๆ ที่เป็นการสื่อสารทางเดียวนั้น (คือไม่มีการตอบโต้ระหว่างกันและกัน) ทำให้เด็กขาดการสื่อสารที่ดีและสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้คำศัพท์น้อยกว่าเด็กที่มีการพูดคุยระหว่างพ่อกับแม่ เพราะว่าทีวีจะสร้างสีสันออกมาเป็นภาพเร็ว ๆ เวลาที่เด็กดูเค้าก็จะเห็นภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นเหมือนเป็นของแปลกใหม่ ทำให้ไม่สนใจสิ่งรอบ ๆ ข้างหรือแม้กระทั่งเวลาที่มีคนพูดหรือเล่นด้วย ดังนั้นเวลาที่จะเล่น หรือสอน หรือคุยอะไรกับลูก ควรจะลดเสียงรอบข้างลง ให้ลูกสามารถได้ยินเสียงเราอย่างถนัดจะทำให้สามารถเรียนรู้คำศัพท์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น

มีการถกกันเรื่องการให้เด็กดูทีวีก่อนอายุ 1 ขวบอยู่มากเหมือนกันในต่างประเทศ ซึ่งเค้าแนะนำมาว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปีไม่ควรจะดูทีวี หรือถ้าดูต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแลและให้คำแนะนำรวมถึงการกำหนดเวลาในการดูในแต่ละวันไม่ให้มากเกินไป (ไม่ควรเกินวันละ 1 ชม.) ซึ่งบางผลวิจัยเค้าบอกว่า การให้เด็กดูสื่อการเรียนรู้ จะได้ผลดีที่สุดก็ต่อเมื่อเด็กมีอายุ 2 ปีขึ้นไป สามารถพูดได้และสื่อสารได้ดีในระดับหนึ่งแล้วจะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ก็ลองพิจารณาดูหน่ะครับว่าอะไรที่เหมาะสมและดีกับลูกของเรามากที่สุด

เหมือนผมจะเคยอ่านผ่าน ๆ ประมาณว่าเด็กที่ดูสื่อประเภทนี้จะเรียนรู้คำศัพท์ได้น้อยกว่าประมาณ 30-50 คำโดยเฉลี่ยหน่ะครับ แต่อย่าลืมว่านั่นเป็นผลวิจัยจากต่างประเทศซึ่งใช้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานอยู่แหน่ะครับ อย่างที่เมืองไทยคงเทียบได้ประมาณว่าถ้าปล่อยให้เด็กดูแต่ทีวี หรือสื่อสารสอนของเด็ก ก็จะทำให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์ที่เป็นภาษาไทยได้น้อยลง เพราะว่าเวลาที่เราคุยกับลูกเราก็จะคุยไปเรื่อย ๆ ไม่มีรูปแบบเหมือนกับในสื่อกสารสอน ซึ่งก็ส่งผลให้เด็กได้รู้จักคำศัทพ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นนั่นเอง .... ทั้งนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ลองดูข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นจากสมาชิกท่านอื่น ๆ ดูครับ

[แม่น้องกุน & น้องญาญ่า รักในหลวง]

ในความเห็นส่วนตัวไม่รู้ว่าเขาประเมินกันอย่างไร คิดเองเออเองหรือป่าว(สำหรับต่างประเทศ) แต่ในความรู้สึกการดูcd dvd เราต้องรู้จักเลือกให้ลูกดูและที่สำตัญเราต้องนั่งคุยกับลูกด้วยเล่นกับลูกด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่ต่อหน้าทีวี คนบางคนชอบตีตนไปก่อนไข้ ส่วนใหญ่ชอบปล่อยให้ลูกดูคนเดียวมากกว่าแล้วประเมินกัน อยากให้ลองประเมินว่าถ้าเด็กนั่งดูกับผู้ใหญ่คุยไปเล่นไปแล้วผลออกมาเป็นยังไรมาว่าดีกว่าไหมคะ
แล้วแต่ความเห็นของแต่ละคนคะ

[ข้าวสวยกะข้าวจ้าว]

อันนี้ก็คิดว่าเหมือนกับคนอื่นค่ะคือการดูทีวีก็ควรจะอยู่ดูกับเค้าและอธิบายให้เค้าฟังค่ะอย่างลูกตัวเองแผ่น DVD baby eistien ที่สอนเรื่อง Shape ลูกเราก็เอา Block ที่เป็นรูปร่างต่าง ๆ มานั่งดูแล้วพอพูดถึงรูปทรงเค้าก็หยิบออกมาโชว์ให้เราดูน่ะค่ะก็น่าจะได้นะคะ

[Samita Srimachaporm]

เรื่องเด็กพูดช้าเพราะดูทีวีและไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างอันนี้ดิฉันเชื่อค่ะเพราะลูกของเพื่อนบ้านอยู้ใกล้ๆ กันรุ่นเดียวกับลูกชายดิฉันตอนนี้ 2.9 เดือน เขายังพูดไม่ค่อยได้เลย พูดคำว่าแม่ก็ยังพูดไม่ได้เวลาเขาต้องการอะไรเขาต้องการอะไรเขาก็จะพูดเอ้อ...ๆ แล้วก็ชี้ถ้าเราทำไม่ถูกเขาก็จะอารมณ์เสียแม่เขาบอกบอกถ้าเขาได้ดูทีวีนะไม่ต้องไปเรียกอะไรเขานะเพราะเขาจะไม่สนใจใครเลยนอกจากทีวีแล้วเขาก็จะอยู่นิ่งได้ทั้งวันเลย ส่วนเรื่องให้เด็กดูทีวีเรื่องนี้ตอนตั้งครรภ์ก็มีเพื่อนร่วมงานเป็นชาวญี่ปุ่นเขาก็แนะนำว่าพยายามอย่าให้ลูกดูทีวีตั้งแต่เล็กเพราะแค่เอาลูกนอนหน้าทีวีแสงจากทีวีก็มีส่วนทำให้ลูกเราสมาธิสั้นได้เพราะมันจะปรับเปลี่ยนไปมาและทีวีมันก็มันสื่อทางเดียว ดิฉันก็มองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีแต่จะจริงหรือเปล่านั้นเราก็ไม่ทราบดิฉันก็ทำตามที่เขาแนะนำมาเริ่มให้ลูกดูทีวีตอน 2.6 ขวบ ก่อนหน้านี้จะเปิดเพลงบรรเลงให้เขาฟังแทน มีคุณลุงที่เป็นเพื่อนบ้านเขาก็ชมลูกชายนะคะว่าเขามีพัฒนาการที่ดีกว่าเด็กรุ่นเดียวกันในกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาที่เล่นด้วยกัน

[แม่น้องโบอิ้ง]

ดิฉันคิดว่าอยู่ที่เราค่ะ ว่าเราเลี้ยงแบบไหนค่ะ อย่างดิฉันลูกสาวอายุ1ขวบสองเดือนยอมรับว่าดูทีวีค่ะ แต่ลูกดิฉันไม่ได้เหมือนเด็กทั่วไปถ้าเขาไม่ดูหรือไม่อยากดูเขาก้อจะไปเล่น อยากออกนอกบ้านไปเล่นกับเพื่อนๆ พี่เขาค่ะ ซึ่งบางคนที่เขาเห็นลูกดิฉันถึงกลับบอกว่าพัฒนาการดีค่ะ ลูกดิฉันพูดได้ค่อนข้างหลายคำ แต่ดิฉันคิดดูได้คะ แต่เราต้องพูดคุยเล่นกับเขาระหว่างดูค่ะไม่ช่ายปล่อยให้นั่งดูคนเดียวและควรพาเขาออกไปเล่นกับเพื่อนเพื่อให้รู้จักสังคมภายนอกด้วยค่ะ

[MaMa n'JaY]

โดยส่วนตัวเราจับน้องเจดู CD ตั้งแต่ 3 เดือน แต่วันละ 15 นาที CD ที่ให้น้องเจดูนั้น จะเป็นคำศัพท์มีทั้งไทยและอังกฤษ มาพร้อมกะประโยคทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่าที่พูดอยู่เกี่ยวกับอะไร เช่น มด ... มดชอบไต่ตามต้นไม้ (บางครั้งเราอุ้มเค้าดู บางครั้งก็ให้ดูภาพแต่ส่วนใหญ่แล้ว จะใช้วิธีอุ้มแล้วเดิน พอทีวีพูดอะไร เราก็ย้ำคำนั้นให้น้องเจฟัง รวมทั้งประโยคด้วย) น้องเจจะจับคำศัพท์ทั้งไทยและอังกฤษได้เร็ว เหมือนกันกะพวก CD, VCD, DVD เพลง หรือ ชุดภาษา เราก็ทำแบบเดียวกัน บางทีเราก็อุ้มน้องเจ แล้วก็พูดภาษาอังกฤษให้ฟังนะ ABC บ้าง 123 บ้าง Sunday-Saturday บ้าง ฯลฯ อีกมากมายที่เราทำอย่างนี้ตั้งแต่น้องเจเด็ก ๆ รวมถึงแนะนำตัวง่าย ๆ My name is Jay. I was born on .... อะไรก็ว่าไป หรือร้องเพลง หรือบทสวดมนต์ เราเข้าใจว่าสิ่งที่น้องเจได้ฟังบ่อย ๆ จะเกิดความคุ้นหูและจะจำและเข้าใจได้ง่ายขึ้นเมื่อเค้าโตค่ะ ตอนนี้น้องเจ 3 ขวบกว่า เราก็ให้ดู VCD, DVD เหมือนกะทุกท่านนะคะ เราจำกัดเวลาแล้วก็จะใช้ remote control หยุดเล่นเมื่อต้องการให้น้องจลองหัดพูด มีให้เล่นเกมส์ผ่านสื่อต่าง ๆ บ้าง อยู่ในราว ๆ วันละไม่เกิน 30 นาที และที่เราสังเกตได้คือ คำศัพท์หรือประโยคไหนที่ดูเหมือนว่าน้องเจคุ้น เวลาเค้าเจอซ้ำ เค้าก็จะพูดออกมาให้เราได้ยินโดยที่บางทีเราอาจจะประหลาดใจว่าน้องเจจำได้งัยค่ะ ...

เราว่าการใช้สื่อต่าง ๆ ในเด็กเล็ก ๆ .... ผู้ปกครองควรดูแลและอยู่ด้วยอย่างใกล้ชิดค่ะ ไม่ควรเลี้ยงลูกด้วยการปล่อยให้เค้าดูคนเดียว เพราะทีวีเป็นการสื่อสารทางเดียว เด็กอาจจะเข้าใจในสิ่งที่ดูแต่ไม่ยอมตอบโต้กะผู้คนรอบข้าง (ซึ่งนี่ยังเป็นปัญหาใหญ่ของเพื่อนเราที่กำลังประสบอยู่ ... เอามาเล่าให้ฟังพอเป็นประสบการณ์ค่ะ)

[Grapie ka U-NO]

เราก็ให้ลูกดูนะคะ แต่พยายามพูดกับลูกขณะดูค่ะ แล้วลูกก็พูดเก่งเหมือนกันนะคะ

[Daddyปันดี]

จริงๆไม่ว่าจะดูหรือไม่ดูอะไร แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ ไม่มีการพูดคุยระหว่างเด็กกับพ่อแม่ ก็ไม่ได้ผลและมีผลเสียทั้งนั้นแหละครับ แต่ถ้าดูเยอะ แล้วอัตราการพูดคุยระหว่างพ่อแม่ลูกก็เยอะมากขึ้นไปอีก ก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ ที่นักวิชาการหลายท่านเตือนคงเป็ฯเพราะผู้ปกครองสมัยนี้ต่างก็มีภาระต้องออกไปทำงานทำการกัน เพราะฉะนั้นอัตราที่ลูกมีปฏิสัมพันธ์กับทีวีหรือสื่ออื่นๆก็จะมีเยอะกว่า ปัญหานี้ไม่ได้เกิดกับเฉพาะผู้ปกครองและเด็กเล็ก แต่ก็เกิดขึ้นกับผู้ปกครองและเด็กโตด้วยเช่นกันครับ