เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ห้อเลือด,เล็บหลุด,ทำหลอก

1โต๊ะล้มหล่นใส่หัวแม่เท้าหนูจนหัวแม่เท้าผมห้อเลือด(มีเลือดในเล็บค่ะ)

2เวลาเดินระวังหัวแม่เท้าที่เป็นแลไปชนกับของนะคะ

3ทำไมน้องต้องเดินยกหัวแม่เท้าขึ้นนิ้วเดียวค่ะทำไมไม่เดินแบบคนปกติเพราะน้องเจ็บมากไม่อยากให้แผลสัมผัสกับพื้นเวลาเดินจะรู้สึกเจ็บ

4อีกไม่นานน้องต้องเล็บหลุดแน่เลยเพราะเลือดไม่มีที่ระบายเล็บจะหลุดออกมา น่ากลัว

5รถของเล่นคันนี้เค้าทำประตูหลอกขึ้นมาให้เป็นลักษณะคล้ายประตูแต่ไม่สามารถเปิดได้จริง

6เปิดแบบฝึกหัดไปหน้าที่ยังไม่ได้ทำ

7อย่าเขียนทับคำที่เขียนไปแล้วถ้าเขียนผิดให้ขีดฆ่าคำเก่าแล้วเขียนใหม่

8ถ้าทำแบบฝึกหัดหรือต่อจิ๊กซอยังไม่เสร็จแล้วซักพักกลับมาทำต่อที่เหลือใช้ let get start ได้ไหมค่ะ

ขอบคุณค่ะ

Views: 2279

Replies to This Discussion

แชร์คำตอบนะครับคุณอรทัย

1โต๊ะล้มหล่นใส่หัวแม่เท้าหนูจนหัวแม่เท้าผมห้อเลือด(มีเลือดในเล็บค่ะ)

->  I have a black bruise on my big toe.  I had an accident. A table fell on it.

2เวลาเดินระวังหัวแม่เท้าที่เป็นแลไปชนกับของนะคะ

->  Be careful not to stub that big toe while you are walking around.

"stub your toe" = เผลอเดินเตะของแข็ง ๆ ทำให้เจ็บตัว

3ทำไมน้องต้องเดินยกหัวแม่เท้าขึ้นนิ้วเดียวค่ะทำไมไม่เดินแบบคนปกติเพราะน้องเจ็บมากไม่อยากให้แผลสัมผัสกับพื้นเวลาเดินจะรู้สึกเจ็บ

->  What does he lift his toe as he walks?  Why can't he walk normally?  It is because his toe is hurting badly.  He doesn't want his toe to hurt with each step he takes.

4อีกไม่นานน้องต้องเล็บหลุดแน่เลยเพราะเลือดไม่มีที่ระบายเล็บจะหลุดออกมา น่ากลัว

->  When the blood clot in the toe does not go away, soon the nail on that toe will surely come off/away.   That's a horrific sight.

5รถของเล่นคันนี้เค้าทำประตูหลอกขึ้นมาให้เป็นลักษณะคล้ายประตูแต่ไม่สามารถเปิดได้จริง

->  This toy car has false doors.  They are not real.  That's why they don't open.

6เปิดแบบฝึกหัดไปหน้าที่ยังไม่ได้ทำ

->  Turn / go to the page that has new exercises.

7อย่าเขียนทับคำที่เขียนไปแล้วถ้าเขียนผิดให้ขีดฆ่าคำเก่าแล้วเขียนใหม่

-> Don't write new words over the wrong words.  If they are wrong, just cross them out and then write the correct ones.

8ถ้าทำแบบฝึกหัดหรือต่อจิ๊กซอยังไม่เสร็จแล้วซักพักกลับมาทำต่อที่เหลือใช้ let get start ได้ไหมค่ะ

->  จะมีสำนวนหนึ่งที่ใช้ได้ในสถานการณ์แบบที่ว่า คือ "pick up (right) where we left off" = กลับมาเริ่มต้นใหม่ต่อจากครั้งที่แล้วที่หยุดไป   ดังนั้นทำแบบฝึกหัด หรือต่อจิ๊กซอค้างไว้ แล้วกลับมาทำต่อทีหลังก็เป็น   Let's pick up where we left off.

หรือจะใช้ "pick up + object" ก็ได้เป็น  Let's pick up this exercise/puzzle when we come back  อันนี้ก็จะเหมาะกับใช้ตอนก่อนจะเลิกทำแบบฝึกหัด หรือ จิ๊กซอ แล้วไปทำอย่างอื่น

แอบสงสัยนิดนึงค่ะคุณเอก
5รถของเล่นคันนี้เค้าทำประตูหลอกขึ้นมาให้เป็นลักษณะคล้ายประตูแต่ไม่สามารถเปิดได้จริง
-> This toy car has false doors. They are not real. That's why they don't open.
เราใช้ that's why they can't open แทนได้มั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ

ใช้ can't ก็ได้ครับ

ขอบคุณคุณAkeค่ะ

รบกวนถามเพิ่มนะคะ

1วันนี้เราต้องไปล้างและทำสะอาดแผล และเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ที่โรงพยาบาลทุกวัน

2ถ้าหนูไม่ยอมให้ล้างแผลแต่โดยดีร้องไห้และดิ้นไปมา บุรุษพยาบาลต้องล็อคตัวหนูไว้

3ถ้าแผลแห้งแล้ว เราไปล้างแผลวันเว้นวันจ้ะ

4 แผลสดเรียกว่าwound และแผลแห้งเรียกว่าscabใช่หรือ เปล่าค่ะ

ขอบคุณค่ะ

1วันนี้เราต้องไปล้างและทำสะอาดแผล และเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ที่โรงพยาบาลทุกวัน

->  We have to go to hospital to have your wound dressed everyday. 

ซึ่งคำว่า dress(vt.) ก็มีความหมายครอบคลุมถึงการ ล้าง ทำความสะอาด และเปลี่ยนผ้าพันแผล สมบูรณ์อยู่ในตัวเองครับ   หากจะไม่ใช้ dress ก็ใช้อีกแบบเป็นอย่างนี้ก็ได้ ...to clean and put dressing on your wound everyday  ก็ได้ครับ

"dressing(s)" = วัสดุปิดแผล

2ถ้าหนูไม่ยอมให้ล้างแผลแต่โดยดีร้องไห้และดิ้นไปมา บุรุษพยาบาลต้องล็อคตัวหนูไว้

-> If you keep moving and crying like this and don't let them clean your wound, the nurse really has to hold you down.

"hold sb./sth. down"  = ล็อค จับไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว

3ถ้าแผลแห้งแล้ว เราไปล้างแผลวันเว้นวันจ้ะ

->  When your wound is dry/better (หรือ has healed), we'll clean your wound only every other day.

4 แผลสดเรียกว่าwound และแผลแห้งเรียกว่าscabใช่หรือ เปล่าค่ะ

->  ถ้าแผลแห้ง ก็ dry หรือ healed wound ส่วน scab(s) จะเป็น สะเก็ดแผล ครับ   

ถ้าแผลหายแล้ว ได้ไหมคะ

your wound is healed (adj)

ต้องเป็น your wound has healed ครับ เพราะ "healed" คำนี้จะเป็นได้แค่ V.ช่่อง 2 หรือ 3 เท่านั้น ไม่ได้เป็น adj.  เลยใช้ is healed แบบเป็น adj. ไม่ได้   แต่ใช้ is healed หากเป็นการใช้อีกแบบในรูป passive voice ได้นะครับ  

ขอบคุณคะคุณ Ake

your wound is healed ( v.3)

หากจะหมายถึง แผลถูกรักษาให้หาย เป็น passive voice ก็ใช้ your wound is healed ได้  แต่ tense ก็ต้องเปลี่ยนไปตามบริบทครับ เช่น:

-  Your wound was healed weeks ago. = แผลของคุณถูกรักษาหายเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

-  Will my arm look the same when the wound is healed? =  แขนฉันจะดูมีสภาพเหมือนเดิมไม๊เมื่อตอนแผลถูกรักษาหายแล้ว?

-  Your wound is being healed. = แผลของคุณกำลังถูกรักษาให้หาย 

ชอบคุณคุณAkeค่ะ ขอถามเพิ่มเติมนะคะ

1 หนูอย่าเดินมากดูสิผ้าพันแผลหลุดออกมาต้องทำใหม่เลย

2 สงสัยประโยคค่ะ

 Have we gone past the food shop yet?

No.Not yet, we haven't past the food shop.

let it pass us then we can continue walking.

ทั้งสามประโยคถูกต้องใช่ไหมค่ะ การใช้ pass หรือ pastเปลี่ยนไปตามtenseใช่ไหมค่ะ

3หนูดื่มนมไปครึ่งขวด I have some half a bottle of milk.

4 สงสัยการใช้ being ค่ะมักจะเจอในประโยคpassive voice

-Do you like being on the farm?ประโยคนี้แปลว่าอะไรค่ะ

-I see you being nice. 

- when the monks went out to teach the people they would accidentally step on the rice being grown by the farmers and also on the small animals in the fields.

ทำไมทั้งสามประโยคนี้ใช้beingแบบนี้ได้ค่ะทำไม่ไม่มี verb to be  ก่อนbeingค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ลองดูตามนี้นะครับคุณอรทัย:

1 หนูอย่าเดินมากดูสิผ้าพันแผลหลุดออกมาต้องทำใหม่เลย

-> You shouldn't have walked around too much  (= ที่ผ่านมาไม่ควรเดินมาก แต่ก็เกิดขึ้นไปแล้ว)  หรือ Don't walk around too much (= ต่อไปนี้อย่าเดินมาก).  Look, the bandage/dressing had come off.   You need a new one on again.

--------------------------------------------------

2 สงสัยประโยคค่ะ

 Have we gone past the food shop yet?

No.Not yet, we haven't past the food shop.

let it pass us then we can continue walking.

ทั้งสามประโยคถูกต้องใช่ไหมค่ะ การใช้ pass หรือ pastเปลี่ยนไปตามtenseใช่ไหมค่ะ

->> ประโยคที่ 1 กับ 3 ใช้ past หรือ pass ถูกแล้วครับ  ส่วนประโยคที่ 2 ต้องเป็น “passed” 

" past"  คำนี้เป็น “preposition”  แปลว่า “(เดิน/วิ่ง/ขับ)เลย หรือ ผ่าน”  ใชัหลัง verb  เช่น  You just drove past it = เธอพึ่งขับเลยมันมาแล้ว 

 

ส่วน “pass” นี้ก็ใช้ในความหมายว่า “เลย หรือ ผ่าน”  ได้เหมือนกัน  แต่เป็น verb มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง  เลยไม่ต้องมี go/walk/drive/etc.  มานำหน้าเหมือน past ครับ  ดังนั้นข้อ2 เลยต้องเป็น haven’t passed the food shop  ครับ

------------------------------------------------- 

3หนูดื่มนมไปครึ่งขวด I have some half a bottle of milk.

->> ก็เปลี่ยนนิดหน่อยเป็น  I drank half the bottle of milk.  / I drank half of the milk in the bottle. 

และหากจะบอกต่อว่า หมดไปครึ่งขวด = It’s half gone.

-----------------------------------------------

4 สงสัยการใช้ being ค่ะมักจะเจอในประโยคpassive voice;  ทำไมทั้งสามประโยคนี้ใช้beingแบบนี้ได้ค่ะทำไม่ไม่มี verb to be  ก่อนbeingค่ะ

  •             ลองดูที่ตอบข้างล่างนะครับ  เพราะทั้ง 3 ประโยคใช้ being ในแบบต่างกัน:

***************

-Do you like being on the farm?ประโยคนี้แปลว่าอะไรค่ะ

->> แปลว่า เธอชอบอยู่ที่ฟาร์มไม๊?  ซึ่ง “being”  ในประโยคนี้เป็น “gerund”  (v.ing ที่ทำหน้าที่เป็น noun)  เพราะ like ถูกตามได้ทั้งแบบ “gerund” และ “infinitive with to”  ครับ (ความหมายจะต่างกันนิดหน่อย)   เหมือนกับประโยคเดียวกัน แต่ลองเปลี่ยน verb เป็น  eat  ดู อาจจะทำให้เข้าใจมากขึ้น คือ 

   Do you like to eat mangoes?  = เธอชอบ (แบบอยากจะ) กินมะม่วงไม๊?  ทำนองว่า “want to”

   Do you like eating mangoes?  = เธอชอบ (แบบเป็นความชอบ) กินมะม่วงไม๊?  ทำนองว่า “enjoy”

ดังนั้น being ในที่นี้ เลยไม่ได้เป็นการใช้แบบ passive voice  

******************

   

-I see you being nice.

->> "being" ในประโยคนี้เป็น “present participle”  (แบบเดียวกับ v.ing ใน continuous tense)  โดย “see” เวลาใช้ในความหมาย  เห็นคน/สิ่งของ ทำอะไรบางอย่าง  ก็จะใช้ในรูปแบบsee sb/sth  do หรือ doing something”   โดยความหมายก็ต่างกันนิดหน่อย  เช่น 

    I saw him drink coffee.  = ฉันเห็นเขาดื่มกาแฟ (เห็นว่าเขาดื่มแบบตั้งแต่ต้นจนจบ)

    I saw him drinking coffee.   = ฉันเห็นเขากำลังดื่มกาแฟ (เห็นเขากำลังดื่ม)

ดังนั้น I see you being nice  = ฉันเห็นว่าตอนนี้เธอกำลังทำตัวน่ารักอยู่  คือกำลังทำตัวน่ารักอยู่เลยตอนนี้    ในการใช้แบบนี้คือ see sb being + adj.  จะไม่ใช้  “be”  ครับ

***************

       

- when the monks went out to teach the people they would accidentally step on the rice being grown by the farmers and also on the small animals in the fields.

->> ประโยคนี้ "...the rice being grown.."  เป็นการใช้แบบ “passive voice”  มาจากรูปประโยคเต็มว่า  ... step on the rice that is being grown by the farmers....   และ  ที่เป็น “being” ไม่เป็น “be" เพราะเป็นการเน้นการกระทำว่า ข้าวที่กำลังถูกปลูกอยู่  เป็นการใช้ "present continuous tense" แบบ passive voice ในประโยค

ส่วนคำ "being" ในประโยคนี้ก็เป็นแบบ "present participle"  ครับ 

ตบมือให้10ครั้งเลยค่ะ ชัดเจนมากเลยค่ะขอบคุณคุณAkeค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service