เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ว่าด้วยโฟนิคส์ vs sight-reading (อีกครั้ง)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้พบคุณครูคนไทยซึ่งเป็น UK Certified Jolly Phonics Teacher ซึ่งเดินทางกลับมาเมืองไทยช่วงปิดเทอม...เลยถือโอกาสขอให้ครูช่วยประเมินผลความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของลูกชาย (๕ ขวบเต็ม) ซึ่งแม่ ได้พยายามสอนอ่านด้วย Jolly โฟนิคส์ด้วยตัวเองในช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา (แม่ศึกษา Phonics จากครูท่านนี้ และอาศัยพื้นฐานที่เคยเรียน Phonetic สมัยอยู่อักษร จุฬาฯ)

คอมเมนท์ของคุณครูโฟนิคส์ มีหลายข้อที่น่าสนใจไม่น้อย ดิฉันจึงอยากนำมาแชร์กับท่านที่สนใจการสอสนลูกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษโดยวิธีนี้...เทียบกับการอ่านแบบ sight reading ที่บางท่านใช้อยู่....ขอออกตัวก่อนนะคะว่า ไม่ได้จบมาทางครู หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญการสอนเด็กอนุบาล ดังนั้นคอมเมนท์ที่ให้ มาจากปสก.ล้วนๆ อาศัยการพูดคุยกับครูและพ่อแม่ท่านอื่นๆบ้าง

Views: 522

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by BeeV on August 26, 2009 at 1:10pm
สวัสดีค่ะ คุณสมปรียา

ขอโทษที่มาตอบช้าค่ะ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการและความเร็ว-ช้าในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน...เป็นเรื่องเฉพาะตัวค่ะ มาตรฐานที่ผู้รู้ว่าไว้ น่าจะเป็นจากการเก็บสถิติโดยรวมๆ มากกว่า

มีเด็กบางคนสามารถอ่านหนังสือได้ตั้งแต่ ๒ ขวบ-๒ ขวบครึ่งก็มี...น่าจะอ่านจากความจำเป็นหลัก...ส่วนเรื่องการฝึกออกเสียงและจำ"เสียง" แบบโฟนิคส์ หลายคนบอกว่า ช่วงที่เหมาะจะเริ่มคือ ๔-๕ ขวบ...แต่ก็อุตส่าห์มีเด็กชาวมาเลเซีย เริ่มเรียนตั้งแต่ ๒ ขวบครึ่งค่ะ

ถ้าเราจะสอนลูกเองโดยไม่หวังไปรอพึ่งรร. คิดว่า ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี...ทั้งนี้ ต้องดูที่ตัวเด็กด้วยว่า เขาพร้อมที่จะรับหรือไม่ค่ะ เพราะถ้ายัง แล้วเราไปพยายามดัน...จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

ฝากไว้นะคะ
Comment by eagle on August 21, 2009 at 9:43pm
ขอบคุณสำหรับประโยชน์ดีๆ นี้นะคะ ดีมากๆค่ะ ได้นำไปใช้ได้ด้วยจริงๆ ชอบมากๆๆๆ
Comment by หม่ามี้พี่กาตาร์&น้องลาเต้ on August 20, 2009 at 1:31pm
ติดตามอ่านตลอดค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ สนใจเรื่องการสอนแบบบโฟนิคส์มากคะ แต่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย รบกวนคุณบีแนะนำด้วยคะ
Comment by BeeV on August 19, 2009 at 1:26pm
สวัสดีค่ะ คุณเล็ก (แม่น้องภูมิ)

ดิฉันเองก็เดินตามหลังคุณพ่อคุณแม่อีกหลายๆบ้าน ...ซึ่งได้กรุณาแบ่งปันไอเดียในการพัฒนาลูกให้นำไปปรับใช้...เห็นด้วยกับที่คุณเล็กบอกว่า เราต้องเตรียมทำการบ้าน-ศึกษาข้อมูลต่างๆไว้ เพื่อจะได้เรียนไปพร้อมกับลูก...ยิ่งเริ่มได้เร็วยิ่งดี เพราะพอลูกยิ่งโตขึ้น เขาจะยิ่งเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เริ่มมีข้อต่อรอง อยากทำอย่างนั้น ไม่อยากทำอย่างนี้..ไม่ได้เป็นเบบี๋ที่พ่อแม่บอกอะไร ก็ทำตามและเลียนแบบไปเสียแทบทุกอย่าง...อีกต่อไป (รอจนราวๆสามขวบ +/- นั่นแหละค่ะ)

ที่ควรระลึกอยู่เสมอคือ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้จะอายุใกล้เคียงกันก็ตาม ลูกบ้านนั้นเขาถนัดอย่างหนึ่ง ลูกเราอาจเด่นไปอีกด้าน...จะมีความพิเศษอยู่ในตัวซึ่งไม่เหมือนกันค่ะ...ดังนั้น จะเสริมกิจกรรม-ทักษะอะไรก็ตาม ต้องดูจริตของลูกด้วยว่า เขาสนใจหรือพร้อมที่จะรับตรงนั้นหรือเปล่า...เชื่อว่า น้องภูมิจะโตขึ้นไปเป็นเด็กที่ดี เก่ง และมีความสุขอีกคนหนึ่งนะคะ
Comment by Bhoom (and papa) on August 19, 2009 at 12:30pm
มีประโยชน์มากเลยค่ะคุณบี ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เอามาแบ่งปัน ได้อ่านสิ่งที่คุณบีเล่าให้ฟังมีหลายประเด็นเลยค่ะที่ต้องเอามาคิดต่อ แล้วก็คงต้องเตรียมทำการบ้านไว้ก่อน(ตอนนี้ลูกยังไม่ได้เริ่มอ่าน) คุณก๊อกบอกบ่อยๆ ว่าเมื่อเราเริ่มสร้างครอบครัวสองภาษาแล้ว มันไม่ได้จบแค่ที่เราทำวันนี้ ยังมีหลายเรื่องเลยที่เราต้องคิดต่อ ไม่งั้นสิ่งที่เราเริ่มต้นไว้ก็อาจจะไม่เจริญงอกงามเต็มที่

ดีใจจังที่ได้เดินตามหลังครอบครัวคุณบี - ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
//เล็ก-แม่น้องภูมิ
Comment by BeeV on August 18, 2009 at 10:56pm
สวัสดีค่ะ คุณอลิสา คุณอุบลสรวง และคุณแม่เจนิตา

ไหนๆก็พล่ามมาซะเยอะแล้ว ขอแชร์คอมเมนท์ข้อสุดท้ายของคุณครูเลยนะคะ

4. การที่เด็กอ่านได้ดีและคล่อง ยังไม่สำคัญเท่าการฝึกให้เด็กรักการอ่าน เพราะถ้าเขารักการอ่านจะทำให้เขามีแรงผลักดันที่จะอ่าน(และเขียน)ได้เองในเวลาที่เหมาะสม และในเรื่องที่สนใจ

ฟังครูแล้วคล้อยตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้งค่ะ...และหันมามองตัวเองว่า ที่ผ่านมา บางทีก็ push ลูกมากไปเรื่องการอ่าน "เพื่อฝึกฝน"...ซึ่งลูกมักจะเบื่อ เพราะไม่ใช่เรื่องราวหรือหนังสือที่เขาสนใจ (ก็เป็นแบบเรียนหรือบฝห.อะนะ)...กับการอ่าน"เพื่อความสนุกสนาน เพลิดเพลินแต่ได้ความรู้"...ซึ่งเขาจะเลือกหนังสือเอง และอ่านแล้วอ่านเล่าอยู่อย่างนั้น

ลูกชายเป็นเด็กที่จะสอนตามแพทเทิร์นที่แม่และคนอื่นๆอาจมองว่าดี...ได้ยาก เนื่องจากเขาจะเลือกอ่านเฉพาะสิ่งที่ตัวเองสนใจ เช่นเรื่องซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ การต่อสู้ผจญภัย ตื่นเต้น และอาจปนตลกนิดๆ...ซึ่งหนังสือแนว educational ที่หลายท่านเคยกล่าวถึงไปแล้วบนเว็บนี้ ค่อนข้างจะ...ไม่เวอร์ค...เพราะเนื้อเรื่องไม่เร้าใจ (เฮ่อ)

หนังสือแนวที่เขาชอบ ส่วนใหญ่แม่หรือพ่อต้องอ่านให้ฟัง...เพราะคำศัพท์ยาก ถึงอ่านได้เอง ก็อาจไม่เข้าใจ เราก็เลยต้องใช้วิธีอ่านไป ถามลูกไป เพื่อเช็คความเข้าใจ แล้วมาสรุปเนื้อความกันอีกครั้ง

ตรงนี้เป็นเหตุผลที่ต้องนำ sight reading เข้ามาช่วย เพื่อช่วยให้เขาสามารถอ่านคำศัพท์ยากๆได้เอง เร็วขึ้น (เช่นคำศัพท์จากหนังสือเรื่อง Gladiator ที่เล่าไปแล้วค่ะ)...เขาจะค่อนข้าง get ความหมายของ vocab ใหม่ๆในภาษาอังกฤษได้รวดเร็ว หลายครั้งที่เจอคำยากใหม่ๆ ก็สามารถเข้าใจได้ โดยที่แม่ไม่ต้องอธิบาย (นับว่า ยังมีส่วนที่สอนได้ง่ายอยู่บ้าง)

ไว้ถ้ามีโอกาส จะลอง scan อุปกรณ์การสอนต่างๆ ในส่วนของโฟนิคส์...ทั้งที่ได้มาจากครู และทำขึ้นเอง (ตามจริตการเรียนรู้ของลูก)มาแชร์กันนะคะ
Comment by mom_jenita on August 18, 2009 at 12:00pm
ขอบคุณ ค่ะ คุณบี เดี๋ยวลองไปเริ่มเลย ตอนนี้น้องรู้จักเสียงเกือบหมดทุกตัวแล้ว แต่ letter ยังจำไม่ค่อยได้(ภายังไม่เน้นสอนด้วยค่ะ) ส่วนใหญ่เจอตัวอักษร เค้าจะออกเสียงก่อนเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ สำหรับหนังสือที่แนะนำค่ะ เดี่ยวจะแวะมาอ่าน tips ด้วยคนนะคะ
Comment by Alisa Rojsuwanishakorn on August 17, 2009 at 9:35pm
ติดตามด้วยคนค่ะ ขอบคุณมาก มากค่ะ ตอนนี้ตูนก็เริ่มสอน baby sign คู่กับหนังสือให้น้อง Iris ค่ะ คิดว่าให้น้องเค้าได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับรูปภาพ แล้วพอน้องเค้าเริ่มพูดได้ก็คงจะเริ่ม phonic ค่ะ น่าจะโอไหมค่ะ
Comment by ubonsruang on August 17, 2009 at 2:11pm
ขอบคุณคุณbeev น่ะค่ะ
ที่มาช่วยหั้ยความรู้เกี่ยวกับphonic
เพราะโอ้สนใจอยู่มากเหมือนกันค่ะ
Comment by BeeV on August 17, 2009 at 12:54pm
ตัวอย่างหนังสือที่ลูกชายสามารถอ่านได้คล่อง ด้วยการ sight reading หรือการอ่านจากความจำ...เช่น เรื่อง Gladiator ของ ค่าย Ladybird โดยอาศัยอ่านบ่อยเพราะชอบเนื้อเรื่อง และชี้ตามแต่ละคำได้ถูกต้องทั้งประโยค ...เนื้อความประมาณนี้ค่ะ

Gladiators lived in Rome about two thousand years ago. Some gladiators used to be slaves and fought to become free men. Some gladiators used a net and a trident as weapons. These gladiators are called Restiarius.

ประโยชน์ของโฟนิคส์ ที่เห็นได้ชัดจากการอ่านของลูกคือเรื่อง accentuation (การออกเสียงหนัก-เบา) และการเดาคำศัพท์(ได้ถูก)ของคำที่ยังไม่เคยเจอ...เมื่อเขาทำตรงนี้ได้...เขาจะภูมิใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นค่ะ ทำให้อยากอ่านเล่มอื่นๆอีก

ไว้มาต่อ เรื่อง tips จากคุณครูโฟนิคส์อีกนะคะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service