เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ฤาการสอนสองภาษาของเราต้องยุติเพียงเท่านี้

            ผมกับแฟนเป็นคนจังหวัดตาก แต่ผมมาทำงานอยู่ที่สุพรรณบุรีตั้งแต่ปลายปี 49 ผมให้แฟนออกจากงานเมื่อรู้ตัวว่าท้อง เมื่อกลางปี 51 เนื่องจากแฟนเป็นโรคธาลัสซีเมีย และเป็นคนรูปร่างเล็ก ประกอบกับงานที่ทำเลิกไม่เป็นเวลา ยิ่งตอนสิ้นเดือนต้องเคลียร์บัญชีอยู่จนดึกดื่นกว่าจะได้นอน เลยตัดสินใจให้แฟนออกจากงาน  

            จนคลอดน้องเพชรเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 52 โดยคลอดที่โรงพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี  อยู่สุพรรณจนอายุครบ 1 เดือน พ่อตาแม่ยายพาแฟนผมกับลูกไปอยู่ดูแลกันที่ตาก ช่วงนั้นผมจึงเทียวไปกลับตาก-สุพรรณ เป็นว่าเล่น จนน้องเพชรอายุครบ 3 เดือน แฟนผมจึงพาน้องเพชรกลับมาเลี้ยงที่สุพรรณ  อยู่กันสามคนพ่อแม่ลูกดูอบอุ่นจนเพื่อน ๆ ต่างพากันอิจฉา

            จนมีอยู่วันหนึ่งผมเดินเล่นอยู่ที่ร้านหนังสือ ก็พบหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" เล่ม 1 กลางเดือนเมษายน 52 ซึ่งตอนนั้นน้องเพชรอายุ 3 เดือนกว่าแล้ว ผมจึงตั้งใจมุ่งมั่นสอนลูกมาตลอด จนซื้อเล่ม 2 และล่าสุดก็ซื้อเล่ม Phonics มาแล้ว

ปัจจุบันน้องเพชร อายุ 2 ขวบกว่าแล้ว ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง สามารถพูด "pick me up please." และประโยคอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจน เราสองคนพ่อลูกพูดภาษาอังกฤษกัน 80% ในขณะที่ครอบครัวเรากำลังสนุกกับการสอนสองภาษาอยู่นั้น เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

            เมื่อน้องเพชรโตขึ้น รายจ่ายในบ้านก็ขยับขึ้นที่ละน้อย ๆ โดยที่เราไม่ทันสังเกต จนกระทั่ง รายรับกันรายจ่าย เริ่มไม่ลงตัวกัน จากตัวเลขที่เคยเป็นบวก เริ่มมีตัวเลขติดลบให้เห็น เนื่องจากผู้มีรายได้ใจครอบครัวคือผมคนเดียว

            จึงเกิดความคิดที่จะพาน้องเพชรไปอยู่ปฐมวัย เดือนละ 2,000 บาท ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ รายรับของผมไม่เพียงพอต่อการจ่ายเงินเพิ่มเดือนละ 2,000 บาท อีกทางเลือกหนึ่ง คือ ให้แฟนไปหางานทำ ในต่างจังหวัดแบบนี้น่าจะได้ประมาณเดือนละ 5,000 บาท แต่ข้อเสียคือ การนำน้องเพชรไปอยู่ปฐมวัยแบบนั้น ก็คือการแบ่งเบาภาระเราในตอนกลางวันเท่านั้นเอง ตอนเย็นก็ต้องไปรับ กลางคืนเราก็ต้องเลี้ยงเองอยู่ดี หลังจากที่เหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน ไม่ต่างอะไรกับการทำงานหาเงินไปจ่ายให้เนอสเซอรี่ เดือนละ 2,000 เลย

            อีกทางเลือกหนึ่ง คือการให้ตากับยายน้องเพชรมาอยู่ช่วยเลี้ยงที่สุพรรณ นั่นก็ทำไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันตากับยายน้องเพชรเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ตาก ประกอบกับคนรุ่นตายายแล้วก็อยากอยู่บ้านตัวเองมากกว่า และบ้านพักสวัสดิการที่ผมอยู่ก็คับแคบเกินไป

            จากการปรึกษากับญาติ ๆ ทั้งหลายแล้ว ผลสรุปก็คือว่า ให้น้องเพชรไปอยู่กับตายายที่ตาก เนื่องจากลักษณะครอบครัวของแฟนผมอยู่กับแบบเครือญาติ ในซอยเดียวกัน มีบ้าน 6 หลัง ล้วนเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา กันทั้งหมด ทำให้สามารถช่วยกันดูแลได้เป็นอย่างดี และให้น้องเพชรไปเรียนที่ศูนย์เด็กเล็กของเทศบาล ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้าเท่านั้น

             แฟนผมเบื่อกับการเป็นมนุษย์เงินเดือน  ผมจึงให้เงินลงทุนแฟนเพื่อทำกิจการส่วนตัว เป็นร้านขายขนมหวานเล็ก ๆ ตามที่เธอถนัด แผนของครอบครัวเราต่อไปคือ ให้น้องเพชรอยู่กับตายายที่ตากจนถึง ป.1 แล้วผมจะพาน้องเพชรกลับมาเรียนที่สุพรรณ

            ตั้งใจเหลือเกิน ตั้งใจตั้งแต่แรกที่รู้ว่าแฟนท้อง ตั้งใจว่าจะเลี้ยงเอง แต่เราก็ทำได้เพียงเท่านี้ ไม่นึกเลยว่า เงินเดือนที่ขึ้นปีละไม่กี่เปอร์เซนต์ จะหมุนตามไม่ทันข้าวของที่แพงขึ้นทุกวัน ๆ ตั้งใจไว้ว่าจะพยายามไปหาลูกให้ได้เดือนละครั้ง ถึงแม้ว่าจะได้เจอหน้าลูกเพียงแค่ครั้งละ 2-3 วันก็ตาม

             แน่นอน ความถี่ในการสอนสองภาษาหายวับไปกับตา จะทำยังไงดีนะ ฤาการสอนสองภาษาจะยุติเพียงเท่านี้

            

             

Views: 481

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by ทิพวรรณ อุ่นปฏิชัย on May 9, 2011 at 11:14pm

สู้สู้คะ

 

Comment by พ่อน้องเพชร พัฒนสัณห์ on May 9, 2011 at 8:55pm

ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ  นี่ก็ให้น้องเพชรอยู่กับยายมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. แล้ว ผ่านไปไม่กี่วัน แฟนผมก็บ่นคิดถึงแล้ว ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือว่าโชคดี เจ้าของที่ที่ให้ตากับยายขายก๋วยเตี๋ยวต้องการจะทำอาคารพานิชตรงนั้น ทำให้ตากับยายต้องย้ายออก แฟนผมก็เลยชวนตากับยายพาน้องเพชรมาเลี้ยงที่สุพรรณ รถคันเก่าที่มีอยู่ก็ซ่อมแล้วซ่อมอีก nissan sunny B11 ปี 1983 น่ะครับ เก่าสุด ๆ นี่ก็ว่าจะขายทิ้งซะไม่กี่หมื่น จะเอาเงินไปดาวน์รถมือสอง ก็ดอกแพงเหลือหลาย จะดาวน์มือหนึ่ง ก็รอรถอีกหลายเดือนกว่าจะได้ จะไม่ซื้อรถ ก็จะไม่มีรถใช้ จะเอารถ ก็ต้องมีภาระส่งรถเพิ่ม มนุษย์เรานี่ก็แปลกเนอะครับ เรียนจบ หางานทำ อยากมีรถก็ต้องเป็นหนี้ อยากมีบ้านก็ต้องเป็นหนี้ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย หรือในความโชคร้ายก็อาจจะมีความโชคดีก็ได้เนอะ ปลงซะแล้วล่ะครับ 555

Comment by แม่กุ้งกะข้าวกล้อง on May 9, 2011 at 6:02pm

      เข้าใจความรู้สึกของพ่อน้องเพชรเลยค่ะ เพราะตอนนี้ก็ทั้งทำงานด้วยแล้วก็เลี้ยงลูกคนเดียวเหมือนกัน

ส่วนแฟนทำงานคนละที่ เจอกัน 1-2 อาทิตย์ ครั้ง

       วันทำงาน จันทร์-ศุกร์ ก็จะขับรถตั้งแต่ก่อนแปดโมงไปส่งข้าวกล้อง(ตอนนี้ขวบแปดเดือน) ให้พี่เลี้ยง(จ้างแม่บ้านของพี่ที่รู้จักกันช่วยเลี้ยงให้) เลิกงาน สองทุ่ม ก็ขับรถไปรับกลับมาเลี้ยงเอง

เสาร์-อาทิตย์ หยุดงาน ก็ได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน

       ถามว่าเหนื่อยมั้ยที่ต้อง ดูแลลูก หลังจากที่ทำงานมาเหนื่อยๆ แล้ว   จริงๆ มันก็เหนื่อยนะ ต้องตื่นแต่เช้าไปส่ง ไปรับกลับมาก็ดึกแล้ว กว่าจะได้นอน แต่มันเป็นความเหนื่อยที่แฝงไปด้วยความสุขนะ เพราะเราจะได้เห็นพัฒนาการของเค้า ได้ยิ้ม หัวเราะไปกับเค้า  คิดตั้งแต่ท้องแล้วเหมือนกันว่าจะเลี้ยงเอง และตอนนี้ก็จะสอนเค้าให้เป็นเด็กสองภาษาให้ได้เหมือนกัน    แฟนเคยถามเหมือนกันว่าถ้าข้าวกล้องโตขึ้นแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ก็ตอบไปว่า แม่อยู่ที่ไหน ข้าวกล้องก็อยู่ที่นั่นแหละ

       ลองคิดทบทวนดูดี ๆนะคะ อาจจะเหนื่อยบ้าง แต่มันก็ไม่เกินความสามารถของพ่อและแม่หรอกค่ะ

เชื่อเถอะค่ะว่าลูกมีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อและแม่มากกว่าค่ะ สู้สู้ค่ะ ทุกปัญหามีทางออกค่ะ หาคำตอบที่เหมาะสมกับตัวเรา และครอบครัวของเรานะคะ

Comment by แม่น้องกุน & น้องญาญ่า รักในหลวง on May 9, 2011 at 4:17pm

พี่ไม่รุ้จะบอก คุณโก ยังไงดีนะ พี่เข้าใจภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเลี้ยงลูกกับการสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา พี่ก็ไม่ต่างจากเราเลย เพียงแต่แฟนพี่ยังมีงานทำบ้าง แต่รายไดหลักอยู่ที่พี่หมด แฟนมีขึ้นๆลงๆ ไม่แน่นอน แต่พี่ต้องยอมรับและเลือกเลี้ยงลูกเองและส่งเนอร์ซเซอร์รี ด้วย พี่ไม่สามารถฝากญาติพี่น้องเลี้ยงให้ได้ พ่อแม่แฟนอายุเยอะมากแล้ว ส่วนพ่อพี่ตามองไม่เห็น แม่ก็ไปสวรรค์ พี่เลือกเลี้ยงเองและแบ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ถูกต้อง เพราะว่ากำลังมีน้องอีกคนกำลังเกิดขึ้น แน่นอนค่าใช้จ่ายย่อมเกิดขึ้นตามมา แต่ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ ไม่อยากให้เสียเวลาดีๆมีค่าไป ความผูกพันเพียงระยะสั้นแต่มีความความหมายในระยะยาว มากกว่าอยุ่กับคนอื่น(ไม่ใช่ว่าไม่ดีคะ)

เป็นกำลังใจให้นะคะ สุ้ๆคะ

Comment by jutarat on May 9, 2011 at 3:33pm
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  สู้ๆค่ะ
Comment by jinnylovetigtig on May 9, 2011 at 1:57pm
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ
Comment by Samita Srimachaporm on May 9, 2011 at 12:52pm
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไข ปัญหาทุกอย่างมีทางออกค่ะ ดิฉันเองก็ทำงานด้านบัญชีค่ะเหนื่อยค่ะแต่จะเป็นช่วงสิ้นเดือนแต่พอกลับบ้านมาเจอหน้าลูกเห็นรอยยิ้มของเขาก็ทำให้เราหายเหนื่อยแล้วค่ะบางทีคุณแม่อาจจะหางรับงานบัญชีเล็กๆ น้อยๆ มาทำที่บ้านและเลี้ยงลูกไปด้วยก็ดีนะคะ เป็นกำลังใจให้สู้ๆๆๆ
Comment by มี้บังอารีฟครับ on May 9, 2011 at 9:20am

อย่าส่งลูกไปเลยคะ อยู่กับเราเองดีกว่า ให้ลูกเข้า เนอสเซอรี่ แล้วให้แม่ทำงาน อย่างน้อยตอนกลางคืนเราก็ยังได้อยู่กับลูก การสอนลูก สองภาษาจะได้ไม่ขาดตอน ลูกน่าจะอยากอยู่กับเรามากกว่า และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปหาลูกก็ตกเดือนละ หลายบาทอีก คิดถึงมากก็ไปหาบ่อยยิ่งสิ้นเปลืองมาก ขอให้ผ่านปัญหาต่างๆให้ได้นะคะ

Comment by Suthawadee C. on May 9, 2011 at 8:44am

ถ้าตัดสินใจดีแล้ว ว่าจะให้ลูกไปอยู่กับตา ยาย ที่ตาก ก็ยังคงส่งเสริม Eng ได้ แต่ต้องขอความร่วมมือจากตายายว่าให้ทำตามเราบอก เช่น ต้องเปิดการ์ตูน MP3 ภาษา Eng ให้ลูกฟัง พอลูกโตก็ต้องให้ลูกดูการ์ตูน Eng ที่เราเลือกให้ ถึงแม้เราจะไม่ได้พูดกับลูก ซึ่งช่วยเรื่องการสื่อสาร 2 ทาง แต่อย่างน้อยเราได้ให้ความถี่ของการฟัง เรียนรู้เรื่องสำเนียง และสะสมคำศัพท์ แต่ก็ไม่แน่ใจนะคะว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะสิ่งแวดล้อมอาจจะกลืนน้องไป ถ้าเด็กคนอื่นในบ้านติดการ์ตูนภาษาไทย เราก็ไม่อาจเปลี่ยนคนอื่นได้หรอก เพราะเราไม่ไ้ด้อยู่ด้วยตลอดเวลา

แล้วพอคุณกลับมาเยี่ยมลูกก็เริ่มพูดกับลูกอีก ก็น่าจะพอช่วยได้บ้างนะคะ

เอาใจช่วยนะคะ

Comment by nuntaka chantorn on May 9, 2011 at 8:30am
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service