หวัดดีครับ
ครั้งก่อนเราได้คุยกันคร่าวๆเรื่องที่มาที่ไปของ"สอนลูกเองก็ได้...ง่ายจัง " ไปบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาคุยกันต่อ แต่ครั้งนี้ผมขอคุยเดี่ยวกับคุณพ่อน้องพลอยน่าจะดูราบรื่นกว่า เพราะ ครั้งก่อนเขาและเธอก็กัดกันจนผมต้องรีบพักยกมาทีนึงแล้ว ไว้คราวหน้าค่อยสลับไปคุยกับคุณแม่จอมบ้างละกันนะครับ
ฉิก : โอ้ว ! หลบมา count downกันถึงที่เมืองปายเลยหรือครับเนี่ย
ป้อม : ครับ อย่างที่บอกไปเมื่อครั้งก่อนน่ะครับ ผมชอบธรรมชาติ สายลมหนาว เคล้าไอหมอกบางๆ และ เสียงดนตรีขับกล่อม...
ฉิก : เอ่อ! เห็นคราวที่แล้วบอกชอบสายลม แสงแดดไม่ใช่เหรอ
แล้วคุณนายไม่ได้มาด้วยกันหรอกหรือครับ
ป้อม : พอดีคุณเธอบอกว่า "ใจร้าว"มาถึงตอนอวสานแล้ว เลยต้องเฝ้าหน้าจอ เพื่อดูใจยอดชายนาย"กรวิก"ไม่ไปยอมไหนน่ะครับ ผมล่ะเบื๊อเบื่อ ไม่เคยคิดจะดูเลยไอ้เรื่องนี้น่ะ มีอย่างที่ไหน ให้"น้องเอย"เป็นโรคยอดฮิตของนางเอกเกาหลีทุกเรื่อง "ลิวคีเมีย"ซะได้ แถมยังต้องมาคลอดลูกก่อนกำหนดจนตัวเองร่อแร่กลายเป็น"ผัก"อีกต่างหาก ผู้กำกับมันจะซาดิสม์แกล้งกันไปถึงไหนฟะเนี่ย ยังดีนะที่มันไม่ได้จบแบบ"ใจร้าว"จริงๆ ไม่งั้นละก้อ...มีเคืองแน่ๆ
ฉิก : -_- "
(นี่ขนาดไม่เคยดูนะนั่น) ครับ วันนี้เราจะมาคุยกันต่อ เรื่องที่มาที่ไปของการสอนลูกน่ะครับ พอจะบอกได้ไหมครับว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า
ป้อม : คืองี้ครับ ผมลองๆสังเกตดูน่ะครับว่า เด็กที่เรียนเก่งๆส่วนใหญ่มักจะมีพ่อแม่อยู่เคียงข้าง"ร่วมด้วยช่วยกัน"เสมอๆตั้งแต่อายุน้อยๆ
เช่น เด็กพวกนี้มักจะมีคนในบ้านที่คอยเอาใจใส่เรื่องเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก มีสื่อการเรียนรู้หรือหนังสือที่น่าสนใจเต็มไปหมด ครอบครัวสนับสนุนให้ลูกเรียนรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่รร.สอน พ่อแม่มักจะใช้เวลาเรียนรู้ร่วมไปกับลูก และ พยายามสร้างสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เอื้อให้ลูกได้คิด ได้ศึกษาสิ่งต่างๆอยู่เสมอๆ
ฉิก : อู้หู ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ ผมนึกว่าเด็กเรียนเก่งนี่มันต้องมี"ยีน"พิเศษ แบบเก่งมาตั้งแต่เกิดซะอีก
เอ...ผมมีข้อสงสัยอันนึง ว่าทำไมคนเราถึงต้องอยากให้ลูกเราเรียนเก่งกันด้วยล่ะครับ ทั้งๆที่มันก็เหนื่อย เครียด และ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
อีกอย่าง คนที่เรียนเก่งก็ไม่ได้หมายว่าจะประสบความสำเร็จกันเสมอไปนะครับ เห็นเขาบอกกันว่า EQ สำคัญกว่า IQ ไม่ใช่เหรอครับ ไอน์สไตน์ยังบอกเองเลยว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
ป้อม : ผมว่ามันก็สำคัญทั้งสองอย่างแหล่ะครับ เทียบง่ายๆกับ"บ้าน"น่ะครับ
"ความรู้"เปรียบเหมือนโครงสร้าง เสา คานที่คอยค้ำจุนบ้าน
ส่วน"จินตนาการ"เปรียบเหมือน ดีไซน์ การตกแต่งบ้านให้สวยงาม
ถ้าคุณความรู้ไม่ดี ก็เหมือนกับบ้านที่รากฐานไม่แข็งแรง จะทำอะไรก็ลำบาก
ถ้าคุณไม่มีจินตนาการ บ้านของคุณก็จะไม่น่ามอง ไม่น่าสนใจ
เด็กที่เรียนเก่ง ไม่ได้แปลว่าเขาต้องคร่ำเคร่งเรื่องเรียนอย่างเดียวนะครับ
ส่วนมากผมเห็นว่าพวกนี้มักเป็นพวกที่จัดการบริหารชีวิตตัวเองได้มีประสิทธิภาพมาก หลายๆคนก็มีความสามารถหลายด้าน คือเก่งไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะดนตรี กีฬา ศิลปะ อาจเป็นเพราะพวกนี้ไม่ต้องมาพะวงกับเรื่องเรียนมากนัก คือมั่นใจว่าเรียนได้ดีอยู่แล้ว ก็เลยมีเวลาไปลองทำอย่างอื่นๆที่เขาสนใจได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน เด็กที่เรียนธรรมดาๆ หรือ เรียนไม่เก่งก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่เครียดนะครับ ผมว่าเผลอๆพวกนี้จะทุกข์ใจมากกว่าเด็กเรียนเก่งซะอีก เพราะ การเรียนของเขาต้องมาลุ้นกันตลอดว่าแต่ละครั้งจะผ่านไหม จะสอบติดหรือเปล่า คะแนนไม่ดีก็อายเพื่อนๆแทบแทรกแผ่นดินหนี ตัวพ่อแม่เองก็เครียดไม่แพ้กันหรอกครับ
ส่วนเรื่องความสำเร็จนี่พูดยาก เพราะแต่ละคนก็มองไม่เหมือนกัน บางคนไปมองเรื่องของตัวเงิน บางคนวัดที่ตำแหน่ง ลาภยศ สรรเสริญ
ในขณะที่บางคนบอกว่าแค่ได้สุขใจในการทำงานที่ตัวเองรักก็พอแล้ว ซึ่งเด็กที่เรียนเก่งก็มีโอกาสเลือกตรงนี้ได้มากกว่า ถ้าไม่โดนพ่อแม่บังคับให้เรียนโน่นเรียนนี่ซะก่อนนะ แต่คนที่เรียนไม่เก่งอาจจะโดนจำกัดสิทธิตรงนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
ฉิก : โอ้ ! พูดจาดูดีมีหลักการมากครับ ไว้คราวหน้ามาต่อกันอีกนะครับ เพราะ ตอนนี้ผมอยากไปเที่ยวผับแล้ว แต่คงต้องดูทางหนีทีไล่ให้ดี โดยเฉพาะ ทางหนีไฟน่ะครับ เห็นในโทรทัศน์แล้วสยอง โชคดีปีใหม่กันทุกคนนะครับ
pomjom.bloggang.com
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้