เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ขอพื้นที่สำหรับคนที่หัวใจสลาย และกำลังท้อแท้หน่อยนะค่ะ

ได้ข่าวว่าห้องนี้เป็นห้องที่รวมสากกระเบือยันเรือรบสำหรับคนเป็นแม่ ก็เลยอยากขอพื้นที่สักนิดเพื่อระบายและผ่อนคลายความเครียดของแม่ที่หัวใจสลายหมาด ๆ หน่อยนะค่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่า เราแต่งงานอยู่กินกับสามีมาประมาณ 10 กว่าปีแล้ว (สามีเป็นคนเจ้าชู้) เคยจับได้เรื่อยว่าเขานอกใจแอบมีคนอื่น แต่เราก็ให้อภัยมาตลอด

เพราะเขาบอกว่าเลือกอยู่กับเรา แล้วเมื่อปีที่แล้ว เราก็ท้อง พอคลอดลูกได้ 3 เดือน ก็จับได้ว่าเขามีผู้หญิงอื่นอีก เท่านั้นยังไม่พอ เวรกรรมที่เกิดมันยังไม่สะใจ ยังให้เราได้รับรู้อีกว่าเขามีลูกด้วยกัน โอ้พระเจ้า แถมยังมีก่อนเราที่เป็นเมียแต่งด้วย ผู้หญิงคนนั้นคลอดตอนเราเพิ่งตั้งท้อง แต่เรามารุ้ตอนคลอดลูกได้ 3 เดือนพอดี (เป็นการจับได้มิใช่เป็นการยอมรับ) เท่านั้นละ น้ำตาแห่งความชอกช้ำ ไหลออกมาไม่บันยะบันยัง เหมือนสมองจะแตก ยิ่งมองหน้าลูกตัวเองแล้ว รู้สึกสงสารมาก ภาวะครอบครัวแตกแยกกำลังจะมาเยือนเราแล้วไอ้ตัวเล็กเอ้ย แต่แล้วความหลาบจำหรือความเข็ดก็ไม่ได้อยู่ในสามัญสำนึกของเราอีกจนได้ ตกลงใจให้อภัยเขาอีกละ เพราะสงสารลูก และเขาก็สัญญาว่าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ที่ทำไปเพราะมันพลาด (คงคิดว่าเราเป็นฟายมั้ง) แต่เขาบอกว่ายังไงเขาก็ยังมีสายใยผูกพันธ์กับเด็กคนนั้นอยู่ (ทำเป็นดูดีมีความรับผิดชอบ)ก็คงต้องโทรถามเรื่องลูกบ้าง เราก็ ok นะ ใจปล้ำ อยู่แล้วนี่ ทนมาได้ เป็น 10 ปี แค่นี้ทำไมทนไม่ได้ว่ะ  และแล้วเวลาก็ผ่านไปจนตอนนี้ลูกสาว  9เดือน 24 วัน อยู่ ๆ เราก็ได้รับโทรศัพท์ จากผู้หญิงคนนั้นให้มาเจอ เราก็มาตามนัด ตรงเวลาเป๊ะ และแล้ว พระเจ้าก็ไม่ช่วยกล้วยก็ไม่ได้ทอดหละงานนี้  เขายังคบกันอยู่ แต่ผู้หญิ่ง ไม่ต้องการคบด้วย ผู้ชายเป็นคนไม่ยอมปล่อยเขาไป อะไรกันนี้ ฉันโดนหรอกอีกแล้วรึ และได้รับรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ที่เราไม่รู้  จากผู้หญิงคนนั้น เราไม่รุ้เขาต้องการแกล้งเราหรือว่าอะไร แต่คิดว่าเขาไม่หรอกเรานะ เพราะเราให้เขาต่อโทรศัพท์คุยกันให้เราได้ยิน  และเราก็คุยเองด้วย นั้นแหละ ความลับก็ไม่มีในโลกอีกต่อไป จับได้คาหนังคาเขา เฮ่อเศร้า  แต่ทำไมครั้งนี้ น้ำตาไม่มีสักหยด มันแหกผากเลย สมองไม่สั่งการ คิดอะไรไม่ออก ขี้นรถกลับบ้าน ท่องแต่คำว่ามีสติ มีสติ อย่างเดียวเลย เพราะไม่ท่องกลัวนั่งรถเลยบ้าน จนตอนนี้อยากให้น้ำตาไหลมากเลย มันจะได้ผ่อนคลาย หลังจากร้องไห้แล้ว แต่มันก็ไม่ยอมออก เฮ่อ ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออกเลย ไม่รุ้จะเอายังงัยดี คงต้องปล่อยให้สมองมันว่างเปล่าไปก่อน  แต่แอบคิดนะว่าคำว่าให้อภัย คงจะไม่มีอีกแล้วละ เพราะขนาดน้ำตายังไม่ยอมไหลเลย

 

ระบายมาตั้งยืดยาว ก็คงทุเราความเครียดได้บ้างแล้วละ ต้องขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องไร้สาระของกระทู้นี้ด้วยค่ะ ถ้าเป็นการรบกวน   แต่สาเหตุที่เข้ามาระบายที่หมู่บ้านนี้เพราะผู้คนที่นี่ มีน้ำใจงามทุกคนเลย และมีกำลังใจแบ่งปันให้ไม่รู้จักจบจักสิ้นและจะพยายามตั้งใจสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษาให้ได้ค่ะ สักนิดหน่อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเพื่อลูกเลย เพราะอนาครนี้เราคงเป็น Single Mom

Views: 2967

Replies to This Discussion

ขอบคุณมากเลยค่ะที่เป็นกำลังใจให้ เคยโดนหักหลังมามากแล้วมั่งค่ะ
ก็เลยทำใจได้เร็วหน่อยกับครั้งนี้ เทียบระหว่างสุข กับ ทุกข์ ว่าเราได้อะไรมากกว่ากัน
เราก็เลยได้คำตอบให้ตัวเอง สุดมือสอยแล้วค่ะ คงต้องปล่อยเขาไปแล้วละ

หาความสุขให้ตัวเองดีกว่า แต่ก็ต้องขอเวลาสักพัก แล้วค่อยเดินออกมาค่ะ

ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก
ยังมีเพื่อนที่ดี ๆ คอยให้คำปรึกษาและเป็นกำลังใจให้
ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้เห็นหน้ากันมาก่อน ไม่เคยได้รู้จักกันมาก่อน
ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ สำหรับเล็กก็ยังไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแม้แต่ความตายที่สุดท้ายก็ต้องพรากเราออกจากกันอยู่ดี ถ้าอะไรที่ทำให้ครอบครัวมีความสุขก็จะรีบทำโดยไม่รีรอ ถึงแม้ว่าจะเสียความสุขและเสียเวลาส่วนตัวไปก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายความสุขของเราก็คือครอบครัว ได้เห็นและทำให้คนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย คนเราไม่สามารถหนีความตายได้ แต่ระหว่างที่มีลมหายใจอยู่เราทำเพื่อคนที่เรารัก และทำประโยชน์เพื่อคนอื่นได้บ้างต่างหากโดยที่ไม่ทำให้ตัวเอง ครอบครัว และคนอื่นๆเดือดร้อน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ สำหรับคนที่คิดไม่ดี ทำไม่ดี สุดท้ายสิ่งเหล่านั้นมันก็จะย้อนมาทำร้ายตัวเขาเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร เพราะผลที่เกิดจากการกระทำมันจะกลับมาตอบสนองเอง ถ้าคิดดี ทำดี เราก็จะได้กลับมาแต่สิ่งดีๆ

แต่ที่แน่ ๆ ถ้าเขารักครอบครัว มีจิตสำนึกรับผิดชอบในความเป็นพ่อ ซึ่งถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว (ถ้าเขาคิดได้) เขาก็คงไม่ทำให้ลูกเสียใจ เห็นความสุขของลูกและครอบครัวมากกว่าความสุขของตัวเอง รู้จักยับยั่งชั่งใจ ไม่ชักศึกเข้าบ้าน ในความคิดเห็นส่วนตัว ผู้ชายจะไม่ค่อยผูกพันธ์กับลูก เนื่องจากประการสำคัญ ไม่ได้ลำบากตั้งท้อง ไม่ได้เลี้ยงลูกเอง หรืออาจจะมีบ้างแต่ก็ไม่เท่ากับคุณแม่ มีเวลาในการทำหน้าที่พ่อน้อย แน่นอนความสัมพันธ์ในครอบครัวก็จะน้อยตามไปด้วย เวลาส่วนใหญ่อยู่กับที่ทำงาน มีสังคมที่ทำงาน มีสังคมเพื่อนฝูง เปิดโอกาสให้มีเวลาทำสิ่งต่างๆ ได้มากมาย ถ้าไม่รู้จักวางตัว ขาดจิตสำนึกรักครอบครัวเพราะอยู่กับสิ่งเล้าตลอดเวลา ไม่นานก็ถูกชักพาความชั่วใส่ตัวเอง เป็นที่มาของบ้านแตก ลูกขาดความอบอุ่น

มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ค่ะ ทุกวันนี้ต้องขอเวลาของเขาให้กับลูก เพราะเขาทำงานไกล ออกจากบ้านแต่เช้า กลับดึก ตอนเช้าก็รีบออก ตอนกลับถึงบ้านลูกก็หลับแล้ว ถ้าอยากให้ลูกได้เล่นกับพ่อ ก็ต้องให้ลูกรอ ลูกก็นอนดึกและต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนสงสารลูกเหมือนกันตาเป็นแพนด้าเลยค่ะ จะมีเวลาให้ลูกมากๆ ก็วันอาทิตย์เลยค่ะช่วงสายๆเพราะพ่อเขาตื่นสาย แต่ก็เข้าใจค่ะว่าทำงานก็เหนื่อยเป็นวันหยุดเขาก็อยากจะพักผ่อน ส่วนวันเสาร์เขาทำงานครึ่งวันค่ะ แต่กว่าจะกลับถึงบ้านก็เล่นเอาเย็น-ค่ำเหมือนกัน เขาบอกว่ามีประชุมต่อ อยู่เคลียร์งาน และบางครั้งก็ไปต่อกับเพื่อนกลับบ้านดึกค่ะ ก็พยายามไม่คิดฟุ้งซ่าน ทุกวันนี้ก็เราก็มีหน้าที่ประคับประคอง พยายามไม่ให้เกิดช่องว่างทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก ไม่อยากให้เขา เรา หรือลูกรู้สึกขาดความอบอุ่นในครอบครัว แล้วออกไปหาหรือออกไปพึ่งพาสิ่งเล้าเหล่านั้น เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่าไอ้สุขเหล่านั้นมันอยู่กับเราได้ไม่นาน สุดท้ายมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเองและครอบครัว
สุดท้ายถ้าเขากล้าทำแสดงว่าเขาไม่รักครอบครัว กล้าทำครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อๆไปตามมา
แล้วเราจะต้องอยู่กับคนที่รักแต่ตัวเอง เอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง เห็นแก่ตัว คุณคิดว่าจะอยู่กับคนแบบนนี้ไปได้นานแค่ไหน คุณจะต้องทุกข์ใจ และคอยระแวงไปถึงไหนกัน จะต้องร้องไห้แบบนี้ไปอีกกี่ร้อยครั้งกัน การให้อภัยถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรดูด้วยว่าผู้รับคู่ควรจะได้รับสิ่งนี้จากเราหรือปล่าว ได้รับไปแล้วจะเห็นค่าของมันไหม จะยอมปรับเปลี่ยนเพื่อครอบครัวจริงหรือปล่าว ถ้าตอบคำตามพวกนี้ได้ คุณก็จะมีคำตอบให้ตัวเอง
ถ้าเราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุดแล้ว ก็อย่าเสียใจนานนะค่ะ มีพี่ผู้ชายคนหนึ่ง(ประวัติเขาเป็นคนเจ้าชู้มากๆๆๆ แต่ตอนอายุมากแล้วเริ่มปลง) เคยสอนไว้ว่า อย่าไปสนใจ อย่าไปเสียใจ ทำตัวให้เป็นปกติ หาอะไรทำให้เรามีความสุขทำไมเราต้องจมอยู่กับความทุกข์ ในขณะที่เขากำลังมีความสุข ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คิดเสมอว่าตัวของฉันมีดี ฉันดีพอ เขาต่างหากที่ไม่คู่ควรกับเรา ไม่ควรเป็นหัวหน้าครอบครัว และพ่อของลูกเรา ไม่ควรแม้แต่จะเราต้องเสียน้ำตาให้ด้วยซ้ำ ในเมื่อตัวของคุณเองยังทำไม่ดี ไม่รู้จักหน้าที่ที่พิงกระทำในครอบครัว แล้วคุณจะใครเขามาศรัทธา และนับถือย่อมไม่มี โดยเฉพาะหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่คือความเป็นพ่อของลูก เป็นไอดอลของลูก ลูกจะดีได้อย่างไรถ้าพ่อแม่ไม่ดี ถ้าเขาไม่เห็นค่าของเราก็ไม่เป็นไร มีคนที่รักและหวังดีกับเราอีกมากมาย โดยเฉพาะพ่อแม่ และลูกของเรา ก็ปล่อยให้เขาเดินออกจากชีวิตของเราไป อย่าไปรั้ง ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าใจเขาไม่อยู่กับเรา รั้งไปก็เท่านั้นยิ่งทำให้เราเจ็บปวด สุดท้ายเขาก็ไปจากอยู่ดี

เล็กเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่เขาสอน แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดขึ้นกับเราจริงจะควบคุมสติ และทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนทุกคนนะค่ะ

ขอบคุณ คุณรุ่งตะวัน เล็กเชื่อว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคอยู่ค่ะ อย่างน้อยก็เป็นวิทยาธาร ให้กับเล็กและเพื่อนได้มีสติ และใช้ชีวิตครอบครัวอย่างระวัง มีหนังสือเล่มหนึ่งอยากแนะนำ "เมียหลวง " เขียนจากประสบการณ์ของตัวเอง สามีเคยมีเมียน้อย ในหนังสือแนะนำการใช้ชีวิตครอบครัว สิ่งเมียน้อยปฏิบัติต่อสามี ที่ทำให้สามีรู้สึกอยากอยู่ด้วย อยู่แล้วสบายใจ อะไรประมาณนี้ค่ะ เพราะบางครั้งเราลืมตัว เห็นแก่อนาคตของลูก เห็นแต่อนาคตของครอบครัวมากเกินไป อดออมหรือใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อมากเกิน เข็มงวดกับสามีมากเกินไป ทำให้เราลืมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่เปรียบเสมือนจารบีล่อลื่นทำให้ฟันเฟื่องเครื่องจักรหมุนไปได้โดยไม่สะดุด เสีย หรืออาจถึงเครื่องพัง ลืมใส่ใจความต้องการของเขา(ต้องไม่เกินขอบเขตที่เรารับได้) สุดท้ายผู้ชายก็เบื่อหน่ายและหมดรักเราในที่สุด เป็นสาเหตุของการมีเมียน้อย โดยปกติผู้ชายจะรักเราที่สุดไม่งั้นคงไม่ยอมแต่งงานเพราะหวงแหนความเป็นโสดที่สุด นั้นหมายถึงการขาดอิสรภาพหรือมีน้อยลงเพราะรับผิดชอบและต้องดูแลครอบครัว

ในฐานะsingle mom แต่งงานไม่ถึงปีแล้วก็มีน้องเลยหลังคลอดแค่เดือนเดียวคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่สามารถที่จะปกป้องและดูแลชีวิตของเราได้ด้วยหลายๆปัญหาตัดสินใจบอกเลิกแล้วอยู่กับพ่อแม่พี่น้องที่เข้าใจเราดีกว่า ถ้าอดทนซักวันคงทนไม่ไหวไม่อยากให้ลูกรู้สึกผูกพันธ์กับพ่อแล้วต้องแยกจากกัน ทุกวันนี้มีความสุขดีคะเพราะครอบครัวเข้าใจดูแลเราเป็นอย่างดี ในเมื่อเราทำหน้าที่ของเราดีที่สุดแต่เค้าไม่สนใจก็ปล่อยเค้าไป ตอนนี้อโหสิกรรมไม่โกรธเลยเข้าใจพื้นฐานชีวิตว่าเค้าเป็นอย่างไรมา แล้วเราก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงเค้าได้ ลูกก็เป็นเด็กอารมณ์ดี ไม่งอแงทุ่มเทเวลาให้กับลูกดีกว่าเอาเวลาไปเสียใจกับคนแบบนั้นดีกว่าคะ 

คิดว่าสำหรับส่วนตัวคุณแล้วคงไม่มีที่ให้ผู้ชายคนนี้อีกแล้วล่ะ แต่ที่ยังทุกข์ก็เพราะคุณห่วงลูกใช่มั้ยคะ ...
ถ้าเราสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินสามี ก็ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะขาดความรัก ความอบอุ่นที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเลยค่ะ
เป็น single mom ก็สามารถให้ความรักและเลี้ยงดูเค้าได้อย่างเต็มที่ อีกอย่าง ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ ดีกว่าปล่อยให้ลูกโตขึ้นโดยที่เห็นแม่เจ็บปวดใจ...

....ทำในสิ่งที่เรามีความสุข และอยู่กับคนที่เรามีความสุขดีกว่าค่ะ .... เป็นกำลังใจให้ค่ะคุณรุ่งตะวัน
ต้องยอมรับว่า คุณรุ่งตะวันเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญและเข้มแข็ง สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้แถบจะถอดปลั๊กshut down กันไปเลย อยากจะมอบกำลังใจให้นะคะคุณรุ่งตะวัน สติจะเป็นตัวผลักดันให้รู้ว่าต้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิตอย่างไร รู้ว่าทางข้างหน้านั้นแสนยาวไกลอีกทั้งหญ้าสองข้างทางที่ต้องแทรกทิ่มแทงให้ปวดร้าวสะกิดใจ แต่ก็ต้องฝืนฝึกกลั้นใจให้เหยียบและย่ำลงไปในทุกเส้นทาง เอาใจช่วยค่ะ
คุณรุ่งคิดถูกแล้วค่ะที่เลือกที่จะมีสติ เพราะนั่นเป็นทางออกกที่ดีที่สุด เป็นกำลังใจให้นะคะ เรื่องความเจ้าชู้กับผูชายเป็นของคู่กันจนผู้ชายคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั้งที่ความเสียใจของหญิงมันไม่ธรรมดา สู้ ๆ ค่ะ เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บลึกร้อนรนขนาดไหน เสียใจปางตาย แต่ห้ามตายนะคะ ชีวิตนี้มีค่ามากกว่ามากมายนัก ผ่านมันไปได้เมื่อไหร่จะรู้ว่าเราก็เป็นผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งนะเนี่ย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ต้องหาวิธีแก้ปัญหาที่มันซับซ้อน เพราะตอนนี้เรามีเรื่องหนักหัวมากพอแล้ว จับความดีกับความเลวของผู้ชายคนนั้นขึ้นตราชั่งเลยค่ะ ดีมากกว่าก็เก็บไว้ เลวมากกว่าก็ทิ้งไป แต่ต้องมีใจเป็นกลางและเด็ดเดี่ยวนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ถามตัวเองนะคะ....
-เขาอยู่หรือเขาไป อย่างไหนเราจะทุกข์หรือเราจะสุขมากกว่ากัน ?

เคยมี case study แบบนี้กับบรรดาเพื่อน/ญาติ.. พบว่าการตัดสินใจของแต่ละคนต่างกัน ดังนี้
1. อยู่ด้วยกันต่อไป --- เพราะยังอยากอยู่ใกล้ อยากเห็นหน้าเขาอยู่ หากเขาไปทุกข์กว่าประมาณนั้น (ปล่อยวางในสิ่งที่เขาเป็น)
2. ปล่อยเขาไป --- เพราะหากเขายังอยู่ ดูแล้วเราจะทุกข์มากกว่าสุขแน่, เขาไม่อยู่เรายังมีแรงกาย+แรง(ใจ) ในการใช้ชีวิตต่อ

อยู่ที่เราเป็นสำคัญค่ะ อย่างไหนจะเหมาะกับเรา(และลูก) มากกว่ากันเพราะชีวิตยังต้องไปอีกยาวใกล หากเรามีความสุข
ชีวิตจะได้มีแรงเดินต่อไปได้ ???

ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีทุกข์มากกว่าสุข อ้อว่าอยู่กับลูก 2 คนก็ดีนะคะ
ลูกเราออกจะน่ารัก เดี๋ยวผลกรรมก็ตามทันคนที่ทำชั่วเองแหละค่ะ
single mom ที่นี่ก็มีค่ะ สร้างลูกเป็นเด็กสองภาษาได้ด้วยนะคะ
สู้ๆ ค่ะ ที่นี่มีกำลังใจให้เสมอนะคะ
สู้ๆนะคะ
เพิ่งเข้ามาเห็นเหมือนกันค่ะ อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกของคุณรุ่งตะวันนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ และขอบอกว่าคุณเข้มแข็งมาก มีสติมาก เชื่อแน่ว่าเมื่อเวลาผ่านไป(เชื่ออีกว่าคุณจะผ่านเรื่องราวนี้ไปได้) คุณจะเป็นคุณแม่ที่เยี่ยมยอดมากคนหนึ่ง

ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่เราต้องเจอค่ะ แต่ไม่นานมันจะผ่านไป ชีวิตของคุณจะดีขึ้นๆ

มีเพื่อนรักคนหนึ่งเหมือนกันค่ะที่เจอเหตุการณ์ซ้ำซากเหมือนๆที่คุณรุ่งตะวันเจอ ต่างกันที่เค้าไม่มีลูก(แต่เมียแอบๆของสามีเค้ามีลูก)
สุดท้ายก็เลิกกัน แบบให้อภัยและเป็นเพื่อนกัน ทุกวันนี้เพื่อนคนนั้นมีความสุขขึ้น มีเวลาให้ตัวเอง ไม่ต้องมานั่งระแวง ไม่ต้องมานั่งคอยใคร

อีกไม่นานคุณจะมีความสุขกับลูก และชีวิตต้องดีขึ้นมากๆแน่นอนค่ะ

บุญรักษานะคะ
เราก็single mom เราเลือกเอง และเราก็มีความสุขมากๆ

ขออนุญาตนะค่า...ความเห็นส่วนต้วคะ

อายุคนเราสั้นนัก เราไม่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระประเภทนั้นเลย

เอาเวลามาดูแลลูก พ่อแม่ของเราดีกว่า

เพราะว่า 3 คนนี้ซิ รักแท้แน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า

สุขหรือทุกข์อยู่ที่มองโลกจ้า อย่าไปยึดติด
เห็นด้วยกับคุณแม่น้องภีมค่ะ พ่อ แม่ และลูก คือรักแท้แน่นอน... เข้ามาให้กำลังใจ (อีกครั้ง) ค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service