เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

พาลูกไปฉีดวัคซีนมาหมอตรวจพบว่าหัวใจลูกมีเสียงดังคล้ายผนังหัวใจรั่ว ให้ไปตรวจกับแพทย์ด้านโรคหัวใจโดยตรง
แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปตรวจ เพราะลูกจะติดหวัด2009 จากโรงพยาบาล แต่ลูกสาวก็แข็งแรงดีนะค่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่ค่อยได้เป็นอะไร ร่าเริงมาก และอยากทราบว่าถ้าเป็นผนังหัวใจรั่ว สามารถหายได้เองไหม

Views: 1633

Attachments:

Replies to This Discussion

อืม....คุณแม่น้องพลายน่าจะรีบพาน้องไปตรวจนะค่ะ เมื่อกี้อ๊อบลอง search google ลองยกตัวอย่างมาให้คุณแม่อ่านดูนะค่ะ

โรคผนังหัวใจรั่วด้านบน เราเรียกว่า Atrial septal defect แพทย์ใช้ตัวย่อว่า ASD
โรคผนังหัวใจรั่วด้านล่าง เราเรียกว่า Ventricular septal defect แพทย์ใช้ตัวย่อว่า VSD (รูรั่วจะอยู่ที่ผนังหัวใจที่กั้นหัวใจห้องล่างซ้าย-ขวา)
.....ถามว่าปิดเองได้ไหม
กรณี ASD อาจปิดเองได้ภายใน 1 ปีแรก โดยเฉพาะถ้ารูมีขนาดเล็กว่า 5 มิลลิเมตร
ส่วน VSD ก็เช่นกัน อาจปิดเองได้ถ้ารูไม่ใหญ่มาก
ส่วนโอกาสปิดเองมากเท่าไร ไม่มีข้อมูลที่เป็นตัวเลขชัดเจน แต่ยิ่งรูเล็กโอกาสปิดยิ่งมีมากขึ้น
.....โรคแทรกซ้อนมีอะไรบ้าง
โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในรายที่เป็น ASD และ VSD (ไม่จำเป็นต้องเกิดทุกราย)
1.หัวใจล้มเหลว เป็นผลจากเลือดไหลลัดจากหัวใจด้านซ้าย ไปด้านขวา ในปริมาณมากๆ.....วิธีสังเกตว่า เด็กทารกมีหัวใจล้มเหลวคือ หนังศีรษะบวมน้ำ,ท้องโต,เด็กเคลื่อนไหวช้าลง
2.การเจริญเติบโตช้า เด็กจะตัวเล็ก มีพัฒนาการช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน
3.หัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด Atrial fibrillation พบได้ในรายที่เป็น ASD
4.อาการเขียว (ในทางการแพทย์ เรียกว่า cyanosis) พบน้อยมาก ในกรณีของโรคหัวใจ ASD และ VSD พบเฉพาะในรายที่แรงดันเลือดในปอดสูงมากจนเกิดการไหลของเลือดย้อนกลับทางรูรั่ว ทำให้เลือดที่ยังไม่ได้ไปฟอกที่ปอดซึ่งเป็นเส้นเลือดดำ ไหลย้อนผ่านทางรูรั่วไปที่หัวใจด้านซ้าย ทำให้เด็กเขียว
.....ถ้าพบภาวะนี้ ต้องรีบส่งรพ.ทันที เพราะเด็กอาจเสียชีวิตได้
5.แรงดันเลือดในปอดสูง (ทางการแพทย์เรียกว่า pulmonary hypertension)ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย
6.ปอดอักเสบติดเชื้อ เลือดที่รั่วผ่านผนัง ทำให้เลือดไปที่ปอดมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในปอดมากขึ้น

หรือลองคลิ้กที่ลิ้งค์นี้นะคะ

www.thaiheartclinic.com/forum8.5/get_topic.asp%3FFID%3D2%26TID%3D37...">http://74.125.153.132/search?q=cache:iVhWP7nOYBEJ:www.thaiheartclinic.com/forum8.5/get_topic.asp%3FFID%3D2%26TID%3D37...
น้องซีเป็น Mild Pulmonary Stenosis คืออาการลิ้นหัวใจไม่ปกติที่คุณหมอตรวจเจอโดยฟังจากเสียงเต้นของหัวใจได้ตั่งแต่น้องซียังไม่คลอดออกมาเลยค่ะ หลังการตรวจพบก็คอยเช็คอาการกันอยู่ตลอดจนคลอด
แล้วพอหลังคลอดคุณหมอก็ให้ไปตรวจแบบละเอียด สอบถามอาการทั่วไป แล้วก็มีการเช็คทุก 6 เดือน แล้วเพราะน้องซีไม่มีอาการของคนที่เป็นโรคหัวใจเลย วิ่งได้ นอนหลับ กินอิ่ม (โคตรซน) ก็เลยเปลี่ยนเป็นเช็คสุขภาพทุกปีแทนค่ะ คุณหมอบอกด้วยว่าโอกาสที่ลิ้นหัวใจจะกลับมาเป็นปกติก็มีเหมือนกัน แต่ในกรณีของน้องซีคงจะไม่มีเพราะตลอดระยะเวลาที่ตรวจมา ลิ้นหัวใจอยู่ขนาดไหนก็ขนาดนั้นเลย ไม่มีแย่ลงหรือดีขึ้น ก็เลยโอเค มีที่ต้องระวังคือถ้าน้องซีทำฟัน หรือมีการผ่าตัดขึ้น ต้องให้ทานยาแก้อักเสบกันการติดเชื่อในกระแสเลือดไว้ก่อน เพราะลิ้นหัวใจที่มีขนาดหนาออกมาหรือเปิดปิดไม่ปกติอาจทำให้เชื่อโรคหรืออะไรไปเกาะติดแล้วเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ Endocarditis precautions

อยากถามว่าน้องอายุเท่าไหร่คะ...กรณีลูกสาว...ดีดี...ก็คล้ายกันคือชีเป็นไข้...แล้วคุณหมอก็ฟังเสียงบอกว่าคล้ายผนังหัวใจรั่ว...พอหายไข้แล้วก็ไปตรวจตามที่คุณหมอส่งตัวไปค่ะ...ปรากฏว่าก็ไม่ได้เป็นอะไร...คือ...คุณหมอจะตรวจด้วยเครื่องเอคโค่ค่ะ...คล้ายกับอัลตร้าซาวน์...คือจะให้น้องนอนถอดเสื้อแล้วเอาเจลเย็นๆทา(ในห้องค่อนข้างหนาวมาก) ฝนกอดลูกไว้ตลอดค่ะ...แล้วก็บอกแกว่าเรามาสปาให้ดีดีนอนให้คุณหมอสาวๆสวยๆนวดพุง...ภาพในเครื่องจะโชว์หัวใจน้องและเห็นเป็นสีของการไหลเวียนของเลือดค่ะ...ถ้ารั่วตรงไหนก็จะเห็นสีไหลมาปนกัน...และได้ยินเสียงหัวใจเต้นชัดเจนมากกก....ก็บอกคุณลูกว่าคือเสียงของหัวใจแกเต้นบอกว่า ..ไอเลิฟยู...(เพลงพี่บี้) ...แกก็สนุกดีติดใจอยากไปนวดอีก...ค่าใช้จ่ายประมาณสี่พันนิดนึงค่ะ...จริงๆแล้วคุณหมอจะสอบถามก่อนว่าลูกมีอาการอะไรมั้ยเช่นเหนื่อยง่ายอะไรแบบนี้...แล้วให้เราตัดสินใจเองว่าจะตรวจด้วยเครื่องมั้ย...ซึ่งคนเป็นพ่อสติดีกว่าก็ไม่อยากจะเสียตังค์เพราะมั่นใจว่าลูกแข็งแรงมากก...แต่ฝนจิตตกค่ะ..เพราะลูกก็คลอดก่อนกำหนด..แต่ที่จริงนอกจากที่คุณหมอทักก็ไม่มีอาการอะไร...ยายดีดีเป็นพวกซนขั้นเทพ...นับตั้งแต่ชีสามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้เองชีไม่เคยอยู่เฉยเลย..(ยกเว้นตอนเบ่งอึ..จริงๆ) แม้แต่ตอนนอนหลับ ที่นอน 6 ฟุตต่อกันสองอันชียังmoveไปได้ทั่ว ลิ้นชักแบบสี่ชั้น ชียังดึงออกมาทีละชั้น แทนสเต็บบันได ปีนขึ้นไปได้...ถ้าคุณลูกซนขั้นนี้ก็ไม่ใช่เด็กเป็นโรคหัวใจแน่นอน...คุณหมออธิบายว่าอาจเป็นไปได้ที่พอเวลาน้องไม่สบายแล้ว ทำให้ได้ยินเสียงดังกล่าวค่ะ
สวัสดีค่ะ
มาเล่าให้ฟังค่ะ น้องอลิศาเกิดมาด้วยหัวใจค่อนข้างมากซึ่งพบได้หลังจากเกิดแล้ว ปัญหาที่พบคือ ผนังหัวใจด้านขวารั่วประมาณ 5 มิล ตัวเปิดปิดเลือดสู่ปอดก็อุดตัน ผนังหัวใจด้านขวาหนาและด้านซ้ายบาง ซึ่งหมอบอกว่าต้องผ่าแน่นอน อาจจะครั้งเดียวหรือสองครั้ง ถ้าผ่าแล้วก็เหมือนเด็กปกติ ถ้าไม่ผ่าก็จะอยู่ได้ไม่เกินปี หรือปีครึ่ง แต่น้องอลิศาก็แข็งแรงสมบูรณ์ดี หัวใจเต้นแรง กินได้ นอนหลับแต่ก่อนจะนอนเนี่ยค่อนข้างงอแง้ อารมณ์ดียิ้มง่าย แต่เวลาไม่พอใจก็เอาเรื่องค่ะ ได้ยินครั้งแรกเนี่ยทำใจไม่ได้เลยค่ะ ร้องไห้ตลอดเวลาและพยายามอยุ่กะเขาตลอด อาทิตย์แรกไปนอนโรงพยาบาลซึ่งมีพยาบาลเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง พ่อแม่ต้องนอนที่ห้องที่เขาจัดให้ ก็ให้นมน้องสามชมครั้ง ก็ถ้าไม่ได้ทานข้าวก็จะอยู่กะเขาตลอด พยาบาลและหมอก็บอกให้ไปนอนพักผ่อน แต่เราไม่อยากทิ้งเขาไปเลยนะ หลังจากเฝ้าดูอากาศได้อาทิตย์ ทุกอย่างปกติก็ได้กลับมาอยู่บ้านและไปเช็คอาทิตย์ล่ะครั้งค่ะ ต้องไปตรวจอย่างละเอียด อัลตราซาวด์ วัดความดัน การหายใจ การเต้นของหัวใจอาทิตย์ล่ะครั้ง ซึ่งก็ปกติดีค่ะ แต่ต้องผ่าตัดเพราะรูรั่วไม่สามารถปิดเองได้ หมอให้ดูอาการว่าถ้าใบหน้าหรือริมฝีปากคล้ำก็ถือว่าเป็นการเร่งด่วนไม่งั้นก็ต้องรอให้น้องโตอีกหน่อยค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service