มาป้องกันโรคหวัดกันดีกว่า

[แม่น้องเอมมี่]

โรคหวัดเป็นโรคที่พบมากในระยะนี้ ทำให้เกิดปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการติดเชื้อกันในระหว่างผู้ร่วมงาน ทำให้มีผลกระทบต่อคุณภาพของงานโดยส่วนรวม
โรคหวัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจ ติดต่อกันได้ง่ายโดยการไอจามและหรือหายใจรดกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในที่แออัด เช่น ชุมชน โรงเรียน โรงงาน หลังจากได้รับเชื้อหวัด 1-3 วันจะมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย บางรายมีอาการปวดศีรษะ คัดจมูก จาม มีน้ำมูกใส ๆ ไอแห้ง ๆ หรือไอมีเสมหะ ซึ่งอาการ ต่าง ๆ จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่ภูมิต้านทานของแต่ละบุคคล บางรายเจ็บในลำคอ ซึ่งถ้ามีการติดเชื้อมากอาจทำให้มีอาการเจ็บคอมากขึ้น เสียงอาจแหบและบางรายมีอาการหายใจไม่สะดวกร่วมด้วย เมื่อท่านเริ่มเป็นหวัดและไม่รีบรักษา อาจมีการติดเชื้อไปยังอวัยวะใกล้เคียง เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบเกิดหูน้ำหนวก หลอดลมอักเสบ ถ้าเชื้อลงปอดอาจจะทำให้เกิดภาวะปอดบวมได้
จะเห็นได้ว่า “โรคหวัด” ถ้าพิจารณาผิวเผินดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่ถ้าท่านเข้าใจถึงปัญหาและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากหวัดแล้ว ท่านจะเห็นได้ว่าการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งวิธีการป้องกันการเป็นหวัด ได้แก่
1. เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค โดยรับประทานอาหารที่มีคุณค่าอย่างเพียงพอ ดูแลตนเองให้ได้รับอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ไขมัน เกลือแร่ และวิตามิน เพื่อช่วยเสริมสร้างซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย วิตามินซีมีประโยชน์ในการช่วยทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค ไม่ติดเชื้อง่าย ในกรณีที่มีการอักเสบจะทำให้มีการหายของแผลเร็ว นอกจากนี้การรับประทานวิตามินซีมาก ๆ จะช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัดได้ด้วย อาหารที่มีวิตามินซีปริมาณมาก และหาซื้อได้ง่าย เช่น ดอกขี้เหล็ก มะยม มะปรางสุก มะเขือเทศ ส้ม มะนาว ฝรั่ง มะม่วง เป็นต้น
2. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้หัวใจ หลอดเลือด ปอด ตับ ไต สมองประสาท ข้อต่อต่าง ๆ และอวัยวะอื่น ๆ ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มสมรรถภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
3. ดื่มน้ำมาก ๆ ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำอุ่น น้ำผัก น้ำผลไม้ เป็นต้น ซึ่งร่างกายควรได้รับน้ำวันละ 2000 มิลลิลิตร หรือประมาณ 3 ขวดแม่โขง (ขนาดขวดกลม)
4. รักษาความสะอาดปากฟันให้สม่ำเสมอ เพราะถ้าปากฟันสกปรก ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย
5. รู้จักสังเกตอาการผิดปกติ เช่น คัดจมูก ไอ จาม มีน้ำมูกใส ๆ ออกเล็กน้อย อย่าประมาทให้รีบหาทางแก้ไข
6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะผู้ที่พักผ่อนอย่างเพียงพอจะมีภูมิต้านทานโรคดีกว่าคนที่พักผ่อนน้อย
7. ดูแลร่างกายให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ ถ้าอากาศเย็นให้สวมเสื้อผ้าที่หนากว่าปกติ เพื่อป้องกันร่างกายกระทบความเย็น
8. อยู่ในที่ ๆ มีอากาศบริสุทธิ์ เพราะจะช่วยให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้นและเพียงพอ
9. บริหารปอดโดยการสูดลมหายใจเอาอากาศที่บริสุทธิ์เข้าปอดเต็มที่ แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกอย่างช้า ๆ ทุกวัน
10. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารนิโคติน (Nicotin) นิโคตินจะขัดขวางการวมตัวของออกซิเจนกับเม็ดเลือดแดง ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ มีการติดเชื้อของทางเดินหายใจได้ง่าย
จะเห็นได้ว่าการเป็นหวัดทำให้มีผลกระทบต่อภาวะสุขภาพ ดังนั้นจึงควรรู้จักวิธีการป้องกันการเป็นหวัดด้วยการดูแลตนเองให้ถูกต้องด้วยวิธีการที่ง่าย ๆ เพื่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี วันนี้ดิฉันขอจบแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ

[อรดา พงศ์สุธนะ]

สาระดีๆ มาอีกแล้ว ต้องหาที่save ไว้เป็นหมวดหมู่ซะแล้วล่ะ ดีค่ะ สุขภาพคนในครอบครัวดี พวกเราก็แข็งแรงและมีความสุขค่ะ

[แม่น้องเอมมี่]

ใช่ค่ะคุณอรดา ลูก ๆ จะได้ไม่เจ็บป่วยง่าย ๆ ถ้ามีการป้องกันกันตั้งแต่ต้น

[Pat]

ต้องนอนเยอะๆ แต่หลังๆไม่ไหลับไม่นอนมัวแต่เล่นเน็ต ฮือฮือ

[แม่น้องเอมมี่]

ถ้าอย่างนั้นวันนี้.......อนุญาติให้คุณแพท พักผ่อนได้ 1 วัน พรุ่งนี้ค่อยมาตอบกระทู้ใหม่...........แต่ว่าพอพรุ่งนี้มาถึงคุณแพทคงงานเข้าอีกเยอะเลย................

[ต้นน้ำของแม่]

555 ต้าว่าคุณแม่ทุกคนคงเป็นเหมือนกับคุณแพทอ่ะค่ะ

ว่างเมื่อไหร่ก็อยากเล่นเน็ต โดยเฉพาะ 2pasa.com ^--^

ต้าว่าถ้าคุณแพทไม่เล่นสักวันนึง กลับมาต้องตอบกระทู้ไม่ทันแน่ค่ะ

โดยเฉพาะห้อง English Club อ่ะค่ะ

[มรกต อังศิริโสภานนท์]

เป็นโรคติดเน็ตตั้งแต่เป็นสมาชิก 2pasaนี่แหละค่ะ ใครช่วยที

[แม่น้องเอมมี่]

คงช่วยคุณมรกตไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเกดเองก็เป็นเหมือนกันตั้งแต่เป็นสมาชิก 2pasa วันไหนไม่ได้ ออน์ เหมือนแทบขาดใจ 555