เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
1. หนูกดเอาไส้ดินสอออกมามากไป ดินสอกดน่ะคะ
You take the pencil lead out too long.
2. เว้นวรรคระหว่างคำด้วย อย่าเขียนติดกัน
3. หนูเขียนตัว h กับ n เหมือนกันมากเลย แม่แทบแยกไม่ออก
The letter h and n that you have written look so alike that i can't differentiate them.
4.เราผ่านเวลานั้นมาแล้ว เวลาเดินถอยหลังไม่ได้ (เค้าบอกจะกินข้าวตอน 8โมง แต่ตอนนั้นมัน10โมงแล้วน่ะคะ)
We have passed that time. Time can not turn back. ได้ไหมคะ
5.ซ่อมไม่ได้แล้ว (เสียเกินกว่าที่จะซ่อมได้)
It can not be fixed.
6.แม่รู้ว่าหนูบอกว่าอิ่มแล้ว เพราะจะรีบไปเล่น แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่ควรเล่น แม่ก็ไม่ให้เล่นหรอกนะ
I knew that you said you are full ,because you want to go play.But if's not appropiate time,I won't let you play.
7.วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การไปปิคนิค
The weather is goog for having /going on a picnic.
Tags:
ขอถามเพิ่มนะคะ
1.อย่าเอียงจักรยานมากเกินไป เดี๋ยวล้มจริงๆนะ (เอียงลงข้างๆแบบภาพด้านล่างน่ะคะ) ใช้ Don't tilt your bike too much otherwise you'll really fall onto the ground. ได้ไหมคะ
2.อย่ารนหาที่ หรือ อย่าหาเรื่องสิ (คือเค้าชอบขี่จักรยานลงไปในร่องน้ำ ditch แล้วก็ร้องเรียกบอกเราว่า ติด ติด )
3. หนูหาเรื่องเอง แม่ไม่ช่วยหรอกนะ
4. หนูขอให้หนูแข็งแรง เป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่(ตอนไหว้พระ แล้วเราอธิษฐานน่ะคะ)
I wish myself good health, good boy , and obedience . ได้ไหมคะ
แชร์นะครับ
1. หนูกดเอาไส้ดินสอออกมามากไป ดินสอกดน่ะคะ
You take the pencil lead out too long.
-> น่าจะใช้ push แทน take นะครับประโยคนี้ เพราะเราต้องกดตรงปุ่มเพื่อให้ไส้ดินสอออกมา
2. เว้นวรรคระหว่างคำด้วย อย่าเขียนติดกัน
-> Leave space between words too. Don't write the words too close together.
3. หนูเขียนตัว h กับ n เหมือนกันมากเลย แม่แทบแยกไม่ออก
The letter h and n that you have written look so alike that i can't differentiate them.
-> ได้ครับ ..can't differentiate them ใช้อีกแบบก็ได้เป็น can't tell them apart.
4.เราผ่านเวลานั้นมาแล้ว เวลาเดินถอยหลังไม่ได้ (เค้าบอกจะกินข้าวตอน 8โมง แต่ตอนนั้นมัน10โมงแล้วน่ะคะ)
We have passed that time. Time can not turn back. ได้ไหมคะ
-> หากใช้ประโยคหลังน่าจะเป็น Time can't be turned back.
หรือจะเป็นอีกแบบ โดยใช้สำนวน "turn the clock back" = กลับไปสู่เวลาในอดีต ก็ได้เช่น That time has passed. We can't turn the clock back. (turn the clock back ยังมีความหมายตรงตัวว่า ตั้งเวลานาฬิกาย้อนกลับไป ด้วยครับ)
5.ซ่อมไม่ได้แล้ว (เสียเกินกว่าที่จะซ่อมได้)
It can not be fixed.
-> ได้ครับ หรือจะใช้สำนวนว่า "be beyond repair" ก็ได้เป็น It's beyond repair.
6.แม่รู้ว่าหนูบอกว่าอิ่มแล้ว เพราะจะรีบไปเล่น แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่ควรเล่น แม่ก็ไม่ให้เล่นหรอกนะ
I knew that you said you are full ,because you want to go play.But if's not appropiate time,I won't let you play.
-> ได้ครับ ส่วนก่อน appropriate time ควรมี "a" นะครับ ;)
7.วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การไปปิคนิค
The weather is goog for having /going on a picnic.
-> อันนี้ใช้สั้น ๆ ว่า The weather is good for a picnic. จะดีกว่านะครับ
-----------------------------
1.อย่าเอียงจักรยานมากเกินไป เดี๋ยวล้มจริงๆนะ (เอียงลงข้างๆแบบภาพด้านล่างน่ะคะ) ใช้ Don't tilt your bike too much otherwise you'll really fall onto the ground. ได้ไหมคะ
-> เปลี่ยน onto เป็น to เฉย ๆ ก็ใช้ได้แล้วครับ หรือจะเป็น fall เฉยๆ ก็ได้ครับเป็น ..you'll fall.
2.อย่ารนหาที่ หรือ อย่าหาเรื่องสิ (คือเค้าชอบขี่จักรยานลงไปในร่องน้ำ ditch แล้วก็ร้องเรียกบอกเราว่า ติด ติด )
3. หนูหาเรื่องเอง แม่ไม่ช่วยหรอกนะ
-> ข้อ 2 และ 3 ใช้สำนวน "ask/look for trouble" ก็ได้ครับเป็น You asked/looked for trouble yourself. Don't expect me to help.
ส่วน "อย่ารนหาที่" หรือ "อย่าหาเรื่อง" ก็ใช้เป็น Don't look for trouble.
4. หนูขอให้หนูแข็งแรง เป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่(ตอนไหว้พระ แล้วเราอธิษฐานน่ะคะ)
I wish myself good health, good boy , and obedience . ได้ไหมคะ
-> ในบริบทนี้ใช้ "pray" ดีกว่านะครับ เป็น I pray that I'll be a good, healthy and obedient boy.
seek ถึงแม้จะใกล้เคียงกับ look for แต่ seek จะมีความหมายกว้างกว่า และลึกซึ้งกว่าคือ ดั้นด้นค้นหา/ทำบางอย่าง เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามที่เราตั้งใจไว้ มากกว่าแค่หาของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และ ask/look for trouble ก็เป็นสำนวน เลยไม่ใช้ seek แทน ask/look ในสำนวนนี้ครับ
ส่วน wish someone + noun ก็อย่างที่คุณรุจาภาเข้าใจถูกแล้วครับ และที่ใช้ pray ก็เพราะว่าเราอธิฐาน ซึ่ง pray ความหมายหนึ่งจะใกล้เคียง คือ:
"pray"(vi,vt)
2 to wish or hope very strongly that something will happen or is true
(source: Longman dictionary)
อาจจะใช้ว่า I pray that........ หรือหากต้องการจะบอกว่า ขอให้คุ้มครอง หรือขอให้อะไรต่าง ๆ ก็ใช้ May Lord Buddha protect me/guide me/ etc. ก็ได้ครับ
ใช้ผิดมาตลอดเหมือนกันค่ะกิ้ม ต่อไปต้องเปลี่ยนเป็น pray
ปกติจะใช้แบบนี้ค่ะ เมื่อกี้อธิษฐานขออะไรจากพระ = What did you wish for just now?
แล้วก็เลยสอนลูกตอบแบบนี้ค่ะ I wish I could be a good girl ..........
ซึ่งจริงๆสงสัยจะต้องเปลี่ยนหมด รบกวนคุณเอก หรือ ท่านอื่นๆ
เปลี่ยนทั้งคำถามและคำตอบให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
อ่านไปอ่านมาชักงงเหมือนกันค่ะ รบกวนช่วยดูให้ด้วยค่ะ
Mon : Make a wish. อธิฐานขอพรซิ
พอเขาอธิฐานแล้ว
Mom : What did you make a wish?
Son : I made a wish that I will get a good score from an examination. What about you?
Mon : I pray for buhhda to look after you and wish you have a good health
ต่างกันตรงที่ "ขอพร" ซึ่งก็ใช้ make a wish ถูกแล้วครับทั้งแบบเกี่ยวกับศาสนาหรือไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่ถ้าเป็นการอธิษฐานในเชิงศาสนา หรือสวดมนต์ ก็ใช้ pray เหมือนกับบริบทใน 2 ประโยคสุดท้ายของคุณรัชนีครับ
ส่วน What did you make a wish? ควรจะเป็น What did you wish for? นะครับ
และขอแก้นิดนึงนะครับ:
Son : I made a wish that I will get a good score from an examination. What about you?
-> will ต้องเป็น would เพราะต้องเป็นเหตุการณ์สมมติ เลยต้องเป็นแบบ subjunctive ครับ
Mon : I pray for buhhda to look after you and wish you have a good health
-> อันนี้ pray for ควรเป็น pray to Buddha ส่วน pray for จะเป็นอย่างเช่น I pray for your good health.
และ ... wish you have ก็ต้องเปลี่ยน have เป็น had ครับ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by