เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
ไม่รู้จะตั้งชื่อออย่างไรให้สวยหรู ฟังดูน่าอ่านค่ะ ขอใช้ชื่อ " ให้ลูกกินนมแม่ต้องแก้ที่จิตใต้สำนึก" นะค่ะ รัชเป็นอีกคนหนึ่งที่สนับสนุนเรื่องนี้สุดชีวิตเหมือนกัน มีความคิดว่าการที่จะส่งเสริมหรือสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นควรปูพื้นฐานกันตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นกันเลยค่ะให้เป็นหนึ่งในกระบวนการให้ความรู้แก่เด็ก ๆ ที่ต้องก้าวเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ เพราะชาย - หญิงทุกคนต้องก้าวผ่านช่วงนี้กันอยู่แล้ว สอนให้เขารู้ถึงคุณค่า ประโยชน์ วิธีการ ในการให้นมแม่แก่เด็กทารกให้เขาซึมซับเข้าไปทีละเล็กทีละน้อย ส่งเสริมติดตามจนถึงระดับอุดมศึกษาให้ได้เรียนรู้ค่าของนมแม่จริง ๆ กันเลยทีเดียว เมื่อจิตใต้สำนึกตรงนี้เกิดขึ้นมาบุคคลเหล่านั้นเจริญเติบโตไปมีครอบครัวก็จะรับรู้โดยธรรมชาติของเขาเองว่าลูกเขาก็ต้องกินนมเขา จะยาก จะลำบาก จะมีเวลาน้อยแค่ไหน ความรู้ที่ได้ ความสามารถที่มีจะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะดิ้นรนหาวิธีการที่จะให้ลูกเขาได้กินเองค่ะ และเมื่อถึงเวลานั้นต่อให้นมผงโฆษณาดีอยางโน้น แถมอย่างนี้มีอีกร้อย ๆ พัน ๆ วิตามิน ก็คงไม่กระทบกับคุณแม่เหล่านั้นแน่ค่ะ ลองคิดถึงตัวคุณเองนะค่ะ ตอนที่เราให้นมลูกอยู่ อยากที่จะให้เขากินนมผงพวกนั้นไหม
การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในปัจจุบันนี้ส่วนมากจะเน้นเป็นที่หน่วยงานของรัฐ เช่น โรงพยาบาลรัฐ เป็นต้นซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ ที่จะต้องแข่งขันกับองค์กรเอกชนที่แสวงหากำไรอย่างนี้ การปลูกจิตใต้สำนึกที่ดี จะดีกว่ามาส่งเสริมเมื่อเด็กคลอดออกมาแล้ว เพราะ้ข้อแม้ของสังคมยุคปัจจุบันมีเยอะแยะมากมาย มีเวลาแค่ 3 เดือนเอง กลัวไม่ได้โบนัสเต็ม เสียดายเงินเดือนจัง กลัวโน่น นี่ นั่น เต็มไปหมด แต่ถ้าบุคคลเหล่านี้มีจิตสำนึกที่ถูกต้องในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้วหล่ะก็ ข้อยกเว้นต่าง ๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน
นมแม่ไม่ใช่แค่อิ่มแรก แต่นมแม่จะดูแลลูกสาว ลูกชายของเราทุกคนตราบจนที่ชีวิตนี้จะหาไม่ มาส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันนะค่ะ
Tags:
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ก่อนเลยค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งในการให้ลูกได้กินนมแม่ค่ะ
ขอแชร์จากประสบการณ์ตรงนะค่ะ ทิพย์ให้ลูกกินนมตัวเองตั้งแต่คลอดจนน้องยีนอายุ 1 ขวบ 4 เดือนค่ะ สาเหตุที่ได้เลิกเพราะว่าแม่ทำงานประจำแล้วน้ำนมปั้มไม่ออกแล้วค่ะ จะให้เค้ากินตอนแม่เลิกงานกลับไปแทน แต่ปรากฏว่ากลางวันทั้งวันน้อไม่ทานนมเลยรอแต่คุณแม่ ก็เลยต้องตัดใจให้เค้าเลิก ตอน 1 ขวบ 4 เดือนค่ะ
ช่วง 6 เดือนแรกน้องยีนกินนมแม่อย่างเดียวเลยค่ะ โดยไม่ต้องดื่มน้ำเลยค่ะ เพราะในนมแม่มีปริมาณเยอะอยู่แล้ว และในน้ำนมแม่ยังมีเม็ดเลือดขาวที่คอยดังจับจุลทรีที่ไม่มีประโยชน์ด้วย หากเราให้ลูกกินน้ำ น้ำก็จะไปล้างออกหมดค่ะ (ได้รับคำแนะนำจากอนามัยและสิ่งแวดล้อมที่5 แม่และเด็ก คลีนิกนมแม่ จ.นครราชสีมาค่ะ)
ผลที่ได้รับก็คือ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ขวบ น้องยีนไม่เคยป่วยเลยค่ะ และมีเป็นหวัดอยู่ประมาณ 3 ครั้งค่ะ
ก็เห็นได้ชัดเจนมากค่ะ ในขณะที่ลูกเพื่อน เกิดมาพร้อมกันค่ะ ป่วยและเป็นหวัดตลอดเลยค่ะ เพราะเค้าไม่มีน้ำนมให้ลูกดื่มค่ะ
ทิพย์เป็นคนหนึ่งค่ะ ที่ประทับใจในน้ำนมแม่มาก ๆ ค่ะ
และจากการที่ได้แนะนำคนอื่น ๆ ที่เค้าทำตามก็เห็นผลเหมือนกันค่ะ
ที่น่าประทับใจอีกอย่างค่ะ คนที่เราได้แนะนำเค้าไป เค้ากลับมาขอบคุณเราใหญ่เลยค่ะ
มาสนับสนุนการให้นมแม่ด้วยค่ะ
อ้อเป็นคนนึงที่ทำงานนอกบ้าน แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการให้นมแม่เลยค่ะ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าต้องให้ลูกกินนมแม่ให้ได้
ลูกสาวได้กินนมแม่จนถึง 2 ขวบกว่าๆ สุขภาพแข็งแรงมาก เข้าไปนอนโรงพยาบาลครั้งแรกตอน 3 ขวบครึ่ง
สุขภาพจิตดี ฉลาดสมวัย นมแม่มีประโยชทั้งทางร่างกายและจิตใจของลูกค่ะ
@แม่อ้อ-พ่ออาร์ต @ ประทุมทิพย์ ทั้ง2 ท่านน่าชื่นชมมากเลยค่ะ และยังมีคุณแม่อีกหลายท่านที่น่าชื่นชมเหมือนกันนะค่ะ สนับสนุนกันเต็มที่เลยเรา
มาสนับสนุนให้คุณแม่ให้นมลูกไปนานๆตราบเท่าที่แม่ลูกจะทำได้เลยนะคะ
เห็นด้วยอย่างเต็มที่เลยค่ะ เด็กที่กินนมแม่ในช่วงแรกเกิดถึงสองขวบจะไม่ป่วยเลย
และหลังจากนั้นนมแม่ก็ยังมีประโยชน์อยู่ ยังอุดมไปด้วยภูมิต้านทานและความสุข
ระหว่างแม่ลูกอีกด้วยนะคะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะแต่แม่ไม่มีน้ำนมและไม่ได้เลี้ยงลูกเต็มเวลา
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ..... และขอยกมือสนับสนุนค่ะ
แต่เรื่องการตลาดในบ้านเรามันรุนแรงมาก นายทุนก็เข้าไปมีบทบาทในรัฐบาล เราโดนฝังหัวเรื่องที่ว่าเด็กทุกคนต้องกินนมผงมาหลายสิบปี ชนิดที่ว่าคนอายุเหยียบหกสิบก็เห็นการกินนมผงเป็นเรื่องธรรมดาและทุกคนต้องกิน ขนาดของที่บ้านเอง พอเราทำท่าว่าจะให้นมแม่อย่างเดี๋ยวยังไม่เห็นจะได้รับเสียงชื่นชมเลย มีแต่มาพูดขัดขาว่า "แหม...ตามธรรมดาใครๆก็ต้องให้นมผงลูกบ้างอยู่แล้ว" อันนี้เป็นทั้งย่าทั้งยาย ประมาณว่ากลัวว่าเราจะเลี้ยงหลานไม่ดีให้นมหลานไม่อิ่ม สงสารหลานเกินความจำเป็น (ขอบ่นหน่อยนะคะ) แต่ยังดีที่สามีจบการตลาด เลยเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี และสนับสนุนเราเต็มที่ค่ะ คนที่สองนี่ยังไงก็จะต้องให้นมแม่กับลูกอย่างเดียวให้ได้ค่ะ
เข้ามาอ่านค่ะ ชื่อเรื่องนี่เป็นบทสรุปเลยนะคะ เห็นด้วยว่ามันเป็นที่จิตสำนึก
บางทีฟังเรื่องเพื่อนที่บอกว่าไม่มีน้ำนมให้ลูก เลยต้องใช้เครื่องปั๊ม ปั๊มทิ้งไว้ให้พี่เลี้ยงป้อนให้ตอนตัวเองไปทำงาน แล้วพอกลับบ้านก็ไม่ให้ลูกดูดนมตัวเองด้วย(ทำบ้าง แต่พยายามไม่ทำ) เพราะกลัวลูกจะติดอก แล้วไม่ยอมดูดนมจากขวด บอกว่าเวลาลูกดูดนมจากอกลุกชอบอมไว้เฉยๆ ไม่ยอมดูด ฟังแล้วก็เศร้าใจ
อยากบอกเขาว่า เป็นความเข้าใจที่ผิดมาก ที่คิดว่าเครื่องปั๊มจะทำให้ได้นมเยอะกว่าให้เด็กดูดจากอกแม่ สาเหตุที่นมน้อยลงๆ ก็เพราะแม่ไม่ให้ลูกดูดนี่แหละ แล้วจุกนมมันก็ดูดง่ายกว่านมแม่ด้วยมั้ง ลูกเลยไม่ยอมดูดนมแม่ เด็กเลยขี้เกียจ
ทั้งหมดนี้ไม่กล้าพูดกับเพื่อน เพราะว่าเราก็ฟังนางพยาบาลมาอีกที แต่ไม่เคยพิสูจน์เอง แบบว่าใครเตือนอะไรก็ทำหมด เลยไม่รู้ว่าถ้าทำแบบที่เพื่อนทำจริงๆมันจะมีผลอย่างที่คิดใช่หรือไม่ แล้วเพื่อนก็เป็นคนมั่นใจในวิธีเลี้ยงลูกของตัวเองมาก ถ้าไม่มีข้อมูลแน่นปึ้กจริงๆ ก็ไม่กล้าแย้ง
แล้วเพื่อนก็บ่นเรื่องลูกแพ้นมวัว ตัวเล็ก สารพัด
...คุณแม่สมัยใหม่เป็นแบบนี้เยอะนะคะ ชอบวัดผล ขี้กังวล แต่ไม่ยอมเลี้ยงลูกดีๆ มีเหตุผลเยอะ
ขอบคุณนะค่ะ ตั้งชื่อได้โดนใจมากๆค่ะ
ให้นมแม่มา 1 ปี 7 เดือนแล้วค่ะ มีนมวัวและถั่วเหลืองเสริมเนื่องจากน้ำหนักตกเกณฑ์ ก่อนหน้านี้มีแรงกดดันจากคนรอบข้างเยอะมาก จนถึงกับท้อ เกือบเลิกให้นมแม่แล้ว แต่พอคิดว่าจะต้องเลิกน้ำตาซึมเลยค่ะ เพราะผูกพันธ์กับลูกมาก (กลายเป็นแม่ติดลูก) ได้เข้ามาอ่านในเว็บแล้วรู้สึกได้กำลังใจ ได้ความมั่นใจว่ามีคนทำอย่างเราเยอะ ขอเป็นอีกแรงที่ช่วยสนับสนุนในส่วนของแพทย์นะคะ และขอบอกว่าที่รพ.มีเจ้าหน้าที่หันมาให้นมแม่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขอขอบคุณพี่พยาบาลคลินิกนมแม่นะค่ะ เด็กไทยจะได้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ท้องเสีย ลดลง
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by