เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน อย่างที่บอกไปแล้วว่ากำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ค่อนข้างเหนื่อยเพราะแพ้ท้องมาก แพ้ตั้งแต่เดือนแรกเลยค่ะ พอแพ้มากๆเข้าก็เกิดอาการพาลตามมา น่่าสงสารหนุ่มน้อยวัย 2ปี 6เดือน ต้องตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของแม่เขายังเล็กมากแต่ความอดทนเรามันต่ำลงจริงๆ
ก็เลยอยากจะขอแบ่งปันประสบการณ์ของคนที่เคยท้องแล้วต้องเลี้ยงลูกน้อยไปด้วย ว่าผ่านภาวะแบบนั้นไปได้อย่างไร หรือถ้าใครมีบทความดีๆอยากแนะนำให้อ่านก็ฝากลิงค์ไว้ได้นะคะ ขอขอบคุณมากจริงๆ
ปล.ตอนนี้จิตตกสุดๆ
Tags:
ดิฉันไม่มีบทความดี ๆ มาแนะนำคะ แต่แนะนำบุคคลที่จะให้ข้อคิดดีแก่ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งท่านนั้นคือ คุณแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่งเสถียรธรรมสถาน คะ คุณลองเข้าไปที่เว็บไซค์ ดูนะคะ ท่านจะมีข้อคิดดี ๆ ในการบริหารจิต และหากมีเวลาลองไปเข้าโครงการจิตประภัสสร ซึ่งจัดอบรมธรรมะและการเตรียมตัวเตรียมจิตของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งโครงการนี้จัดทุกสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน ลองดูนะคะ (ดิฉันเคยไปตอนท้องลูกคนแรกดีมากคะ) เอาใจช่วยคะ หากคุณไปอ่านข้อมูลแล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองก็ได้นะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ พยายามใจเย็น ๆ นะคะ สงสารหนุ่มน้อยนะคะ เพราะเด็กน้อยมีความรู้สึกไวต่อสิ่งที่มากระทบจิตใจนะคะ สู้ ๆๆ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีคะ อยากแชร์ประส่บการณ์ของตัวเองนะคะ เพื่อจะช่วยอะไรได้บ้างคะ ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นคะ อย่างที่รู้รู้กันว่าคนที่อยู่ต่างประเทศ ไม่มีผู้ช่วยต้องทำอะไรเองทุกอย่าง ทำงานบ้าน ทำกับข้าว เลี้ยงลูก ทำงานนอกบ้าน ไม่ทราบว่าบ้านอื่นเป็นอย่างไรนะคะ แต่ครอบครัวของอ้อม เราอยู่กันพ่อแม่ลูก ไม่มีผู้ช่วย ไม่มีญาติมาช่วย ทำเองทุกอย่าง ตอนท้องลูกคนที่สอง ลูกชายคนแรกอายุได้ประมาณสองขวบแปดเดือนคะ ตอนนั้นอยากให้ลูกไปโรงเรียนมาก ซึ่งเป็นสถานเลี้ยงเด็กของรัฐบาล การที่จะเข้าได้พ่อแม่จะต้องทำงาน ลูกถึงจะมีสิทธิ์เข้าพอไปสมัครงาน ได้งานทำ ลูกเข้าโรงเรียนได้ เดือนเดียวก็ตั้งท้องลูกคนที่สอง ถ้าออกจากงานลูกก็จะไม่ได้เรียนต่อต้องออก เพราะถ้าพ่อแม่ไม่ทำงาน เขาก็ให้ออก ด้วยความอยากให้ลูกเรียน จึงต้องอดทนทำงานต่อไป งานก็เป็นพนักงานเสริฟในร้านอาหารไทยนี่แหละคะ ตลอดระยะเวลา เก้าเดือนทำงานตลอด ถึงแม้ว่าลูกจะได้ไปโรงเรียนไม่เหนื่อยมาก แต่ก็ต้องอดทนกับอาการแพ้ท้อง พอท้องโตก็ต้องแบกท้องไปทำงาน ตื่นเช้ามา ทำงานบ้าน ทำกับข้าวให้ลูก ส่งลูกไปโรงเรียน จากนั้นไปทำงานต่อ เลิกงานก็ต้องรีบกลับมารับลูกให้ตรงเวลา ก่อนกลับก็ต้องแวะซื้อกับข้าวเพื อมาทำกับข้าวตอนเย็น หนักก็หนัก เพราะไม่ไดเอารถไปทำงานขึ้นรถไฟไปคะ พอรับลูกกลับบ้าน ก็ต้องรีบมาเก็บผ้าที่ตากไว้ เตรียมอาหารว่างให้ลูกทำอาหารเย็นรอสามีกลับมา อาบนำให้ลูก เอาลูกกินข้าว เข้านอนทุกอย่างต้องทำเวลา เพราะถ้านอนดึก ลูกก็จะตื่นสาย เป็นอย่างนีตลอดระยะเวลาเก้าเดือนเหนือยมากกกกก ตอนนั้นคิดเลยว่าคนเป็นแม่นี่มันเหนือยขนาดนี้เลยหรือ เพราะอยากให้ลูกได้ไปโรงเรียน เพราะถ้าอยู่บ้าน ก็ไม่มีเพื่อนเล่นสงสารลูก เราเล่นกับลูกอย่บ้านน่าจะสบายกว่าไปทำงาน นอนตื่นสายได้ แต่เราก็หมดมุขจะเล่นกับลูก เพื่อนบ้านญาติพี่น้องก็ไม่มี เล่นอยู่แต่กับเราสงสารเขา ก็เลยตัดสินใจไปทำงาน และแล้วลูกคนที่สองก็คลอดออกมา ด้วยการผ่าคลอดตามเดิม นอนอยู่โรงพยาบาลสองอาทิตย์ แม่ก้มาช่วยเลี้ยงลูก พอออกจากโรงบาลปุ๊ป ก็ต้องขับรถไปส่งลูกชายไปโรงเรียนไปกลับเช้าเย็นรวมกันก็วันละ หกสิบกิโลเห้นจะได้คะ พอคลอดออกมาแล้วก็เหนือยกว่าเดิมอีก คงไม่ต้องบอกนะคะว่าการเลียงเด็กเล็กเหนือยขนาดไหน แม่มาช่วยได้สามเดือนก็กลับไทย และตอนลูกคนที่สองอายุได้แปดเดือน ก็ตั้งครรภ์ลุก คนที่สามอีก ทั้งเหนือย ทั้งเครียดมากกกกก ร้องไห้ทุกวัน ทุกเวลาเพราะว่าเหนือยมาก เลยต้ดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยซักสามเดือน เอาลูกมาหมด ทุกคนถามว่ามายังไงคนเดืยว ลูก สี่ขวบคนหนี่ง สิบเดือนคนหนึ่ง สองเดือนในท้องอีก นั่งเครืองมาไง ตอนนี้ก็คิดอยากเดียวทำเพือลูก เดียวมันก็ผ่านไป เดี่ยวก็คลอด ตอนนี้ก็คิดได้แค่แบบนี้คะ ยังไงก็ขอให้อดทนนะคะ ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกมากคะ
อ่านแล้วอึ้งเลยค่ะ ทั้งเหนื่อยและลำบากกว่ากิ๊กเยอะเลย ตอนนี้กลับมาเมืองไทยแล้วคงจะสบายขึ้นนะคะ ตอนนี้คงท้องแก่ใกล้คลอดแล้วรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ต้องเลี้ยงลูก2คนแถมท้องอีกตั้งหากต้องใช้ความอดทนอย่างสูงเลยนะคะสู้ๆค่ะ
บางทีก็อยากให้มีใครสักคนรับฟังความทุกข์ใจของเราบ้างอย่างน้อยก็เพื่อเป็นการระบาย
ขอขอบคุณพื้นที่ดีๆแห่งนี้นะคะ
พี่ตอนนี้ก็ท้องอยู่เหมือนกัน ตอนตั้งท้องแรกๆก็แพ้ท้อง ปวดหัวไมเกรนมาก เป็นถึง 5 เดือน แล้วก็ต้องดูแลสองสาว เรอิ-เลอาด้วย และก็ยังทำงานอยู่ ตอนนั้นเหนื่อยมากๆ ทำให้บางทีก็อารมณ์ไม่ดีใส่ลูกเหมือนกัน ยิ่งเวลาที่ลูกงอแงหรือทะเลาะกัน ตอนอารมณ์เย็นลง ก็คิดสงสารลูกเหมือนกัน ตอนหลังก็เลยพยายามเลี่ยงเวลาที่อารมณ์ไม่ดี ก็จะให้พ่อช่วยดูแทน
บางทีลองคิดถึงลูกตอนที่เค้าน่ารัก อย่างเช่น มาบอกรักแม่ หรือจุ๊บแม่ ก็ทำให้อารมณ์เย็นลงได้จ้ะ
ขอบคุณค่ะ
เป็นเหมือนกันค่ะ แต่แอมพยายามให้อารมณ์พาลของเราเกิดน้อยที่สุดค่ะ เพราะอารมณ์เสียใส่เค้าทีไรเราที่แม่ก็เสียใจทุกครั้งค่ะ เวลาโกรธหรือเริ่มอารมณ์เสีย เราก็จะพยายามเลี่ยงไม่ให้เกิด อย่างบางทีพออารมณ์เริ่มขึ้นก็จะพยายามไม่ยู่ตรงนั้น จะเดินออกไปนอกบ้านให้หายโกรธก่อน ประมาณว่าแยกตัวกันก่อนชั่วคราว ลูกเค้าก็จะงงหน่อยช่วงแรก พอหลายครั้งเค้าจะรู้แล้วว่านี่คือแม่โกรธนะ ก็จะมีจ๋อยๆ มาง้อแม่เหมือนกันค่ะ หลังๆเราได้ทีเวลาลูกดื้อหรือซน เราก็จะแกล้งโกรธลูก แล้วให้ลูกขอโทษ เสร็จแล้วก็หลอกให้ลูกหอมซ้ายที ขวาที เป็นช่วงนาทีทอง เพราะปกติลูกชายไม่ค่อยยอมอยู่นิ่ง ให้มาหอมก็ไม่ยอม จะหอมก็ไม่ให้ค่ะ แต่ลูกเค้ารักเรา กลัวเราโกรธแล้วไม่เล่นกะเค้า เค้าก็มาหอมเรา แม่ก็เลยชื่นใจเลย ลองเอาไปปรับใช้ดูนะค่ะ
.เมื่อคืนเพิ่งอารมณ์พาลใส่เค้าเองค่ะ แล้วตัวเราเองก็มานั่งเสียใจมากๆๆด้วย การเลี้ยงลูกนี่เป็นการฝึกความอดทนของเรามากเลยแหล่ะค่ะ แต่ไม่ใช่เพราะท้องนะค่ะ เพราะตอนนี้คลอดคนเล็กออกมาแล้วค่ะ ได้ 3 เดือน แล้ว แต่อยากบอกว่าตอนท้องว่าเครียดแล้วนะค่ะ เวลาที่คลอดอีกคนออกมานี่เครียดหนักกว่า เพราะเราต้องให้เวลาคนเล็กมากโดยเฉพาะเดือนแรก เพราะเป็นช่วงที่แม่เพลียด้วย แล้วก็ยังเป็นช่วงเวลาที่เรียกย้ำนมแม่ได้ดีที่สุดด้วย แบ่งเวลาไม่ถูกเลยล่ะ ความรักเรามีให้ทั้งคู่เท่ากันแต่ความห่วงใยจะมีให้คนเล็กมากกว่าเพราะเราเพิ่งคลอกออกมา เพราะฉะนั้นอยากให้คุณแม่เตรียมใจไว้ให้ดีด้วยนะค่ะ เพราะช่วงเดือนแรกเราจิตตกมากๆๆๆๆๆๆ ไหนจะคิดถึงลูกคนแรก ไหนจะลูกอีกคนที่ต้องให้นมอีก อันนี้ยังเบาะนะค่ะ เดี๋ยวมีอีกระลอกตอนที่น้องเริ่มโตตื่นมาเล่น ลูกคนโตที่เป็นพี่จะมีความอิจฉาน้อง เพราะเค้าจะเห็นเราอุ้มและโอ๋น้อง อันนั้นก็เป็นเครียดอีกแบบหนึ่งค่ะ
ปล.ของแอมเครียดมากสุดตอนคลอดคนทเล็กออกมาค่ะ เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวของทั้งครอบครัวด้วย ยังไงก็สู้ๆนะค่ะ ขอให้คุณแม่มีสุขภาพจิตที่ดีนะค่ะ อย่าเครียดค่ะ เดี๋ยวลูกคนเล็กหน้าบึ้งนะค่ะ การมีลูกไม่ว่าจมีกี่คนก็จะทำให้เรามีความสุขมากค่ะ
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ตอนดุลูกแล้วเราก็มานึกเสียใจเองทุกครั้งว่าทำอย่างนี้กับลูกทำไม สงสารเค้ามากๆ ค่ะ แต่ตัวเองเป็นคนใจร้อนมากค่ะ จะเอาตัวยอ่างที่คุณ amm มาปรับใช้บ้างค่ะเวลาอารมณ์เสียก็จะเดินออกไปก่อน น่าจะดีกว่าปล่อยให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยกลับมาหาลูก สงสารลูกมากเลยค่ะ เสียใจกับการกระทำของตัวเองทุกครั้ง ไม่รุ้ว่าทำตอนนี้ยังทันหรือปล่าว
เพิ่งเข้ามาอ่าน ยินดีด้วยนะคะ ส่วนคำแนะนำคงเข้ามาแอบอ่านของคนอื่นเพราะขนาดไม่ได้ท้องยังอารมณ์แปรปรวนเลยค่ะ ลูกชายนับวันยิ่งแสบค่ะ สู้ ๆ นะคะ
กินยาแก้แพ้ดีกว่าค่ะ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่ดีกว่าเอาอารมณ์ที่ไม่ดีไปใส่ในเด็กอีกคน มันไม่ยุติธรรมค่ะ และ คุณก็จะรู้สึกผิดกับลูกมาก ก็จะทำให้เกิดความเครียด ซึ่งไม่ดีกับลูกทั้งสอง
ดิฉันชอบว่ายน้ำ ตอนท้องดิฉันก็ไปวายน้ำทำให้รู้สึกดี ลดการแพ้ท้องค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by