เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
Tags:
รถเราสีอะไร
What colour is our car?
รถคันนั้นสีอะไร
What colour is that car?
หนูชอบสีอะไร
What colour do you like?
What is your favorite color? สีโปรดของหนูคือสีอะไร
เรากำลังเลี้ยวซ้าย (ขับรถอยู่คะ จะเลี้ยวเข้า มบ.)
We are turning left.
เราจะไปตลาดนัด
We will go to the market.
เรากำลังไปตลาดนัด
We are going to the market. / We are driving to the market.
เราไปตลาดนัดมาแล้ว
We went to the market already.
ต่อ puzzle ภาพสัตว์ หรืออื่นๆ เวลาจะบอกให้เอาชิ้นส่วนนั้นๆ ต่อเข้าที่คะ ใช้ "put it/them together" หรืออะไรคะ
Put them together. เอาชิ้นส่วนพวกนั้นต่อเข้าด้วยกัน
ขึ้นลง บันไดไม่กี่ขั้นคะ เช่น บันไดทางเข้าห้าง ร้านต่าง ๆ คะ เราจะเรียก เป็นบันไดหรือบันไดบ้าน (stair) หรือไรคะ
เช่น เค้าบอกอย่างเข้าไปใน ออฟฟิต ที่จะมีบันไดทางขึ้นประมาณ 4-5 ขั้นคะ ใช้ go upstair เลยหรือเปล่าคะ หรือ step up คะ
น่าจะใช้ step up , go up นะคะ ส่วน go upstair ขึ้นชั้นบน
แล้วบ้านของเล่น ที่มีปีนป่าย มีบันได ขั้นน้อยๆ แล้ว สไลดเดอร์ ลงมา เวลาเราจะบอก "ปีน / ก้าวขึ้นไป แล้วสไลลงมา"
Climb up step up and slide down.
ขออนุญาตตอบครับ
รถเราสีอะไร -> What color is our car?
รถคันนั้นสีอะไร -> What color is that car?
หนูชอบสีอะไร -> What color do you like?
เรากำลังเลี้ยวซ้าย... -> We're turning left.
เราจะไปตลาดนัด -> We will go to the market.
เรากำลังไปตลาดนัด ->We are going to the market.
เราไปตลาดนัดมาแล้ว -> We have been to the market already.
(คำว่าตลาดนัด ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้ภาษาอังกฤษที่มีความหมายตรงสุดคำว่าอะไร flea market ก็หมายถึงตลาดที่ขายของมือสอง หรือของเก่า แต่ตลาดนัดที่ขายของทั่ว ๆ ไปทั้งของสด ของใช้ ของกิน เพียงแต่มานัดเจอกันขายของแค่บางวันของสัปดาห์ ผมยังไม่แน่ใจ dictionary บางที่ก็เรียก market fair แต่จากที่ฝรั่งเรียกจะบอกว่าเป็น market แต่เพิ่มคำขยายตามลักษณะเลยเช่น once-a-week market หากผู้รู้ท่านใดทราบช่วยบอกด้วยครับ)
ต่อจิกซอว์ -> Connect this piece with that piece.
บันไดที่มี 4-5 ขั้นอย่างที่ยกตัวอย่างก็เรียก stairs หรือ จะเรียกว่า steps ก็ได้ครับ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าไปในออฟฟิศก็จะพูดว่า You can walk up the steps/stairs to get into the office.
ปีน/ก้าวขึ้นไป แล้วสไลด์ลงมา -> Climb up (the steps) and go down the slide. ภาษาอังกฤษสำหรับ ไม้ลื่น จะเรียกว่า slide ครับ จะไม่ใช้ slider เหมือนที่เรียกในภาษาไทย (หากจะถามว่าจะเล่นอีกไหมก็ถามว่า Do you want one more go on the slide?)
ขออนุญาตอบเรื่องตลาดนัด
ไม่ค่อยแน่ใจในคำตอบ แต่ก็ลองดูนะคะ
ตลาดนัดที่เคยเห็น ก็เรียกว่า market เฉยๆเลยค่ะ
ถ้าเป็นตลาดนัดตอนกลางคืน ก็มักจะเรียกว่า night market ไปเลย
แต่ตลาดนัดที่มีอาทิตย์ละครั้ง ก็จะระบุไปเลยว่ามาวันไหนอ่ะค่ะ
อย่างเมื่อก่อน ชอบไปเดินตลาดนัดที่ มศว มีเฉพาะวันพุธ ก็เรียก Wednesday market
ตอนหลังพอมันเปลี่ยนมาเป็นมีสองวันต่ออาทิตย์ คือ พุธกับพฤหัส ก็เรียกไปว่า มศว market
หรือบางทีก็เรียก midweek market ไปเลย เพราะว่าอยู่กลางสัปดาห์พอดี โดนซะ
ถ้ามานัดกันวันอื่นก็เปลี่ยนชื่อไปตามวัน Sunday market, Tuesday market อารายแบบนั้นค่ะ
หรือตลาดนัดที่มีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ก็เรียกไปว่า Weekend market.
market fair เห็นคนบ้านเราใช้เยอะ แต่ไม่แน่ใจว่ามันถูกต้องตามเจ้าของภาษาหรือเปล่านะคะ
ขอบคุณค่ะ
ยินดีที่เข้ามาบอกคะ ได้ความรู้เพิ่มอีกด้วยคะ จะได้ไปประยุกต์ใช้คะ
แล้วตล๊าด ตล้าด ตลาด แบบ ตลาดสด ทั่วไป เรียก market เฉยๆ หรือต้องมีอะไรขยายไหมคะ
เพราะเดี๋ยวนี้ในห้าง ก้อมีตลาดติดแอร์ ไม่ไหวจะเคลีย เลย
ตลาดสด จะเรียก fresh market หรือ open-air market ก็ได้ครับ
went เหตุการณ์ในอดีตที่จบแล้ว
have + V3 เหตูการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแต่ยังไม่จบ
รอท่านอื่นมาช่วยเพิ่มเติมนะคะ
ที่คุณรัชนีบอกถูกต้องครับ แต่ขออนุญาตเสริมเพิ่มเติมครับ ทั้ง 2 แบบความต่างอยู่ที่ความหมายที่เป็นผลมาจากใช้ tense ที่ต่างกันซึ่งหนังสือ English grammar หรือในเว็ปหลาย ๆ เว็ปมีอธิบายความต่างระหว่าง Present Perfect tense และ Past tense ซึ่งลองทำความเข้าใจดูได้ครับ แต่เอาเฉพาะ "have been" และ "went" แบบตรงประเด็น ความหมายที่เป็นภาษาไทยที่เข้าใจง่ายสุดของ have been ที่หมายถึง ไป ในที่นี้คือ "เคยไป" หรือ "พึ่งไปมา" แต่ went จะหมายถึง "ไปมาในอดีตเมื่อ.." เช่น
เธอเคยไปเมืองนอกหรือเปล่า -> Have you been abroad?
ตอบ: ใช่ เคยไปมาแล้ว -> Yes, I have been abroad. (หรือ Yes, I have.) แต่ ฉันไปฝรั่งเศสมาปีที่แล้ว -> I went to France last year. จะเห็นว่าหากไปมาในอดีตที่มีระยะเวลาแน่นอน จบแล้ว และไม่มีผลต่อเนื่องต่อตัวเราในปัจจุบันก็จะใช้ past tense คือ went
อีกตัวอย่าง:
เธอไปงานราชพฤกษ์ที่เชียงใหม่ตอนปีใหม่มาหรือเปล่า (เพราะเราเคยคุยกันว่าจะไป) -> Did you go to Royal Flora Ratchaphruek show on New Year holidays?
เธอไปงานราชพฤกษ์ที่เชียงใหม่มาหรือยัง (ไม่เคยคุยกันมาก่อนว่าจะไป แต่ถามเพื่อนแบบทั่ว ๆ ไปเผื่อเคยไปงานนี้มาแล้วและจะได้เมาท์ต่อเรื่องนี้) -> Have you been to Royal Flora Ratchaphruek show?
ขอเสริม "has gone" :
ระยะนี้ไม่เห็นป้าเธอเลย ป้าเธออยู่ไหนเหรอ -> I haven't seen your auntie lately. Where is she?
ตอบ: อ๋อ ป้าฉันไปเมืองจีน จะกลับสิ้นเดือน Oh, my auntie has gone to China. She'll be back at the end of this month ในประโยคนี้ป้าไปแล้ว และ ยังไม่กลับ จะใช้ has gone ไม่ใช้ has been แต่หากเป็น:
ไปแล้ว และ กลับมาแล้ว และวันนี้ทำงานอยู่ที่ทำงาน จะใช้ Past tense เป็น: Oh, she went to China last December. She is back now and is working at office today.
หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้านนะครับ รอท่านอื่น ๆ มาเสริมด้วยครับ
ขยายความโดยขออ้างอิงข้อมูลจาก Longman Dictionary Online ด้วยนะครับ เพราะผมคิดว่าเขาอธิบายได้ชัดเจนดี:
1. has/have been = has gone to a place and come back (ไปสถานที่หนึ่ง แล้วกลับมาแล้ว)
และอีกความหมายหนึ่งจะ = has travelled to (ไปเที่ยวที่...มา)
ดังนั้น ในกรณีที่จะบอกว่าไปสถานที่หนึ่ง ๆ มาแล้ว(รวมถึงประเทศอื่นๆ, ฯลฯ) และกลับมาแล้ว จะให้ has/have been เช่น:
- Have you ever been to Japan? Yes, I have been there. (เธอเคยไปญี่ปุ่นมาหรือยัง ใช่ ฉันเคยไปมาแล้ว)
- I have been to Central Chaengwattana to look for a gift. (ฉันไปเดินหาของขวัญที่เซ็นทรัลฯมา)
แต่หากต้องการพูดถึงการไปมาที่เฉพาะเจาะจงในอดีต และจบไปแล้ว (to talk about specific trip you made in the past) จะใช้ simple past tense คือ "went" เช่น I went to meet my friend at Central last Wednesday. ซึ่งจะเห็นว่าจะมีวลีขยายให้เจาะจง ในที่นี้คือ last Wednesday.
ขอยกอีกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น
Have you ever been to Japan? Yes, I have been there. I went there 2 years ago. (= เคยไปญี่ปุ่นไหม ใช่ เคยไปมาแล้ว ฉันไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว)
2. has/have gone
2.1. อันนี้หาก gone เป็น verb ช่อง 3 (past participle) ใช้กับ Has/have + gone จะหมายถึงไปแล้วและยังไม่กลับมา Our kids have gone to grandma's house. (ลูกๆ ได้ไปอยู่ที่บ้านย่า = ยังไม่กลับ ยังอยู่ที่บ้านย่าอยู่ในตอนที่พูดอยู่นี้)
2.2. หาก gone ทำหน้าที่เป็น adjective ใช้ตามหลัง verb "to be" จะหมายถึง:
2.2.1. เสียชีวิต/ตายไปแล้ว หรือ ไม่อยู่แล้ว (to be dead or to no longer exist) เช่น My lovely dog has been gone for several years. (หมาที่น่ารักของฉันตายไปหลายปีแล้ว จะเห็นว่า gone เป็น adjective จึงใช้ to be + gone แต่ในประโยคนี้สื่อความหมายว่าได้ตายไปหลายปี แต่ไม่เจาะจงเวลาในอดีตจึงใช้ประโยคเป็น present perfect ด้วย )
หรือ Many of his the factory workers are gone now after the flood. (พนักงานโรงงานไปกันหลายคนแล้ว (= ไม่มีงานทำ ไปแล้ว ไม่อยู่แล้ว) หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม )
2.2.2. ไม่อยู่ในสถานที่หนึ่ง ๆ แล้ว (หรือหาย) เช่น I left my mobile phone on the table and now it is gone. (ฉันวางมือถือไว้บนโต๊ะก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว = หายไป )
หรือ He was angry at me this morning and was gone. (เขาโมโหฉันและก็ไม่อยู่กับฉันที่นี่แล้ว)
หรือ He has been gone from Bangkok for more than 10 years. (เขาไม่อยู่ที่กรุงเทพฯ (หรือไปจากกรุงเทพ)มากกว่า 10 ปีแล้ว
มีอีกคำหนึ่งที่ใช้กันเยอะซึ่งมีความหมายภาษาไทยว่า ไปแล้ว เหมือนกันคือคำ adjective ว่า "away" ครับ โดยใช้กับ verb "to be" เช่น He has been away from Bangkok for more than 10 years. จะมีความหมายเหมือนประโยคที่ยกตัวอย่างมาหลังสุดก่อนหน้านี้ครับ
3. Will + be
3.1. Will be + adjective ก็แล้วแต่คำ adjective ที่จะสื่อความหมายเช่น He will be away for a few days. (เขาจะไม่อยู่ หรือไปจากที่นี่ซัก 2-3 วัน) หรือ My kid will be 3 at the end of this year. (ลูกผมจะอายุ 3 ขวบปลายปีนี้)
3.2. Will be + verb ก็จะเป็น Future Continuous Tense บ่งบอกถึงการกระทำที่จะเกิด และดำเนินเรื่อง ในช่วงเวลาที่เจาะจงในอนาคต เช่น In April this year, her kids will be taking special lessons on math. = เมษาที่จะถึงปีนี้, ลูกของเขาก็จะกำลังเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์
หรือ You will be enjoying many ride-on toys when we are at the shopping mall this coming Saturday. = เสาร์ที่จะถึงนี้ หนูจะกำลังสนุกอยู่กับเครื่องเล่นหยอดเหรียญต่าง ๆ เมื่อหนูอยู่ที่ห้าง
หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ
ขอบคุณทุกท่านคะ ไว้จะหาภาพมาประกอบการถามด้วยคะ จะได้ชัดเจนขึ้นคะ
แล้วจะมารบกวนทุกท่านอีกนะคะ
ไม่ท้อที่จะปูความรู้ให้ลูกน้อย ไม่ถอยแม้จะพูดบ่ ได้ ^^
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by