เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

น้องกันต์ตอนนี้ 1 ขวบ 1 เดือน ยังพูดไม่ได้ค่ะ แต่ว่าเริ่มเถียงแล้วค่ะ อย่างเวลาทำอะไรไม่ถูกต้องเช่น รังแกพี่ พอแม่ห้าม จะหันมามองหน้าแม่แล้วกรี๊ดใส่เลยค่ะ จ้องตาไม่กระพริบเลย ตอนนี้ที่ทำอยู่คือทำไม่สนใจ แค่อธิบายย้ำสิ่งที่เค้าทำว่าไม่ถูก แล้วก็จะอุ้มไปเล่นอย่างอื่นเลยค่ะ

อีกอย่างคือชอบตีแม่ค่ะ ใครมีลูกวัยนี้ ขอความเห็นหน่อยค่ะ

Views: 463

Replies to This Discussion

อย่างนึงที่พยาบาลที่นี่สอนมาคือ อย่าให้ลูกเป็น บอส ของพ่อแม่ค่ะ
อย่าปล่อยให้มันผ่านไปค่ะ เพราะเค้าจะคิดว่าทำได้ ไม่เป็นไร แพทแนะนำว่าให้เริ่ม time out ได้เลย ถ้าคุณจิ๊๊มีเก้าอี้นั่งสำหรับเด็ก รัดได้ไม่ให้เค้าตก ขอแนะนำว่าถ้าเค้าทำผิด กรณีนี้คือรังแกพี่ คุณจิ๊ไปห้าม แล้วเค้าไม่หยุดหรือกรี๊ดใส่ ให้อุ้มไปนั่งเก้าอี้เลย หันหน้าเข้าผนังหรือมุมห้องก็ได้ แล้วบอกเค้าว่าเค้าทำไม่ถูกต้องนะ จากนั้นเราก็ถอยห่างออกมาเลย ปล่อยให้เค้าสงบจิตสงบใจ เค้าอาจจะร้องโวยวาย ทิ้งไว้แป๊ปนึงแล้วค่อยเข้าไปหาเค้าพูดอธิบายดีๆ แล้วค่อยให้ไปเล่นต่อ ถ้าเค้าทำอีกก็จับไป time out อีก แรกๆจะยากหน่อย แต่สักพักเค้าจะรู้ว่าถ้าเค้าทำไม่ดีก็จะถูกทำโทษ ให้ไปนั่งคนเดียว

บางทีเค้าไม่เข้าใจ แต่ถ้าเราพาเค้าไปหาของเล่นอื่น เค้าก็จะไม่ทราบว่าสิ่งที่เค้าทำมันผิด แถมแม่มาสนใจหนู พาหนูไปเล่นของเล่นด้วยนะค่ะ
"อย่าให้ลูกเป็น บอส ของพ่อแม่ค่ะ" ข้อนี้เห็นด้วยเลยค่ะ จันทร์เจ้าถ้ารังแกพี่ก็โดนทามเอ้าท์เหมือนกันค่ะ
time out สำหรับเด็กวัยนี้ ไม่ถือว่าเร็วไปใช่มั้ยคะ คุณแพท คุณอ๊อบ แล้วคือทำอาการขนาดไหนถึงจะต้อง time out คะ เป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับจิ๊ค่ะ เคยอ่านแต่คุณแม่ท่านอื่นทำ time out แต่คิดว่าเด็กประมาณสองสามขวบค่ะ
Time out มันไม่ใช่การทำโทษอะไรมากเลยค่ะคุณจิ๊ จริงๆมันคือการให้เค้ารู้จักคิดถึงสิ่งที่ได้กระทำลงไป ของแพทบางครั้งแค่เรียกแล้วไม่ยอมมาก็โดนแล้วค่ะ เพราะเราต้องการสอนให้เค้ารู้ว่า ถ้าแม่เรียกแล้วต้องมานะ จะมาทำอิดออด หูทวนลมไม่ได้ ลูกต้องเชื่อฟังแม่ กริยาใดที่เค้าทำแล้วไม่เหมาะสม ให้ใช้วิธีตักเตือนก่อนค่ะ แต่ถ้าเตือนแล้วไม่หยุด ก็นับ 1, 2 ก็จะโดน ทามเอาท์เลยค่ะ ไม่มี 3

ข้อสำคัญคือ หลังจากที่ได้ให้เค้าไปสงบจิตสงบใจ ได้ลองคิดทวบทวนดูว่าสิ่งที่เค้าทำลงไปถูกต้องแล้วหรือไม่ คือการคุยกันระหว่างผู้ที่ถูกทามเอาท์ กับผู้ที่สั่งทามเอาท์ (ขอย้ำว่าต้องเป็นคนที่สั่งทามเอาท์เท่านั้นที่จะให้เค้าเลิกทามเอาท์ได้ คือถ้าแม่เป็นคนสั่ง แม่ต้องเป็นคนบอกยกเลิก จะมาให้พ่อ หรือปู่ ย่า ตา ยาย มายกเลิกคำสั่งของเราไม่ได้ เพราะอีกหน่อยจะมีปัญหาทีหลังเรื่องที่เด็กจะไม่เชื่อฟังนะค่ะ) ต่อ ผู้ที่สั่งทามเอาท์ จะต้องไ่ม่โกรธนะค่ะ คุยด้วยเหตุผลดีๆว่าทำไมเด็กถึงได้โดนให้ไปทามเอาท์ ถามเค้าว่าที่ทำลงไปสมควรแล้วหรือไม่ เค้าจะทำกริยาที่ไม่เหมาะสมแบบนั้นอีกรึเปล่า จากนั้นอันนี้สำคัญค่ะ คือกอดเค้า แล้วบอกให้ลูกรู้ว่าแม่รักเค้าแค่ไหน อยากให้เค้าเติบโตขึ้นเป็นคนดี

เพื่อนแพทเริ่มตั่งแต่ลูกเค้ายังไม่ถึงขวบเลยค่ะ แต่เราก็ให้เค้าอยู่ในสายตาของเรา พอเด็กโตขึ้นแล้วก็อาจจะให้เค้าไปยืนเข้ามุม หรือเข้าไปอยู่ในห้องเลย โรงเรียนที่นี่ก็ใช้ระบบนี้กันค่ะ
ทามเอ้าท์รักษาโรคหูทวนลมได้ใช่มั้ยค่ะ งั้นต้องเอามาใช้กับลูกชายบ้านนี้ซะหน่อย หุหุ
ขอบคุณค่ะคุณแพท จิ๊จะลองทำดูนะคะ แล้วผลลัพธ์เป็นยังงัยจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ถามเผื่ออีกหน่อยนะคะ เผื่อว่าตอนที่เราจับเค้านั่งทามเอาท์แล้วเค้าร้องโวยวายเนี่ย คือเราทำเฉย ๆ ให้รอจนครบเวลาเหรอคะ แล้วถ้าเค้าร้องจนอ้วก ทำงัยดีค่ะ ถามเผื่อค่ะ เพราะน้องกันต์เคยร้องแล้วแค่นจนอาเจียนออกมาสองครั้งแล้วค่ะ ตอนนั้นเดินทางกันสองคนช่วงสั้น ๆ ให้เค้านั่งในคาร์ซีทค่ะ แล้วเค้าไม่ยอม เราก็ขับรถอยู่ ก็พยายามบอกเค้าว่าแป๊บเดียว จะถึงแล้วลูก ปรากฏว่าเธออ้วกเลยค่ะ พอดีถึงที่หมายด้วย ก็เลยหันไปหาเค้าแล้วบอกว่า หนูทำแบบนี้แม่ไม่ชอบนะ แล้วตีมือทีนึงค่ะ

คือว่าลูกชายฤทธิ์เยอะค่ะ ขอทางเลือกแนะนำไว้ก่อนเลยได้มั้ยคะ
แบ่งปันประสบการณ์นะคะ ดิฉันใช้หลักเหมือนคุณแพทค่ะ คือ อย่าให้ลูกเป็น บอส ของพ่อแม่ เวลาลูกมีน้ำโหแบบไร้เหตุผล จะดุเลยค่ะไม่ปล่อย แต่ไม่เสียงดังใส่นะคะ เรานิ่งก่อน รอดูว่าลูกจะออกฤทธิ์ยังไง (รอไม่นานค่ะ) ก็จะปรามว่ากิริยาแบบนี้ไม่น่ารัก แม่ไม่ชอบ เด็กดีไม่มีใครทำกัน ที่ทำอยู่ไม่ถูกเพระอะไร ไปคิดดูดีๆ แม่จะไม่คุยกับคนที่กำลังโกรธ ไปสงบสติอารมณ์ก่อน หายโกรธและเงียบเสียงเมื่อไหร่ค่อยมาคุยกัน (ก็เหมือน time out) นั่นล่ะค่ะ เพียงแต่ว่าแม่ก็ดุก็บ่นไปพร้อมกันด้วยเพื่อให้เค้ารู้ว่าทำไมโดนทำโทษ หลังจากนั้นก็จะเงียบกันไปเลย แม่ก็ทำงานของแม่ ลูกก็นั่งหรืออยู่ในมุมเงียบของลูก พักใหญ่พอดูท่าว่าลูกปกติแล้ว จะรอให้ลูกพูดหรือถามเราก่อนค่ะ แล้วก็จะยิ้มให้ เข้าไปกอดแล้วอธิบายการทำโทษของแม่อีกที คราวนี้เป็นสอนค่ะ ไม่ดุ ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ลูกแสดงออกมาไม่ดียังไง ไม่มีเหตุผลยังไง ก็พูดไปยาวเหมือนกัน แต่ไม่กำชับนะคะว่า ต่อไปอย่าทำอีก เพราะลูกจะไม่เข้าใจค่ะคำว่า ต่อไป หมายถึงอะไร เด็กๆ อยู่กับปัจจุบัน อย่าไปให้เค้าสัญญาเรื่องอนาคต แล้วก็ไม่ต้องรื้อฟื้นอดีตว่าเค้าเคยทำอะไรไว้ การกระทำของเด็กเป็นปัจจุบัน การสอนก็เลยเป็นปัจจุบัน (แต่เหตุการณ์เพิ่งเกิดก็จะเอามาพูดสอนเมื่อลูกอยู่ในอารมณ์ปกติหลังจาก time out ไปแล้ว แล้วก็จบกันค่ะ ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ หรือคล้า่ยกันนี้อีกก็จะทำอีก แต่จะไม่บอกว่าทำไมสอนไม่จำบอกไม่จำ เนื่องจากเด็กเรียนรู้จกาการทำซ้ำ ความผิดหรือพฤติกรรมไม่ดีของเค้าก็จะเกิดซ้ำๆ ได้อีก คุณแม่ก็ต้องแก้ผิดเป็นถูกแบบซ้ำๆ น่ะค่ะ แล้วพฤติกรรมจะค่อยๆ ดีขึ้น และหายไป
เรื่องการตีแม่ก็เหมือนกันค่ะ คุณจิ๊คงต้องแสดงอาการไม่ชอบใจให้ลูกเห็นชัดๆ ว่าการตีแม่นั้นไม่ดี ไม่ควรทำ ทำแล้วแม่เจ็บ แม่จะร้องไห้ แม่จะโกรธ หรืออะไรก็ว่าไป แล้วก็ต้องทำให้เค้าเห็นจริงๆ ว่าแม่ไม่ชอบ คือถ้าเค้าตีก็จะหยุดกิจกรรมต่างๆ ที่กำลังทำอยู่กับเค้า สั่งสอนซะก่อนว่าไม่ดีอย่างไร สอนแล้วก็ควรให้ลูกขอโทษด้วยนะคะเพราะถือเป็นการทำร้ายพ่อแม่ (แม้ไม่ตั้งใจ) เดี๋ยวลูกเป็นบาป กรณีตีแม่นั้นดิฉันจะบอกลูกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี จะทำให้เป็นบาปตกนรก (พอดีว่าจะชอบอ่านหนังสือ ไตรภูมิพระร่วง ฉบับการ์ตูน ให้ลูกฟังบ่อยๆ ค่ะ เล่าเรื่องดี-ชั่ว นรก สวรรค์ เป็นยังไง) ใช้มุกนี้ลูกก็กลัวค่ะ แต่พอลืมๆ ไปก็จะตีอีก เลยจะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันสอนลูก โดยบอกว่า ลูกตีแม่แม่เจ็บค่ะ แม่ไม่ชอบเลย ลูกชอบทำให้แม่เจ็บเหรอคะ .. ลูกไม่ตอบค่ะ แม่ก็ตีลูกบ้าง (แบบไม่เจ็บนะคะ แค่พอให้รู้สึกนิดๆ ทำหน้าดุๆ นิดหน่อย) บอกลูกว่า ถ้ามีคนอื่นมาตีลูกแบบนี้และแรงกว่านี้ ลูกจะเจ็บมั้ย (ถ้าลูกกวนก็จะบอกว่า ไม่เจ็บ) แล้วลูกชอบมั้ย ชอบให้คนอื่นตีลูกมั้ย พอถามว่าชอบมั้ยเท่านั้นล่ะค่ะ ลูกจะบอกว่า ไม่ชอบทันทีเลย ก็เข้าทางคือ บอกว่า ถ้าเราไม่ชอบให้คนอื่นทำกับเราแบบนี้ เราก็ต้องไม่ทำกับคนอื่นแบบเดียวกัน รวมทั้งไม่ทำกับพ่อแม่ ลูกทำได้มั้ย (ถามย้ำเพื่อให้เค้าจำใส่ใจเท่านั้นค่ะ ว่าการตีแม่/คนอื่นมันไม่ดี) พฤติกรรมตีแม่ จะเกิดซ้ำๆ เหมือนกัน ก็ต้องสอนซ้ำๆ เดี๋ยวก็แก้ไขได้ค่ะ ดิฉันมักใช้หลักตาต่อตาฟันต่อฟันสอนลูกเรื่องเพื่อนด้วยค่ะ เช่น การแบ่งปัน การไม่แย่งของจากมือเพื่อน การตีหรือทำร้ายเพื่อน (แม้ไม่ตั้งใจ) ประเด็นคือ อะไรก็ตามที่ลูกไม่อยากให้คนอื่นทำกับลูก ลูกก็ต้องไม่ทำกับคนอื่น และอะไรก็ตามที่ลูกทำดีกับเพื่อน ลูกจะได้สิ่งดีๆ นั้นกลับมา เช่นแบ่งของให้เพื่อน อีกวันเพื่อนก็เอาของมาให้บ้าง เป็นต้น ..เขียนยาวเลยค่ะ อ่านจบป๊ะเนี่ย!!!! อิ อิ
ขอบคุณมากค่ะ โห ได้หลายเทคนิคเลย จริงๆ บางอันก็ใช้อยู่ค่ะ เพราะลูกคนแรก ก็เหมือนเราเรียนรู้ลูกไปด้วย แต่ที่ผ่านมา กลุ้มใจนิดหน่อยเพราะรู้สึกว่าวิธีการที่ท้าทายน้องกันต์จะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ค่ะ ประมาณยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุค่ะ เวลาตีเค้า เค้าจะมองหน้าแต่ไม่ร้องไห้ จึงรู้สึกว่าตีไปก็ไม่ได้ผล ส่วนเวลาเรา(ทำเป็น) โกรธ หรือไม่สนใจเค้า เค้าก็จะเมินเราด้วยค่ะ พอซักพักใหญ่ ๆ เห็นเรายังไม่สนใจ เค้าจะค่อย ๆ เขยิบเข้ามาแล้วก็กอดกะหอมอะ แม่ใจละลายเลย แต่จิ๊ก็จะให้เค้าขอโทษนะคะ บางครั้งก็งงว่าทำไมเด็กตัวแค่นี้ถึงมีอีโก้เยอะจัง อย่างถ้าเค้าทำผิดเราดุปุ๊บและให้เค้าขอโทษปั๊บ เค้าจะไม่ยอมเลยค่ะ แต่พอเค้าเข้ามาง้อ แล้วเรากอด เค้าถึงจะยอมยกมือขอโทษอะ

ลูกสาวคุณศศรสกี่ขวบคะ ท่าทางจะฉลาดมากนะคะเนี่ย
เรียกหญิงก็ได้ค่ะ ชื่อศศรสเรียกยาก ลูกสาวตอนนี้ 4.1 ขวบค่ะ ช่วงขวบกว่าๆ ก็ท้าทายแม่ไม่เบาเลยล่ะค่ะ ที่บ้านเนี่ยเค้าชนะพ่อเค้าค่ะ ชนะทุกเรื่องไม่มีข้อยกเว้น แต่ยังหาวิธีชนะแม่ไม่เจอ อิ อิ.. เค้าเคยลองหลายอย่าง ประเภทกรี๊ดเสียง ลงไปดิ้น แบบว่าเห็นเด็กคนอื่นทำกับแม่เลยอยากลองบ้างน่ะค่ะ ทำครั้งเดียวเลิกเพราะเอาชนะแม่ไม่ได้ เคยแกล้งปวดท้องไม่สบาย ก็ยังใช้ไม่ได้ผล (แม่รู้ทันว่าแกล้ง) แบบว่าเด็กๆ เล่นละครไม่เนียนพอ ไรแบบเนี้ยล่ะค่ะ พอเข้าโรงเรียนก็จะอ้างเหตุผลสารพันจะไม่ไปโรงเรียน (ช่วงเปิดเรียนใหม่ๆ) แม่ก็เอาน้ำเย็นเข้าลูบอย่างเดียวค่ะ ความที่แม่พูดมากเหตุผลเยอะ ลูกก็จะพูดเยอะมีเหตุผลมากมายเหมือนกัน ลูกๆ จะมีมุกใหม่ๆ มาท้าทายเสมอ ไว้มาแชร์กันได้อีกค่ะ
แถมอีกนิดค่ะ เรื่องลูกอ้วก.. อันนี้ถ้าเด็กคนไหนทำแล้ว แม่ยอม ก็จะใช้การอ้วกเป็นเครื่องมือเอาชนะไปเรื่อยๆ ค่ะ วิธีแก้ไขก็คือ อ้วกไปเลย แต่แม่อย่าไปตกใจให้เห็น จัดการอ้วกลูกจะเช็ดจะตบหลังหรือทำให้ลูกสบายตัวไปตามปกติค่ะ อย่าแสดงอาการตกใจ หรือกังวลหรือบ่นลูกว่าอย่าทำอย่างนี้ แต่พูดน้ำเสียงปกติค่ะ อ้วกไปเลย อ้วกให้เสร็จเดี๋ยวมาจัดการเรื่องของเรากันต่อ แล้วแม่ก็จัดการเรื่องอ้วกให้เสร็จเลยค่ะ พอลูกสบายดีแล้วก็มาจัดการเรื่องทำโทษต่อ ซึ่งบางทีก็จะใช้เวลาจัดการอ้วกนานจนลืมเรื่องทำโทษไปแล้ว จะกลับไป time out อีกก็ไม่ควรแล้วค่ะ แต่แม่สอนได้ว่า การอ้วกนั้นจะทำให้ลูกไม่สบายอย่างไร (คือพูดให้ลูกเห็นเลยว่าอ้วกแล้วจะเป็นยังไง ท้องไส้จะบิด จะทำให้ปวดหัว จะทำให้ไม่โตเพราะอาหารที่กินเข้าไปออกมาหมดแล้ว กินเพิ่มก็ไม่ได้เดี๋ยวก็อ้วกอีก เด็กที่อ้วกบ่อยๆ จะเป็นยังไง ลองหารูปเด็กป่วยดูแย่ๆ เอาให้ลูกดู บอกว่า อ้วกมากจะเป็นอย่างนี้ ถ้าอยากป่วยก็อ้วกเยอะๆ เลย ... แอบขู่นิดๆ แต่ก็ได้ผลค่ะ ลองปรับใช้ดูนะคะ บางอย่างก็อยู่ที่ตัวเด็กด้วย ว่าขู่แล้วได้ผล ท้าทายแล้วไม่อยากทำ แต่เด็กบางคนก็ตรงข้าม ท้าเหรอแม่.. ทำเลยอ่ะ แบบนี้ก็มี คุณแม่ก็ต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับลูกตัวเองค่ะ เอาใจช่วยนะคะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service