เรื่องเรียนของลูก

[จันทน์จุฑา ป้องเคน]

ถ้าลูกจะเข้าอนุบาลจำเป็นหรือเปล่าคะว่าต้องเรียน English Program ปูพื้นฐานเลยดีหรือเปล่า?? หรือเรียนภาษาไทยปกติ แต่ไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมดี??
แต่ตอนนี้ก็สอนคำศัพท์ให้ลูกทุกวัน ลูกก็เข้าใจดีนะคะ จำได้ ท่อง A-Z ได้แล้ว one-ten, 1-10 ก็ท่องได้แล้ว ศัพท์ส่วนมาก็เป็นสัตว์ สิ่งของนิดหน่อย

[แม่น้องกุ๊ก]

น้องกุ๊กจะขึ้น อ.1 ตอน 2 ขวบ 8 เดือนค่ะ ส่วนตัวแล้ว เห็นการเรียนรู้ โปรแกรม EP แล้วประทับใจ เพระคุณครูจะพูดกับเด็กด้วยภาษาอังกฤษตลอดเวลา ตั้งแต่รับลูกจากเราไป จนส่งให้ผู้ปกครองตอนกลับ และจะช่วยพ่อแม่ได้เยอะ อีกอย่างความจำของเด็กวัยนี้ถือว่าช่วงเวลาทอง เลยไม่อยากให้หลุดลอยไปได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าพ่อแม่เสริมเขาอีกแรง คิดว่าเด็กจะแน่นยิ่งขึ้น พอเค้าโตแล้ว ค่อยถอยมาเรียนโปรแกรมธรรมดาดีกว่า อีกอย่างเค้าเริ่มโตขึ้นรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ค่อยเรียนพิเศษ เพิ่มเติม (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)

[จันทน์จุฑา ป้องเคน]

ขอบคุณคุณแม่น้องกุ๊กมากนะคะ เพราจิณณะก็จะเข้า อ.1 ตอน 3 ขวบเต็มพอดี กิ๊ฟก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ แล้วคุณครูที่โรงเรียนก็แนะนำมาว่าควรให้เด็กเริ่มเรียนตั้งแต่เล็กๆ จะดีกว่าไปเริ่มเรียนตอนโตแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าน้องกุ๊กจะเข้าเรียนปีนี้เลยหรือเปล่าค่ะ ของจิณณะคงจะเข้าปี 53 แต่ไปสอบถามมาก่อนเพื่อนความพร้อมของลูกค่ะ

[แม่น้องกุ๊ก]

น้องกุ๊ก พฤษภานี้เค้าจะ 2.8 ขวบค่ะ เอาเข้าเนอสซี่รี่ 1.6 ขวบ เค้าชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ชอบทำตามพี่ๆ (ตอนนั้นเค้าเอาน้องกุ๊กเรียนร่วมกับเด็ก 2 ขวบขึ้นไปไม่เกิน 3 ขวบ) น้องปรับตัวได้ดี แต่พอมาอีกเทอม โรงเรียนจับแยก เด็กอ่อน 1-2.5 ปี 1 ห้อง 2.5-3 ปี อีกห้อง รู้สึกว่าเค้าไม่มีอะไรใหม่ ๆมาโชว์ให้คุณแม่ดูเลย เคยอ่าน ก- ฮ ได้ พอมาระยะหลังเรียนกับน้อง ๆ อ่านได้ไม่กี่ตัวเลย เลยคิดว่าถ้าเขาอยู่กับสิ่งแวดล้อมอะไรก็จะได้สิ่งนั้น เค้าเรียนรู้จากพี่ ๆ ได้เร็ว แต่พอมาอยู่กับน้องๆ ก็ช้าตาม ตอนนี้น้องกุ๊ก 2.6 ขวบ ได้มาอยู่ อีกห้องที่โตแล้วค่ะ เค้าชอบมาก ครูก็ชมว่าเค้าปรับตัวได้ดี ตอนนี้เลยเริ่มฝึกกล้ามเนื้อเพื่อคัดลายมือ ฝึกการช่วยเหลือตัวเองให้มากขึ้น (เค้าถอดเสื้อผ้าได้เอง ทานข้าวตักเอง แปรงฟัน อาบน้ำ ใส่เสื้อผ้า หวีผม ถอดถุงเช้ารองเท้าฯลฯ ได้เองอย่างคล่องแล้วค่ะ) แล้วคุณครูก็อนุญาติให้ขึ้น อ.1 ได้แล้วค่ะ (โรงเรียนเอกชนจะเลื่อนชั้นได้ตามความพร้อมของเด็กค่ะ แต่โรงเรียนรัฐบาลจะเน้นอายุเด็ก) อยากจะขอแนะนำค่ะว่า ขึ้นอยู่กับความพร้อม ความสนใจของเด็กค่ะ และควรฝึกให้เขาช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด เค้าจะคล่อง แล้วไม่รู้สึกว่ายาก และชอบที่จทำตาม ที่จะโชว์ โชคดีมากค่ะที่ดิฉันมีลูกที่อยากไปโรงเรียนทุกวัน อาจจะเป็นเพราะเขาทำอะไรได้เอง แล้วครูชม เค้าชอบให้ยอค่ะ ลองนำเทคนิคเล็กไปฝึกเรื่องภาษาก็ได้ผลนะคะ

[sasithorn pookun]

อยากแนะนำให้ส่งเข้า 2 ภาษา หรือ 3 ภาษา เลยค่ะ ถ้ากำลังทรัพย์ไหวเพราะจากประสบการณ์ลุก 3คน คนแรกเรียนแบบภาคไทยแล้วติวอังกฤษเอง ก็ได้ตอนติวเท่านั้นหละค่ะไม่คืบหน้าเพราะพอโตหน่อยก็เริ่มไม่ยอมพูดอังกฤษกับเราแล้วเพราะที่โรงเรียนพูดไทย
ลูกคน 2 เรียนอนุบาลไทย แต่ประถม EP ที่เซนโยบางนา 2 ปี ไม่ได้ผลเพราะที่โรงเรียนมีเด็ก EP แค่ชั้นละ 2 ห้อง แล้วปัจจุบันมีEPแค่ถึง ป6 เด็กได้ใช้ในชั่วโมงเรียนเท่านั้น
ลูกคน3 ในเรียนโรงเรียน 3 ภาษาตั้งแต่ อนุบาล ตอนนี้กำลังจะขึ้น อ3 ได้ผลดีมาก ๆ เพราะเหมือนอยู่นานาชาติแต่เรียนภาษาไทยมากกว่า วิชาที่เป็นภาษาไทยก็มากกว่าinter ย้ายพี่คน 2 มาอยู่กับน้องแล้วค่ะ แบบว่าทางบ้านเน้นที่ภาษาค่ะ
มีความเห็นว่าภาษาต้องใช้ทุกวัน ไม่เฉพาะแต่ท่องศัพท์เท่านั้น เพราะคนไทยโรงเรียนไทยรู้gramma รู้คำศัพท์แต่พูดไม่ได้เพราะอาย ฟังไม่ออกเพราะไม่ค้นสำเนียงค่ะ

[Momy & Ink]

เห็นด้วยกับคุณแม่ทั้งหลายตั้งใจให้ลูกเรียนสองภาษาตั้งแต่เข้าNursery ช่วงปีที่แล้วที่ลูกเค้า Nursery ยังลังเลว่าจะให้เรียน อ.1 ที่เดิมหรือเปล่าเพราะ อ.1 ไม่มีสองภาษา มีตอน อ. 2 ส่วนตัวกลัวว่าจะช้าไป แต่วิชาการแข็ง แต่พอมาปีนี้โรงเรียนเปิดสองภาษา อ. 1 เป็นปีแรกเลยไม่ลังเลใจเลยที่จะให้เรียน เน้นทั้งวิชาการ และภาษา ลูกเรียนอยู่ที่อนุบาลเจริญพงศ์ ซ.ลาซาลค่ะ ลืมบอกไป วันเสาร์ให้ลูกไปเรียน Baby Genius ครูจะเป็นฟิลิปปินทร์ แต่สอนเป็นภาษาอังกฤษ เป็นแนวทั้งเรียนทั้งเล่นลูกก็คุ้นกับภาษาอังกฤษตั้งแต่เรียน Nursery
แต่เมื่ออยู่ที่บ้านก็พยามพูดภาษอังกฤษกับลูกและจะอธิบายเป็นภาษาไทยว่าแปลว่าอะไร บางทีก็ให้พูดภาษาจีนกลางกับคุณยายด้วย เด็กจะจำได้ดีค่ะ สำหรับลูกสาวจะจำได้ แล้วก็จะพยายามทบทวนบ่อยๆ