เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ลางานมาเลี้ยงลูกเอง หรือ กลับไปทำงานดี (กำลังจะต้องตัดสินใจ)

กลุ้มใจมากค่ะว่าจะตัดสินใจเลือกอย่างไหนดี ใครพอจะมีคำแนะนำ หรือประสบการณ์บางค่ะ

ตอนนี้น้องสองเดือนค่ะ ถ้าจะกลับไปทำงานก็ต้องกลับไปสิ้นเดือนนี้แล้วค่ะ

Views: 6032

Reply to This

Replies to This Discussion

เห็นด้วยกับคุณ ฆนวันต์ ทุกประการค่ะ

ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกมาเลี้ยงลูกเอง กุ้งได้พิจราณาอย่างที่คุณ  ฆนวันต์ กล่าวทุกประการเลยน่ะค่ะ สุดท้ายก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่พอเมื่อมาลองทำดู ส่วนปัญหาที่เกิอกับครอบครัวกุ้ง ก็คือ ความเครียดที่มีกับตัวคุณแม่ ซึ่งมีผลกระทบมาก ๆ คือในส่วนของหน้าที่การเป็นแม่ กุ้งก็พยายามทำอย่างดีที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะทำได้ ไม่ขากตกบกพร่องค่ะ ทั้งงานหลวง งานราช แต่ผลเสียคือ กุ้งเครียดมาก การที่เราอยู่กับเด็กเล็ก ๆ นี่ ป็นอะไรที่สุด ๆ แล้ว ...........

 ก่อนที่จะมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว เราต้องดูก่อนว่าก่อนเราแต่งงานมีลูก ไลฟ์สไตล์ เราเป็นแบบไหน ซึ่งมันมีผลอย่างมากน่ะค่ะ

คือก่อนที่จะมีลูก ยอมรับว่าเป็น party girl อย่างเต็มตัวค่ะ คนเคยแต่งหน้าทำผม ทาเล็บ เข้าสปา มีเวลาก็ hang out กับเพื่อน ๆ อย่างสุดสัปดาห์เราก็ไปเที่ยวทะเลกันเป็นก๊วน อย่างใช้ อยากช็อบ อะไรก็เต็มที่

  แต่หลังจากมีลูก...3 ปีแล้วค่ะที่กุ้งไม่เคยทำแบบนั้นเลย เพราะเวลาส่วนใหญ่ก็ มีแต่ลูก พอว่างก็หมดแรงแล้ว..งีบเอาแรงดีกว่า สุดท้าย ก็ ......ต้องขอเวลา อาทิตย์ละ 1 วัน ให้ ปู่ ย่า มาช่วยเลี้ยง ขอแม่มีเวลาส่วนตัวบ้าง ( ส่วนตัวจริง ๆ )  

ไม่รู้ว่าคุณแม่ท่านอื่นเจอปัญหาแบบนี้ไหม อยากแชร์ค่ะ

 

 

ขอแชร์ประสบการณ์นะคะ  @ก่อนอื่นเช็คค่าใช้จ่ายในครอบครัวค่ะ พร้อมทั้งสามารถแบ่งเป็นเงินเก็บได้ทุกเดือน   เปรียบเที่ยบค่าใช้จ่ายที่จะจ้างคนเลี้ยง +ค่าเดินทางไปทำงาน + คชจ. ขณะทำงาน เช่นเสื้อผ้า หน้า ผม อิอิ กับ คชจ. ถ้าอยู่บ้านเลี้ยงลูกเอง จะประหยัดขึ้นไหม หรือว่าใกล้เคียงกัน    ถ้าไม่แตกต่างกันมาก ก็ลาออกมาเลี้ยงลูกได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ แต่ถ้าเงินเดือนสูงกว่าสองเท่าก็น่าเสียดายเงินเดือนนะค่ะ @ อีกอย่างการมาเลี้ยงลูกอยู่บ้านต้องควบคุมอารมณ์ ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูลูก เหงาที่ไม่มีเพื่อน และต้องเข้าใจสามีด้วยอ่ะค่ะ ตรงนี้ต้องปรับตัวเป็นอย่างมากนะค่ะ  จากประสบการณ์ที่ผ่านมา กวำาจะปรับตัวได้ก็หลายเดือนค่ะ แต่พอผ่านตรงนี้มาได้ เป็นแม่บ้านฟูลไทน์ บอกได้เลยว่าเป็นชีวิตที่ลันล้ามากเลยค่ะ 

พี่เองมีประสบการณ์ทั้ง 2 แบบเลยค่ะ คือตอนคลอดพี่เมือง พี่ก็ลาออกมาเลี้ยงลูกเต็มตัวย้ายบ้านจากกรุงเทพ ไปอยู่รวมกันกับสามี 2 ปี แต่หลังจากคลอดขมิ้น บริษัทที่พี่เคยทำงานด้วยมาเปิดสาขาที่เชียงใหม่ ขอให้พี่กลับไปทำงาน พี่ก็ใจง่ายกลับไปทำ ตอนนั้นขมิ้นอายุ 1.8 ปี พี่เมือง 3 ปีกว่า ๆ พี่เหนื่อยมาก ขนาดมีคุณตาคุณยาย มาช่วยเลี้ยงลูกนะคะ แถมเครียดมาก งานเยอะ เวลาให้ลูกน้อยลง ต้องทำงานหน้าคอมพ์ต่อหน้าลูกบ่อย ๆ อารมย์เสียใส่ลูก เพราะลูกอยากให้เราเล่นด้วยแต่เราต้องทำงานให้เสร็จ หลังจากกลับทำงานได้ 3 ปี ต้องย้ายตามสามีอีกครั้ง เลยตัดสินใจลาออก (ตอนนั้นเสียดายเงินเดือน และสวัสดิการมากดี) แต่เราเลือกอยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก ตอนนั้นสร้างความผิดหวังให้ พ่อแม่ตัวเองมาก เพราะเค้าภูมิใจในงานของลูกตัวเองมาก แต่พี่ก็เลือกลูกมาก่อนค่ะ เพราะครอบครัวเราเคยต้องแยกกันอยู่เกือบ 5 ปี เพราะสามีย้ายไปทำงานต่างประเทศ (หลังจากขมิ้นคลอดได้ 1 เดือน) พี่เลยต้องตัดสินใจ

หลังจากลาออกจากงานชีวิตพี่และลูกดีขึ้นมาก (แม้เงินน้อยลง) เรามีเวลาให้กันมากขึ้น สามารถสรรหาสิ่งต่าง ๆ ที่ดี ๆ ให้ลูกได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหลังจากที่เจอเวปนี้ พี่มีอะไรทำให้ลูก และตัวเองมากขึ้น (คือพัฒนาตัวเองเพื่อสอนลูก 2 ภาษา)

พี่ว่าถ้าเราไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน (พูดตรง ๆ) การเลี้ยงลูกเองดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ให้ลูกเกิน 3 ขวบ ให้ลูกเข้าโรงเรียนก่อนแล้วค่อยกลับไปทำงานก็ได้ ลองคิดดี ๆ นะคะ

ก็แล้วแต่สภาพคล่องของครอบครัวนะคะ เมื่อก่อนก็ให้พี่เลี้ยงเลี้ยงให้ แต่พัฒนาการไม่ไปถึงไหน หรอกคะ ดื้อมาก  กินลูกอม พี่เลี้ยงเมื่อเราไปทำงานก็ชอบดูทีวี เด็กก็เล่นไปตามเด็ก ไม่พาออกไปข้างนอก จนลูกพูดช้ามีนิสัยดื้อมาก แฟนเลยบอกว่า หยุดเถอะไม่ต้องทำงาน กลัวพฤติกรรมลูกจะกู่ไม่กลับ ก็เลยต้องออกจากงาน แล้วเลี้ยงลูกเอง แล้วมาจัดการอะไรใหม่หมด ลูกพูดได้ พูดเพราะ ลูกอม น้ำอัดลมก็ไม่ให้กิน และที่สำคัญจะเล่านิทานให้ลูกฟังตลอด ฟังเพลงโมสาร์ทก่อนนอน ก็ถือว่า โอ เค นะคะ แล้วครอบครัวก็มีความสุขกันมากขึ้นเพราะพ่อเขาจะโทรมาถามตลอดว่าวันนี้ลูกเป็นไงบ้าง เราก็เล่าให้เขาฟังได้เพราะลูกอยู่กับเรา มีอะไรผิดพลาด ก็แก้ไขกันทันค่ะ

 

ขึ้นอยู่กับสภาวะการเงิน เวลา และคนเลี้ยงดูช่วงที่เราไม่อยู่ค่ะ เพราะทั้ง 3 ปัจจัยเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน คุณแม่อาจต้องบวกลบดูค่ะ เช่น ถ้าคุณพ่อสามารถหารายได้ได้คนเดียวโดยใช้จ่ายไม่ลำบาก และไม่มีใครช่วยเลี้ยงดู ออกจากงานมาเลี้ยงเองดีกว่าค่ะ แต่ถ้ารายได้หาหนึ่งคนไม่มากนัก มีค่าใช้จ่ายมาก แต่มีคุณตาหรือคุณยายช่วยดูแล อาจทำงานต่อ แต่ยังไงก็ควรมีเวลาให้ลูกด้วยค่ะ

ที่บ้านต้องทำงานทั้งคู่ ช่วงทำงานอยู่กับแม่บ้าน แต่โชคดีที่ได้แม่บ้านดีค่ะ ช่วงเย็นเลิกงานเร็วก็กลับไปเล่นกับลูก ช่วงวันหยุดก็ใช้เวลาให้คุ้มค่าค่ะ ดังนั้นแนะนำว่าควรปรึกษากับคนในครอบครัวจะได้คำตอบที่ดีที่สุดค่ะ

 

อย่างที่หลายๆ ท่านบอกคะ น้องเล็กวัย 0-3 ขวบสำคัญมากๆ ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน สามีสามารถ support ได้แนะนำให้ลาออกมาเลี้ยงลูกเองเลยคะ

 

case ของโอ๋ ทีแรกก็เสียดายเงินเดือน (6 หลัก) และความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานเหมือนกัน โอ๋ลาออกตอนสิ้นปีนี่เองคะ ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่า ตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ลูกมีพัฒนาการเร็วและดีขึ้้นกว่าแต่ก่อนที่ฝากยายช่วยดูและมีพี่เลี้ยงมากกก คนรอบข้างทั้งย่าและยายพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องพัฒนาการเร็วขึ้นเยอะมากๆคะ ตอนนี้น้องเกรซลูกสาวเกือบ 14 เดือนแล้ว รู้เรื่องเยอะมากๆ พูดได้เยอะมากๆ ด้วยคะ เทียบกับแต่ก่อนที่พี่เลี้ยงดู เค้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนพี่เลี้ยงดูเวลาให้น้องกินนมก็ไม่ยอมหัดให้น้องถือขวดนมเองทั้งๆ ที่ใครต่อใครก็บอกแล้ว ทำได้แรกๆ พอสักพักก็ถือให้น้องอีก กว่าน้องจะถือขวดนมเองได้เนี่ยก็ตอนที่โอ๋ลาออกมาเลี้ยงเองคะ ใช้เวลาไม่กี่วันเองเค้าก็ทำได้แล้ว

 

อีกอย่างนะคะ ตอนที่เราทำงานแล้วต้องพึ่งพี่เลี้ยงเนี่ย เครียดมากๆ ต้องง้อพี่เลี้ยงสุดๆ เพราะจะให้ยายช่วยดูตลอดก็ไม่ไหว พี่เลี้ยงดูเป็นหลัก ยายแค่คอยควบคุมอีกที พอพี่เลี้ยงลาออก โชคดีตอนนั้นโอ๋ออกจากงานพอดีเหมือนกัน เราต้องป้อนนมป้อนข้าวลูกเองทุกอย่าง ช่วงแรกๆ แย่มากเพราะลูกไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เค้าจะติดพี่เลี้ยงป้อนนมคะ ป้อนข้าวเนี่ยเรายังโอเค ต้องใช้เวลาปรับตัวหลายวันอยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้โอ๋ทำทุกอย่างเองหมด แค่มีพี่บ้านช่วยงานบ้านกับดูน้องนิดหน่อยเวลาที่เราไม่ว่าง สบายใจคะ ไม่ต้องง้อ ถ้าแม่บ้านลาออก ก็หาคนใหม่เท่านั้นเอง

 

แต่ตัวเราเองก็ต้องเสียสละเยอะนะคะ ทั้งเงินเดือน หน้าที่การงาน ของโอ๋เนี่ยรวมถึงสังคมเพื่อนๆ ด้วยคะ เพราะย้ายจาก กทม มาอยู่พัทยากับสามี แต่คุ้มมากๆ คะ เราได้เห็นพัฒนาการของลูก สำคัญที่สุด คือ เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้คะ อย่างที่ฝรั่งเค้าพูดกันว่า your child can be a child only once นะคะ นี่ก็คุยกับสามีคะว่ารอให้ลูกเข้าเนอร์สเซอร์รี่ก่อนค่อยกลับไปทำงานอีกครั้ง อ่อ...ที่สำคัญ ลูก happy มากๆ คะ 

 

ย้ำคะว่าถ้าที่บ้าน support ได้ลาออกเลยคะ โอ๋เนี่ยกว่าจะได้ลาออกน้องก็เดือน 1 ขวบแล้วคะ ยังเสียดายเวลาช่วงน้อง 4 เดือนถึงเกือบขวบอยู่เลยคะ

ขอเข้ามาให้ความเห็นอีกนิดนึงนะครับ การให้คนอื่น(ซึ่งรวมคุณตาคุณยายและพี่เลี้ยง)ดูแลลูกๆแทนเรานั้นมักจะเกิดเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์นี้ขึ้นเป็นประจำและอาจทำให้เด็กๆนิสัยเสีย(ขออนุญาตใช้คำนี้)จนกู่ไม่กลับ.

 

1.รักมากเกินและชอบให้เหตุผลในการตามใจว่าลูกยังเด็กอยู่จะเอาอะไรกันนักกันหนา...อันนี้น่ากลัวมากและชุลมาุนวุ่นวายจนเกือบกู่ไม่กลับมาหลายครอบครัวแล้ว.

2.ตัดรำคาญและให้เหตุผลในการตามใจว่านิดๆหน่อยๆไม่เห็นเป็นไรเลย...ส่วนมากเรื่องลูกอม หรือติดการณ์ตูนหรือละครต้นแบบที่มีการตบตีดุด่าแล้วเด็กๆเลียนแบนั้นก็มาจากการตัดรำคาญนี่ละครับ คือบางที่คนเลี้ยงเขาเหนื่อยแล้วอีกอย่างใครจะอดทนได้เท่าแม่ตัวจริง.

 

ตั้งกระทู้ถามประมาณนี้ดูๆแล้วคุณพ่อน่าจะดูแลเรื่องการเงินได้ คุณแม่ไม่ต้องเสียดายรายได้ตัวเองหรอกครับเพราะหาเงินได้เท่าไหร่ก็เป็นของลูกอยู่ดีไหนๆก็เพื่อลูกแล้วก็อยากชวนให้ใช้เวลาช่วงสำคัญอย่างนี้กับลูกให้เต็มที่เลยดีกว่าครับ.

 

ขอบคุณมากนะค่ะสำหระบความคิดเห็นนะค่ะ

เห็นด้วยค่ะที่จะออกจากงานมาเลี้ยงลูกเองเพราะมีประสบการณ์มาแล้ว2คนกู่ไม่กลับจริงๆสอนเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อฟังทำไรก็ไม่เป็นต้องทำไห้ตลอดเลย9ขวบแล้วนะค่ะคนเล็กนี้เลยลาออกจากงานมาเลี้ยงเองเลยค่ะต่างกันโดยสิ้นเชิงได้อย่างใจมากช่วยเหลือตัวเองได้แล้วค่ะอายุแค่2ขวบ9เดือนเองคิดแล้วคุ้มค่ามากที่ได้ออกจากงานมาเลี้ยงเองค่ะ

ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเลี้ยงลูกเองดีกว่าค่ะ....เพราะเราได้เห็นพัฒนาการของลูก  ยิ่งเห็น ยิ่งปลื้มใจค่ะ  แถมเราได้สอนอะไรๆๆๆด้วยตัวเองด้วย  มีอะไรก้อสอนลูกไปเยอะๆๆๆเลยค่ะ เพราะวัยก่อนอนุบาลเป็นวัยที่ช่างเรียนรู้เเละจดจำมาก............ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกนะคะ

ขอบคุณทุกๆคำแนะนำนะค่ะ ตอนนี้ได้ตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะลองกลับไปทำงานดูก่อน นะค่ะ (แฟนเป็นคนตัดสินใจให้)

อย่างที่ส่วนใหญ่บอกค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างของแต่ละครอบครัว

สำหรับตัวเองลาคลอดประมาณ 5 เดือนครึ่ง เนื่องจากอยากเลี้ยงเองให้มากที่สุด

แต่ไม่อยากออกจากงานเพราะค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กมันเยอะค่ะ (ถ้าเราคิดจะ

ทุ่มเทให้เค้าอย่างเต็มที่) โดยใช้ลาสิทธิ์ลาคลอดเต็มที่คือ 3 เดือน ลาพักผ่อน

1 เดือน และใช้ลากิจบ้าง ลาป่วยบ้างเท่าที่เราจะลาได้ (โชคดีที่ที่ทำงานให้ลาได้)

ระหว่างนั้นก็พยายามหาพี่เลี้ยงไปด้วย พอได้พี่เลี้ยงเราก็ให้เค้ามาทดลองเลี้ยงลูก

ควบคู่ไปกับเราค่ะ สำหรับตัวเองโชคดีมากที่เจอพี่เลี้ยงที่เข้าใจความต้องการของเรา

และดูแลลูกเราเป็นอย่างดีค่ะ คือตัวเองจะบอกพี่เลี้ยงว่าต้องการให้เลี้ยงลูกยังไง

ห้ามอะไร เข้มงวดเรื่องอะไร เท่านี้เราก็กลับไปทำงานได้อย่างสบายใจค่ะ

 

พี่เค้ามาช่วยเลี้ยงลูกตั้งแต่ลูกอายุ 5 เดือนครึ่ง ตอนนี้ลูกอายุ 1.9 ขวบแล้วค่ะ

เค้าช่วยสอนลูกได้เยอะทีเดียว ความมีระเบียบวินัยหลายอย่างก็ได้มาจากพี่เลี้ยง

นี่แหละค่ะ...เผื่อจะเป็นแนวทางช่วยในการตัดสินใจได้บ้างนะคะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service