เอาลูกไปฝากเลี้ยง อย่าลืมพูดคุยกับลูกทุกๆวัน

[แม่เพ่ยขอแจม]

วันนี้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึกแล้ว..รู้สึกสลดใจอย่างยิ่ง เหตุเกิดที่สกลนคร คุณย่าต้องทำงานจึงเอาหลานสาววัย 2ขวบ 7เดือนที่พ่อแม่เด็กทิ้งให้เลี้ยงไปฝากที่เนอสเซอรี่ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ไม่ขอพูดถึงอาการที่เกิดขึ้นนะคะ สรุปเลยละกันว่า หลานสาวถูกคนที่ทำงานในเนอสเซอรี่นั้นข่มขืนมา !!! แจ้งความแล้วโดยมีใบรับรองแพทย์ยืนยันอาการที่น้องได้รับ เหลือเพียงการรอการพิสูจน์ DNA ของวายร้าย และน้องสามารถชี้ตัวผู้กระทำได้ถูกต้อง แต่ตำรวจก็ยังไม่ได้จัดการอะไรกับผู้ที่กระทำ ยังคงปล่อยลอยนวล อ้างต้องรอผลพิสูจน์
สังคมวางใจยากจริงๆ
พาลูกไปฝากเขาเลี้ยง หรือแม้แต่พาไปส่งที่โรงเรียน ทุกๆวันที่ลูกกลับบ้าน อย่าลืมคุยกับลูกนะคะ วันนี้ทำอะไรบ้างที่โรงเรียน เล่นอะไรกับใคร ยังไงบ้าง ทานอะไรมา เขาก็สนุก เราก็ได้รู้เรื่องราว อาจจะไม่เจอกับเรื่องเหล่านี้ แต่บางครั้งลูกเราอาจเล่นแล้วเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาเช่น เล่นกับเพื่อนแล้วล้มหัวกระแทกพื้น ไม่เห็นอาการภายนอก เราก็อาจดูอาการลูกอย่างระวังเพิ่มขึ้นได้นะคะว่าใน 24 ชั่วโมงนั้น ลูกมีอาการอะไรผิดไปหรือเปล่า จะได้แก้ไขทันไงคะ

[อรนัย รักในหลวง]

โห.....พูดไม่ออกเลยค่ะ แม่เพ่ย....ใจมันทำด้วยอะไรเนี่ย

[Pat]

เศร้ามากค่ะ ใจคอคนเราทำด้วยอะไร

[พลอยชมพู]

สลดใจอย่างที่สุด จิตใจมันทำด้วยอะไรหนอ

สงสารหนูน้อยมาก

[ป้า-สุภา]

เนอสเซอรี่ก็ผิดนะคะเนี้ย รับคนเข้าทำงานไม่มีการสืบประวัติภูมิหลังหรืออย่างไรกัน? แล้วเรื่องอย่างนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยในสถานรับเลี้ยงเด็กนะคะ

นับว่าเป็นเรื่องที่แย่มากๆ เลยที่เราต้องมาได้ยินข่าวแบบนี้

[ubonsruang]

น่าเศร้ามากเลยค่ะ
อย่างนี้ต้องเอาเรื่องหั้ยถึงที่สุด

[Daddyปันดี]

ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ผมเห็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีฐานะดี ร่ำรวย มีเงินเก็บหลายสิบล้านบาทหรือเป็นพันล้านก็มีที่ผมรู้จัก คุณพ่อเองไม่ว่าจะมีธุรกิจส่วนตัวหรือไม่มี ส่วนมากมักจะมีคุณแม่ที่เป็นพนักงานประจำหรือเริ่มจะเป็นผู้บริหารระดับสูง เมื่อมีลูกแล้ว คุณแม่ก็ยังคงทำงาน6 วันต่อสัปดาห์ ฝากลูกให้คนอื่นเลี้ยง ... สำหรับผมแล้ว ผมว่าน่าเสียดายเวลาแห่งชีวิตครับ ในเมื่อตัวเองมีเงินมากมาย ทำไมไม่นิยามคำว่าความสุขที่แท้จริงใหม่ให้กับครอบครัวใหม่ ... ผมเองไม่มีเงินเก็บหลายล้าน แต่พอเริ่มตั้งใจผลิตลูก ผมก็ให้เค้าเลิกทำงานทันทีครับ เพราะคิดว่าคนเดียวทำงานก็ยังสู้ได้ จะได้ให้เวลามอบความสุขให้ลูกได้อย่างเต็มที่ ... ปัจจุบัน น้องปันดีเป็นคนอารมณ์ดีมาก เพราะได้รับอารมณ์ขัน ทะเล้น เฮฮา EQ สูง จากคุณพ่อคุณแม่ไปเต็มๆครับ ... สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ทั้งคู่ยังต้องทำงานเก็บเงินเพื่อลูก ผมขอเอาใจช่วยให้รุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปนะครับ แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ร่ำรวยอยู่แล้ว แต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่จำเป็ฯต้องมีภาระการงาน แต่ยังอดที่จะละทิ้งสังคมในวงการทำงานไม่ได้ ลองถามตัวเองดูไม๊ครับว่า ในเมื่อคุณคงไม่สามารถอยู่เป็นอมตะดูแลเค้าไปได้ตลอดทั้งชีวิตอยู่แล้ว ทำไมไม่สละชีวิตตัวเองเพื่อสร้างชีวิตนึงให้เติบโตมาเป็ฯคนดีมีความสุข แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกับเค้า ดีกว่าต้องมานั่งปวดหัวแก้ไขปัญหาหรือนั่งเสียใจกับพฤติกรรมอันเกิดจากการที่ไม่ได้มีเวลาให้เค้าเต็มที่เมื่อครั้งวัยเยาว์

[อรนัย รักในหลวง]

"แต่ยังอดที่จะละทิ้งสังคมในวงการทำงานไม่ได้ ลองถามตัวเองดูไม๊ครับว่า ในเมื่อคุณคงไม่สามารถอยู่เป็นอมตะดูแลเค้าไปได้ตลอดทั้งชีวิตอยู่แล้ว ทำไมไม่สละชีวิตตัวเองเพื่อสร้างชีวิตนึงให้เติบโตมาเป็ฯคนดีมีความสุข..."

โดนค่ะ มีแต่คนคิดว่าคนที่ได้อยุ่บ้านเลี้ยงลูกนั้น "สบาย" ไม่จริงเลยค่ะ การได้ออกไปทำงาน ไปเจอเพื่อนๆได้ไปช้อปปิ้งระหว่างพักเที่ยง ได้แต่งตัว แต่งหน้าสวยๆ ฯลฯ สบายกว่าการต้องมาเป็นแม่ 24/7 เยอะเลยค่ะ
มีหลายครั้งที่เหนื่อยจนอยากจะหนีไปทำงานแล้วโยนเด็กตาดำๆ 2 คนไว้ให้ใครก็ได้เลี้ยง แต่พอหายเหนื่อยก็คิดได้ว่าใครจะจัดการทุกอย่างได้ดีเท่าเราไม่มีอีกแล้ว...ป่วยไม่ได้..ตายไม่ได้ 555

[แม่น้องเกลอ]

มะไหร่น้องเพ่ยๆ จะมีน้องคะ

[Kanokporn]

เยี่ยมเลยค่ะ คุณ Daddy ปันดี โดนมากๆ...เห็นด้วย เห็นด้วย

[Daddyปันดี]

Daddy คนนี้ดีใจที่ได้มาแบ่งปันสิ่งดีๆในกระทู้นี้ครับ

[mamy n'ปลายรัช]

นานๆได้เข้ามาอ่านช้าไปนิด แต่Daddy น้องปันดี พูดได้โดนใจมากๆ อุ๋ยเองก็ยังต้องทำงานกันทั้ง 2 คน(พ่อไม่ค่อยได้อยู่กับลูกเดินทางไปต่างปท.บ่อยๆ) พอถึงตอนนี้ลูกเริ่มโต(คนโต 7 ปีครึ่ง คนเล็ก 1.2 ปี )เริ่มรู้สึกว่าเงินก็ไม่ได้สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตแล้ว ยิ่งลูกโตขึ้นความต้องการพ่อแม่ก็จะน้อยลง ต้องการเพื่อนจะมากขึ้น พอถึงตอนนั้นตัวเราเองจะเป็นฝ่ายร้องเรียกหาซึ่งมันก็ไม่ทันแล้ว

[พี่ไทด์กะน้องทีม]

มาอ่านช้าเหมือนกัน แต่ได้ทราบข่าวจากทางหน้า นสพ.แล้วอ่ะ คุณพ่อคุณแม่คงต้องพูดคุยกับเด็กๆให้มากขึ้น สังคมทุกวันนี้เลวร้ายมากค่ะ ข่าวที่เกี่ยวกับเด็กในช่วงเดือนที่ผ่านมาอ่านแล้ว บอกตรงๆค่ะ อ่านแล้วแย่ ไม่อยากอ่าน แต่ถ้าไม่อ่านก็จะไม่ทันเหตุการณ์ไปซะอีก เลยต้องทนอ่านเพื่อหาทางป้องกันลูกๆของเรา ข่าวของแม่เพ่ยก็แรง อีกข่าว...ข่าวลูกเสือเนตรนารี ก็แรง ทำยังไงเราจะกันลูกเราให้พ้นภัยจากสังคมที่เราอยู่นี้ได้อย่างปลอดภัยละค่ะเนี่ย คิดไม่ตกจริงๆ ยิ่งวันนี้ยอดไข้หวัด2009 พุ่งกระซู้ด พยายามแล้วนะค่ะที่จะไม่ตื่นเต้น แต่ลึกๆในใจอดไม่ได้ที่จะเฝ้าระวัง ... จริงอย่างแม่เพ่ยเพ่ยว่าอ่ะค่ะ หมั่นพูดคุยกับลูกๆทุกวัน ยิ่งในวัยเล็กๆ (ตอนนี้ลูกชาย 3 ขวบกว่าๆ ลูกสาว 2 ขวบ) เค้าพอจะพูดอะไรๆรู้เรื่องบางแล้ว อย่าคิดว่าเค้าฟ้องเรานะค่ะ คิดว่าเค้าเล่าเหตุการณ์ที่เค้าเจอให้ฟัง รับฟังเค้า แล้วเราพ่อแม่เอาเรื่องที่เค้าเล่ามาประติดประต่อกัน จริงบ้างสร้างขึ้นเองบ้าง แล้วเราจะรู้ว่าวันๆนึงเค้าเจออะไรบ้างที่เราไม่เห็น .... สู้ๆ นะค่ะคุณพ่อคุณแม่