เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ขอคำแนะนำการให้ลูกเรียนอนุบาล 1 ก่อนเกณฑ์ 3 ขวบ สำหรับเด็กที่เกิดปลายปีหน่อยค่ะ

ไม่มีรายละเอียด

Views: 10048

Replies to This Discussion

เป็นคนหนึ่งมี่ให้ลูกสาวเข้าเรียน อ.1 ตอน 2.7 เดือนคะ ต้องดูก่อนน้องมีความพร้อมหรือป่าว พร้อมที่จะเรียนหนังสือไหม พร้อมที่จะทำกิจกรรมที่ ร.ร. มีจัดให้ น้องรับได้ไหม ถ้าเลือกโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง ต้องเอาน้องไปดู ร.ร.ด้วยคะ เด็กชอบร.ร.ไหน พร้อมที่จะรับมือการร้องไห้ได้หรือป่าว หรือรับสภาพจิตใจของคนเป็นพ่อและแม่คะ เมื่อเจอสถานการณ์อะไรต่างๆในโรงเรียน ที่สำตัญเด็กมีความสุขหรือป่าว ที่ต้องมาเรียนชั้น อ.1 ไม่ทราบว่าน้องอายุเท่าไหร ณปัจจุบันคะ
น้องกุนเป็นเด็กเรียนรุ้อะไรเร็วและสนุกกับการเรียนและกิจกรรมที่เค้าได้เรียนและเล่น เมื่อเป็นเด็กสองภาษา ต้องรับมืออะไรๆหลายอย่าง อย่ากดดันเด็ก ต้องทำให้สนุกและสุขด้วยนะคะ เมื่อมีการบ้านสำหรับเด็กๆ จะไม่เคยบังคับเค้าทำการบ้านเลย เค้าจะทำเอง หรือบางทีขี้เกียจ ขอเล่นก่อน แม่ต้องล่อสารพัดและใช้จิตวิทยาในการฝึกให้เขาทำการบ้านเสร็จก่อนแล้วเค่อยเล่น แต่ต้องใช้เวลานะคะ
ขอบคุณค่ะ น้องเกิดเดือนกันยายน อยากให้เข้าอนุบาล 1 ในปีหน้า ซึ่งก็จะประมาณ 2 ขวบ 8 เดือน แต่ไม่แน่ใจว่าลูกสาวจะรับได้ไหมอย่างที่คุณแม่น้องกุนว่าน่ะค่ะ เดือนหน้าเลยส่งให้เข้าเรียนเตรียมอนุบาลเพื่อดูความพร้อม เลยอยากได้คำแนะนำจากครอบครัวที่มีประสบการณ์แบบนี้ค่ะ ว่าถ้าให้ลูกเข้าเรียนเร็วก่อนเกณฑ์แล้วเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ
555 อยากบอกว่า แม่ต้องรับได้กับสภาพที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างๆจากการเล่นมาบ้านคะ เช่น หกล้มปากแตก เล่นสนามเด็กเล่นแล้วตกลงมา หลังกระแทก บางวันก็หัวโน เมื่อวานมีกีฬา สี ที่ร.ร. ได้เหรียนทอง แต่มีรอยปาแตก ลูกบอกว่าเล่นบ้านรถไฟปีนขึ้นไปเอง ไม่มีใครทำ จะโทษใครมิได้นะคะ เพราะว่าความซนมากๆคะ
ยัยจุ้ยจุ้ย เกิด 28 ส.ค.51 กะว่าจะให้เข้า อ.1 พ.ค.54 ดูจากพฤติกรรมของเขาแล้ว ยัยจุ้ยจุ้ยจะเป็นเด็กเบื่อง่าย
เพราะเคยไปเรียนที่ เบบี้ จีเนียส อาทิตย์ละ 1 ชม. ไปเรียนได้ประมาณ 2 เดือน เขาจะไม่ยอมเข้าไปเรียนอีก
แต่จะไปเรียนเฉพาะช่วงที่เขาสนใจเท่านั้น หลังจากนั้นจะออกมาเล่นคนเดียว แต่สายตายังมองดูครูสอนอยู่
ก็เลยคิดว่า ถ้าให้เขาเรียนเตรียมอนุบาล กลัวเขาจะเบื่อ เพราะเตรียมอนุบาล เคยถามครู เขาบอกว่าจะเป็นการ
เตรียมความพร้อมเด็ก ให้ช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งอยู่ที่บ้านเราก็สอนเขาอยู่แล้ว ซึ่งจะต่างกับ อ.1 ช่วงแรกเขาจะสอนอ่านก่อน และช่วงหลังเขาถึงจะสอนเขียน และที่สำคัญดูจะพฤติกรรมเขาแล้ว เขาชอบที่จะเล่นกับเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก ก็เลยเป็นที่ตัดสินใจว่าจะให้เข้า อ.1 ค่ะ
ของน้องเจ (ตอนนั้น)  น้องเจอายุ 2 ขวบ 10 เดือนค่ะ ตอนสัมภาษณ์น้องเจ ... น้องเจพร้อมมากสำหรับวิชาการ แต่ทาง รร.ห่วงเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง การปรับตัว การเข้าห้องน้ำ ฯลฯ อยากให้เข้าเตรียมอนุบาลมากกว่า ทุกคนที่บ้านก็เห็นตามที่ครูแนะนำ (ซึ่งมันค้านกะเราอย่างแรง) แต่ก็ตัดสินใจให้น้องเจเรียนเตรียมอนุบาล เพราะเรียนแบบองค์รวม สามารถแยกแยะอักษร ตัวเลข และอ่านคำบางคำได้ (ถ้าเทียบกะตอนนี้ อ.1) เนื้อหาที่เรียนก็มีเหมือนกันบ้างบางเรื่อง แต่ อ.1 จะมีวิชาการเยอะกว่า ยากกว่า เสริมมากกว่าเตรียมอนุบาลในบางหน่วยการเรียนรู้แต่ละสัปดาห์ บางหน่วยการเรียนรู้เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่มีเรียนตอนเตรียมอนุบาล กิจกรรมเยอะกว่า มีเกมการศึกษาเยอะ ทดลองวิทย์เยอะ (รร.เข้าร่วมโครงการบ้านวิทยาศาสตร์) ลงมือทำเองเยอะกว่า เรียนรู้เรื่องเชาว์ และความรู้ต่าง ๆ เยอะกว่าเตรียมอนุบาลเยอะ แล้วก็ต้องช่วยเหลือเองเยอะกว่าตอนเตรียมอนุบาลมาก ตอนเตรียมอนุบาล ครูสอนแค่ใส่เสื้อ ติดกระดุม (เรื่องติดกระดุมก็สาหัสแล้วสำหรับเด็ก เพราะกล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรง ก็ฝึกกันไป) สอนใส่กางเกง ถอดรองเท้า ใส่รองเท้า เทอมสองมีเพิ่มถอดถุงเท้า ใส่ถุงเท้า เก็บจานและแก้วน้ำ จำสัญลักษณ์ของใช้ส่วนตัว ฯลฯ ขึ้น อ.1 เทอมแรก ก็ยังเรียนแบบองค์ความรู้รวม อ่านเป็นคำ อ่านเป็นประโยค ท่องกลอน คำคล้องจองได้ดีและเก่งกว่าตอนเตรียมอนุบาลเยอะ ยังไม่เน้นเขียน แต่จะเน้นเชาว์ด้านต่าง ๆ เยอะ เรื่องช่วยเหลือตัวเองก็เจอเลยเก็บที่นอน เก็บผ้ากันเปื้อน และเพิ่มล็อคเกอร์เก็บของใช้โดยใช้สัญลักษณ์แทน ของน้องเจเป็นรูป Owl (ครูจะติดรูปและเขียนภาษาอังกฤษไว้ตามของที่น้องเจใช้ รวมทั้งสมุดการบ้าน หนังสือด้วย) ฯลฯ เทอมนี้เทอม 2 เพิ่มดีกรี การบ้านทุกหน้าครูจะทำเส้นประ ชื่อไว้ ก็หัดเขียน หัดเขียนเยอะขึ้น ทุกอย่างเพิ่มดีกรีเตรียมพร้อม อ.2 เยอะมาก แล้วก็เรื่องช่วยเหลือตัวเองก็จะเพิ่มการเก็บที่นอนแล้วก็ยังมีพับผ้าปูที่นอน ผ้านวมเด็ก หัดใส่ปลอกหมอน เปลี่ยนจากสัญลักษณ์แทนตัวเองจากรูปสัตว์เป็นชื่อเล่น JAY จัดกระเป๋านักเรียน เก็บสมุดการบ้านเอง ฯลฯ (ที่เราไม่รู้อีก กว่าจะรู้อีกทีก็ตอนรับสมุดพก ครูจะเอารูปกิจกรรมที่ลูกทำมาให้ดูและอธิบายว่าทำอะไร เรียนรู้อะไรบ้าง) เตรียมอนุบาลไม่มีการบ้านเลย อ.1 มีการบ้านทุกวัน ช่วงไหนหยุดยาว การบ้านเพียบบบบ ทุกวันศุกร์เอาหนังสือกลับมาอ่านที่บ้าน 1 เล่ม การบ้านทุกเล่ม หนังสือที่ครูสั่งให้อ่าน ต้องมีลายเซ็นต์ทุกครั้ง เป็นโรงเรียนแนวพัฒนาการที่สอนแบบองค์รวมที่ได้ผลดีจริง ๆ เด็ก ๆ ซนมาก มีคดีกันบ่อย แต่ครูจะมีเทคนิคที่ดี และไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการพูด ตี เปรียบเทียบ ฯลฯ ไม่มีเลย Time-out ด้วยวิธีเบสิค แต่เด็ก ๆ ยอมรับและทำตามด้วยดี (โห .... สารพัดปัญหามาให้แก้ทุกวัน 5555+)

เรื่องการบ้านน้องเจ ... กันจะให้น้องเจทำการบ้านหลังอาหารเย็น กำหนดเวลาวันละ 1 ชั่วโมง (ทำการบ้านของโรงเรียน และการบ้านของมะม๊าด้วย 555+  ฟัง พูด อ่าน เขียน ไทย อังกฤษ วิทย์ สังคม ศิลปะ ผ่านการเล่นเกมส์ที่มะม๊าทำขึ้น สลับกันไปเป็นการฝึกวินัยให้คุ้นชิน ทุกวันจนเป็นนิสัยตามคำแนะนำและความต้องการของคุณพ่อน้องเจ ทุกวันน้องเจจะถามว่าวันนี้การบ้านของมะม๊ามีอะไร แล้วก็จะรีบทำให้เสร็จ จะตบท้ายด้วยการอ่านทุกวัน ครบชั่วโมงปุ๊บบบบบบบ ปล่อยเลย ฟรีสไตล์ ทำไรก็ได้ตามใจ จนถึงสองทุ่มครึ่ง เป็นอันว่ารู้กันว่าต้องพร้อมอยู่ที่ห้องนอน ไม่งั้นจะอดทุกอย่างที่อยากได้เช่นดู VCD, DVD หรือฟังมะม๊าอ่านนิทาน 5555+)

แชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะคะ เผื่อมีประโยชน์ก็ปรับใช้กันค่ะ (หรือฟังขำ ๆ พอเป็นพิธีก็ได้ 555+ ของน้องเจต้องมุขนี้เลย ไม่งั้นเอาไม่อยู่ ซนมากกกกกก) 555+

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service